10 มิ.ย. 63
28 มิ.ย. 63
26 มิ.ย. 63
10 ก.ค. 63
11 ก.ย. 61
ปักหมุด เยือน 6 หมู่บ้านมรดกโลกในเอเชียที่ไม่ควรพลาด!
SHARE :
หากพูดถึงความชอบและไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยว แน่นอนว่าแต่ละคนจะต้องมีความชอบและความสนใจที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะชอบการท่องเที่ยวในรูปแบบใด สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนๆ กันคือความชอบในการท่องเที่ยวนั่นเอง น้องชิลจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะมาแนะนำให้กับชาวสายเที่ยวหลายๆ คนลองหาโอกาสไปเยือนกันดูสักครั้ง สถานที่ที่ว่านั้นก็คือหมู่บ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโกนั่นเองค่ะ หมู่บ้านที่มีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นแตกต่างกันออกไป แถมยังมีเสน่ห์ให้ชวนหลงใหล ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านนี่เองค่ะ แต่จะมีที่ไหนกันบ้างนั้นเรามาดูกันเลยค่า~
หมู่บ้านมรดกโลกฮาฮเว
หมู่บ้านฮาฮเว
หมู่บ้านฮาฮเว ตั้งอยู่ในเมืองอันดง จังหวัดคยองซังบุคโด ประเทศเกาหลีใต้ เป็นหมู่บ้านโบราณที่ถูกออกแบบตามลัทธิขงจื้อมีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตามแบบสมัยโชซอนที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
หมู่บ้านแห่งนี้ถูกลายล้อมไปด้วยภูเขาโซเเบ็กซันและแม่น้ำเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ด้วยเหตุนี้เองชาวบ้านส่วนใหญ่จึงได้ทำการเกษตรเป็นหลัก สำหรับจุดดึงดูดและเป็นที่น่าสนใจของหมู่บ้านแห่งนี้ คือ บ้านแต่ละหลังจะถูกสร้างด้วยดินเผา มีผนังเป็นดินโครงสร้างเป็นไม้และหลังคามุงจาก เป็นลักษณะของบ้านชาวบ้านทั่วไป บ้านกำแพงหิน โครงสร้างเป็นไม้ หลังคามุมกระเบื้อง เป็นลักษณะของบ้านขุนนางหรือคนมีฐานนะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์น่าสนใจ
หมู่บ้านโบราณแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของชาวโลก เมื่อ Queen Elizabeth ได้เสด็จมาเยือน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี 1999 และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี 2010 อีกด้วย
หมู่บ้านนี้มีบ้านเรือนรวมกันทั้งหมดประมาณ 170 หลัง บางหลังมีอายุมากกว่า 600 ปี หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีผู้คนอาศัยอยู่จริง ดังนั้นส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะสามารถเยี่ยมชมได้เฉพาะภายนอก แต่ยังคงมีบ้านบางหลังที่สามารถเข้าชมภายในได้
นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งมรดกโลกที่มีความน่าสนใจและวัฒนธรรมพื้นบ้านแบบดั้งเดิมที่มีเสน่ห์น่าหลงไหลเป็นอย่างมาก และหมู่บ้านแห่งนี้เองยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเกาหลีในหลายๆ เรื่องอีกด้วย
ที่ตั้ง : Gyeongsangbuk-do
การเดินทาง : นั่งรถบัสประจำทางสาย 46 จากสถานี Andong Bus Terminal ไปลงยัง Historic Villages of Korea: Hahoe and Yangdon
หมู่บ้านโบราณในอานฮุยตอนใต้ซีตี้และหงชุน
หมู่บ้านซีตี้และหงชุนเป็นแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน หมู่บ้านทั้งสองแห่งนี้ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไป ผังเมือง ถนน สถาปัตยกรรม การตกแต่ง และระบบชลประทานที่ครอบคลุมทั้งเมืองได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นเอกรักษ์โดดเด่นของสิ่งที่ยังเหลืออยู่ และยังได้จดทะเบียนร่วมกันเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "หมู่บ้านโบราณตอนใต้ของมณฑลอานฮุย ซีตี้และหงชุน" ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 24 เมื่อปี พ.ศ. 2000 ที่เมืองแคนส์ ประเทศออสเตรเลีย
หมู่บ้านซีตี้
หมู่บ้านเก่าแก่สมัยซ่งเหนือ มรดกทางวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติหุบเขาหวงซัน ห่างจากเขตอำเภออีเสี้ยนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร ปัจจุบันมีบ้านเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ถึง 124 หลัง หมู่บ้านแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 4 ด้าน และมีลำธารสองสายจากทางเหนือและตะวันออกไหลมาบรรจบกันทางตอนใต้ของหมู่บ้านอีกด้วย
ที่ตั้ง : Xidi Village, Anhui, China
การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยรถโดยสารจากสนามบินถุนซี ในเมืองหวงซันหรือเช่ารถ หรือใช้บริการบริษัททัวร์ท้องถิ่นได้เลย
หมู่บ้านหงชุน
หมู่บ้านโบราณหงชุน ห่างจากเขตอำเภออีเสี้ยนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร สร้างขึ้นในสมัยซ่งใต้ ปัจจุบันมีบ้านเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์กว่า 137 หลังคาเรือน และด้วยสภาพภูมิประเทศบริเวณหมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่ที่ค่อนข้างสูง บางส่วนของหมู่บ้านถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอก จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘เมืองในภาพวาดพู่กันจีน’ หมู่บ้านแห่งนี้หากมองจากมุมสูงจะเห็นหมู่บ้านทั้งหมดเป็นภาพลักษณะคล้ายโคนอนเอียงกายอยู่ริมลำธารหน้าภูเขา ด้วยบ้านเรือนและการไหลเวียนของลำธารในหมู่บ้านจึงทำให้เกิดเป็นรูปลักษณะดังกล่าวขึ้น นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของประวัติศาสตร์
สถาปัตยกรรม โบราณในหมู่บ้านหงชุนโดยทั่วไปถูกแบ่งแยกเป็นสัดส่วนด้วยกำแพงปูนขาว กระเบื้องสีเขียวกับงานสลักไม้ภายในบ้านที่สร้างเสน่ห์อันน่าหลงใหล มีโถงเฉิงจื้อเป็นโบราณสถานเก่าแก่หนึ่งเดียวที่ใหญ่โตที่สุดเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน โถงเฉิงจื้อแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น ‘พระราชวังต้องห้ามของเหล่าสามัญชน’ อีกด้วย
ที่ตั้ง : Hongcun Village, Anhui, China
การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยรถโดยสารจากสนามบินถุนซี ในเมืองหวงซันหรือเช่ารถ หรือใช้บริการบริษัททัวร์ท้องถิ่นได้เลย
เตียวโหลวและหมู่บ้านแห่งไคผิง
เตียวโหลวและหมู่บ้านแห่งไคผิง
ตั้งอยู่ที่อำเภอไคผิง จังหวัดเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน สถาปัตยกรรมที่ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวจีนโพ้นทะเลที่เคยอพยพไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจึงได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของที่นั่นและนำมาพัฒนาเป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่โดยมีการผสมผสานระหว่างแบบตะวันตกและแบบจีนเข้าด้วยกัน จึงมีสิ่งก่อสร้างที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนในจีน เป็นทรงสูงทึบมี 5-6 ชั้น สร้างด้วยคอนกรีต มีหน้าต่างโดยรอบอยู่สูงจากพื้นดินมากกว่าปกติ มีลวดลายปูนปั้นประดับอยู่ตามเสาหรือบนระเบียงซึ่งเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบจีน ส่วนด้านบนจะเปิดโล่งเหมือนดาดฟ้าเพื่อเอาไว้ใช้สังเกตการณ์ เตียวโหลว เป็นชื่อที่ใช้เรียกสิ่งก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่มีลักษณะเป็นหอคอยสูงหลายชั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและใช้เป็นหอสังเกตการณ์ ปัจจุบันมีหลงเหลืออยู่เพียง 1,700 หลังเท่านั้น เตียวโหลวและหมู่บ้านไคผิงนี้ได้รับการประกาศจากคณะกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี 2007 ให้เป็นมรดกโลกโดยเรียกชื่อโดยรวมๆ ว่า "เตียวโหลวและหมู่บ้านแห่งไคผิง" เนื่องจากเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พบเห็นได้เฉพาะในเมืองไคผิงเท่านั้น เมืองไคผิงมีหลายหมู่บ้านด้วยกันที่มีที่อยู่อาศัยลักษณะนี้อยู่รวมกัน
สำหรับการเที่ยวชมเตียวโหลวนั้นโดยหลักแล้วจะมีอยู่ 4 สถานที่โดดเด่น ซึ่งได้แก่
1. หมู่บ้านจื้อลี่ ตั้งอยู่ในตำบลถางโข่ว เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีเตียวโหลวอยู่หนาแน่นที่สุด มีอยู่ 9 หลัง
2. สวนลี่หยวน ตั้งอยู่ในตำบลถางโข่ว เป็นสวนสวยที่สร้างขึ้นโดยชาวจีนโพ้นทะเลที่อาศัยอยู่ในอเมริกา ภายในมีเตียวโหลวอยู่หนึ่งหลัง นอกจากนั้นก็มีพิพิธภัณฑ์ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับเตียวโหลวและมรดกโลกอื่นๆ
3. หมู่เตียวโหลวหม่าหลงเจี้ยง ตั้งอยู่ในตำบลไป๋เหอ ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในโลก มีเตียวโหลวอยู่ 7 หลัง
4. หมู่เตียวโหลวจิ่นเจียงหลี่ ตั้งอยู่ในตำบลเสี่ยนกัง มีเตียวโหลวอยู่ 3 หลัง หนึ่งในนั้นเป็นเตียวโหลวที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดเรียกว่า รุ่ยสือโหลว สูง 9 ชั้น
ที่ตั้ง : อำเภอไคผิง จังหวัดเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
การเดินทาง :
- จากสถานีขนส่งเมืองไคผิง Kaiping Yici Bus Station ( 开平( 义祠站 ) นั่งรถเมล์สาย 6 ไป The Historic Town of Chikan (赤坎镇)
- นั่งรถไป Li Garden Diaolou (立园)
- และนั่ง Shuttle bus ฟรี ไป Zili Village Diaolou (自力村)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะและโกคายามะ
หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ
หมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ ตั้งอยู่ในเมืองโอนะ จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านเก่าแก่อายุกว่า 250 ปี มีบ้านเรือนกระจายไปในแนวเหนือ-ใต้ ตามที่ราบแคบๆ ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะถูกสร้างขึ้นในยุคเอโดะ ด้วยเอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนในหมู่บ้านซึ่งโครงสร้างของบ้านถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อีกทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างต่างๆ ล้วนมาจากวัสดุจากธรรมชาติ ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีบวกกับเสน่ห์จากความงดงามของหมู่บ้านในฤดูกาลต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป จึงได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995 พร้อมกับหมู่บ้านโกคายาม่า ในจังหวัดโทยาม่าอีกด้วย
ที่ตั้ง : เมืองโอนะ จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น
การเดินทาง :
- สามารถนั่งรถไฟจากโอซาก้า (Osaka) หรือนาโกย่า (Nagoya) มาลงที่เมืองคานาซาวา (Kanazawa) แล้วต่อรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็จะถึงหมู่บ้าน
- จากนาโกย่า (Nagoya) นั่งรถไฟเข้าเมืองทาคายาม่า (Takayama) แล้วต่อรถบัส Takayama Nohi Bus Center อีกประมาณ 50 นาที
หมู่บ้านโกคายามะ
โกคายามะ ตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของจังหวัดโทยามะ เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีชื่อเสียง มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาเป็นหมู่บ้านที่มีลักษณะคล้ายกับหมู่บ้านชิราคาวาโกะ มีรูปทรงหลังคาสามเหลี่ยมแบบลาดชันในสไตล์กัสโชสึคุริ มีการออกแบบหลังคาที่มีความชันถึง 60 องศา จนมีลักษณะที่ดูคล้ายการพนมมือ การสร้างหลังคาในลักษณะนี้ก็เพื่อระวังไม่ให้หิมะทับถมหลังคาจนบ้านพังลงมานั่นเอง โครงสร้างของบ้านทั้งหลังถูกสร้างจากวัสดุทางธรรมชาติโดยที่ไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจและร่วมกันอนุรักษ์ไว้จนกลายเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านโบราณของญี่ปุ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนป็นมรดกโลก
ที่ตั้ง : Ainokura, Nanto, Toyama
การเดินทาง :
- จาก JR Tokyo ขึ้นรถไฟสาย JR Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานี JR Shin Takaoka (ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง) จากนั้นต่อรถบัส Kaetsuno Bus ไปลงที่ป้าย Ainokura (ประมาณ 1 ชั่วโมง) หรือลงที่ป้าย Suganuma (ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)
- จากหมู่บ้าน Shirakawa-go สามารถนั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Ainokura (ประมาณ 30 นาที) หรือลงที่ป้าย Suganuma (ประมาณ 45 นาที)
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 6 หมู่บ้านมรดกโลกในเอเชียที่น้องชิลคัดสรรมาฝากกัน แต่ละสถานที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดีเลยใช่มั้ยล่ะคะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองเดินทางไปสัมผัสกันดูสักครั้ง น้องชิลขอรับรองเลยว่าทุกคนจะไม่ผิดหวังที่ได้ไปอย่างแน่นอนค่ะ
