Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) EU09g ทัวร์ยุโรป ไฮไลท์โมรอคโค 9 วัน 6 คืน โดยสายการบินเอทิฮัด

พิเศษ!! ต้อนรับอรุณด้วยการขี่อูฐชมแสงอาทิตย์แรกของวัน
สัมผัสมนต์เส่นห์ของดินแดนฟ้าจรดทราย เปิดประสบการณ์กับเส้นทางแปลกใหม่ที่ “ประเทศโมร็อคโค” เที่ยวเมืองที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของนครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) ชมร่องรอยอารยธรรมความยิ่งใหญ่เมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman city of Volubilis) อดีตเมืองในจักรวรรดิโรมัน นั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 WD ท่องทะเลทรายซาฮาร่า “Sahara” ทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ***เปิดประสบการณ์ค้างคืนนอนดูดาว ณ โรงแรมกลางทะเลทรายซาฮาร่า พิเศษ!! ต้อนรับอรุณด้วยการขี่อูฐชมแสงอาทิตย์แรกของวัน

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport)
วันที่ 2: สนามบินคาซาบลังก้า / เมืองคาซาบลังก้า(Casablanca) / สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองมาราเกช (Marakesh) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / โรงแรม SEMIRAMIS HOTEL
วันที่ 3: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองวอซาเซท (Ouarzazate) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / โรงแรม LE RIAD HOTEL
วันที่ 4: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองทินเฮียร์ (Tinghir) / ทอด้าจอร์จ (Todra Gorge) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองเออร์ฟูด์ (Erfoud) / เมืองเมอร์ซูก้า (Merzouga) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / KASBAH TOMBOUCTOU HOTEL
วันที่ 5: ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้น / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองมิเดล (Midelt) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองเฟซ (Fes) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / โรงแรม GOLDEN TULIP HOTEL
วันที่ 6: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / ประตู Bab Boujloud / เมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (Merdersa Bou Imania) / ย่านเครื่องเทศ (Souk El Attarine) / น้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) / สุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairaouine Mosque) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / โรงแรม PARADOR HOTEL
วันที่ 7: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman city of Volubilis) / เมืองเมคเนส (Meknes) / ประตูบับมันซู (Bab Mansour Monumental Gate) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Villa Toscane Hotel
วันที่ 8: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองราบัต / สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / ป้อมอูดายา (Oudayas Fortress) / สนามบินราบัต
วันที่ 9: ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
19 มื้อ 6 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,504 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
พักเดี่ยวชำระเพิ่ม 5,500.-

Etihad Airways (EY)  
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ย.60)

ตารางบิน
Etihad Airways (EY)
(ขาไป)
เวลาบินขาไป 18.20 - 02.45 BKK - AUH EY405
เวลาบินต่อเครื่อง 08.35 - 22.00 AUH - RBA EY613
Etihad Airways (EY)
(ขากลับ)
เวลาบินต่อเครื่อง 08.45 - 19.10 RBA - AUH EY616
เวลาบินขากลับ 05.50 - 18.25 AUH - BKK EY408

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport)
ช่วงบ่าย
(15.00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 18.20 น. ออกเดินทางสู่อาบูดาบี โดยสายการบินเอทิฮัด โดยเที่ยวบินที่ EY 405
ช่วงค่ำ
(22.00) ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
* 02.45 น. ออกเดินทางต่อ โดยสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY613
วันที่ 2
สนามบินคาซาบลังก้า / เมืองคาซาบลังก้า(Casablanca) / สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองมาราเกช (Marakesh) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / โรงแรม SEMIRAMIS HOTEL
ช่วงเช้า
(08.35) สนามบินคาซาบลังก้า
ถึงสนามบินคาซาบลังก้า ประเทศโมรอคโค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
ถึงสนามบินคาซาบลังก้า ประเทศโมรอคโค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคาซาบลังก้า(Casablanca)
นำท่านสู่เมืองคาซาบลังก้า(Casablanca) ชมเมืองคาซาบลังก้า ผ่านย่านธุรกิจสำคัญ จัตุรัสสหประชาชาติ ผ่านชมย่านบ้านพักตากอากาศริมมหาสมุทรแอตแลนติคซึ่งเป็นย่านที่เศรษฐี รวมถึงกษัตริย์ซาอุดิอารเบียก็มาสร้างวังพร้อม ทั้งมีมัสยิดและหอสมุดส่วนพระองค์
นำท่านสู่เมืองคาซาบลังก้า(Casablanca) ชมเมืองคาซาบลังก้า ผ่านย่านธุรกิจสำคัญ จัตุรัสสหประชาชาติ ผ่านชมย่านบ้านพักตากอากาศริมมหาสมุทรแอตแลนติคซึ่งเป็นย่านที่เศรษฐี รวมถึงกษัตริย์ซาอุดิอารเบียก็มาสร้างวังพร้อม ทั้งมีมัสยิดและหอสมุดส่วนพระองค์
สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2
นำท่านชมบริเวณภายนอกของ สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 เป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองเมกกะ สุเหร่านี้งดงามประณีตด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมรอคโคทุกแขนง สามารถจุผู้คนที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาอิสลามได้ประมาณ 80,000 คน ชมทิวทัศน์รอบๆ สุเหร่าอันเป็นจุดชมวิวริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค
นำท่านชมบริเวณภายนอกของ สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 เป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองเมกกะ สุเหร่านี้งดงามประณีตด้วยสถาปัตยกรรมแบบโมรอคโคทุกแขนง สามารถจุผู้คนที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาอิสลามได้ประมาณ 80,000 คน ชมทิวทัศน์รอบๆ สุเหร่าอันเป็นจุดชมวิวริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เมืองมาราเกช (Marakesh)
เดินทางสู่ เมืองมาราเกช (Marakesh) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมรอคโค ถือเป็นเมืองชุมทางของพ่อค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิดช่วง ศ.ต.ที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือ สองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วย (อ่านต่อ)
เดินทางสู่ เมืองมาราเกช (Marakesh) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมรอคโค ถือเป็นเมืองชุมทางของพ่อค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิดช่วง ศ.ต.ที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือ สองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า Pink City หรือ เมืองสีชมพู อาจกล่าวได้ว่ามาราเกชเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง จึงได้สมญานามว่าเป็น A city of Drama นั่นคือมีความสวยงามดั่งเมืองในละครที่ไม่น่าเป็นชีวิตจริงได้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ระยะทาง 245 กม. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 3.30 ชม.
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมโชว์การแสดงพื้นเมือง อันตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของสถานที่และสีสันของชาวโมร็อคกัน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมโชว์การแสดงพื้นเมือง อันตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของสถานที่และสีสันของชาวโมร็อคกัน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
โรงแรม SEMIRAMIS HOTEL
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม SEMIRAMIS HOTEL หรือเทียบเท่า
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม SEMIRAMIS HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองวอซาเซท (Ouarzazate) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / โรงแรม LE RIAD HOTEL
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace)
นำท่านเยี่ยมชม พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) เป็นพระราชวังของท่านมหาอำมาตย์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนยุคกษัตริย์ในอดีต สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดย Si Moussa สถาปัตยกรรมออกแบบเป็นแนวสมัยใหม่ โดยที่ตั้งใจจะให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในสมัยนั้น ตัวพระราชวังมีการตกแต่งโดยการแกะสลักปูนปั้นมีการวาดลายบนไม้และประดับประดาด้วยโมเสดเป็นลวดลายที่สวยงามละเอียดอ่อนมาก
นำท่านเยี่ยมชม พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) เป็นพระราชวังของท่านมหาอำมาตย์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนยุคกษัตริย์ในอดีต สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดย Si Moussa สถาปัตยกรรมออกแบบเป็นแนวสมัยใหม่ โดยที่ตั้งใจจะให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในสมัยนั้น ตัวพระราชวังมีการตกแต่งโดยการแกะสลักปูนปั้นมีการวาดลายบนไม้และประดับประดาด้วยโมเสดเป็นลวดลายที่สวยงามละเอียดอ่อนมาก
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เมืองวอซาเซท (Ouarzazate)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวอซาเซท (Ouarzazate) เคยเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในปี ค.ศ. 1928 ฝรั่งเศสได้ตั้งกองกำลังทหารและพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์กลางการบริหาร วอซาเซทเป็นเมืองถูกส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่แวดล้อมไปด้วยสตูดิโอภาพยนตร์ และมีการพัฒนาพื้นที่ในทะเลทรายเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การขี่มอเตอร์ไซด์ อูฐ กิจกรรมผจญภัยกลางทะเลทราย เมืองนี้อยู่ใกล้ภูเขาแอตลาสที่มีหิมะปกคลุมในช่วงฤดูหนาว วอซาเ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวอซาเซท (Ouarzazate) เคยเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในปี ค.ศ. 1928 ฝรั่งเศสได้ตั้งกองกำลังทหารและพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์กลางการบริหาร วอซาเซทเป็นเมืองถูกส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่แวดล้อมไปด้วยสตูดิโอภาพยนตร์ และมีการพัฒนาพื้นที่ในทะเลทรายเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การขี่มอเตอร์ไซด์ อูฐ กิจกรรมผจญภัยกลางทะเลทราย เมืองนี้อยู่ใกล้ภูเขาแอตลาสที่มีหิมะปกคลุมในช่วงฤดูหนาว วอซาเซทอาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวที่มองหาความแตกต่าง และความผจญภัยที่หาไม่ได้จากที่ไหน วอซาเซทเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของทางตอนใต้ และที่นี่ยังเป็นทางเชื่อมระหว่างเหนือกับใต้ และตะวันออกกับตะวันออก สำหรับนักท่องเที่ยวบางคนที่ชอบรสชาติของความเป็นทางใต้ ณ แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเมืองต่างๆได้ทุกวัน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* "ระยะทาง 205 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม."
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
โรงแรม LE RIAD HOTEL
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม LE RIAD HOTEL หรือเทียบเท่า
เข้าสู่ที่พัก โรงแรม LE RIAD HOTEL หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองทินเฮียร์ (Tinghir) / ทอด้าจอร์จ (Todra Gorge) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองเออร์ฟูด์ (Erfoud) / เมืองเมอร์ซูก้า (Merzouga) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / KASBAH TOMBOUCTOU HOTEL
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองทินเฮียร์ (Tinghir)
เดินทางสุ่เมืองทินเฮียร์ (Tinghir) ชุมชนที่เกาะกลุ่มอยู่รวมกัน ท่ามกลางความแห้งแล้ง ยังมีความชุ่มชื้นของโอเอซิส ต้นปาล์ม เคยเป็นที่ตั้งของกองทหารที่เดินทางมาจากวอซาเซท
เดินทางสุ่เมืองทินเฮียร์ (Tinghir) ชุมชนที่เกาะกลุ่มอยู่รวมกัน ท่ามกลางความแห้งแล้ง ยังมีความชุ่มชื้นของโอเอซิส ต้นปาล์ม เคยเป็นที่ตั้งของกองทหารที่เดินทางมาจากวอซาเซท
* "ระยะทาง 168 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม."
ทอด้าจอร์จ (Todra Gorge)
เดินทางสู่ทอด้าจอร์จ (Todra Gorge) ชมความงามของช่องเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในโอเอซิส ลำน้ำใสไหลผ่านช่องเขากับหน้าผาสูงชันแปลกตาเป็นแหล่งปีนหน้าผาสำหรับนักเสี่ยงภัยทั้งหลาย
เดินทางสู่ทอด้าจอร์จ (Todra Gorge) ชมความงามของช่องเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในโอเอซิส ลำน้ำใสไหลผ่านช่องเขากับหน้าผาสูงชันแปลกตาเป็นแหล่งปีนหน้าผาสำหรับนักเสี่ยงภัยทั้งหลาย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เมืองเออร์ฟูด์ (Erfoud)
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองเออร์ฟูด์ (Erfoud) ซึ่งเป็นโอเอซิสศูนย์กลางการค้าขายของคาราวานซึ่งเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบีย และซูดาน
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองเออร์ฟูด์ (Erfoud) ซึ่งเป็นโอเอซิสศูนย์กลางการค้าขายของคาราวานซึ่งเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบีย และซูดาน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ระยะทาง 142 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชม.
เมืองเมอร์ซูก้า (Merzouga)
เดินทางสู่เมืองเมอร์ซูก้าร์ (แยกสัมภาระสำหรับค้างคืนในทะเลทราย) โดยนำท่านนำท่านนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 WD ไปท่อง ทะเลทรายซาฮาร่า “Sahara” เป็นทะเลทรายในทวีปแอฟริกาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลทรายในทวีปแอนตาร์กติกา) และเป็นทะเลทรายร้อนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ณ เมืองเมอร์ซูก้า (Merzouga) ลัดเลาะขอบทะเลทรายสู่เขตซาฮาร่า ผ่านชมชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของภูเขาหินที่เต็มไปด้วยซากฟอสซิลของหาอย (อ่านต่อ)
เดินทางสู่เมืองเมอร์ซูก้าร์ (แยกสัมภาระสำหรับค้างคืนในทะเลทราย) โดยนำท่านนำท่านนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 WD ไปท่อง ทะเลทรายซาฮาร่า “Sahara” เป็นทะเลทรายในทวีปแอฟริกาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลทรายในทวีปแอนตาร์กติกา) และเป็นทะเลทรายร้อนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ณ เมืองเมอร์ซูก้า (Merzouga) ลัดเลาะขอบทะเลทรายสู่เขตซาฮาร่า ผ่านชมชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของภูเขาหินที่เต็มไปด้วยซากฟอสซิลของหาอยและแมงกะพรุนโบราณในอดีตเมื่อ 350 ล้านปีก่อน ซึ่งดินแดนแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน จึ่งเป็นที่กำเนิดของซากฟอสซิลต่างๆ
* ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 0.45 ชม
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
* อิสระท่านพักผ่อนดูดาวท่ามกลางทะเลทรายตามอัธยาศัย
KASBAH TOMBOUCTOU HOTEL
พักผ่อนค้างคืนในทะเลทรายซาฮาร่า ณ KASBAH TOMBOUCTOU HOTEL หรือเทียบเท่า
พักผ่อนค้างคืนในทะเลทรายซาฮาร่า ณ KASBAH TOMBOUCTOU HOTEL หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 5
ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้น / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองมิเดล (Midelt) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองเฟซ (Fes) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / โรงแรม GOLDEN TULIP HOTEL
ช่วงเช้า
ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้น
ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนำท่านขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลทรายซาฮาร่า เป็นบรรยากาศยามเช้าที่คุณจะประทับใจมิรู้ลืม (อย่าลืมเตรียมเสื้อกันลม หรือกันหนาวให้พร้อม และยังไม่รวมค่าทิปคนนำทาง)
ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนำท่านขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลทรายซาฮาร่า เป็นบรรยากาศยามเช้าที่คุณจะประทับใจมิรู้ลืม (อย่าลืมเตรียมเสื้อกันลม หรือกันหนาวให้พร้อม และยังไม่รวมค่าทิปคนนำทาง)
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ***พิเศษ รวมค่าขี่อูฐ 1 ท่าน/อูฐ 1 ตัว
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองมิเดล (Midelt)
นำท่านนั่งรถ 4WD สู่เมืองเออร์ฟูด์ เพื่อเปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ สู่เมืองมิเดล (Midelt)
นำท่านนั่งรถ 4WD สู่เมืองเออร์ฟูด์ เพื่อเปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ สู่เมืองมิเดล (Midelt)
* ระยะทาง 210 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชม.
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เมืองเฟซ (Fes)
นำท่านเดินทางสู่เมืองเฟซ (Fes) เมืองหลวงเก่าใน ศ.ต. ที่ 8 ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมร็อคโค เส้นทางนี้ผ่านเทือกเขาแอตลาส ชื่อที่คุ้นเคยกันมานาน โดยเดินทางข้าม Middle Atlas ภูมิประเทศเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้ สองข้างทางเปลี่ยนสภาพจากความแห้งแล้วเป็นป่าไม้ พุ่ม และสลับกับความแห้งแล้งของภูเขา จนเข้าสู่เมืองเฟส
นำท่านเดินทางสู่เมืองเฟซ (Fes) เมืองหลวงเก่าใน ศ.ต. ที่ 8 ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมร็อคโค เส้นทางนี้ผ่านเทือกเขาแอตลาส ชื่อที่คุ้นเคยกันมานาน โดยเดินทางข้าม Middle Atlas ภูมิประเทศเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้ สองข้างทางเปลี่ยนสภาพจากความแห้งแล้วเป็นป่าไม้ พุ่ม และสลับกับความแห้งแล้งของภูเขา จนเข้าสู่เมืองเฟส
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ระยะทาง 200 กม. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2.45 ชม.
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
โรงแรม GOLDEN TULIP HOTEL
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม GOLDEN TULIP HOTEL หรือเทียบเท่า
นำเข้าสู่ที่พัก โรงแรม GOLDEN TULIP HOTEL หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* **กรุณาจัดเตรียมเสื้อผ้ากระเป๋าเล็ก เพื่อค้างคืนในเมืองเก่าเชฟชาอุนในคืนถัดไป**
วันที่ 6
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / ประตู Bab Boujloud / เมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (Merdersa Bou Imania) / ย่านเครื่องเทศ (Souk El Attarine) / น้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) / สุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairaouine Mosque) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / โรงแรม PARADOR HOTEL
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ประตู Bab Boujloud
จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่เขาวงกตอันซับซ้อนแห่งเฟส เมดินา (Fes Medina) โดยในเขตเมืองเก่ามีซอยมากกว่า 9,000 ซอย มีซอยแคบสุดคือ 50 ซ.ม. ถึงกว้าง 3 เมตร ผ่านประตู Bab Boujloud ที่ใช้โมเสดสีฟ้าตกแต่ง นำท่านเดินในเขตเมดิน่าที่เหมือนการข้ามกาลเวลาย้อนกลับสู่อดีต ผ่านตลาดสดขายอาหาร และผัก ผลไม้สดต่างๆนาๆ
จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่เขาวงกตอันซับซ้อนแห่งเฟส เมดินา (Fes Medina) โดยในเขตเมืองเก่ามีซอยมากกว่า 9,000 ซอย มีซอยแคบสุดคือ 50 ซ.ม. ถึงกว้าง 3 เมตร ผ่านประตู Bab Boujloud ที่ใช้โมเสดสีฟ้าตกแต่ง นำท่านเดินในเขตเมดิน่าที่เหมือนการข้ามกาลเวลาย้อนกลับสู่อดีต ผ่านตลาดสดขายอาหาร และผัก ผลไม้สดต่างๆนาๆ
เมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (Merdersa Bou Imania)
ชมเมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (Merdersa Bou Imania) โรงเรียนสอนพระคัมภีร์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ที่สวยงามประณีต จะแบ่งเป็นย่านต่างๆ เช่น ย่านเครื่องใช้ทองเหลือง ทองแดง ย่านขายพรมที่วางเรียงรายอย่างสวยงาม ย่านงานเครื่องจักสาน งานแกะสลักไม้ และย่านเครื่องเทศ ระหว่างที่เดินตามทางในเมดิน่าท่านจะได้พบกับน้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) เพื่อให้ชาวมุสลิมให้ล้างหน้าล้างมือก่อนเข้าในบริเวณมัสยิด แวะชมสุสานข (อ่านต่อ)
ชมเมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (Merdersa Bou Imania) โรงเรียนสอนพระคัมภีร์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ที่สวยงามประณีต จะแบ่งเป็นย่านต่างๆ เช่น ย่านเครื่องใช้ทองเหลือง ทองแดง ย่านขายพรมที่วางเรียงรายอย่างสวยงาม ย่านงานเครื่องจักสาน งานแกะสลักไม้ และย่านเครื่องเทศ ระหว่างที่เดินตามทางในเมดิน่าท่านจะได้พบกับน้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) เพื่อให้ชาวมุสลิมให้ล้างหน้าล้างมือก่อนเข้าในบริเวณมัสยิด แวะชมสุสานของกษัตริย์ มูเล ไอดริสที่ 2 (Moulay Idriss Mausolem II) ที่ชาวโมรอคโคถือว่าเป็นแหล่งมาแสวงบุญที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยชายชาวมุสลิมจะมาขอพรก่อนการเข้าสุหนัตและหญิงสาวชาวมุสลิมมักจะมาขอพรเพื่อให้ได้บุตร
ย่านเครื่องเทศ (Souk El Attarine)
ย่านเครื่องเทศ (Souk El Attarine) ท่านจะได้สัมผัสทั้งรูป รสและกลิ่นในย่านเครื่องเทศที่มีการจัดเรียงสินค้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม
ย่านเครื่องเทศ (Souk El Attarine) ท่านจะได้สัมผัสทั้งรูป รสและกลิ่นในย่านเครื่องเทศที่มีการจัดเรียงสินค้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม
น้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain)
ระหว่างที่เดินตามทางในเมดิน่าท่านจะได้พบกับน้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) เพื่อให้ชาวมุสลิมให้ล้างหน้าล้างมือก่อนเข้าในบริเวณมัสยิด นอกจากนี้ที่ตามซอกมุมอาจเห็นภาพชายสูงอายุหนวดเครารุงรังนั่งแกะสลักไม้ชิ้นเล็กๆอยู่บริเวณตามทางเดินแคบๆในเขตเมืองเก่า บางทีเราก็ยังจะเห็นผู้หญิงที่นี่สวมเสื้อผ้าที่ปิดตั้งแต่หัวจนถึงเท้าจะเห็นได้ก็เฉพาะตาดำอันคมกริบเท่านั้น
ระหว่างที่เดินตามทางในเมดิน่าท่านจะได้พบกับน้ำพุธรรมชาติ (Nejjarine Fountain) เพื่อให้ชาวมุสลิมให้ล้างหน้าล้างมือก่อนเข้าในบริเวณมัสยิด นอกจากนี้ที่ตามซอกมุมอาจเห็นภาพชายสูงอายุหนวดเครารุงรังนั่งแกะสลักไม้ชิ้นเล็กๆอยู่บริเวณตามทางเดินแคบๆในเขตเมืองเก่า บางทีเราก็ยังจะเห็นผู้หญิงที่นี่สวมเสื้อผ้าที่ปิดตั้งแต่หัวจนถึงเท้าจะเห็นได้ก็เฉพาะตาดำอันคมกริบเท่านั้น
สุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairaouine Mosque)
ชมสุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairaouine Mosque) ซึ่งเป็นทั้งมหาวิทยาลัยสอนศาสนาแห่งแรกของโมรอคโคและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ชมย่านเครื่องหนังและแวะชมบ่อฟอกและย้อมสีหนังแบบโบราณประจำเมืองเฟส (Chouara Tannery) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองเฟส ถูกอนุรักษ์โดยองค์กรยูเนสโก้
ชมสุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairaouine Mosque) ซึ่งเป็นทั้งมหาวิทยาลัยสอนศาสนาแห่งแรกของโมรอคโคและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ชมย่านเครื่องหนังและแวะชมบ่อฟอกและย้อมสีหนังแบบโบราณประจำเมืองเฟส (Chouara Tannery) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองเฟส ถูกอนุรักษ์โดยองค์กรยูเนสโก้
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen)
นำท่านเดินทางสู่นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) เมืองที่ได้ชื่อว่ามนต์เสน่ห์แห่งโมรอคโค เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ในหุบเขาริฟ (Rif Mountain) ประวัติความเป็นมาของเมืองนั้นยาวนานกว่า 538 ปี ชมบ้านเรือนทาด้วยสีฟ้าและสีขาว ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสีฟ้าและสีขาว โดยเฉพาะสีฟ้า นั่นก็เพราะว่าเชฟชาอูนเป็นเมืองที่บ้านเรือนเกือบทุกหลังเป็นสีขาว และมีครึ่งล่างไปจนถึงบริเวณถนน บันได และทางเดิน เป็นสีฟ้าสดใสเหมือนวั (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) เมืองที่ได้ชื่อว่ามนต์เสน่ห์แห่งโมรอคโค เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ในหุบเขาริฟ (Rif Mountain) ประวัติความเป็นมาของเมืองนั้นยาวนานกว่า 538 ปี ชมบ้านเรือนทาด้วยสีฟ้าและสีขาว ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสีฟ้าและสีขาว โดยเฉพาะสีฟ้า นั่นก็เพราะว่าเชฟชาอูนเป็นเมืองที่บ้านเรือนเกือบทุกหลังเป็นสีขาว และมีครึ่งล่างไปจนถึงบริเวณถนน บันได และทางเดิน เป็นสีฟ้าสดใสเหมือนวันที่ท้องฟ้าไร้เมฆ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ระยะทาง 199 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
โรงแรม PARADOR HOTEL
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม PARADOR HOTEL หรือเทียบเท่า
นำคณะเข้าสู่ที่พัก โรงแรม PARADOR HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / เมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman city of Volubilis) / เมืองเมคเนส (Meknes) / ประตูบับมันซู (Bab Mansour Monumental Gate) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Villa Toscane Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen)
นำท่านเดินทางสู่นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) เมืองที่ได้ชื่อว่ามนต์เสน่ห์แห่งโมรอคโค เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ในหุบเขาริฟ (Rif Mountain) ประวัติความเป็นมาของเมืองนั้นยาวนานกว่า 538 ปี ชมบ้านเรือนทาด้วยสีฟ้าและสีขาว ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสีฟ้าและสีขาว โดยเฉพาะสีฟ้า นั่นก็เพราะว่าเชฟชาอูนเป็นเมืองที่บ้านเรือนเกือบทุกหลังเป็นสีขาว และมีครึ่งล่างไปจนถึงบริเวณถนน บันได และทางเดิน เป็นสีฟ้าสดใสเหมือนวั (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่นครสีฟ้าเชฟชาอูน (Chefchaouen) เมืองที่ได้ชื่อว่ามนต์เสน่ห์แห่งโมรอคโค เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ในหุบเขาริฟ (Rif Mountain) ประวัติความเป็นมาของเมืองนั้นยาวนานกว่า 538 ปี ชมบ้านเรือนทาด้วยสีฟ้าและสีขาว ถือว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสีฟ้าและสีขาว โดยเฉพาะสีฟ้า นั่นก็เพราะว่าเชฟชาอูนเป็นเมืองที่บ้านเรือนเกือบทุกหลังเป็นสีขาว และมีครึ่งล่างไปจนถึงบริเวณถนน บันได และทางเดิน เป็นสีฟ้าสดใสเหมือนวันที่ท้องฟ้าไร้เมฆ
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman city of Volubilis)
แวะชมเมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman city of Volubilis) ที่ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ. 1755 แต่ยังคงเห็นได้ถึงร่องรอยความยิ่งใหญ่ของเมืองในจักรวรรดิโรมันในอดีต อดีตเมืองโบราณแห่งจักรวรรดิโรมันแห่งนี้มีความสำคัญยิ่งในยุคศตวรรษที่ 3 และล่มสลายถูกปล่อยเป็นเมืองร้างในศตวรรษที่ 11 เมืองโรมันโบราณแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997
แวะชมเมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman city of Volubilis) ที่ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ. 1755 แต่ยังคงเห็นได้ถึงร่องรอยความยิ่งใหญ่ของเมืองในจักรวรรดิโรมันในอดีต อดีตเมืองโบราณแห่งจักรวรรดิโรมันแห่งนี้มีความสำคัญยิ่งในยุคศตวรรษที่ 3 และล่มสลายถูกปล่อยเป็นเมืองร้างในศตวรรษที่ 11 เมืองโรมันโบราณแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ระยะทาง 165 กม. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2.45 ชม.
เมืองเมคเนส (Meknes)
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองเมคเนส (Meknes) หนึ่งในเมืองมรดกโลกรับรองโดยยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1996 อดีตเมืองหลวงในสมัยสุลต่าน มูเล อิสมาอิล (Moulay Ismail) แห่งราชวงศ์อะลาวิท (Alawite Dynasty) ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์จอมโหดผู้ชื่นชอบการทำสงครามในช่วงศตวรรษที่ 17 ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เมกเนสจึงเป็นเมืองศูนย์กลางการผลิตมะกอก ไวน์ และพืชพรรณต่างๆ มีกำแพงเมืองล้อมรอบเมืองเก่าที่ยาวประมา (อ่านต่อ)
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองเมคเนส (Meknes) หนึ่งในเมืองมรดกโลกรับรองโดยยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1996 อดีตเมืองหลวงในสมัยสุลต่าน มูเล อิสมาอิล (Moulay Ismail) แห่งราชวงศ์อะลาวิท (Alawite Dynasty) ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์จอมโหดผู้ชื่นชอบการทำสงครามในช่วงศตวรรษที่ 17 ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เมกเนสจึงเป็นเมืองศูนย์กลางการผลิตมะกอก ไวน์ และพืชพรรณต่างๆ มีกำแพงเมืองล้อมรอบเมืองเก่าที่ยาวประมาณ 40 กม. ซึ่งมีประตูเมืองใหญ่โตถึง 7 ประตู
ประตูบับมันซู (Bab Mansour Monumental Gate)
แวะชมประตูบับมันซู (Bab Mansour Monumental Gate) เป็นประตูที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด ตกแต่งด้วยโมเสคและกระเบื้องสีเขียวสดบนผนังสีแสด จากนั้นเดินทางสู่เมืองเฟซตั้งอยู่บนพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่ต่อจากเชิงเทือกเขารีฟซึ่งเฟสเป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีเสน่ห์อันน่าประทับใจ
แวะชมประตูบับมันซู (Bab Mansour Monumental Gate) เป็นประตูที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด ตกแต่งด้วยโมเสคและกระเบื้องสีเขียวสดบนผนังสีแสด จากนั้นเดินทางสู่เมืองเฟซตั้งอยู่บนพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่ต่อจากเชิงเทือกเขารีฟซึ่งเฟสเป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีเสน่ห์อันน่าประทับใจ
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
Villa Toscane Hotel
ค่ำคืนนี้พักที่ Villa Toscane Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำคืนนี้พักที่ Villa Toscane Hotel หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 8
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองราบัต / สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / ป้อมอูดายา (Oudayas Fortress) / สนามบินราบัต
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
ตื่นเช้ารับอรุณ รับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ณ โรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองราบัต
นำท่านชมเมืองราบัต เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรโมรอคโคมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1956 เมื่อโมรอคโคหลุดพ้นจากการเข้าแทรกแซงทางการเมืองของประเทศฝรั่งเศส เป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง จากนั้นชมบริเวณด้านนอกของสุเหร่าหลวง และ พระราชวังหลวง ที่ทุกเที่ยงวันศุกร์ กษัตริย์แห่งโมรอคโคจะทรงม้าจากพระราชวังมายังสุเหร่า เพื่อประกอบศาสนกิจ
นำท่านชมเมืองราบัต เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรโมรอคโคมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1956 เมื่อโมรอคโคหลุดพ้นจากการเข้าแทรกแซงทางการเมืองของประเทศฝรั่งเศส เป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง จากนั้นชมบริเวณด้านนอกของสุเหร่าหลวง และ พระราชวังหลวง ที่ทุกเที่ยงวันศุกร์ กษัตริย์แห่งโมรอคโคจะทรงม้าจากพระราชวังมายังสุเหร่า เพื่อประกอบศาสนกิจ
* ระยะทาง 207 กม. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2.30 ชม.
สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5
ชมสุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 ซึ่งมีทหารยามยืนเฝ้าสง่าทุกประตู และเปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง ด้านหน้าของสุสาน คือสุเหร่าฮัสซันที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 แต่ไม่สำเร็จ และพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น
ชมสุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 ซึ่งมีทหารยามยืนเฝ้าสง่าทุกประตู และเปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง ด้านหน้าของสุสาน คือสุเหร่าฮัสซันที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 แต่ไม่สำเร็จ และพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ป้อมอูดายา (Oudayas Fortress)
นำท่านชมป้อมอูดายา (Oudayas Fortress) ป้อมขนาดใหญ่ 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงใหญ่ บรรยากาศริมทะเลคล้ายเมืองซานโตรินี นับเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญของโมรอคโค ในอดีตใช้ป้องกันข้าศึกจากการรุกรานทั้งจากประเทศที่ล่าอาณานิคมและในยุคที่โจรสลัดชุกชุม
นำท่านชมป้อมอูดายา (Oudayas Fortress) ป้อมขนาดใหญ่ 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงใหญ่ บรรยากาศริมทะเลคล้ายเมืองซานโตรินี นับเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญของโมรอคโค ในอดีตใช้ป้องกันข้าศึกจากการรุกรานทั้งจากประเทศที่ล่าอาณานิคมและในยุคที่โจรสลัดชุกชุม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
(15.30) สนามบินราบัต
นำท่านเดินทางสุ่สนามบินราบัต เพื่อทำการเช็คอินสัมภาระ และ มีเวลาเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีในสนามบิน
นำท่านเดินทางสุ่สนามบินราบัต เพื่อทำการเช็คอินสัมภาระ และ มีเวลาเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีในสนามบิน
* 19.10 น. ออกเดินทางกลับสู่อาบูดาบี้ โดยสารการบินเอทิฮัด เที่ยวบินที่ EY616
วันที่ 9
ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
(05.50) ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* 08.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอทิฮัด เที่ยวบินที่ EY408
ช่วงค่ำ
(18.25) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

กรุณาอ่านหมายเหตุให้ละเอียดทุกข้อ

หมายเหตุ 

1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทาง บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล,การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน รวมถึงกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง รวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทาง หากท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง 
2. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทาง โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อนการเดินทาง 
5. เมื่อท่านทำการซื้อโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับเงื่อนไขของหมายเหตุทุกข้อแล้ว
 
ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ
กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
 
โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ
และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์และ
ความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ
 

อัตราค่าบริการนี้รวม

1.ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2.ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3.ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
4.ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า 
5.ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6.ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7.ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท 
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** 
-เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
-เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] 
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี ** 
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8.ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง (ไม่รวมทิปมัคคุเทศก์)
 
อัตรานี้ไม่รวม
1.ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 20 ก.ก.และมากกว่า 2 ชิ้น, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3.ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4.ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 
5.ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ (เท่ากับ 27 USD ต่อท่าน )
6.ค่าธรรมเนียมวีซ่าโมรอคโค (ผู้ยื่นวีซ่าต้องชำระเงินตรงกับศูนย์ยื่นวีซ่าในวันยื่น เป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 800 บาท )
7.ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (โดยมาตรฐาน 3 USD ต่อคน ต่อวัน : 9 x 3 = 27 USD หรือ 900 บาท)
8.ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
 

เงื่อนไขการจอง

1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า ภายใน 3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันทีก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6.หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

เงื่อนไขการชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ

ทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนการเดินทาง
หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าหรือยกเลิกการเดินทางโดยเหตุจำเป็น
ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
ข้อมูลเบื้องต้นในการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าและการยื่นขอวีซ่า
1.การพิจารณาวีซ่าเป็นดุลยพินิจของสถานทูต มิใช่บริษัททัวร์ การเตรียมเอกสารที่ดีและถูกต้องจะช่วยให้การพิจารณา ของสถานทูตง่ายขึ้น
2.กรณีท่านใดต้องใช้พาสปอร์ตเดินทาง ช่วงระหว่างยื่นวีซ่า หรือ ก่อนเดินทางกับทางบริษัท ท่านต้องแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบล่วงหน้าเพื่อวางแผนในการขอวีซ่าของท่าน ซึ่งบางสถานทูตใช้เวลาในการพิจารณาวีซ่าที่ค่อนข้างนานและอาจไม่สามรถดึงเล่มออกมาระหว่างการพิจารณาอนุมัติวีซ่าได้ 
3.สำหรับผู้เดินทางที่ศึกษาหรือทำงานอยู่ต่างประเทศ จะต้องดำเนินเรื่องการขอวีซ่าด้วยตนเองในประเทศที่ตนพำนักหรือศึกษาอยู่เท่านั้น
4.หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยนับวันเริ่มเดินทางออกนอกประเทศ หากนับแล้วต่ำกว่า 6 เดือน ผู้เดินทางต้องไปยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และกรุณาเตรียมหนังสือเดินทางเล่มเก่า ให้กับทางบริษัทด้วย เนื่องจากประวัติการเดินทางของท่านจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการยื่นคำร้องขอวีซ่า และจำนวนหน้าหนังสือเดินทาง ต้องเหลือว่างสำหรับติดวีซ่าไม่ต่ำกว่า 3 หน้า
5.ท่านที่ใส่ปกหนังสือเดินทางกรุณาถอดออก หากมีการสูญหาย บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อปกหนังสือเดินทางนั้นๆ และพาสปอร์ต ถือเป็นหนังสือของทางราชการ ต้องไม่มีรอยฉีกขาด หรือ การขีดเขียน หรือ แต่งเติมใดๆ ในเล่ม

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่นั่งบนเครื่องบิน

1. ทางบริษัทได้สำรองที่นั่งพร้อมชำระเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว หากท่านยกเลิกทัวร์ ไม่ว่าจะด้วย สาเหตุใด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์การเรียกเก็บค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 1,000 –5,000 บาท แล้วแต่สายการบินและช่วงเวลาเดินทาง 
2. หากตั๋วเครื่องบินทำการออกแล้ว แต่ท่านไม่สารถออกเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บ ค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง และรอ Refund จากทางสายการบิน ใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
3. นั่งที่ Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกาย และอำนาจในการให้ที่นั่ง Long leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น
 

กรณียกเลิกการเดินทาง

1.แจ้งยกเลิก 50 วัน ขึ้นไปก่อนการเดินทาง คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด
2.แจ้งยกเลิกภายใน 30-44 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 10,000 บาท 
3.แจ้งยกเลิกภายใน 16-29 วันก่อนเดินทาง เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 20,000 บาท
4.แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 15 วันก่อนเดินทาง ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด
5.บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯกำหนดไว้ (30ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันบริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน 
6.กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ 
7.กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน 
8.กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด 
9.กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากปลอมแปลงหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก

1.เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) ,ห้องคู่ (Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ห้องพักต่างประเภทอาจจะไม่ติดกัน หรือ อยู่คนละชั้นกัน และบางโรงแรมอาจจะไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน ซึ่งถ้าเข้าพัก 3 ท่าน อาจจะได้เป็น 1 เตียงใหญ่กับ 1 เตียงพับเสริม หรือ อาจมีความจำเป็นต้องแยกห้องพักเนื่องจากโรงแรมนั้นไม่สามารถจัดหาได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมในกรณีที่อาจมีการแยกห้องพัก
2.กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็ม บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
3.โรงแรมในยุโรปที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกัน

เอกสารประกอบการขอวีซ่าโมรอคโค

ใช้เวลาทำการอนุมัติวีซ่าประมาณ 7 วันทำการ
***ไม่ต้องมาแสดงตนที่สถานทูตในวันยื่นวีซ่า***
เอกสารกรุณาเตรียม 2 ชุด ยกเว้น เอกสารที่ออกจากทางราชการและทางธนาคารขอเป็นตัวจริง 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด
ในระหว่างยื่นวีซ่าเข้าสถานทูตแล้ว ไม่สามารถดึงเล่มออกมาก่อนได้
 
1.หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า อายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ และหนังสือเดินทางจะต้องไม่ชำรุด 
2.รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 1.5 x 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (พื้นหลังขาวเท่านั้น ถ่ายไม่เกิน 6 เดือนห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ รูปไม่เลอะหมึก)
3.หลักฐานการเงิน 
3.1 หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน BANK CERTIFICATE ที่ออกจากทางธนาคาร (ต้องสะกดชื่อให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต ต้องมีตราประทับ และลายเซ็นจากธนาคาร) กรุณายื่นขอจาก ธนาคาร่ลวงหน้า เวลาดำเนินงานประมาณ 3 วัน และใช้ยื่นได้ไม่เกิน 15 วันหลังจากธนาคารออกให้ 
3.2 กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง (บุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายได้ ต้องเป็น พ่อ แม่ พี่น้อง ที่มีสายเลือดเดียวกัน หรือ สามีภรรยา เท่านั้น)
3.2.1. ต้องทำเป็นหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (Sponsor Letter) 
3.2.2. ต้องทำ BANK GUARANTEE ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น ฉบับภาษาอังกฤษ โดยระบุชื่อเจ้าของบัญชี (บุคคลที่ออกค่าใช้จ่าย) ต้องสะกดชื่อ – สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต และบุคคลที่เจ้าของบัญชีออกค่าใช้จ่ายให้ (ผู้เดินทาง) ต้องสะกดชื่อ – สกุล ให้ตรงตามหน้าพาสปอร์ต กรุณายื่นขอจาก ธนาคาร่ลวงหน้า โดยใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 3 วัน และใช้ยื่นได้ไม่เกิน 15 วัน หลังจากธนาคารออกให้ 
*** สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันและบัญชีฝากประจำ ***
4.หลักฐานการทำงาน 
-เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD)ที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน อายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ สำเนาใบทะเบียนการค้า(พค.0403)
-กิจการไม่จดทะเบียน จดหมายชี้แจงการทำงาน พร้อมเอกสารประกอบ เช่น รูปถ่ายร้าน สัญญาเช่าที่ โฉนดที่ดิน เป็นตัน
-เป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงาน 
(ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
-นักเรียนหรือนักศึกษา ใช้หนังสือรับรองการเรียนที่ออกจากสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่ 
(ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต)ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น)
5.เอกสารส่วนตัว
-สำเนาทะเบียนบ้าน
-บัตรประชาชน
-สูติบัตร(กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี)
-ทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า/มรณะบัตร(ถ้ามี)
-ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยน)
***เอกสารส่วนตัวของท่านห้ามเซ็นสำเนาถูกต้องทุกกรณี***
6.กรณีเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมบิดา มารดา 
-หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยมารดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับบิดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย
-หากเด็กเดินทางกับมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยบิดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามา
- หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา ทั้งบิดาและมารดาจะต้องคัดหนังสือระบุยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก จากอำเภอต้นสังกัด พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดา
-กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
*** กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดาและมารดาต้องลงชื่อรับรองในแบบฟอร์มสมัครวีซ่า
7. ท่านห้ามเซ็น รับรองสำเนาถูกต้องเด็ดขาด ให้ท่านเซ็นเฉพาะ แบบฟอร์มใบคำร้องขอวีซ่าเท่านั้น หากไม่ได้เซ็นในแบฟอร์มมา ท่านอาจจะต้องไปโชว์ตัวที่สถานฑูตด้วยตนเอง

กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา