สวรรค์นักอ่านเชิญทางนี้ น้องชิลพาชมห้องสมุด สถานที่รวบรวมหนังสือ วารสาร สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ มีการจัดไว้อย่างเป็นระบบ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ นอกจากหนังสือมากมายที่มีให้บริการแล้วยังมีความสวยงามของห้องสมุดที่ตระการตา รับรองว่าเป็นสวรรค์ของนักอ่านจริงๆค่ะ จะมีที่ไหนบ้างนั้น ติดตามชมได้เลยค่าาาา
“ห้องสมุดสตราโฮฟ” ถือเป็นห้องสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้ ตั้งอยู่ภายในพระอารามสตราร์โฮฟที่มีอายุมากกว่า 800 ปี ภายในเป็นห้องโถงใหญ่ ตกแต่งเพดานอย่างวิจิตรตระการตา มีหนังสือบรรจุอยู่ภายในกว่า 130,000 เล่ม แบ่งเป็นหนังสือหายาก หนังสือเกี่ยวกับคำสอนทางศาสนาในสมัยโบราณ หนังสือปรัชญา อีกทั้งยังมีเอกสารเก่าแก่ จิตรกรรมฝาผนังและสถาปัตยกรรมที่เลอค่าให้ทุกท่านได้ชื่นชม
“ห้องสมุดเคลเมนตินัม” เป็นอีกหนึ่งห้องสมุดที่งดงามที่สุด โดยเปิดให้ใช้บริการขึ้นเมื่อปี 1722 ตั้งอยู่ที่กรุงปราก อยู่ภายในมหาวิทยาลัย Jesuit University สำหรับห้องสมุดเคลเมนตินัมเป็นแหล่งรวบรวมหนังสือและวรรณกรรมที่เก่าแก่หายากจากทั่วโลกกว่า 20,000 เล่ม โดยห้องสมุดนี้ถูกออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อค ที่มีความประณีตสวยงามตั้งแต่พื้นไล่ไปถึงเพดาน อีกทั้งยังตระการตาไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานอีกด้วย
“หอสมุดแห่งชาติอังกฤษ” เป็นหอสมุดที่มีหนังสือและวรรณกรรมต่างๆจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกอ่านมากมายครบทุกภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย หอสมุดนี้ก่อตั้งเมื่อปี 1973 จัดว่าเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่นี่มีหนังสือและสื่อต่างๆ ให้เลือกเรียนรู้มากกว่า 150 ล้านรายการอีกด้วย
“ห้องสมุดทียูเดลฟท์” ห้องสมุดที่ตั้งอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ สร้างขึ้นในปี 1997 ภายในห้องสมุดประกอบด้วยหนังสือตำราเรียนกว่า 862,000 เล่ม นิตยสารหัวต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกกว่า 16,000 เล่ม ทำให้มีนักอ่านทั้งหลายแวะเวียนมาใช้บริการอย่างมากเลยทีเดียว
“ห้องสมุดมหาวิทยาลัยทรินิตี้” ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เป็นห้องสมุดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 ข้างในห้องสมุดตกแต่งสวยหรูอลังการแล้ว ยังเป็นห้องสมุดห้องเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย หรือเรียกอีกอย่างว่า Long Room ซึ่งสร้างจากไม้โอ๊ค เนื้อไม้ที่นิยมนำมาสร้างห้องหรูต่าง ๆ ในสมัยนั้น จนถึงปัจจุบันห้องสมุดแห่งนี้ยังคงเป็นที่นิยมของนักอ่านจำนวนมาก
“ห้องสมุดจอร์จ พีบอดี้” เป็นห้องสมุดของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ สร้างขึ้นเมื่อปี 1878 ประกอบด้วยห้องโถงใหญ่แบบเปิดโล่ง มีชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงอยู่ระหว่างโถงซึ่งบริเวณระเบียงของชั้นหนังสือนั้นยังมีรั้วที่มีลวดลายสวยงามตกแต่งอยู่ และเพดานกระจกที่เปิดรับแสงจากธรรมชาติให้ความสวยงามและรู้สึกสงบเหมาะสมกับการอ่านหนังสืออย่างแท้จริง
“ห้องสมุดคานาซาวะ ยูมิมิราอิ” ห้องสมุดทรงสี่เหลี่ยมสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ขนาด 3 ชั้น ออกแบบโดย Kazumi Kudo และ Hiroshi Horiba สถาปนิกชาวญี่ปุ่น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 5,600 ตารางเมตรและหนังสือกว่า 400,000 เล่มเสมือนป่าที่เต็มไปด้วยหนังสือ ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายและเป็นส่วนตัวทำให้มีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมากต่อวัน
“ห้องสมุดเทียนสิน ปินไห่” เป็นห้องสมุดดีไซน์เก๋และทันสมัยอันดับต้นๆของโลก มีทั้งหมด 5 ชั้น บนพื้นที่ 33,700 ตารางเมตร ด้านในจะเน้นใช้สีขาวในการตกแต่ง โดยไฮไลท์อยู่ที่วัตุทรงกลมใหญ่สีขาวเมื่อมองจากข้างนอกจะเป็นรูปดวงตา ถือเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของที่นี่สามารถเรียกคนเข้ามาอ่านหนังสือ และเช็คอินถ่ายรูปกว่าหมื่นคนต่อวันเลยทีเดียว
“ห้องสมุดแห่งอารามวิบลิงเกน” ภายในประดับประดาและตกแต่งด้วยศิลปะสมัยโรโกโก โดยมีทั้งรูปปั้นหินอ่อนและจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานเป็นจำนวนมากที่มีสีสันสดใส แสดงถึงวิสัยทัศน์ของสถาปนิกว่าให้ห้องสมุดเป็นสถานที่สำหรับการอนุรักษ์“ ขุมทรัพย์แห่งปัญญาและวิทยาศาสตร์”
“ห้องสมุดเอ็ดมอนต์” เป็นห้องสมุดที่มีประติมากรรมต่าง ๆ สร้างขึ้น โดย Josef Anton Stammel ประติมากรยุคบาโรกที่มีชื่อเสียงมาก จาก ‘The Four Last Things’ 4 งานประติมากรรมขนาดใหญ่ ภายในห้องสมุดยังอัดแน่นไปด้วยหนังสือจำนวนมหาศาลกว่า 200,000 เล่ม รวมถึงสมบัติล้ำค่าอย่างต้นฉบับหายากกว่า 1,400 ฉบับ ที่บางฉบับมีอายุเก่าหลายร้อยปี (จากศตวรรษที่ 8) และหนังสือโบราณที่ตีพิมพ์ก่อนศตวรรษที่ 15 ราว 500 ฉบับ อีกด้วย
สำหรับท่านไหนที่รักในการอ่านหนังสือ สถานที่บรรยากาศในการอ่านหนังสือนั้นก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ ที่ทำให้หลายๆท่านรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับการอ่าน น้องชิลหวังว่าจากบทความที่นำเสนอ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่รักในการอ่านหนังสือทุกท่านนะค้าา ^^