Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) MY13 ทัวร์พม่า พุกาม มัณฑะเลย์ 4 วัน 3 คืน ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุณี

แถมฟรี!! ชุดเสริมบารมี
เที่ยวกันแบบเต็มอิ่มสุดคุ้มถึง 4 วัน 3 คืน กับไฮไลท์เด็ด ๆ ไม่ว่าจะเป็น ★ ร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ล้างพระพักตร์ พระมหามัยมุณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 มหาบูชาสถาน ★ ชมสะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดโลก ชม พระราชวังไม้สักชเวนานจอง ชมวิวที่เขา มัณฑะเลย์ฮิลล์ ★ ชมความงดงาม พระราชวังมัณฑะเลย์ 1 ใน 5 มหาบูชาสถาน ★ ชมเจดีย์ชเวสิกอง เมืองพุกาม 1 ใน 5 มหาบูชาสถาน ★ ล่องแม่น้ำอิระวดีชม เมืองมิงกุน ระฆังมิงกุน เจดีย์มิงกุน และ ทัชมาฮาลพม่า ★ ชมโชว์หุ่นเชิด พุกาม และชม วัดกุโสดอ ★ พิเศษ!!นำท่านสักการะ วัดงูศักดิ์สิทธิ์ ★ แถมฟรี!!ชุดเสริมบารมี (เสื้อยืดมิงกาลาบา+ผ้าเช็ดพระพักตร์+สมุดสวดมนต์+น้ำดื่มวันละ 1 ขวด)

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / สนามบินมัณฑะเลย์ / เมืองอมรปุระ / / ทะเลสาบคองตามัน / ภูเขามัณฑะเลย์ / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Shwe Phyu Hotel
วันที่ 2: รับประทานอาหารเช้าบนรถแบบ Box set / สนามบินมัณฑะเลย์ (เดินทางต่อไปพุกาม) / พระเจดีย์ชเวสิกอง / วัดอนันดา / วัดมนุหา / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม / วัดกุบยางกี / วัดติโลมินโล / เจดีย์สัพพัญญู / นั่งรถม้าชมเมืองพุกาม / เจดีย์ชเวซานดอว์ / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / ชมโชว์หุ่นกระบอกโบราณ / BAGAN THANDE HOTEL
วันที่ 3: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / สนามบินยองลู (กลับเมืองมัณฑะเลย์) / / ระฆังยักษ์มิงกุน / / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม / พระราชวังมัณฑะเลย์ / พระตำหนักไม้สักชเวนานดอว์ / วัดกุโสดอร์ / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Shwe Phyu Hotel
วันที่ 4: ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุณี / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / วัดมุยพะยา หรือวัดพญางู / สนามบินมัณฑะเลย์ / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
8 มื้อ 3 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,522 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

อายุ 2 ถึง 12 ปี ชำระเพิ่ม 1,000.-

Bangkok Airways (PG)   Myanmar Airways (8M)   Myanmar National Airlines (UB)  
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ต.ค.60)

ตารางบิน
Myanmar National Airlines (UB) เวลาบินขาไป 09.15 - 10.30 BKK - MDL UB020
เวลาบินขากลับ 17.50 - 19.20 MDL - BKK UB 071
Myanmar Airways (8M) เวลาบินขาไป 12.00 - 14.00 BKK - MDL 8M338
เวลาบินขากลับ 10.40 - 13.05 MDL - BKK 8M337
Bangkok Airways (PG) เวลาบินขาไป 12.05 - 13.25 BKK - MDL PG709
เวลาบินขากลับ 14.15 - 16.40 MDL - BKK PG710

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / สนามบินมัณฑะเลย์ / เมืองอมรปุระ / / ทะเลสาบคองตามัน / ภูเขามัณฑะเลย์ / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Shwe Phyu Hotel
ช่วงเช้า
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* หรือ ท่าอากาศยานดอนเมือง
สนามบินมัณฑะเลย์
เดินทางถึงสนามบินมัณฑะเลย์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
เดินทางถึงสนามบินมัณฑะเลย์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
ช่วงบ่าย
เมืองอมรปุระ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอมรปุระ (Amarapura) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองแห่งผู้ที่เป็นอมตะ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ เป็นเมืองหลวงเก่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านพุทธศาสนาและวัฒนธรรมของพม่าได้เพียง 76 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ในปี ค.ศ. 1857
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอมรปุระ (Amarapura) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองแห่งผู้ที่เป็นอมตะ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ เป็นเมืองหลวงเก่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านพุทธศาสนาและวัฒนธรรมของพม่าได้เพียง 76 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ในปี ค.ศ. 1857

ทะเลสาบคองตามัน
จากสะพานไม้อูเบ็ง ทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน (Toungthamon) ไปสู่วัดจอกตอจี ซึ่งมีเจดีย์ที่สร้างตามแบบวัดอนันดาแห่งพุกาม
จากสะพานไม้อูเบ็ง ทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน (Toungthamon) ไปสู่วัดจอกตอจี ซึ่งมีเจดีย์ที่สร้างตามแบบวัดอนันดาแห่งพุกาม
ภูเขามัณฑะเลย์
นำท่านเดินทางสู่ ภูเขามัณฑะเลย์ (Mandalay Hill) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตร บันไดทางขึ้นมีรูปปั้นสิงห์สีขาวขนาดมหึมา 2 ตัว นั่งเฝ้าอยู่ ต้องถอดรองเท้าเดินขึ้นไปมีบันไดจำนวน 1,729 ขั้น ระหว่างทางมีปูชนียสถานให้สักการะบูชาเป็นระยะๆ หรือสามารถนั่งรถสองแถวแล้วใช้ลิฟต์ขึ้นไปจนถึงบริเวณยอดเขาก็จะพบวิหาร ซูตองพญา ภายใต้วิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ทิศ คือ พระกกุสันโธ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ ภูเขามัณฑะเลย์ (Mandalay Hill) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตร บันไดทางขึ้นมีรูปปั้นสิงห์สีขาวขนาดมหึมา 2 ตัว นั่งเฝ้าอยู่ ต้องถอดรองเท้าเดินขึ้นไปมีบันไดจำนวน 1,729 ขั้น ระหว่างทางมีปูชนียสถานให้สักการะบูชาเป็นระยะๆ หรือสามารถนั่งรถสองแถวแล้วใช้ลิฟต์ขึ้นไปจนถึงบริเวณยอดเขาก็จะพบวิหาร ซูตองพญา ภายใต้วิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 4 ทิศ คือ พระกกุสันโธ, พระโกนาคมน์, พระกัสสปะ, และพระสมณโคดม รอบวิหารมีระเบียงสำหรับชมทัศนียภาพเมืองมัณฑะเลย์ และสามารถมองเห็นแม่น้ำอิรวดี, พระราชวังมัณฑะเลย์, วัดกุโสดอ และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอันสวยงามบนยอดเขามัณฑะเลย์แห่งนี้
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Shwe Phyu Hotel
ค่ำคืนนี้นำท่านพักที่ Shwe Phyu Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำคืนนี้นำท่านพักที่ Shwe Phyu Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 2
รับประทานอาหารเช้าบนรถแบบ Box set / สนามบินมัณฑะเลย์ (เดินทางต่อไปพุกาม) / พระเจดีย์ชเวสิกอง / วัดอนันดา / วัดมนุหา / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม / วัดกุบยางกี / วัดติโลมินโล / เจดีย์สัพพัญญู / นั่งรถม้าชมเมืองพุกาม / เจดีย์ชเวซานดอว์ / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / ชมโชว์หุ่นกระบอกโบราณ / BAGAN THANDE HOTEL
ช่วงเช้า
(05.00) รับประทานอาหารเช้าบนรถแบบ Box set
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแบบ Box set อย่างดี ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้กับลูกค้า
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแบบ Box set อย่างดี ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้กับลูกค้า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
(07.55) สนามบินมัณฑะเลย์ (เดินทางต่อไปพุกาม)
นำท่านเดินทางสู่สนามบินมัณฑะเลย์ อาคารผู้โดยสายภายในประเทศ และออกเดินทางสู่สนามบินยองดูแห่งเมืองพุกาม
นำท่านเดินทางสู่สนามบินมัณฑะเลย์ อาคารผู้โดยสายภายในประเทศ และออกเดินทางสู่สนามบินยองดูแห่งเมืองพุกาม
* โดยสายการบินAir Yangon เที่ยวบินที่ YH 910
พระเจดีย์ชเวสิกอง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระเจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) ชเวสิกอง มีหมายความว่า เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามหาราชพระองค์แรก ผู้รวบรวมชนชาติพม่าเป็นปึกแผ่นได้เป็นครั้งแรกในอาณาจักรพุกามเมื่อ 900 ปีเศษมาแล้ว ทรงส่งราชสาส์นไปขอพระไตรปิฎก 30 คัมภีร์จากเมืองสะเทิมของพวกมอญ แต่พระเจ้ามอญพระนามว่ามนุหาไม่ทรงยินยอม เป็นเหตุให้พระเจ้าอโนรธายกกองทัพไปรบตีชนะเมืองมอญ ทรงอัญเชิญพระไตรปิฎกมาย (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระเจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) ชเวสิกอง มีหมายความว่า เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามหาราชพระองค์แรก ผู้รวบรวมชนชาติพม่าเป็นปึกแผ่นได้เป็นครั้งแรกในอาณาจักรพุกามเมื่อ 900 ปีเศษมาแล้ว ทรงส่งราชสาส์นไปขอพระไตรปิฎก 30 คัมภีร์จากเมืองสะเทิมของพวกมอญ แต่พระเจ้ามอญพระนามว่ามนุหาไม่ทรงยินยอม เป็นเหตุให้พระเจ้าอโนรธายกกองทัพไปรบตีชนะเมืองมอญ ทรงอัญเชิญพระไตรปิฎกมายังเมืองพุกาม และได้กวาดต้อนชาวบ้านรวมทั้งกษัตริย์มอญให้มาเป็นเชลยศึกที่พุกาม เจดีย์ชเวสิกองสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยของพระเจ้าจันสิทธา เมื่อปี ค.ศ. 1113 ภายในเจดีย์เชื่อว่าบรรจุพระทันตธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ โดยอัญเชิญมาจากลังกาบนหลังช้างเผือก พระเจ้าอโนรธาได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใดจะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น เจดีย์ชเวสิกองจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของพม่าที่มีเหนือมอญ และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาในศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบมอญ ประดับลายงดงามด้วยเฟื่องอุบะ และแถบคาดรอบองค์ระฆังที่เรียกว่ารัดอก แซมลวดลายประดับทั้งขอบล่างและขอบบน องค์เจดีย์หุ้มด้วยแผ่นทอง ตั้งบนฐาน 3 ชั้น รวมความสูงจากฐานถึงยอด 53 เมตร หรือกว่า 170 ฟุต รอบระเบียงมีภาพแผ่นเคลือบปูนปั้นเล่าเรื่องในนิทานชาดกสอนใจคน บริเวณลานหน้าบันไดทางขึ้นสู่เจดีย์ทิศตะวันออกมีหลุมขนาดเล็กเรียกว่า หลุมสมดุลเจดีย์ ใส่น้ำไว้สำหรับนั่งคุกเข่ามองเงายอดเจดีย์ที่สะท้อนลงผิวน้ำ ชาวพม่าเล่าขานว่าที่หลุมนี้มีมาตั้งแต่สมัยพุกามแล้ว โดยช่างสมัยโบราณใช้ดูสมดุลไม่ให้เจดีย์เอียงขณะก่อสร้าง และบ้างก็ว่าเพราะเจดีย์มีความสูงมาก จึงต้องทำหลุมไว้ให้พระมหากษัตริย์เสด็จฯ มาบำเพ็ญพระราชกุศล ได้ทอดพระเนตรยอดเจดีย์ได้ชัดเจน อีกทั้งอาการที่ต้องคุกเข่าดู ก็เป็นการแสดงความคารวะพระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
* 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ที่ชาวพม่าให้ความเคารพบูชา ถือว่าในชีวิตนี้ต้องมาสักการะให้ครบทั้ง 5 แห่ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
วัดอนันดา
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ วัดอนันดา (Ananda Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจน นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีความสวยงามสุดในพุกาม ได้รับการยกย่องว่าคือสุดยอดพุทธศิลป์สกุลพุกาม ถือเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม ตามตำนานเล่าว่า วิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจันสิทธา อันเนื่องมาจากการจาริกแสวงบุญมายังดินแดนพุกามของพระอรหันต์ 5 รูป พระอรหันต์เหล่านั้นได้ทูลถึง ล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ วัดอนันดา (Ananda Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจน นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีความสวยงามสุดในพุกาม ได้รับการยกย่องว่าคือสุดยอดพุทธศิลป์สกุลพุกาม ถือเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม ตามตำนานเล่าว่า วิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจันสิทธา อันเนื่องมาจากการจาริกแสวงบุญมายังดินแดนพุกามของพระอรหันต์ 5 รูป พระอรหันต์เหล่านั้นได้ทูลถึง ลักษณะวัดในอินเดีย ถวายพระเจ้าจันสิทธา พระองค์พอพระทัยมาก และโปรดเกล้าให้สร้างวัดขึ้นตามลักษณะที่พระอรหันต์พรรณนา แล้วตั้งชื่อว่า วัดอนันดา ตามชื่อถ้ำที่อยู่ของพระอรหันต์ทั้ง 5 องค์นั้น วิหารแห่งนี้มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ใหญ่โต สูงสง่า มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน แต่ละช่องประดิษฐานอดีตพระพุทธเจ้าทั้ง 4 องค์ ได้แก่ 1) พระกกุสันธะ ในทิศเหนือ 2) พระโกนาคมน์ ในทิศตะวันออก 3) พระกัสสปะ ในทิศใต้ 4) พระสมณโคดม ในทิศตะวันตก โดยพระแต่ละองค์สูงกว่า 10 เมตร สีทองอลังการสวยงามมาก โดยเฉพาะองค์พระกัสสปะจะมีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ เวลายืนไกลๆ จะเห็นองค์พระยิ้ม แต่ว่าพอเดินเข้ามาใกล้ๆ จะกลายเป็นหน้าบึ้งแทน และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระ ทำให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์
วัดมนุหา
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดมนุหา (Manuha Temple) สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามนุหากษัตริย์ของชาวมอญ เมื่อพระองค์ตกเป็นเชลยของพระเจ้าอโนรธา เมื่อครั้งที่เข้าตีเมืองสุธรรมวดี หรือเมืองสะเทิม แล้วกวาดต้อนผู้คนมาที่พุกาม พระเจ้ามนุหาและพระอัครมเหสีถูกคุมขังไว้ที่ มยินกาบาทางใต้ของพุกาม และ ณ ที่นั้น ในปี ค.ศ. 1059 พระเจ้าอโนรธาทรงมีพระราชานุญาติให้พระเจ้ามนุหา สร้างวัดมนุหาขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดมนุหา (Manuha Temple) สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามนุหากษัตริย์ของชาวมอญ เมื่อพระองค์ตกเป็นเชลยของพระเจ้าอโนรธา เมื่อครั้งที่เข้าตีเมืองสุธรรมวดี หรือเมืองสะเทิม แล้วกวาดต้อนผู้คนมาที่พุกาม พระเจ้ามนุหาและพระอัครมเหสีถูกคุมขังไว้ที่ มยินกาบาทางใต้ของพุกาม และ ณ ที่นั้น ในปี ค.ศ. 1059 พระเจ้าอโนรธาทรงมีพระราชานุญาติให้พระเจ้ามนุหา สร้างวัดมนุหาขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศล กษัตริย์มอญทรงระบายความรู้สึกอึดอัดคับแค้นใจในพระราชหฤทัยของพระองค์ ในระหว่างที่ทรงถูกคุมขัง ด้วยการให้สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดใหญ่โตมากจนคับวิหาร ขนาบข้างด้วยพุทธสาวก และถูกเรียกขานว่า พระอึดอัด มาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนั้นทางด้านหลังยังมีพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่โตมากเช่นกัน ทว่ามีพระโอษฐ์ที่ยิ้ม จึงตีความว่าพระเจ้ามนุหาอาจจะมีพระประสงค์ที่จะสื่อความหมายว่า มีเพียงความตายเท่านั้นที่ทำให้ดวงพระวิญญาณของพระองค์มีอิสรภาพ
