Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) EU130 ทัวร์ยุโรป 2 ประเทศ อิตาลี-สวิสเซอร์แลนด์ กรุงโรมต้นกำเนิดอารยธรรมโรมัน สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส ลูเซิร์นอดีตหัวเมืองโบราณ นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาทิตลิส 7 วัน 4 คืน โดยสายการบิน Thai Airways (TG)

บินตรง กรุงเทพฯ-โรม / ซูริค-กรุงเทพฯ พร้อมสะสมไมล์การบินไทย 50%
อิตาลี:กรุงโรมโคลอสเซี่ยม น้ำพุเทรวี่ บันไดสเปน, 
เมืองปิซ่า หอเอนปิซ่า,ฟลอเรนซ์, เกาะเวนิส, จัตุรัสซานมาโค สวิตเซอร์แลนด์: เมืองลูเซิร์น, สิงโตหินผาแกะสลัก, สะพานไม้ชาเปล
เมืองแองเกลเบิร์กนั่งกระเช้าหมุน 360 องศาขึ้นยอดเขาทิทลิส, เมืองชาฟเฮาเซ่น น้ำตกไรน์ พักโรงแรม 4 ดาว มาตรฐานยุโรป(พัก อิตาลี 2 คืน / สวิส 2 คืน)

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
วันที่ 2: ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโรม เลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci–Fiumicino International Airport) / กรุงโรม (Rome) / สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) / ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) / (ผ่านชม) อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล (Monument of Victor Emmanuel II) / โรมันฟอรัม (Roman Forum) / น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) / ย่านบันไดสเปน (Spanish Steps or Piazza di Spagna) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน / เมืองปราโต้ (Prato) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม / Hotel President Prato
วันที่ 3: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองปิซ่า (Pisa) / จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี หรือ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า (Compo Dei Miracoli) / เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน / มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) / หอระฆังจอตโต้ (Giotto’s Bell Tower) / หอศีลจุ่มซันโจวานนี่ (Florence Baptistery) / เมืองเวนิส เมสเตร้ (Venice Mestre) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม / Bedbank Venice Mestre
วันที่ 4: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) หรือ จัตุรัสเซนต์มาร์ค (Saint Mark Square) / (ผ่านชม) สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) / สะพานรีอัลโต (Rialto Bridge) / อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ณ เกาะเวนิส / อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย / เมืองลูเซิร์น (Lucerne) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Ibis Styles Luzern
วันที่ 5: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้น (Lion Statue) หรือ เลอเวนเดงก์มัล (Lowendenkmal) / สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) / เมืองแองเกิ้ลเบิร์ก (Engelberg) / นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาทิตลิส (Titlis Mountain) / ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบนยอดเขา / เมืองซุก (Zug) / ย่านเมืองเก่าซุก (Zug Old Town) / เมืองซูริค (Zurich) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / Park Inn by Radisson Zurich Airport
วันที่ 6: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (Schaffhausen) / น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) / ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค โคลเท่น (Zurich Kloten International Airport)
วันที่ 7: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
11 มื้อ, อิสระ 1 มื้อ 4 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,525 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

** หากท่านต้องซื้อบัตรโดยสารภายในประเทศเพื่อไปและกลับกรุงเทพฯ กรุณาเลือกซื้อบัตรโดยสารภายในประเทศประเภทที่สามารถเลื่อนวันและเวลาในการเดินทางได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาเที่ยวบินล่าช้า หรือการเปลี่ยนแปลงเวลาของเที่ยวบินหรือการเปลี่ยนแปลงวันเดินทางกรณีเกิดความผิดพลาดจากบริการจากสายการบิน (ความล่าช้าของเที่ยวบิน การยกเลิกเที่ยวบิน มีการยุบเที่ยวบินรวมกัน ตารางการการเดินทางมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสายการบินพิจารณาสถานการณ์แล้วว่า อยู่นอกเหนือความควบคุม หรือเหตุผลทางด้านความปลอดภัยเป็นต้น) โปรดเข้าใจและรับทราบว่าผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ในทุกกรณี **

อัตราค่าบริการนี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่า (Schengen Visa) 4,000 บาท

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

Thai Airways (TG)  
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.พ.62)

ตารางบิน
Thai Airways (TG) เวลาบินขาไป 00:01 - 06:00 BKK - FCO TG 944
เวลาบินขากลับ 13:15 - 06:10 ZRH - BKK TG 971

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงค่ำ
(21:00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 00:01 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน Thai Airways (TG) เที่ยวบินที่ TG 944
วันที่ 2
ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโรม เลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci–Fiumicino International Airport) / กรุงโรม (Rome) / สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) / ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) / (ผ่านชม) อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล (Monument of Victor Emmanuel II) / โรมันฟอรัม (Roman Forum) / น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) / ย่านบันไดสเปน (Spanish Steps or Piazza di Spagna) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน / เมืองปราโต้ (Prato) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม / Hotel President Prato
ช่วงเช้า
ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโรม เลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci–Fiumicino International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโรม เลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci–Fiumicino International Airport) ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโรม เลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Leonardo da Vinci–Fiumicino International Airport) ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
กรุงโรม (Rome)
นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี ซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันโรมมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี กรุงโรมตั้งอยู่บนเนินเขาทั้งเจ็ดริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศโดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมาย เช่น อาณาจักรโรมัน สาธารณโรมัน และจักรวรรดิโรมัน โรมเคยเป็นเมืองที่มรบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตก และในอดีตได้เป็ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี ซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันโรมมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี กรุงโรมตั้งอยู่บนเนินเขาทั้งเจ็ดริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศโดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมาย เช่น อาณาจักรโรมัน สาธารณโรมัน และจักรวรรดิโรมัน โรมเคยเป็นเมืองที่มรบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตก และในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองโรมมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาจากหมู่บ้านเล็กๆในประเทศอิตาลีสมัยราว 9 ศตวรรษก่อนคริสตกาล เติบโตจนกลายเป็นอาณาจักรที่มีอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่ขยายอิทธิพลครอบคลุมแถบเมดิเตอร์เรเนียนนานนับศตวรรษจนกลายมาเป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน กรุงโรมได้รับฉายาว่าเป็นเมืองอมตะนคร หรือนครที่ไม่มีวันตาย เป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรม, ศูนย์กลางแห่งศิลปวัฒนธรรม, ศูนย์กลางการปกครองและอำนาจของอาณาจักรโรมัน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์อีกด้วย กรุงโรมนับได้ว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงทางด้านแฟชั่นของโลก และเต็มไปด้วยร้านแบรนเนมชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Armani, Versace และ Ferre
สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum)
นำท่านแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) โบราณสถานเก่าแก่ และยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน โคลอสเซียมมีการออกแบบที่ชาญฉลาด โครงสร้างรูปวงรีช่วยให้ผู้ชมสามารถชมการแข่งขันได้โดยไม่มีจุดอับ และให้ความรู้สึกราวกับได้สัมผัสนักกีฬาอย่างใกล้ชิด ขณะที่ระบบระบายน้ำช่วยมิให้น้ำท่วมขังเวลาฝนตก ถือเป็นต้นแบบสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบั (อ่านต่อ)
นำท่านแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) โบราณสถานเก่าแก่ และยังเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน โคลอสเซียมมีการออกแบบที่ชาญฉลาด โครงสร้างรูปวงรีช่วยให้ผู้ชมสามารถชมการแข่งขันได้โดยไม่มีจุดอับ และให้ความรู้สึกราวกับได้สัมผัสนักกีฬาอย่างใกล้ชิด ขณะที่ระบบระบายน้ำช่วยมิให้น้ำท่วมขังเวลาฝนตก ถือเป็นต้นแบบสนามกีฬาต่างๆ ในปัจจุบัน บางครั้งเรียกว่า โคลีเซียม (Coliseum) ทุกวันนี้ยังมีโครงสร้างเกือบสมบูรณ์ และเป็นโบราณสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine)
นำท่านชม ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” ถือว่าเป็นมรดกสำคัญของประเทศอิตาลีอีกที่หนึ่ง ตั้งอยู่ระหว่าง โคลอสเซียม และพาลาตินฮิลล์ ประตูชัยคอนสแตนตินนั้นสร้างขึ้น ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.312 เพื่อฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ที่มีชัยชนะเหนือแม็กเซนติอุส ในสงคราม Battle of Milvian Bridge ซึ่งประตูนี้ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของประตู (อ่านต่อ)
นำท่านชม ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” ถือว่าเป็นมรดกสำคัญของประเทศอิตาลีอีกที่หนึ่ง ตั้งอยู่ระหว่าง โคลอสเซียม และพาลาตินฮิลล์ ประตูชัยคอนสแตนตินนั้นสร้างขึ้น ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.312 เพื่อฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ที่มีชัยชนะเหนือแม็กเซนติอุส ในสงคราม Battle of Milvian Bridge ซึ่งประตูนี้ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของประตูชัยอื่นๆ เช่น ประตูชัยฝรั่งเศส เป็นต้น
(ผ่านชม) อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล (Monument of Victor Emmanuel II)
นำท่านผ่านชม อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล (Monument of Victor Emmanuel II) อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติของวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล พระราชาองค์แรกของอิตาลีที่มีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร และที่นี่ยังเป็นอนุสรณ์ทหารที่กล้าหาญเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย
นำท่านผ่านชม อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล (Monument of Victor Emmanuel II) อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติของวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล พระราชาองค์แรกของอิตาลีที่มีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร และที่นี่ยังเป็นอนุสรณ์ทหารที่กล้าหาญเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย
โรมันฟอรัม (Roman Forum)
นำท่านชม โรมันฟอรัม (Roman Forum) ศูนย์กลางทุกด้านของกรุงโรมโบราณเป็นที่รวมของเหล่านักปราชญ์ผู้วางรากฐานประชาธิปไตยให้โลกจนปัจจุบัน เป็นศูนย์กลางการประชุมทางการเมือง การปกครอง มีโบสถ์วิหารสำหรับบูชาเทพเจ้าของโรมันมีตลาดร้านค้า อาคารที่สำคัญต่างๆ มากมาย ปัจจุบันส่วนใหญ่เหลือแต่ซากปรักหักพัง แต่ก็ยังเห็นโครงสร้างของความยิ่งใหญ่ที่สำคัญ ตัวหมู่อาคารฟอรัมทั้งหมด ใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลายาวนานถึง 900 ปี (อ่านต่อ)
นำท่านชม โรมันฟอรัม (Roman Forum) ศูนย์กลางทุกด้านของกรุงโรมโบราณเป็นที่รวมของเหล่านักปราชญ์ผู้วางรากฐานประชาธิปไตยให้โลกจนปัจจุบัน เป็นศูนย์กลางการประชุมทางการเมือง การปกครอง มีโบสถ์วิหารสำหรับบูชาเทพเจ้าของโรมันมีตลาดร้านค้า อาคารที่สำคัญต่างๆ มากมาย ปัจจุบันส่วนใหญ่เหลือแต่ซากปรักหักพัง แต่ก็ยังเห็นโครงสร้างของความยิ่งใหญ่ที่สำคัญ ตัวหมู่อาคารฟอรัมทั้งหมด ใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลายาวนานถึง 900 ปี ทั้งยังใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ และที่ชุมนุมทางการเมือง แต่เมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมลงโรมันฟอรัมก็ถูกทิ้งร้าง จนถึงยุคกลางก็กลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง ชิ้นส่วนอิฐและหินอ่อนถูกรื้อนำไปสร้างบ้านเรือน จนกระทั่งเข้ายุคเรอเนสซองส์ ซึ่งผู้คนหันมาให้ความสนใจกับศิลปินวิทยาการของโรมันอีกครั้ง โรมันฟอรัมก็ได้กลายเป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินหลายคน จึงเริ่มมีการขุดค้นทางโบราณคดี และการขุดค้นศึกษาด้านต่างๆ ก็ยังคงดำเนินอยู่จนทุกวัน
น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain)
นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) จุดกำเนิดของเสียงเพลง ทรีคอยน์ออฟเดอร์ฟาวด์เท่นที่โด่งดัง ชมความสวยงามของงานประติมากรรมหินอ่อนแบบบาร็อค ซึ่งเป็นเรื่องราวของเทพมหาสมุทร ตามตำนานกล่าวไว้ว่าหากใครได้มาถึงน้ำพุแห่งนี้แล้วโยนเหรียญอธิษฐานทิ้งไว้จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง
นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) จุดกำเนิดของเสียงเพลง ทรีคอยน์ออฟเดอร์ฟาวด์เท่นที่โด่งดัง ชมความสวยงามของงานประติมากรรมหินอ่อนแบบบาร็อค ซึ่งเป็นเรื่องราวของเทพมหาสมุทร ตามตำนานกล่าวไว้ว่าหากใครได้มาถึงน้ำพุแห่งนี้แล้วโยนเหรียญอธิษฐานทิ้งไว้จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง
ย่านบันไดสเปน (Spanish Steps or Piazza di Spagna)
นำท่านอิสระเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ ย่านบันไดสเปน (Spanish Steps or Piazza di Spagna) จัตุรัสแห่งนี้ถูกเรียกชื่อตามสถานทูตสเปนซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณนั้น ปัจจุบันเป็นแหล่งพบปะพักผ่อนเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าของที่ระลึกต่างๆ
นำท่านอิสระเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ ย่านบันไดสเปน (Spanish Steps or Piazza di Spagna) จัตุรัสแห่งนี้ถูกเรียกชื่อตามสถานทูตสเปนซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณนั้น ปัจจุบันเป็นแหล่งพบปะพักผ่อนเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าของที่ระลึกต่างๆ
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
เมืองปราโต้ (Prato)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปราโต้ (Prato) เมืองสวยที่มีชื่อเสียงทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอ และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีพื้นที่เพียงแค่ 365 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรมากถึง 249,930 คน (ค.ศ.2010)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปราโต้ (Prato) เมืองสวยที่มีชื่อเสียงทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอ และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีพื้นที่เพียงแค่ 365 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรมากถึง 249,930 คน (ค.ศ.2010)
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
อิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ร่วมรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
อิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ร่วมรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
Hotel President Prato
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Hotel President Prato หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Hotel President Prato หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองปิซ่า (Pisa) / จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี หรือ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า (Compo Dei Miracoli) / เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน / มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) / หอระฆังจอตโต้ (Giotto’s Bell Tower) / หอศีลจุ่มซันโจวานนี่ (Florence Baptistery) / เมืองเวนิส เมสเตร้ (Venice Mestre) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม / Bedbank Venice Mestre
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองปิซ่า (Pisa)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ทางตะวันตกของฟลอเรนซ์ ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ปิซ่าก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ทางตะวันตกของฟลอเรนซ์ ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ปิซ่าก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง
จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี หรือ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า (Compo Dei Miracoli)
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี หรือ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า (Compo Dei Miracoli) จัตุรัสกัมโปเดย์มีราโกลี ซึ่งแปลว่าจัตุรัสอัศจรรย์ ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในชื่อ “จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า” คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซ่า ประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ได้แก่ มหาวิหารปิซา (Duomo), หอเอน (Torre), หอศีลจุ่ม (Baptistery) และ สุสาน (Camposanto) (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี หรือ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า (Compo Dei Miracoli) จัตุรัสกัมโปเดย์มีราโกลี ซึ่งแปลว่าจัตุรัสอัศจรรย์ ได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในชื่อ “จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า” คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซ่า ประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ได้แก่ มหาวิหารปิซา (Duomo), หอเอน (Torre), หอศีลจุ่ม (Baptistery) และ สุสาน (Camposanto) เริ่มสร้างปี ค.ศ. 1173 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1372 องค์การยูเนสโก้ประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมในปี ค.ศ.1987 อิสระให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
เมืองฟลอเรนซ์ (Florence)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองหลวงของแคว้นทัสคานี และเป็นเมืองศูนย์กลางของการค้าและความเจริญของยุโรปในช่วงยุคกลาง เมืองฟลอเรนซ์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ถือกําเนิดของยุคเรเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และยังได้เป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม ในบริเวณเมืองเก่าของเมืองฟลอเรนซ์นั้นยังได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองหลวงของแคว้นทัสคานี และเป็นเมืองศูนย์กลางของการค้าและความเจริญของยุโรปในช่วงยุคกลาง เมืองฟลอเรนซ์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ถือกําเนิดของยุคเรเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และยังได้เป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม ในบริเวณเมืองเก่าของเมืองฟลอเรนซ์นั้นยังได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ไปเมื่อปี 1982 ทำให้แคว้นทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral)
นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) มหาวิหารขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของยุโรป ตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม สังเกตเห็นได้ง่ายด้วยโดมขนาดใหญ่สีส้มในสไตล์ศิลปะโกธิคอันหรูหราอลังการ ตัววิหารตกแต่งด้วยหินอ่อนหลายเฉดสี มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และได้ถูกจะทะเบียนขึ้นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้วในปี 1982
นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) มหาวิหารขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของยุโรป ตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสเปียซซ่า เดล ดูโอโม สังเกตเห็นได้ง่ายด้วยโดมขนาดใหญ่สีส้มในสไตล์ศิลปะโกธิคอันหรูหราอลังการ ตัววิหารตกแต่งด้วยหินอ่อนหลายเฉดสี มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และได้ถูกจะทะเบียนขึ้นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้วในปี 1982
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
หอระฆังจอตโต้ (Giotto’s Bell Tower)
ชม หอระฆังจอตโต้ (Giotto’s Bell Tower) ที่เป็นส่วนหนึ่งของวิหารแต่ตั้งอยู่เป็นเอกเทศ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1334 โดดเด่นด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้านละ 15 เมตร และสูงถึง 84.7 เมตร มีระฆังอยู่ภายในถึง 7 อัน เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของฟลอเรนซ์เลย ตัวอาคารยังสวยด้วยหินอ่อนและรูปแกะสลักที่โดยรอบ
ชม หอระฆังจอตโต้ (Giotto’s Bell Tower) ที่เป็นส่วนหนึ่งของวิหารแต่ตั้งอยู่เป็นเอกเทศ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1334 โดดเด่นด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้านละ 15 เมตร และสูงถึง 84.7 เมตร มีระฆังอยู่ภายในถึง 7 อัน เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของฟลอเรนซ์เลย ตัวอาคารยังสวยด้วยหินอ่อนและรูปแกะสลักที่โดยรอบ
หอศีลจุ่มซันโจวานนี่ (Florence Baptistery)
นำทุกท่านถ่ายรูปกับ หอศีลจุ่มซันโจวานนี่ (Florence Baptistery) ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิหารฟลอเรนซ์ อาคารในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สวยด้วยรูปทรงอาคาร 8 เหลี่ยมและสถาปัตยกรรมสไตล์ฟลอเรนไทน์โรมาเนสก์ที่เห็นได้ไม่บ่อยนักในอิตาลี หอศีลจุ่มนี้ยังเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองด้วยการก่อสร้างตั้งแต่ช่วงปี 1059-1128 อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือประตูสัมฤทธิ์ที่สวยงดงามด้วยประติมากรรมนูนที่ไ (อ่านต่อ)
นำทุกท่านถ่ายรูปกับ หอศีลจุ่มซันโจวานนี่ (Florence Baptistery) ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิหารฟลอเรนซ์ อาคารในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก สวยด้วยรูปทรงอาคาร 8 เหลี่ยมและสถาปัตยกรรมสไตล์ฟลอเรนไทน์โรมาเนสก์ที่เห็นได้ไม่บ่อยนักในอิตาลี หอศีลจุ่มนี้ยังเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองด้วยการก่อสร้างตั้งแต่ช่วงปี 1059-1128 อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือประตูสัมฤทธิ์ที่สวยงดงามด้วยประติมากรรมนูนที่ได้ถูกบรรจงสร้างขึ้น ตั้งแต่อดีตแล้วที่คนสำคัญต่างๆ ล้วนมาทำพิธีศีลจุ่มที่นี่
เมืองเวนิส เมสเตร้ (Venice Mestre)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส เมสเตร้ (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส เมสเตร้ (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
อิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ร่วมรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
อิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ร่วมรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
Bedbank Venice Mestre
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Bedbank Venice Mestre (Quality Hotel Delfino Venezia Mestre หรือ Hotel Ambasciatori Venezia Mestre) หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Bedbank Venice Mestre (Quality Hotel Delfino Venezia Mestre หรือ Hotel Ambasciatori Venezia Mestre) หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) หรือ จัตุรัสเซนต์มาร์ค (Saint Mark Square) / (ผ่านชม) สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) / สะพานรีอัลโต (Rialto Bridge) / อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ณ เกาะเวนิส / อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย / เมืองลูเซิร์น (Lucerne) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / Ibis Styles Luzern
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) หรือ จัตุรัสเซนต์มาร์ค (Saint Mark Square)
ชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) หรือ จัตุรัสเซนต์มาร์ค (Saint Mark Square) จัตุรัสที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี สถานที่ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โคเป็นฉากหลัง ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ ประดับประดาด้วยโมเสกทองคำอันงดงาม
ชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) หรือ จัตุรัสเซนต์มาร์ค (Saint Mark Square) จัตุรัสที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี สถานที่ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โคเป็นฉากหลัง ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ ประดับประดาด้วยโมเสกทองคำอันงดงาม
(ผ่านชม) สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs)
นำท่านผ่านชม สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต
นำท่านผ่านชม สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต
สะพานรีอัลโต (Rialto Bridge)
นำท่านชม สะพานรีอัลโต (Rialto Bridge) สัญลักษณ์อีกอย่างของเมืองเวนิส งานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรม สะพานข้าม Grand Canal ที่เก่าแก่และสวยงามทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุด เป็นจุดถ่ายภาพที่สำคัญแห่งหนึ่ง จุดเด่นของสะพานรีอัลโตคือมีหลังคาคลุมสะพาน และยังเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองมาตั้งแต่พันปีก่อนคริสตกาล
นำท่านชม สะพานรีอัลโต (Rialto Bridge) สัญลักษณ์อีกอย่างของเมืองเวนิส งานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรม สะพานข้าม Grand Canal ที่เก่าแก่และสวยงามทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุด เป็นจุดถ่ายภาพที่สำคัญแห่งหนึ่ง จุดเด่นของสะพานรีอัลโตคือมีหลังคาคลุมสะพาน และยังเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองมาตั้งแต่พันปีก่อนคริสตกาล
อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ณ เกาะเวนิส
อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมและช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสได้ตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก หรือนั่งจิบกาแฟชิลล์ชิลล์ในร้าน CAFE FLORIAN ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1720 หรือล่องเรือกอนโดล่าชมเมืองเวนิส
อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมและช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสได้ตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก หรือนั่งจิบกาแฟชิลล์ชิลล์ในร้าน CAFE FLORIAN ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1720 หรือล่องเรือกอนโดล่าชมเมืองเวนิส
* หากท่านใดสนใจล่องเรือกอนโดล่าสามารถติดต่อสอบถามค่าใช้จ่ายได้กับเจ้าหน้าที่ ไกด์ท้องถิ่น หรือหัวหน้าทัวร์
ช่วงบ่าย
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
เมืองลูเซิร์น (Lucerne)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม เมืองลูเซิร์นตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม เมืองลูเซิร์นตั้งอยู่ฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่าทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ ตรงบริเวณปากแม่น้ำรอยซ์ เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่าที่อนุรักษ์ไว้ มีอายุกว่า 500 ปี ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลัง อาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมือง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
Ibis Styles Luzern
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Ibis Styles Luzern หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Ibis Styles Luzern หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 5
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้น (Lion Statue) หรือ เลอเวนเดงก์มัล (Lowendenkmal) / สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) / เมืองแองเกิ้ลเบิร์ก (Engelberg) / นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาทิตลิส (Titlis Mountain) / ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบนยอดเขา / เมืองซุก (Zug) / ย่านเมืองเก่าซุก (Zug Old Town) / เมืองซูริค (Zurich) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / Park Inn by Radisson Zurich Airport
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้น (Lion Statue) หรือ เลอเวนเดงก์มัล (Lowendenkmal)
นำท่านเดินทางสู่ อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้น (Lion Statue) หรือ เลอเวนเดงก์มัล (Lowendenkmal) นำท่านชมสิงโตหินแกะสลักบนหน้าผาหิน อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิตเซอร์แลนด์ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และจงรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ อนุสาวรีย์สิงโตสะอื้น (Lion Statue) หรือ เลอเวนเดงก์มัล (Lowendenkmal) นำท่านชมสิงโตหินแกะสลักบนหน้าผาหิน อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิตเซอร์แลนด์ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และจงรักภักดี ที่เสียชีวิตไปในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวัง ในคราวปฏิวัติใหญ่ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1792 ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เมื่อดูสิงโตตัวนี้จะเห็นว่าเขาได้แกะสลักอยู่บนหน้าผาหินในลักษณะนอนหมอบ มีหอกปักอยู่กลางหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวด และเศร้าสร้อย
สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge)
นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสี (อ่านต่อ)
นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด
เมืองแองเกิ้ลเบิร์ก (Engelberg)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิ้ลเบิร์ก (Engelberg) เป็นเมืองเล็กๆ แสนอบอุ่นโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่บนภูเขาสูงถึง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในรัฐออบวัลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งที่นี่เป็นเมืองที่เราจะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส เมืองแองเกิ้ลเบิร์กถือได้ว่าเป็นใจกลางที่สุดของประเทศ ในระหว่างเดินทางท่านจะได้ชื่นชมกับความเป็นธรรมชาติในเขตชนบท มีบ้านน้อยแบบช (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิ้ลเบิร์ก (Engelberg) เป็นเมืองเล็กๆ แสนอบอุ่นโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่บนภูเขาสูงถึง 1,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในรัฐออบวัลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งที่นี่เป็นเมืองที่เราจะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส เมืองแองเกิ้ลเบิร์กถือได้ว่าเป็นใจกลางที่สุดของประเทศ ในระหว่างเดินทางท่านจะได้ชื่นชมกับความเป็นธรรมชาติในเขตชนบท มีบ้านน้อยแบบชาเล่ต์ ตกแต่งด้วยผ้าม่านลูกไม้สีขาว และปลูกดอกไม้หลากสีสันตามหน้าต่าง สลับกับท้องทุ่งสีเขียวขจี โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ล้วนแต่เป็นบรรยากาศที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาทิตลิส (Titlis Mountain)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาทิตลิส (Titlis Mountain) ทิตลิสเป็นยอดเขาที่มีความสูงถึง 3,238 เมตร มีหิมะปกคลุมยอดเขาตลอดทั้งปี ในหน้าหนาวถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่คนนิยมมาเล่นสกี หรือจะนั่งกระเช้าเพื่อขึ้นไปบนยอดเขาทิตลิส นำท่านนั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา ท่านจะได้สัมผัสกับกระเช้าทรงกลม ที่เรียกว่าโรแตร์เคเบิ้ลคาร์ ที่จะหมุนรอบๆ ในขณะที่เคลื่อนที่ขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพ ทิวทัศน์ที่งด (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาทิตลิส (Titlis Mountain) ทิตลิสเป็นยอดเขาที่มีความสูงถึง 3,238 เมตร มีหิมะปกคลุมยอดเขาตลอดทั้งปี ในหน้าหนาวถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่คนนิยมมาเล่นสกี หรือจะนั่งกระเช้าเพื่อขึ้นไปบนยอดเขาทิตลิส นำท่านนั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา ท่านจะได้สัมผัสกับกระเช้าทรงกลม ที่เรียกว่าโรแตร์เคเบิ้ลคาร์ ที่จะหมุนรอบๆ ในขณะที่เคลื่อนที่ขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ท่านได้ชื่นชมทัศนียภาพ ทิวทัศน์ที่งดงามของเทือกเขาแอลป์
ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) นำท่านชมถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลัก และตกแต่งไว้อย่างสวยงามอยู่ตามจุดต่างๆ ให้เรามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับยอดเขาจุงฟราว และยังเป็นที่ตั้งของตู้ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย ท่านสามารถเลือกโปสการ์ดสวยๆ สักใบ และเขียนส (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) นำท่านชมถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลัก และตกแต่งไว้อย่างสวยงามอยู่ตามจุดต่างๆ ให้เรามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับยอดเขาจุงฟราว และยังเป็นที่ตั้งของตู้ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย ท่านสามารถเลือกโปสการ์ดสวยๆ สักใบ และเขียนส่งให้ตัวเอง เก็บไว้เป็นความทรงจำว่าครั้งนึงเราก็เคยพิชิตยอดเขา Top of Europe หรือส่งให้กับคนรู้ใจทางบ้านได้อีกด้วย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบนยอดเขา
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบนยอดเขา ท่ามกลางวิวสวยงาม อิ่มเอมไปกับบรรยากาศสุดประทับใจ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองบนยอดเขา ท่ามกลางวิวสวยงาม อิ่มเอมไปกับบรรยากาศสุดประทับใจ
เมืองซุก (Zug)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดแต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่ตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาปที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดแต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่ตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาปที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ย่านเมืองเก่าซุก (Zug Old Town)
นำท่านเที่ยวชมเมือง ย่านเมืองเก่าซุก (Zug Old Town) เมืองที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มากจากสมัยยุคกลาง โดยเริ่มก่อตั้งในสมัยศตวรรษที่ 13 มีอาคารบ้านเรือนอันเก่าแก่แต่ยังคงความสวยงาม พื้นถนนที่ปูด้วยหิน ผนังตึกที่มีภาพวาดด้วยสีสันสดใส จัตุรัสน้ำพุโบราณประดับประดาด้วยรูปปั้น และหอนาฬิกาประจำเมืองซุก ที่มีความสูงถึง 52 เมตร อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองซุก หรือช้อปปิ้งของที่ระลึกและสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ภายใ (อ่านต่อ)
นำท่านเที่ยวชมเมือง ย่านเมืองเก่าซุก (Zug Old Town) เมืองที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มากจากสมัยยุคกลาง โดยเริ่มก่อตั้งในสมัยศตวรรษที่ 13 มีอาคารบ้านเรือนอันเก่าแก่แต่ยังคงความสวยงาม พื้นถนนที่ปูด้วยหิน ผนังตึกที่มีภาพวาดด้วยสีสันสดใส จัตุรัสน้ำพุโบราณประดับประดาด้วยรูปปั้น และหอนาฬิกาประจำเมืองซุก ที่มีความสูงถึง 52 เมตร อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองซุก หรือช้อปปิ้งของที่ระลึกและสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ภายในย่านเมืองเก่า
เมืองซูริค (Zurich)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรมที่รู้จักกันทั่วโลก จากการสำรวจในปี 2006 และ ปี 2007 ซูริค ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่มี คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ในโลก เมืองซูริคเป็นเมืองเก่าที่ตั้งขนาบข้างด้วยแม่น้ำ ลิมแมทที่ไหลมาจากทะเลสาบทางทิศเหนือ ด้วยประชากรราว 336,000 ซูริคจึงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางการค้าและวัฒนธรรมที่รู้จักกันทั่วโลก จากการสำรวจในปี 2006 และ ปี 2007 ซูริค ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองที่มี คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ในโลก เมืองซูริคเป็นเมืองเก่าที่ตั้งขนาบข้างด้วยแม่น้ำ ลิมแมทที่ไหลมาจากทะเลสาบทางทิศเหนือ ด้วยประชากรราว 336,000 ซูริคจึงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และยังประกอบไปด้วยโบสถ์เก่าแก่ น้ำพุ ถนนหิน อาคารต่างๆ ที่บางแห่งก็มีอายุมากกว่า 700 ปี บ้านเรือนและร้านค้าเล็กๆ มากมาย
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่มีหลากหลายเมนูอาหารด้วยรสชาติที่คุ้นเคยกับคนไทย
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Park Inn by Radisson Zurich Airport
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Park Inn by Radisson Zurich Airport หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Park Inn by Radisson Zurich Airport หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม / เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (Schaffhausen) / น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) / ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค โคลเท่น (Zurich Kloten International Airport)
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พาทุกท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (Schaffhausen)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (Schaffhausen) เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ติดกับพรมเเดนของประเทศเยอรมนี จึงมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับเยอมัน เเละบรรยากาศในเเบบชนบทของสวิตเซอร์เเลนด์ที่เงียบสงบเเต่เเฝงไว้ด้วยความเก่าเเก่โบราณ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ความสวยงาม เเละมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยนับว่าเป็นอีกหนึ่งในเมืองที่มีนั (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (Schaffhausen) เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ติดกับพรมเเดนของประเทศเยอรมนี จึงมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของวัฒนธรรมที่มีความคล้ายคลึงกับเยอมัน เเละบรรยากาศในเเบบชนบทของสวิตเซอร์เเลนด์ที่เงียบสงบเเต่เเฝงไว้ด้วยความเก่าเเก่โบราณ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ความสวยงาม เเละมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยนับว่าเป็นอีกหนึ่งในเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมหาความสุขอย่างมาก
* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
น้ำตกไรน์ (Rhine Falls)
นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่มีความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ในเมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น น้ำตกไรน์เกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร มีความสูงประมาณ 20 เมตร จึงเกิดเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ น้ำสีเขียวมรกตใสไหลอย่างเชี่ยวกราด ทำให้เกิดฟองขาวแตกกระเซ็น ยามกระทบกับแก่งหินละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่ว เกิดเป็นภาพที่งดงามจับใจ สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่มีความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ในเมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น น้ำตกไรน์เกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร มีความสูงประมาณ 20 เมตร จึงเกิดเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ น้ำสีเขียวมรกตใสไหลอย่างเชี่ยวกราด ทำให้เกิดฟองขาวแตกกระเซ็น ยามกระทบกับแก่งหินละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่ว เกิดเป็นภาพที่งดงามจับใจ สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ อิสระให้ท่านได้เดินเล่น ชื่นชมความงามของน้ำตก และถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค โคลเท่น (Zurich Kloten International Airport)
เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค โคลเท่น (Zurich Kloten International Airport) จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุข และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค โคลเท่น (Zurich Kloten International Airport) จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุข และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
* 13:15 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน Thai Airways (TG) เที่ยวบินที่ TG 971
วันที่ 7
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
(06:10) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

หมายเหตุ

1. อัตราค่าบริการ อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถามเพิ่มเติม

2. ตั๋วกรุ๊ป เมื่อออกตั๋วแล้วเลื่อนไม่ได้ทุกกรณี (ต้องแจ้งก่อนล่วงหน้าหากท่านมีการเปลี่ยนแปลงตั๋ว)

อัตรานี้รวม  

1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ พร้อมคณะ สายการบินไทยชั้นประหยัด *สะสมไมล์ได้ 50%

2. ค่าภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าประกันภัยการเดินทางจากสายการบิน

3. ค่าโรงแรมที่พักตามที่ระบุในรายการ

4. ค่าอาหารและเครื่องดื่มทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ

5. ค่ารถรับ – ส่งระหว่างนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ (กฎหมายยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน)

6. ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุในรายการ

7. ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทฯ ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ท่านตลอดการเดินทาง

8. ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละไม่เกิน 1,500,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์

อัตรานี้ไม่รวม

1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากที่รายการระบุ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ เป็นต้น

2. ค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทาง

3. ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด (30 กิโลกรัม/ท่าน)

4. ค่าธรรมเนียมวีซ่า (Schengen Visa) 4,000 บาท ในการยื่นครั้งแรก

5. ค่าทิปพนักงานขับรถและมัคคุเทศก์ 2,000 บาท/ท่าน ตลอดการเดินทาง *ขอเก็บพร้อมกับค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ*

6. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทยขึ้นอยู่กับความพึงพอใจที่จะตอบแทนเป็นสินน้ำใจในการบริการ

7. ค่าทิปอื่นๆ เช่น พนักงานยกกระเป๋าโรงแรมและสนามบิน เป็นต้น

8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (สำหรับกรณีที่ต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ)

การจองและชำระเงิน

1. นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินมัดจำเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท/ท่าน เพื่อสำรองที่นั่ง ภายใน 2 วัน หลังได้รับเอกสารการแจ้งยอดชำระ

2. นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 30 วัน กรณีนักท่องเที่ยวไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด รวมถึงกรณีเช็คของท่านถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ

3. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆ ถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท

การยกเลิก

1. กรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยว (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแจ้งยกเลิกการจองกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร ทางบริษัทไม่รับยกเลิกการจองผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ

2. กรณีนักท่องเที่ยวซี่ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยว (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการดังนี้..

• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วันขึ้นไป คืนเงินทั้งหมด

• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 50 วัน เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 20,000 บาท

• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 30,000 บาท

• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15 วัน เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100 % ของราคาทัวร์

3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า 15 วัน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 20 ท่าน หรือ ผลการพิจารณาวีซ่าผ่านไม่ครบจำนวน 20 ท่าน และ/หรือ มีผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่ถึง 20 ท่าน ซึ่งในกรณีนี้ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินให้ภายใน 15 วัน หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ถ้าท่านต้องการ

4. ในการยื่นขอวีซ่า ทางบริษัทฯ มีหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกๆ ท่านในการจัดเตรียมเอกสารให้ครบตามที่สถานทูตระบุเท่านั้น (การอนุมัติวีซ่าขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละสถานทูตนั้น) พร้อมส่งมอบเอกสารประกอบการยื่นวีซ่าไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์ก่อนการเดินทาง

5. ในกรณีที่เอกสารของท่านไม่สมบูรณ์ทางสถานทูตฯ อาจจะปฏิเสธการอนุมัติวีซ่าของท่านได้ และท่านจะต้องเสียค่าธรรมเนียมใหม่ทุกครั้ง หากต้องการขอยื่นคำร้องใหม่ (ทางสถานทูตไม่มีนโยบายในการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่าให้กับผู้ร้องขอ หากท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่าไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ตามท่านไม่สามารถเรียกร้องคืนค่าวีซ่าได้)

6. ทางสถานทูตจะรับพิจารณาเฉพาะท่านที่มีเอกสารพร้อมและมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศตามที่ระบุเท่านั้น การปฏิเสธวีซ่าอันเนื่องมาจากหลักฐานในการขอยื่นวีซ่าปลอมหรือผิดวัตถุประสงค์ในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ในการไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด (การบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตาม อาจจะถูกระงับ มิให้เดินทางเข้าประเทศเป็นการถาวร)

7. หากท่านส่งเอกสารล่าช้า แล้วผลปรากฏว่าผลวีซ่าของท่านไม่ผ่านการพิจารณาก่อนการเดินทาง 7 วันทำการ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง (ค่ามัดจำตั๋วกับสายการบินหรือหากทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการออกตั๋วแล้วทางบริษัทฯ จะหักค่าตั๋วเครื่องบินเต็มจำนวนและจะทำการคืนให้ท่านตามที่สายการบินคืนให้กับทางบริษัทฯ โดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือนทั้งนี้บางสายการบินไม่สามารถคืนค่าตั๋วเครื่องบินได้ท่านสามารถตรวจสอบกับทางสายการบินโดยตรง ค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ทางสถานทูตเรียกเก็บ ค่ามัดจำในต่างประเทศ โดยส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 15 วัน

8. ผู้ที่ไม่สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือต่างประเทศ หรือใช้เอกสารปลอมในการเดินทาง และสำหรับท่านที่ถูกปฏิเสธวีซ่าอันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริต หรือจะหลบหนีเข้าเมือง หรือใช้เอกสารปลอมประกอบการยื่นวีซ่า ทางบริษัทฯ จะไม่คืนเงินทั้งหมดที่ท่านได้ชำระค่าทัวร์มาแล้วไม่ว่าบางส่วนหรือเต็มจำนวนและทางบริษัทฯจะแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย

9. สำหรับผู้เดินทางที่ทางบริษัทฯ เป็นผู้ยื่นวีซ่าให้ เมื่อผลวีซ่าผ่านแล้วมีการยกเลิกการเดินทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด  ยกเว้นหากเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย และทางบริษัทฯ จะขอดำเนินการแจ้งยกเลิกวีซ่าของท่านเนื่องจากการยื่นวีซ่าจะถูกระบุเป็นสถิติของทางบริษัทฯ กับทางสถานทูต

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก

1. เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single), ห้องคู่ (Twin/Double) ห้องพักต่างประเภทอาจจะไม่ติดกัน หรืออยู่คนละชั้นกัน และโรงแรมไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน ซึ่งถ้าเข้าพัก 3 ท่าน มีความจำเป็นต้องแยกห้องพักเนื่องจากโรงแรมนั้นไม่สามารถจัดหาได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมในกรณีที่อาจมีการแยกห้องพัก

2. โรงแรมในยุโรปส่วนใหญ่อาจจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ

3. กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็ม บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

4. โรงแรมในยุโรปที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกัน

หมายเหตุอื่นๆ

1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ และจะไม่รับผิดชอบใดๆ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล การประท้วงต่างๆ และการล่าช้าของสายการบินหรือการยกเลิกเที่ยวบินรวมถึงในกรณีที่ทรัพย์สินสูญหาย สูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ โดยทางบริษัทฯ จะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด โดยจะคำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก

2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาดังกล่าวได้ตามความความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะค่าเงินบาทที่ไม่คงที่ และกรณีที่สายการบินมีการเรียกเก็บค่าน้ำมันเพิ่มหรือค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่มเติมจากราคาที่กำหนดไว้ โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนล่วงหน้าโดยยืนยันจดหมายจากทางสายการบิน และทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อความเหมาะสม โดยมิได้แจ้งล่วงหน้าโดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้เดินทางได้รับเป็นหลัก

3. เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ ตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกประเทศ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี

4. หลังจากการจองและชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมดแล้ว ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในข้อตกลงเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ได้ระบุไว้ข้างต้นทุกประการ


หลักฐานการยื่นวีซ่า

เอกสารในการขอวีซ่า (โดยยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตอิตาลี) ใช้เวลาพิจารณาวีซ่าโดยรวม 15 วันทำการ

ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าทุกท่าน จะต้องมาแสดงตัวสแกนนิ้วมือ ที่ศูนย์ยื่นวีซ่าของสถานทูต ตามวันและเวลานัดหมาย

สิ่งที่ท่านควรทราบก่อนยื่นวีซ่า

1. สถานทูตเยอรมันไม่อนุญาตให้ผู้สมัครดึงเล่มพาสปอร์ตระหว่างที่สถานทูตพิจารณาวีซ่า
2. สำหรับผู้เดินทางที่ศึกษาหรือทำงานอยู่ต่างประเทศ จะต้องดำเนินเรื่องการขอวีซ่าด้วยตนเองในประเทศที่ตนพำนักหรือศึกษาอยู่เท่านั้น
3. การพิจารณาวีซ่าเป็นดุลยพินิจของสถานทูต มิใช่บริษัททัวร์ การเตรียมเอกสารที่ดีและถูกต้องจะช่วยให้การพิจารณาของสถานทูตง่ายขึ้น

หมายเหตุ: กรณีลูกค้าท่านใดมีการใช้พาสปอร์ตเดินทางระหว่างกรุ๊ปยื่นวีซ่าลูกค้าต้องแจ้งให้ทางบริษัทฯทราบล่วงหน้าเพื่อวางแผนในการขอวีซ่าของท่าน
เอกสารประกอบการยื่นวีซ่า
1. หนังสือเดินทางมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยนับวันเริ่มเดินทางเป็นหลัก หากนับแล้วเกิน 6 เดือนหนังสือเดินทางนี้สามารถใช้ได้ แต่หากนับแล้วต่ำกว่า 6 เดือน ผู้เดินทางจะต้องไปยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่กองหนังสือเดินทางหน้าหนังสือเดินทางจะต้องมีหน้าว่างสำหรับวีซ่าอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 หน้า ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการขอเก็บพาสปอร์ตเพียงเล่มปัจจุบันเท่านั้น ในกรณีที่มีพาสปอร์ตเล่มเก่าและซอง (ปก) ไม่ต้องแนบมาเพื่อป้องกันการสูญหาย หากแนบมาแล้วเกิดการสูญหายทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณี ในส่วนของพาสปอร์ตเก่าถ้ามีวีซ่าเชงเก้นที่เคยใช้เดินทางภายใน 3 ปีนับจากปัจจุบันวีซ่าอเมริกา และวีซ่าอังกฤษ ให้ถ่ายสำเนาหน้าพาสปอร์ตและหน้าวีซ่าแนบมาด้วยเพื่อประกอบการพิจารณาวีซ่า
2. รูปถ่ายสีขนาด 3.5 ซม.X 4.5 ซม. ขนาดใบหน้าวัดจากศรีษะจรดคาง 3 ซม. เน้นใบหน้าจำนวน 2 รูป และฉากหลังต้องเป็นสีขาวเท่านั้น อายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน  (ไม่สวมเครื่องประดับและไม่สวมแว่นตาทุกชนิด)
3. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ทั้งเบอร์ที่ทำงาน, เบอร์บ้านและเบอร์มือถือ
4. สำเนาสูติบัตร (ในกรณีที่อายุยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบมาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส หรือ ใบหย่า และใบมรณะ (ถ้ามี)
6. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
7. สำเนาบัตรข้าราชการ
8. หลักฐานการทำงาน ในการออกจดหมายรับรอง กรุณาระบุ "TO WHOM IT MAY CONCERN" แทนการใช้ชื่อของแต่ละสถานทูต

8.1 พนักงานบริษัท : ใช้หนังสือรับรองจากสถานที่ทำงาน (เป็นภาษาอังกฤษตัวจริง) ระบุตำแหน่ง อัตราเงินเดือน และวันเริ่มทำงาน

8.2 ข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองตำแหน่งจากหน่วยงานต้นสังกัด (เป็นภาษาอังกฤษตัวจริง) ระบุตำแหน่ง อัตราเงินเดือน และวันเริ่มทำงาน

8.3 กรณีเกษียณอายุ : ใช้สำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ

8.4 เจ้าของบริษัท : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัท, หนังสือจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน (คัดสำเนาไม่เกิน 3 เดือนนับจากวันยื่นวีซ่า)

8.5 เจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ (ทพ.4), พค. 0403

8.6 ประกอบอาชีพอิสระ : พิมพ์จดหมายรับรองตัวเอง (เป็นภาษาอังกฤษตัวจริง) ระบุรายได้ต่อเดือน พร้อมหลักฐานแสดงอาชีพตัวเอง เช่น ภาพถ่าย, สัญญาเช่า, ใบเสร็จแสดงการซื้อขาย, เอกสารการเสียภาษี

8.7 นักเรียน/นักศึกษา : ใช้หนังสือรับรองจากสถานศึกษา (เป็นภาษาอังกฤษตัวจริง) ระบุชั้นเรียน

หมายเหตุ (เอกสารต้องออกไม่เกิน 1 เดือนนับจากวันยื่นวีซ่า)
9. หลักฐานการเงิน การเงินใช้หนังสือรับรองสถานะทางการเงินตัวจริงคู่กับสำเนาสมุดบัญชี ทั้งสองอย่างต้องเป็นเลขบัญชีเล่มเดียวกัน
9.1 หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Garuntee) ของบัญชีออมทรัพย์ ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อ-นามสกุล เจ้าของบัญชีให้ถูกต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ( อายุไม่เกิน15 วัน นับจากวันยื่นวีซ่า)
หมายเหตุ ในการออกจดหมายรับรอง กรุณาระบุ "TO WHOM IT MAY CONCERN" แทนการใช้ชื่อของแต่ละสถานทูต

9.2 สำเนาสมุดบัญชี หรือ STATEMENT ย้อนหลัง 6 เดือน  ของบัญชีออมทรัพย์ มียอดเงินในบัญชีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต้องมีการเคลื่อนไหวเรียงทุกเดือนห้ามกระโดดเดือน (ปรับสมุดบัญชีพร้อมถ่ายสำเนา  7 วันก่อนยื่นวีซ่า)  ถ้าในกรณีใช้ Statement กรุณาระบุชื่อ-นามสกุล เจ้าของบัญชีให้ถูกต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต

9.3 กรณีไม่มีบัญชีส่วนตัว หรือ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถให้บุคคลในครอบครัวสายเลือดเดียวกันเท่านั้น เช่น บิดา, มารดา, พี่, น้อง ทำหนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชีรับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย (อายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันยื่นวีซ่า) พร้อมสำเนาสมุดบัญชี หรือ STATEMENT ใช้บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เท่านั้น ที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวของบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย  6 เดือน (ปรับสมุดบัญชีพร้อมถ่ายสำเนา  7 วันก่อนยื่นวีซ่า) พร้อมแนบเอกสารผู้ออกค่าใช้จ่ายมาด้วย มีดังนี้

- สำเนาพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชน

- จดหมายระบุความสัมพันธ์ของผู้ออกค่าใช้จ่าย

- เอกสารแสดงความสัมพันธ์ เช่น ทะเบียนบ้าน, ใบสูติบัตร

หมายเหตุ  บุคคลที่ทำงานแล้วทุกท่านจะต้องแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากส่วนตัวทุกกรณี **สถานทูตไม่รับพิจารณาสมุดเงินฝากกระแสรายวันและพันธบัตร ฯลฯ ในทุกกรณี**

10. กรณีที่ผู้เดินทางเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี

10.1 เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ไม่ได้เดินทางพร้อมบิดา-มารดา หรือเดินทางๆ ไปกับท่านใดท่านหนึ่ง จะต้องทำ หนังสือให้ความยินยอมจากทางอำเภอ โดยที่บิดา-มารดาจะต้องไปยื่นเรื่องแสดงความจำนงในการอนุญาตให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับอีกท่านหนึ่งได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือเขต โดยมีนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขตลงลายมือชื่อและประทับตราจากทางราชการอย่างถูกต้อง

10.2 กรณีบุตรอยู่ในความดูแลของบิดาหรือมารดาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะต้องมีหนังสือรับรองการปกครองบุตร และเอกสารการหย่าร้าง โดยมีข้อความระบุว่า "มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว"


กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา