รอบนี้ไม่ได้เน้นทัวร์ 9 วัด 10 วัด แต่จะเน้นแนะนำ 10 วัดน่าเที่ยวที่สายบุญรวมทั้งสายท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะแต่ละที่ นอกจากแวะแล้วเป็นสิริมงคล ยังได้จะได้ชมภาพบรรยากาศสวยๆ ภายในวัดไปพร้อมกัน เผลอๆ บางคนมีเวลาอยากสงบอาจจะได้กิจกรรมแถม ถ้าใครมีเวลานั่งสมาธิถือศีลร่วมด้วย เพราะบางวัดมีจัดให้บริการ
อุบลราชธานี เป็นจังหวัดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างอุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกห้วยทรายใหญ่น้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของอีสาน สามพันโบกแกรนด์แคนยอนสุดอลังการกลางน้ำโขง หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่างปราสาทบ้านเบ็ญซึ่งเป็นศาสนสถานขอมโบราณอันทรงคุณค่า ซึ่งสถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน หรือถ้าใครชื่นชอบเรื่องงานประเพณีก็พลาดไม่ได้กับประเพณีแห่เทียนพรรษา งานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจะมีการประกวดเทียนแกะสลักและมีการแห่เทียนอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากจะมีประเพณที่ยิ่งใหญ่แล้ว "วัด" ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนส่วนใหญ่มาสักการะ กราบไหว้บูชา หากได้มีโอกาสมาเยือนจังหวัดอุบลราชธานีทั้งที ก็ควรจะมากราบไว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่นกันสักหน่อย และในบทความนี้น้องชิลจะพาทุกท่านไปเติมพลังบุญ สักการะ 7 วัดดังน่าเที่ยว ที่จังหวัดอุบลราชธานี จะมีวัดไหนกันบ้างนั้น? ตามมาชมกันเลยค่ะ
![]() |
วัดศรีอุบลรัตนาราม (Wat Si Ubon Rattanaram) เดิมชื่อ วัดศรีทอง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2398 ตรงกับ ร.ศ. 74 เป็นปีที่ 5 แห่งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี วัดนี้มีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ พระแก้วบุษราคัม เป็นพระพุทธปฏิมากรปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน แกะสลักจากแก้วบุษราคัม หน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระโมลี 5 นิ้ว มีความงามสง่าตามพุทธลักษณะทุกประการ ตามตำนานเล่าสืบกันมาว่าพระวรราชภักดี (พระวอ) พร้อมด้วยบุตรหลานของพระตาคือ เจ้าคำผง เจ้าทิดพรหม และเจ้าก่ำ บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเมืองอุบล ได้อัญเชิญพระแก้วบุษราคัมมาจากกรุงศรีสัตนาคตหุต (เวียงจันทน์) เดิมทีพระแก้วบุษราคัม คงจะประดิษฐานอยู่ที่บ้านดอนมดแดง และได้อัญเชิญมาประดิษฐาน อยู่ที่วัดศรีอุบลรัตนารามในเวลาต่อมา ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช ทางราชการได้ประกอบพิธีถือนำพระพิพัฒน์สัตยาที่วัดศรีอุบลรัตนาราม พร้อมทั้งได้อัญเชิญพระแก้วบุษราคัมเป็นองค์ประธานในพิธี โดยถือว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสืบกันมาแต่โบราณกาล ปัจจุบัน ในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ชาวอุบลราชธานีจะร่วมใจกันอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมเข้าขบวนแห่ไปรอบเมืองอุบลราชธานี เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชน ได้นมัสการกราบไหว้และสรงน้ำกันโดยถ้วนหน้า
ที่ตั้ง: ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000
![]() |
วัดทุ่งศรีเมือง (Wat Thung Si Meuang) เป็นวัดที่นักท่องท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักดี นักท่องเที่ยวมาที่นี่เพื่อมาชมหอไตรกลางน้ำ ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนในการเก็บตำรับตำราเอกสารสำคัญ สิ่งที่น่าสนใจของวัดทุ่งศรีเมือง คือ พระอุโบสถหรือหอพระพุทธบาท ที่สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์ที่จะจำลองพระพุทธบาทจำลอง จากวัดสระเกศมาให้พุทธบริษัทที่อุบลราชธานีได้กราบไหว้ และหอไตรกลางน้ำที่สร้างขึ้นโดยใช้เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก คือ คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา และปรัชญาพื้นบ้าน รวมถึงตำราต่าง ๆ มากมาย
ที่ตั้ง: 95 ถนนหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000
![]() |
วัดพระธาตุหนองบัว(Wat Phra That Nong Bua) เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ คือพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์นั้น ได้จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยาประเทศอินเดีย เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอบองค์พระธาตุเป็นกำแพงแก้ว ซึ่งทั้ง 4 มุม ของกำแพงแก้ว ได้ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็กอีก 4 องค์ ภายในองค์พระธาตุมีประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้าน พระธาตุองค์เดิมมีขนาดกว้างด้านละ 5 เมตร สูงประมาณ 17 เมตร เมื่อสร้างใหม่ครอบองค์เดิม คือพระบรมธาตุที่เห็นในปัจจุบัน มีขนาดใหญ่มาก ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 17 เมตร สูง 56 เมตร เสร็จสมบูรณ์ในปี 2512 นอกจากจะมีบรมสารีริกธาตุให้กราบไหว้แล้ว ยังเป็นแหล่งรวมรสพระธรรมและกลิ่นอายวัฒนธรรมอันล้ำค่า มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมยิ่งนัก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ลานวัด หากท่านใดได้ไปสัมผัสด้วยสายตาตัวเอง จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่า ได้ยืนอยู่ที่เจดีย์ที่พุทธคยาประเทศอินเดียเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในรสพระธรรม เมื่อผ่านไปทางเมืองอุบลฯ อย่าลืมแวะยลมนต์เสน่ห์ของวัดหนองบัวกันสักครั้งแล้วท่านจะลืมไม่ลง
ที่ตั้ง: ถนนธรรมวิถี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000
![]() |
วัดถ้ำคูหาสวรรค์ (Wat Tham Khuha Sawan) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี ชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงและแม่น้ำสองสี ตลอดจนทิวทัศน์ของฝั่งประเทศตรงข้ามได้อย่างชัดเจน อันเนื่องมาจากบริเวณที่ตั้งของวัดถ้ำคูหาสวรรค์ตั้งอยู่บนที่ราบสูงริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลไหลรวมกัน กลายเป็นแม่น้ำสองสีอย่างสวยงาม รวมทั้งทิวทัศน์ตัวอำเภอโขงเจียม ภายในบริเวณวัดถ้ำคูหาสวรรค์มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างเช่น พระอุโบสถหลังงามสีขาวแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจงสวยงาม ดึงดูดให้เหล่านักท่องเที่ยวแวะเข้าเยี่ยมชมที่นี่อย่างมากมาย นอกจากนี้ภายในวัดถ้ำคูหาสวรรค์ยังมีพระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิที่สวยงาม สวนตอไม้โดยรอบภายในบริเวณวัดเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะที่วัดแห่งนี้เป็นศูนย์อนุรักษ์กล้วยไม้ไทย ตอไม้ที่ท่านสังเกตเห็นนั้นหากมองอย่างละเอียดแล้วล่ะก็ จะเห็นดอกกล้วยไม้ที่สวยงามน่ารักหลากหลายพันธุ์และสี แต่อย่าเดินชมดอกกล้วยไม้กันเพลิน เพราะยังมีถ้ำคูหาสวรรค์ที่อยู่บริเวณด้านหลังวัดให้ทุกท่านไปสำรวจ ถ้ำคูหาสวรรค์เป็นถ้ำที่เดินไปได้สะดวก ไม่ลึก ภายในถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย มากมายหลายองค์ ด้านในถ้ำเป็นที่ตั้งของโลงแก้วที่บรรจุสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่คำคนิง จุลมณี พระนักวิปัสสนาที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
ที่ตั้ง: ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี 34220
![]() |
วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย (Wat Tham Heo Sin Chai) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ภายในวัดจะมีถ้ำเล็ก ๆ หรือที่เรียกกันว่า ถ้ำเหวสินธุ์ชัย ซึ่งประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ รูปหล่อพระฤๅษี พระแม่ธรณี และพระพุทธรูปอีกหลายองค์ และที่บริเวณของเพิงถ้ำมีลำธารเล็กไหลผ่านลงมาเป็นน้ำตก สู่หุบเหวเบื้องล่างสร้างบรรยากาศให้ร่มเย็น จะมีน้ำมากในช่วงปลายฤดูฝน บริเวณเหนือถ้ำยังมีทุ่งดอกหญ้า มีต้นไม้ และดอกไม้ที่สวยงามตามฤดูกาล ด้วยบรรยากาศสงบเงียบและที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม นักท่องเที่ยวควรใช้ความสงบในการเยี่ยมชม การมาวัดนี้จึงเป็นการมานมัสการพระพุทธไสยาสน์ในถ้ำหลังน้ำตกแห่งนี้นั่นเอง และนอกจากนี้ยังมีวิหารพระแก้วมรกต และพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำมูลให้สักการะกันอีกด้วย
ที่ตั้ง: ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี 34220
![]() |
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว (Wat Sirindhorn Wararam) หรือที่นิยมเรียกกันว่า "วัดเรืองแสง" เป็นวัดที่ตั้งอยู่เนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมมาจากวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ ลักษณะเด่นบริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า จุดเด่นของวัดคือการได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืน นอกจากความมหัศจรรย์ของพระอุโบสถแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ซึ่งเป็นวิวลำน้ำโขง และบริเวณด้านหลังพระอุโบสถเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวและมองเห็นด่านสากลช่องเม็กอย่างสวยงามรวมทั้งอ่างเก็บน้ำที่อยู่บริเวณเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาป โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินเราเราจะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงโตซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก
ที่ตั้ง: ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี 34350
![]() |
วัดราษฎร์ประดิษฐ์ (Wat Rat Pradit) หรือ วัดบ้านกระเดียน เป็นวัดที่ชาวบ้านกระเดียนร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างด้วยแรงงานชาวบ้าน โดยใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น อิฐที่ใช้เป็นอิฐที่เผาจากดินดิบในหมู่บ้าน มีโบราณสถานที่สำคัญ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิลาย มีโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น พระพุทธรูปประจำพระอุโบสถ พระพุทธรูปแกะจากไม้ ธรรมมาสไม้ หีบไม้เก็บตำรา เป็นต้น ทั้งนี้วัดราษฎร์ประดิษฐ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราญสถานศิลปะช่างญวนและศิลปะพื้นถิ่นอีสานจากกรมศิลปากรอีกด้วย
ที่ตั้ง: ตำบลกระเดียน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี 34130
และนี่คือ 7 วัดดังน่าเที่ยว ที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่น้องชิลนำมาฝากทุกท่านกันค่ะ หากใครที่ได้มาเที่ยวที่จังหวัดอุบลราชธานีนี้ล่ะก็ ลองหาโอกาสมาเติมพลังบุญเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวกันด้วยนะคะ นอกจากจะอิ่มบุญแล้วยังได้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก: Amazing Thailand, Thailand Tourism Directory