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วัดกุบยางกี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดกุบยางกี (Gubyaukgyi Temple) สร้างโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิทธา สิ่งที่โดดเด่นคือ ภาพจิตกรรมฝาผนังที่งดงามที่สุดในพุกาม เป็นการเขียนสีบนพื้นปูนเปียก ที่เรียกว่า Fresco สามารถเข้าไปดูข้างในได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำกล้องบันทึกภาพเข้าไปภายในวิหาร หรือพระเจดีย์ ด้วยเกรงว่าแสงจากแฟลชจะทำลายภาพภายในให้เสียหาย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดกุบยางกี (Gubyaukgyi Temple) สร้างโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิทธา สิ่งที่โดดเด่นคือ ภาพจิตกรรมฝาผนังที่งดงามที่สุดในพุกาม เป็นการเขียนสีบนพื้นปูนเปียก ที่เรียกว่า Fresco สามารถเข้าไปดูข้างในได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำกล้องบันทึกภาพเข้าไปภายในวิหาร หรือพระเจดีย์ ด้วยเกรงว่าแสงจากแฟลชจะทำลายภาพภายในให้เสียหาย
วัดติโลมินโล
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดติโลมินโล (Htilominlo Temple) ตามพงศาวดารกล่าวว่าในสมัยพระเจ้านรปติสิทธูครองราชย์ ทรงมีราชบุตรเกิดจากพระสนมด้วยกันทั้งสิ้น 5 พระองค์ ทรงมีพระประสงค์จะเลือกองค์หนึ่งเป็นรัชทายาทโดยพิธีเสี่ยงทาย เพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าแย่งชิงบัลลังก์กันขึ้น จึงทรงเอาเศวตฉัตรปักลงกลางแจ้ง แล้วให้ราชบุตรทั้ง 5 องค์นั้นนั่งเรียงรายทิศละองค์ ทรงอธิษฐานว่าถ้าราชบุตรองค์ไหนมีบุญญาธิการสมควรจะครองแ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดติโลมินโล (Htilominlo Temple) ตามพงศาวดารกล่าวว่าในสมัยพระเจ้านรปติสิทธูครองราชย์ ทรงมีราชบุตรเกิดจากพระสนมด้วยกันทั้งสิ้น 5 พระองค์ ทรงมีพระประสงค์จะเลือกองค์หนึ่งเป็นรัชทายาทโดยพิธีเสี่ยงทาย เพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าแย่งชิงบัลลังก์กันขึ้น จึงทรงเอาเศวตฉัตรปักลงกลางแจ้ง แล้วให้ราชบุตรทั้ง 5 องค์นั้นนั่งเรียงรายทิศละองค์ ทรงอธิษฐานว่าถ้าราชบุตรองค์ไหนมีบุญญาธิการสมควรจะครองแผ่นดิน ขอให้เกิดนิมิตให้เห็นปรากฏ ขณะนั้นองค์เศวตฉัตรได้โน้มไปทางราชบุตรน้อยนามว่า เจ้าชัยสังข์ จึงได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท เจ้าพี่ทั้ง 4 องค์ก็ยินยอมด้วยดีและได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อมา ทรงพระนามว่า พระเจ้านันตองมยา แต่ในพงศาวดารพม่ามักเรียกว่า พระเจ้าติโลมินโล ซึ่งมีความหมายว่า เอาฉัตรตั้งกษัตริย์ พระเจ้าติโลมินโลได้ทรงสร้างวัดขึ้นตรงที่ประกอบพิธีตั้งเศวตฉัตรเสี่ยงทาย อันเป็นที่ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาทจึงเรียกชื่อวัดว่า วัดติโลมินโล อย่างไรก็ตามนักปราชญ์ชาวพม่าบางรายตีความว่า ติโลมินโล อาจเพี้ยนเสียงมาจาก ไตรโลกมงคล หรือ ผู้ได้รับพรอันเป็นมงคลจากสามโลก เป็นวัดที่สร้างแบบก่ออิฐถือปูน สูง 46 เมตร ยาว 43 เมตร เท่ากันทั้ง 4 ด้าน มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ อาจหมายถึงอดีตพระพุทธเจ้า เป็นวิหาร 2 ชั้น มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ และลวดลายปูนปั้นอันประณีตสวยงาม วิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารองค์สุดท้ายที่มีการสร้างในแบบสถาปัตยกรรมพุกาม
เจดีย์สัพพัญญู
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เจดีย์สัพพัญญู (Thatbyinnyu Temple) ในภาษาพม่า เรียกว่า ตะบินยู แปลว่า เจดีย์แห่งความรอบรู้ จัดเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมืองพุกาม มีความสูงประมาณ 61 เมตร ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเมือง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอลองสิทธู จัดเป็นยุคทองของพระพุทธศาสนาในพม่า เนื่องจากพระองค์ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง จนประชาชนขนานนามพระองค์ว่า กษัตริย์ใจบุญ รูปทรงคล้ายวัดอนันดาแต่แผนผัง (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เจดีย์สัพพัญญู (Thatbyinnyu Temple) ในภาษาพม่า เรียกว่า ตะบินยู แปลว่า เจดีย์แห่งความรอบรู้ จัดเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมืองพุกาม มีความสูงประมาณ 61 เมตร ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเมือง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอลองสิทธู จัดเป็นยุคทองของพระพุทธศาสนาในพม่า เนื่องจากพระองค์ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง จนประชาชนขนานนามพระองค์ว่า กษัตริย์ใจบุญ รูปทรงคล้ายวัดอนันดาแต่แผนผังยาวกว่า ตัววิหารชั้นบนนั้นสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ด้านในกลวง ซ้อนอยู่บนตัววิหารชั้นล่างที่มีขนาดใหญ่กว่า นับเป็นเอกลักษณ์ของวัดพม่าโดยเฉพาะ ต่างจากวัดมอญที่นิยมสร้างเป็นวิหารชั้นเดียว เจดีย์นี้มี 5 ชั้น ชั้นล่าง สำหรับชาวบ้านผู้มาทำบุญ, ชั้น 2 สำหรับพระภิกษุ, ชั้น 3 ประดิษฐานพระประธานของวัด, ชั้น 4 เก็บคัมภีร์พระไตรปิฎก และ ชั้น 5 เป็นองค์สถูปประดิษฐานพระบรมธาตุ ถ้าต้องการขึ้นไปชั้นบนต้องใช้บันไดด้านในขึ้นไปยังลานชั้นสามของเจดีย์ มองออกไปจะเห็นวัดอนันดา และทิวทัศน์โดยรวมของเมืองพุกามอันงดงามตระการตา
นั่งรถม้าชมเมืองพุกาม
จากนั้นนำทุกท่านเพลิดเพลินด้วยรถม้าชมเมืองทะเลเจดีย์ที่สวยงามและหมู่บ้านเก่าแก่เมืองพุกามที่ยังคงวิถีที่วิตที่เรียบง่าย
จากนั้นนำทุกท่านเพลิดเพลินด้วยรถม้าชมเมืองทะเลเจดีย์ที่สวยงามและหมู่บ้านเก่าแก่เมืองพุกามที่ยังคงวิถีที่วิตที่เรียบง่าย
เจดีย์ชเวซานดอว์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เจดีย์ชเวซานดอว์ (Shwesandaw Pagoda) สร้างโดยพระเจ้าอโนรธา เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า โดยองค์เจดีย์เป็นรูปทรงปิระมิด 5 ชั้น มีระเบียงแต่ละชั้นโดยรอบ แต่ที่เป็นที่นิยมคือชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของเจดีย์ นักท่องเที่ยวมักจะมายังเจดีย์ชเวซานดอว์ เพื่อชมทะเลเจดีย์แห่งเมืองพุกาม ในเวลาพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ และชมพระอาทิตย์อัสดงในยามเย็น นักท่องเที่ยวมักเรีย (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เจดีย์ชเวซานดอว์ (Shwesandaw Pagoda) สร้างโดยพระเจ้าอโนรธา เป็นสถานที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า โดยองค์เจดีย์เป็นรูปทรงปิระมิด 5 ชั้น มีระเบียงแต่ละชั้นโดยรอบ แต่ที่เป็นที่นิยมคือชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของเจดีย์ นักท่องเที่ยวมักจะมายังเจดีย์ชเวซานดอว์ เพื่อชมทะเลเจดีย์แห่งเมืองพุกาม ในเวลาพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ และชมพระอาทิตย์อัสดงในยามเย็น นักท่องเที่ยวมักเรียกว่า เจดีย์แห่งพระอาทิตย์ตกดิน หรือ Sunset Pagoda ท่านสามารถมองเห็นทุ่งทะเลเจดีย์ในมุม 360 องศา ได้จากเจดีย์แห่งนี้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ช่วงค่ำ
ชมโชว์หุ่นกระบอกโบราณ
จากนั้นนำท่านชม หุ่นกระบอกโบราณ (Myanmar Puppet Show) เป็นการแสดงพื้นเมืองเชิดหุ่นกระบอกพม่าด้านการดนตรี การประพันธ์จากบทร้องและบทเพลงบรรเลงงดงาม มีสีสันชีวิตชีวา และอ่อนช้อย ราวกับหุ่นมีชีวิตจริง มีอารมณ์ ด้วยจังหวะการเชิดที่ลงตัว สอดรับกับการพากษ์และดนตรี เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ตามท้องเรื่องสนุกสนาน ถือเป็นการแสดงที่รวบรวมสุดยอดของศิลปะพม่าหาชมได้ยาก ถ่ายทอดผ่านการแสดงหุ่นกระบอกไม่ว่าจะเป็นชุดเครื่ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม หุ่นกระบอกโบราณ (Myanmar Puppet Show) เป็นการแสดงพื้นเมืองเชิดหุ่นกระบอกพม่าด้านการดนตรี การประพันธ์จากบทร้องและบทเพลงบรรเลงงดงาม มีสีสันชีวิตชีวา และอ่อนช้อย ราวกับหุ่นมีชีวิตจริง มีอารมณ์ ด้วยจังหวะการเชิดที่ลงตัว สอดรับกับการพากษ์และดนตรี เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ตามท้องเรื่องสนุกสนาน ถือเป็นการแสดงที่รวบรวมสุดยอดของศิลปะพม่าหาชมได้ยาก ถ่ายทอดผ่านการแสดงหุ่นกระบอกไม่ว่าจะเป็นชุดเครื่องทรง เครื่องประดับ ออกแบบตัดเย็บและปักร้อยมาอย่างประณีต ตระการตางามดังเนรมิตร
BAGAN THANDE HOTEL
ค่ำคืนนี้นำท่านพักที่ BAGAN THANDE HOTEL หรือเทียบเท่า
ค่ำคืนนี้นำท่านพักที่ BAGAN THANDE HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / สนามบินยองลู (กลับเมืองมัณฑะเลย์) / / ระฆังยักษ์มิงกุน / / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม / พระราชวังมัณฑะเลย์ / พระตำหนักไม้สักชเวนานดอว์ / วัดกุโสดอร์ / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Shwe Phyu Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
สนามบินยองลู (กลับเมืองมัณฑะเลย์)
นำท่านเดินทางสู่สนามบินยองลู อาคารผู้โดยสายภายในประเทศ และออกเดินทางสู่เมืองมัณฑะเลย์
นำท่านเดินทางสู่สนามบินยองลู อาคารผู้โดยสายภายในประเทศ และออกเดินทางสู่เมืองมัณฑะเลย์
* โดยสายการบิน Air Yangon เที่ยวบินที่ YH917

ระฆังยักษ์มิงกุน
จากนั้นนำท่านชม ระฆังยักษ์มิงกุน (Mingun Bell) อยู่ไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุน พระเจ้าปดุงโปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่ออุทิศถวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก 87 ตัน เล่าขานกันว่าพระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบ จึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังแ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม ระฆังยักษ์มิงกุน (Mingun Bell) อยู่ไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุน พระเจ้าปดุงโปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่ออุทิศถวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก 87 ตัน เล่าขานกันว่าพระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบ จึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังแห่งหนึ่งในพระราชวังเครมลิน, กรุงมอสโก เพียงใบเดียวเท่านั้น ทว่าระฆังเครมลินแตกร้าวไปแล้ว ชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงก้องกังวานได้จนถึงปัจจุบันนี้

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ช่วงบ่าย
พระราชวังมัณฑะเลย์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) สร้างขึ้นเมื่อครั้งที่ย้ายราชธานีมาจากอมรปุระ เป็นพระราชวังขนาดใหญ่มีประตูเข้าถึง 12 ประตู ตัวพระราชวังป็นหมู่อาคารไม้และตึก ประกอบด้วยท้องพระโรง พระที่นั่ง และตำหนักต่างๆ ทั้งหมดถูกไฟไหม้เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันทางการพม่าได้จำลองขึ้นใหม่อีกครั้งบนฐานเดิม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) สร้างขึ้นเมื่อครั้งที่ย้ายราชธานีมาจากอมรปุระ เป็นพระราชวังขนาดใหญ่มีประตูเข้าถึง 12 ประตู ตัวพระราชวังป็นหมู่อาคารไม้และตึก ประกอบด้วยท้องพระโรง พระที่นั่ง และตำหนักต่างๆ ทั้งหมดถูกไฟไหม้เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันทางการพม่าได้จำลองขึ้นใหม่อีกครั้งบนฐานเดิม
พระตำหนักไม้สักชเวนานดอว์
จากนั้น นำท่านไป(Golden Palace Monastry) พระตำหนักนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังงดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการตาด้วยลวดลายแกะสลักประณีตอ่อนช้อยทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่างโดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นพระตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม (อ่านต่อ)
จากนั้น นำท่านไป(Golden Palace Monastry) พระตำหนักนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังงดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการตาด้วยลวดลายแกะสลักประณีตอ่อนช้อยทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่างโดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นพระตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกพระตำหนักนี้ถวายเป็นวัด ถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง
วัดกุโสดอร์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda) เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 และพระองค์ทรงให้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น ถือเป็นพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี และได้นำมาประดิษฐานในมณฑป อยู่รอบพระเจดีย์มหาโลกมารชิน สูง 30 เมตร ซึ่งจำลองรูปแบบม (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda) เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 และพระองค์ทรงให้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น ถือเป็นพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี และได้นำมาประดิษฐานในมณฑป อยู่รอบพระเจดีย์มหาโลกมารชิน สูง 30 เมตร ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกาม
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Shwe Phyu Hotel
ค่ำคืนนี้นำท่านพักที่ Shwe Phyu Hotel หรือเทียบเท่า
ค่ำคืนนี้นำท่านพักที่ Shwe Phyu Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุณี / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / วัดมุยพะยา หรือวัดพญางู / สนามบินมัณฑะเลย์ / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
(04.00) ร่วมพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุณี
ช่วงเช้าตรู่ นำท่านร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมล้างหน้า พระพักตร์พระมหามัยมุนี และร่วมกันถวายผ้าจีวรแด่พระมหามัยมุนี (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิช (อ่านต่อ)
ช่วงเช้าตรู่ นำท่านร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมล้างหน้า พระพักตร์พระมหามัยมุนี และร่วมกันถวายผ้าจีวรแด่พระมหามัยมุนี (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ. 2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้าสีปอก่อนจะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษ ได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้น้ำหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลี จึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่าโดยรอบๆระเบียงเจดีย์ ยังมีโบราณวัตถุที่นำมาจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วัดมุยพะยา หรือวัดพญางู
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดมุยพะยา (Hmwe Paya or Snake Pagoda) หรือวัดพญางู เป็นวัดที่อยู่ในหมู่บ้านปะเล็ด เส้นทางออกจากเมืองอมรปุระ วัดแห่งนี้มีตำนานเล่ากันว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่งได้ฝันถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่มีเจดีย์ซ่อนอยู่ในป่า และมีงูใหญ่มาคอยเฝ้าปกปักรักษา ซึ่งพระรูปนั้นได้ฝันถึงเรื่องราวนี้ ยาวนานต่อเนื่องมาเป็นปี จนกระทั่งได้พบกับพระธุดงค์อีกรูปหนึ่ง ซึ่งท่านก็ได้มีความฝันแบบนี้เหมือนกัน พอต่ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดมุยพะยา (Hmwe Paya or Snake Pagoda) หรือวัดพญางู เป็นวัดที่อยู่ในหมู่บ้านปะเล็ด เส้นทางออกจากเมืองอมรปุระ วัดแห่งนี้มีตำนานเล่ากันว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่งได้ฝันถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่มีเจดีย์ซ่อนอยู่ในป่า และมีงูใหญ่มาคอยเฝ้าปกปักรักษา ซึ่งพระรูปนั้นได้ฝันถึงเรื่องราวนี้ ยาวนานต่อเนื่องมาเป็นปี จนกระทั่งได้พบกับพระธุดงค์อีกรูปหนึ่ง ซึ่งท่านก็ได้มีความฝันแบบนี้เหมือนกัน พอต่างคนต่างเล่าความฝันให้กันฟัง ก็เกิดความอัศจรรย์ใจว่าความฝันนั้นตรงกัน จึงได้ร่วมออกเดินทางตามหาสถานที่แห่งนั้นด้วยกัน จนกระทั่งไปพบกับเจดีย์ที่รกร้าง ถูกต้นไม้ใบหญ้าปกคลุมซ่อนตัวเอาไว้ ซึ่งภายในนั้นพบพระพุทธรูปและมีงูใหญ่เฝ้าอยู่ด้วยกันถึง 3 ตัว จึงได้ทำการบูรณะฟื้นฟูวัดแห่งนี้ขึ้นมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ในทุกๆ วันเวลาประมาณ 11.00 น. จะมีการอาบน้ำให้งู ซึ่งงูทั้ง 3 ตัวนี้จะไม่กินเนื้อสัตว์ เจ้าหน้าที่จะทำการป้อนไข่ให้กินวันละ 3 ฟอง แล้วก็จะนำกลับไปไว้ที่องค์พระพุทธรูป นามว่า "หลวงพ่อลาภะมุนี" ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการขอโชคลาภ ว่ากันว่างูที่เลื้อยเข้ามาเฝ้าองค์พระนั้นไม่เคยทำร้ายใคร และถ้างูตัวใดตัวหนึ่งตายไป ก็จะมีงูตัวใหม่เลื้อยเข้ามาเฝ้าองค์พระนี้แทนเสมอติดต่อกันมาหลายรุ่นแล้ว
สนามบินมัณฑะเลย์
จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศพม่า และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศพม่า และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* หรือท่าอากาศยานดอนเมือง
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

อัตรานี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นนักท่องเที่ยว ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด)
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางท่านละไม่เกิน 30 กก
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
  • ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า 
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  • ค่ารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน 
  • ค่าประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง (วงเงินประกันอุบัติเหตุสูงสุดท่านละไม่เกิน1,000,000บาท)
  • ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศพม่า
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น , คนขับรถ ผู้ช่วยคนขับรถ ใน อัตราวันละ 150 บาท/วัน/คน (บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศ)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิป)
     

อัตรานี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าอาหาร, ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ (มินิบาร์, น้ำดื่ม, บุหรี่, เหล้า, เบียร์ ฯลฯ), ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 20 ก.ก.และมากกว่า 1 ชิ้น,  ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  • ค่าห้องพักเดี่ยวตามอัตรา
  • ค่าวีซ่าเข้าประเทศพม่า ในกรณีเร่งด่วน
  • ค่านำกล้องถ่ายรูป และกล้องวีดีโอเข้าวัด
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับผู้เดินทางชาวต่างชาติและผู้ถือเอกสารต่างด้าว
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ทิปพนักงานขับรถ และทิปหัวหน้าทัวร์ตลอดรายการเดินทาง
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และหัก ณ ที่จ่าย 3 % (ในกรณีขอใบกำกับภาษี)

เงื่อนไขการจอง
 พร้อมกับเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าให้เรียบร้อย ภายใน 2-3 วัน หลังจากทำการจองแล้ว (ใช้เวลาขอวีซ่าไม่ต่ำกว่า 7 วันทำการ) 

  • หากท่านติดธุระหรือไม่สามารถยื่นเอกสารพร้อมคณะเดินทางได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่ากรุ๊ป และท่านจะต้องไปดำเนินการยื่นวีซ่าด้วยตัวท่านเองที่สถานทูต นั้นๆ  
  • กรณียกเลิกการเดินทาง

    • แจ้งยกเลิกไม่เกิน 14 วันก่อนเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด
    สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางไทย และทางบริษัทฯเป็นผู้ยื่นวีซ่าให้ เมื่อผลวีซ่าผ่านแล้วมีการยกเลิกการเดินทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำทั้งหมด

  • กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯ จะทำการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้
  • กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
  • กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

คณะจองจำนวนผู้ใหญ่ 15 ท่านขึ้นไปออกเดินทาง (มีหัวหน้าทัวร์)

  • ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบิน

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก

++  กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็ม บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

หากท่านเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ หรือเดินทางพร้อมสมาชิกในครอบครัวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ (Wheelchair), เด็ก, และผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว ไม่สะดวกในการเดินท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกันท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

โปรดส่งเอกสารก่อนการเดินทางอย่างน้อย 15 วันทำการ

ต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง 

  •  รูปถ่าย
    • **ห้ามแม็กซ์รูปใส่พาสปอร์ตโดยเด็ดขาด **

      หากแนบมาแล้วเกินการสูญหายทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณี **

      ทางบริษัทฯ เป็นตัวแทนในการจัดนำสัมมนา และการเดินทางที่มีความชำนาญ โดยจัดหาโรงแรมที่พัก อาหาร ยานพาหนะ และสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมทั้งการสัมมนา ดูงาน เพื่อความสะดวกสบาย และเกิดประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดจากโรงแรมที่พัก ยานพาหนะ,  อันเนื่องจากอุบัติเหตุรวมถึงภัยธรรมชาติ, โจรกรรม, วินาศกรรม, อัคคีภัย, การผละงาน, การจลาจล, สงครามการเมือง, การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ, การนัดหยุดงาน, ความล่าช้าของเที่ยวบิน, สายการเดินเรือ, รถไฟ, พาหนะท้องถิ่น,  ตลอดจนการถูกปฏิเสธออกวีซ่าจากกงสุล และ / หรือ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงผู้มีอำนาจทำการแทนประจำประเทศไทย (โดยไม่จำต้องแสดงเหตุผล เนื่องจากเป็นสิทธิพิเศษทางการทูต) ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ หมายรวมถึงในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทั้งใน หรือ ต่างประเทศ แต่ทางบริษัทฯ มีความคุ้มครอง และประกันอุบัติเหตุ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ ที่รับประกันในกรณีที่ผู้ร่วมเดินทางถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย และ/หรือ ต่างประเทศ มิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศ เนื่องมาจากความประพฤติ พฤติกรรมของผู้เดินทาง ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการความคุมโรคติดต่อเฉพาะพื้นที่มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อการเดินทาง รวมถึงมีสิ่งผิดกฎหมาย บริษัทฯ จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใดๆ รายละเอียดด้านการเดินทาง อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น หรือเพื่อความเหมาะสมทั้งปวง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้การขอสงวนสิทธิดังกล่าว บริษัท จะยึดถือและคำนึงถึงผลประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยของท่านผู้มีเกียรติ ซึ่งร่วมเดินทางเป็นสำคัญ

            - วีซ่ากรุ๊ปยื่น 15 วันทำการ (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) กรณีที่เอกสารได้ล่าช้า ต้องทำการยื่นวีซ่าด่วน  เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 

      หมายเหตุ 
      1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย ไม่ว่ากรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง
      ของไทยไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง

      3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

      5. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทาง

      6. คณะผู้เดินทางจำนวน 15 ท่านขึ้นไปจึงออกเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางไม่ถึง 15 ท่านไม่มีหัวหน้าทัวร์ไทยร่วมเดินทางไป

      โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะอากาศ 

      ความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ

       

กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา