Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) TR09 ทัวร์ตุรกี ดินแดนมหัศจรรย์ เที่ยวอิสตันบูล บูร์ซ่า ปามุคคาเล่ คัปปาโดเกีย อังคาร่า ชมความงามเมืองเก่าโรมัน ศูนย์กลางความเจริญวัฒนธรรม 2 ทวีป 8 วัน 5 คืน โดย Turkish Airlines

เดินทางโดย Turkish Airlines บินตรงลงตุรกี ไม่เหนื่อย!!!
ตะลุยตุรกี.. ดินแดนสองทวีป ชมความงามเมืองเก่าโรมันและศิลปะตะวันออก กรุงอิสตันบูลเมืองสำคัญตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล ศูนย์กลางความเจริญและวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ฮิปโปโดรม, พระราชวังทอปกาปึ, สุเหร่าสีน้ำเงิน, สุเหร่าเซนต์โซเฟีย และพระราชวังโดลมาบาเช่ มหัศจรรย์ความงามธรรมชาติ ดินแดนมรดกโลกที่ปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) คอนยาอดีตเมืองหลวงโบราณของชาวเติร์ก เมืองคัปปาโดเกียแผ่นดินโลกพระจันทร์และนครใต้ดิน เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย เอฟฟิซุสแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ มหาวิหารอาทิมิส, วิหารฮาเดรียน และโรงละครโบราณ คุ้มสุดๆ ในราคาเริ่มต้นเพียง 32,900 บินตรงโดยสายการบิน Turkish Airlines >>จองเล้ยยย..<<

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
วันที่ 2: ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) / รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ฮิปโปโดม (Hippodrome) / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / สุเหร่านูรุสมานิเย่ (Nuruosmaniye Mosque) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ramada Encore Hotel
วันที่ 3: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) / สุเหร่าสีเขียว (Green Bursa Mosque or Yesil Mosque) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ตลาดผ้าไหมเมืองบูร์ซาร์ (Bursa Silk Market) / เมืองอิซเมียร์ (Izmir) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Armis Hotel
วันที่ 4: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ศูนย์ผลิตเสื้อหน้งคุณภาพสูง / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel
วันที่ 5: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) / พิพิธภัณฑ์พรมเปอร์เซีย (Persian Carpet Museum) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / Uchisar Kaya Cave Hotel
วันที่ 6: Option เสริม!! นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / กรุงอังคาร่า (Ankara) / ทะเลสาบเกลือ (Lake Tuz) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Turist Hotel
วันที่ 7: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / รับประทานอาหารจีน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
วันที่ 8: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
18 มื้อ 5 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,503 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

Turkish Airlines (TK)  
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.พ.62)

ตารางบิน
Turkish Airlines (TK) เวลาบินขาไป 21:35 - 04:00 BKK - IST TK 65
เวลาบินขากลับ 01:25 - 14:25 IST - BKK TK 68

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงค่ำ
(18:00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 21:35 ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 65
วันที่ 2
ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) / รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ฮิปโปโดม (Hippodrome) / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / สุเหร่านูรุสมานิเย่ (Nuruosmaniye Mosque) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ramada Encore Hotel
ช่วงเช้า
(04:00) ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) ประเทศตุรกี เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระของท่าน
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) ประเทศตุรกี เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระของท่าน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อเช้าอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อเช้าอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ฮิปโปโดม (Hippodrome)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต หรือชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของชาวไบแซนติอุม เป็นสถานที่ที่แข่งกีฬารถม้าศึกของชาวโรมัน และของจักรวรรดิออตโตมันมานานกว่า 400 ปี ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสา 3 ต้น คือเสาต้นแรกโอเบลิสก์แห่งฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาเป็นเสาเซอร์เพนไทน์ ซึ่งถ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต หรือชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของชาวไบแซนติอุม เป็นสถานที่ที่แข่งกีฬารถม้าศึกของชาวโรมัน และของจักรวรรดิออตโตมันมานานกว่า 400 ปี ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสา 3 ต้น คือเสาต้นแรกโอเบลิสก์แห่งฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาเป็นเสาเซอร์เพนไทน์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมา 497 ปีก่อนคริสตกาล และสุดท้ายเสาคอนสแตนตินที่ 7 เป็นเสาต้นสุดท้าย สถานที่นี้ได้ถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 203 ในยุคของไบแซนไทน์
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน
* เนื่องจากทางรัฐบาลประเทศตุรกี ประกาศปิดปรับปรุง "สุเหร่าสีน้ำเงิน" เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป ทางบริษัทฯ ขอเปลี่ยนเป็นเข้าชมความงดงามภายใน สุเหร่านูรุสมานิเย่ (Nuruosmaniye Mosque) แทน
สุเหร่านูรุสมานิเย่ (Nuruosmaniye Mosque)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่านูรุสมานิเย่ (Nuruosmaniye Mosque) ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสุเหร่าในสไตล์ออตโตมัน บาร็อค ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิก Mustafa Ağa และสถาปนิกชาวกรีกชนกลุ่มน้อย Simeon Kalfa เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1748 สมัยสุลต่านมาห์มุต และเสร็จสมบูรณ์ในช่วงสุลต่านออสแมนที่ 3 ในปี 1755 สุเหร่านูรุสมานิเย่มีความหมายว่า “แสงของออสแมน” เนื่องจากสุเหร่าแห่งนี้มีหน้าต่างหลายแห่งซึ่งช่ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่านูรุสมานิเย่ (Nuruosmaniye Mosque) ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสุเหร่าในสไตล์ออตโตมัน บาร็อค ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิก Mustafa Ağa และสถาปนิกชาวกรีกชนกลุ่มน้อย Simeon Kalfa เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1748 สมัยสุลต่านมาห์มุต และเสร็จสมบูรณ์ในช่วงสุลต่านออสแมนที่ 3 ในปี 1755 สุเหร่านูรุสมานิเย่มีความหมายว่า “แสงของออสแมน” เนื่องจากสุเหร่าแห่งนี้มีหน้าต่างหลายแห่งซึ่งช่วยให้แสงภายในห้องเป็นจำนวนมาก
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้สุเหร่าเซนต์โซเฟียเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้างที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงา (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ตามอัธยาศัย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังแห่งนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน อาทิ ส่วนโรงครัว ห้องเก็บเครื่องกระเบื้อง ห้องเก็บอาวุธ ห้องเก็บสมบัติ ฯลฯ ซึ่งห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอย่างมากก็คือ ห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติและวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต ของช่างทำช้อนเป็นไฮไลต์สำคัญ ในขณะที่บริเวณระเบียงหลังห้องท้องพระคลังเป็นจุดชมวิวชั้นดี ที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์เมืองอิสตันบูลใน 2 ฝั่งทวีป (ยุโรปและเอเชีย) ได้อย่างชัดเจน
พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน โคมไฟขนาดมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่ และพรมทอผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Ramada Encore Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Ramada Encore Hotel 4* หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Ramada Encore Hotel 4* หรือเทียบเท่า
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) / สุเหร่าสีเขียว (Green Bursa Mosque or Yesil Mosque) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ตลาดผ้าไหมเมืองบูร์ซาร์ (Bursa Silk Market) / เมืองอิซเมียร์ (Izmir) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Armis Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองบูร์ซาร์ (Bursa)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ห่างจากชายฝั่งทะเลมาร์มะราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 21 กม. เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมันระหว่างปี ค.ศ. 1326 ถึง 1365
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ห่างจากชายฝั่งทะเลมาร์มะราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 21 กม. เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมันระหว่างปี ค.ศ. 1326 ถึง 1365
สุเหร่าสีเขียว (Green Bursa Mosque or Yesil Mosque)
จากนั้นนำท่านชมความงามของ มัสยิดเก่าแก่ของเมืองบูร์ซ่า Grand Mosque ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดาร ทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมาน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงามร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชมความงามของ มัสยิดเก่าแก่ของเมืองบูร์ซ่า Grand Mosque ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดาร ทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมาน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงามร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่มเป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีสีเขียว Green Bursa สุสานสีเขียว Green Tomb สุเหร่าสีเขียว หรือ Yesil Mosque สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ซา ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1491 - 1421 โดยสถาปนิก ชื่อ Haci Ivaz Pasa โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเบอร์ซา อาคารสุเหร่ามีความโดดเด่นด้วยการใช้กระเบื้องหินอ่อนสีฟ้าเขียวในการตกแต่ง ผนังและเพดานด้านในก็ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีฟ้าเขียวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ภายในสุเหร่าแห่งนี้ยังมีที่บรรจุศพของสุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว สถานที่แห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศตุรกี
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ตลาดผ้าไหมเมืองบูร์ซาร์ (Bursa Silk Market)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดผ้าไหมเมืองบูร์ซาร์ (Bursa Silk Market) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ซึ่งอยู่ไม่จากทะเลมาร์มามากนัก โดยตลาดแห่งนี้ค้าขายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมเป็นหลัก โดยเฉพาะผ้าคลุมศีรษะลวดลายพื้นเมืองจะขายดีเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากตุรกีเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากอีกหนึ่งประเทศ ซึ่งนอกจากผ้าคลุมแล้วก็ยังมีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ และด้วยสีสันของผ้าไหมที่สดใสนี่เองที่ท (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดผ้าไหมเมืองบูร์ซาร์ (Bursa Silk Market) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ซึ่งอยู่ไม่จากทะเลมาร์มามากนัก โดยตลาดแห่งนี้ค้าขายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมเป็นหลัก โดยเฉพาะผ้าคลุมศีรษะลวดลายพื้นเมืองจะขายดีเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากตุรกีเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากอีกหนึ่งประเทศ ซึ่งนอกจากผ้าคลุมแล้วก็ยังมีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ และด้วยสีสันของผ้าไหมที่สดใสนี่เองที่ทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นตลาดที่สวยงามที่สุด จนครั้งหนึ่งสมเด็จพระนางเจ้า ควีนอลิซาเบท แห่งอังกฤษเคยมาเยือนด้วย
เมืองอิซเมียร์ (Izmir)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ เป็นมหานครที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอนาโตเลีย และเป็นเมืองอันดับที่สามที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ เป็นมหานครที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอนาโตเลีย และเป็นเมืองอันดับที่สามที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
Armis Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Armis Hotel 4* หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Armis Hotel 4* หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ศูนย์ผลิตเสื้อหน้งคุณภาพสูง / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ป (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตะปาปา โป๊ปเบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่
เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปั (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปัตยกรรมที่คงเหลือเป็นแบบเฮเลนนิสติก ที่มีความอ่อนหวาน และฝีมือประณีต ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ที่สำคัญของนครเอฟฟิซุส อาทิ โรงอาบน้ำ และโรงละครโบราณที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน หอสมุดเซลซุสที่เหลือเฉพาะด้านหน้า จุดบูชาเทพเจ้าและอีกมากมาย ฯลฯ ที่ยังคงหลงเหลือให้ชมและศึกษาค้นคว้า
ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus)
จากนั้นนำท่านชม ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุสคือห้องสมุดของเซลซุส เป็นอาคารสองชั้น สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดยกงสุล ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา สร้างเพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่ เซลซัส โพเลเมียนุส ผู้เป็นพ่อ และนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ หลุมฝังศพของท่านอยู่ใต้ห้องสมุดแห่งนี้ด้วย ภายในมีห้องอ่านหนังสือและช่องเก็บม้วนหนังสือ ถึง 12, (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุสคือห้องสมุดของเซลซุส เป็นอาคารสองชั้น สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดยกงสุล ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา สร้างเพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่ เซลซัส โพเลเมียนุส ผู้เป็นพ่อ และนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ หลุมฝังศพของท่านอยู่ใต้ห้องสมุดแห่งนี้ด้วย ภายในมีห้องอ่านหนังสือและช่องเก็บม้วนหนังสือ ถึง 12,000 ม้วน ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรีย และตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian)
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre)
จากนั้นนำท่านชม โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุสคือโรงละคร ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ประมาณ 25,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว
จากนั้นนำท่านชม โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุสคือโรงละคร ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ประมาณ 25,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ศูนย์ผลิตเสื้อหน้งคุณภาพสูง
แวะเปลี่ยนอิริยาบถที่ศูนย์ผลิตเครื่องหนัง ชมแฟชั่นโชว์ โดยนางแบบ นายแบบกิตติมศักดิ์ หลังจากจมแฟชั่นโชว์จบให้ท่านอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
แวะเปลี่ยนอิริยาบถที่ศูนย์ผลิตเครื่องหนัง ชมแฟชั่นโชว์ โดยนางแบบ นายแบบกิตติมศักดิ์ หลังจากจมแฟชั่นโชว์จบให้ท่านอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
เมืองปามุคคาเล (Pamukkale)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของ เมืองปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนแคลเซียมออกไซด์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดินและทำปฏิกิร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของ เมืองปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนแคลเซียมออกไซด์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดินและทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโปลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี 1988
ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle)
จากนั้นนำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนงดงามดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกี หมายถึงปราสาทปุยฝ้าย ปามุคหมายถึงปุยฝ้าย และคาเล่หมายถึงปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงม (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนงดงามดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกี หมายถึงปราสาทปุยฝ้าย ปามุคหมายถึงปุยฝ้าย และคาเล่หมายถึงปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึรินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ ประชาชนนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ซึ่งในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel หรือระดับเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 5
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) / พิพิธภัณฑ์พรมเปอร์เซีย (Persian Carpet Museum) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / Uchisar Kaya Cave Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคอนย่า (Konya)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไปพายุ ลม ฝน และหิมะ ได้เป็นกัดเซาะแผ่นดินมาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตาดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมือนที่ใดในโลกมีความสวยงามเหมือนหนึ่งเมืองในเทพนิยาย
นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 11 กว่าชั้น เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ชั้นล่างที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 85 เมตร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 11 กว่าชั้น เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ชั้นล่างที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 85 เมตร นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
พิพิธภัณฑ์พรมเปอร์เซีย (Persian Carpet Museum)
จากนั้นให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์พรมเปอร์เซีย (Persian Carpet Museum) ต้นตำรับพรมเปอร์เซียของโลก
จากนั้นให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์พรมเปอร์เซีย (Persian Carpet Museum) ต้นตำรับพรมเปอร์เซียของโลก
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show)
จากนั้นนำท่านชม โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) ของสาวน้อยชาวตุรกี เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีใ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) ของสาวน้อยชาวตุรกี เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Uchisar Kaya Cave Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Uchisar Kaya Cave Hotel 5* หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Uchisar Kaya Cave Hotel 5* หรือเทียบเท่า
* ในกรณีที่โรงแรมถ้ำเต็ม ทางบริษัทขอเปลี่ยนเป็นโรงแรมอื่นในระดับเทียบเท่าแทน
* ในกรณีที่โรงแรมถ้ำเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเป็นพักโรงแรมระดับ 5 ดาวแทน
วันที่ 6
Option เสริม!! นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / กรุงอังคาร่า (Ankara) / ทะเลสาบเกลือ (Lake Tuz) / รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Turist Hotel
ช่วงเช้า
Option เสริม!! นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย
เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน (ท่านใดที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณ Lobby)
เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน (ท่านใดที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณ Lobby)
* ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้กับเจ้าหน้าที่ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น หรือหัวหน้าทัวร์
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดิ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนวาชาวโรมันผู้ปครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนการรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นลงไปเป็นอุโมงค์เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณเกอเรเม่ทำให้เป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำในเกอเรเม่ ว่ากันว่ามีมากถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbar Church) โบสถ์มังกร (Snake Church) และโบสถ์แอปเปิ้ล (Apple Church) อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไปพายุ ลม ฝน และหิมะ ได้เป็นกัดเซาะแผ่นดินมาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตาดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมือนที่ใดในโลกมีความสวยงามเหมือนหนึ่งเมืองในเทพนิยาย
โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
กรุงอังคาร่า (Ankara)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองหลวงของประเทศตุรกี กรุงอังคาร่า (Ankara) ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล อังคาร่าตั้งอยู่บริเวณกลางคาบสมุทรอนาโตเลีย จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรกี และเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ อังคาร่ายังเป็นศูนย์กลางของทางหลวงและเส้นทางรถไฟทำให้เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย สินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคือผลิตภัณฑ์จากขนโมแฮร์ที่ไ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองหลวงของประเทศตุรกี กรุงอังคาร่า (Ankara) ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล อังคาร่าตั้งอยู่บริเวณกลางคาบสมุทรอนาโตเลีย จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรกี และเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ อังคาร่ายังเป็นศูนย์กลางของทางหลวงและเส้นทางรถไฟทำให้เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย สินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคือผลิตภัณฑ์จากขนโมแฮร์ที่ได้จากแพะอังโกรา ขนอังโกราที่ได้จากกระต่ายอังโกรา แมวอังโกรา ลูกแพร์ น้ำผึ้ง และองุ่นท้องถิ่น
ทะเลสาบเกลือ (Lake Tuz)
ระหว่างทางแวะเที่ยวชมความสวยงามของ ทะเลสาบเกลือ (Lake Tuz) ให้ท่านได้ถ่ายภาพทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี ซึ่งเป็นปรากฏการความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่มีไม่กี่ประเทศในโลก
ระหว่างทางแวะเที่ยวชมความสวยงามของ ทะเลสาบเกลือ (Lake Tuz) ให้ท่านได้ถ่ายภาพทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี ซึ่งเป็นปรากฏการความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่มีไม่กี่ประเทศในโลก
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อิ่มหนำสำราญไปกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
Turist Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Turist Hotel 4* หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Turist Hotel 4* หรือเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 7
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / รับประทานอาหารจีน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองอิสตันบูล (Istanbul)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิส (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise)
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืน (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบ
ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market)
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารจีน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับการรับประทานอาหารจีน ลิ้มลองอาหารสไตล์ผสมผสมผสานระหว่างเจ้าของท้องถิ่นกับจีน นั่งโต๊ะละ 7-8 ท่าน อิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายชนิดที่ท่านอาจไม่เคยลอง
พาท่านอิ่มท้องไปกับการรับประทานอาหารจีน ลิ้มลองอาหารสไตล์ผสมผสมผสานระหว่างเจ้าของท้องถิ่นกับจีน นั่งโต๊ะละ 7-8 ท่าน อิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายชนิดที่ท่านอาจไม่เคยลอง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
(xx:xx) ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
* 01:25 ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 68
วันที่ 8
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงบ่าย
(14:25) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

เนื่องจากราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่น จึงไม่มีราคาสำหรับเด็ก และไม่สามารถสะสมไมล์ได้

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์เริ่มต้นที่ท่านละ  95,000.- บาท (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)

**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 18 พ.ค. 2560) **

ข้อแนะนำบางประการและต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนการเดินทาง

  1. สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน บริษัทฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเปิดห้องพัก เป็น 2 ห้อง จะสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากกว่า
  2. กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  3. กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด สำหรับชั้นท่องเที่ยว ท่านละ 1 ใบ (น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม)
  4. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry (น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม)      

อัตราค่าบริการนี้รวม

  1. ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ โดยสายการบิน Turkish Airlines
  2. ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่เกิน 20 ก.ก. / ท่าน
  3. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ, ค่าภาษีประเทศตุรกี
  4. ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  5. ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน
  6. ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
  7. ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
  8. น้ำดื่มบริการบนรถ วันละ 1 ขวด
  9. ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) *ไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุเกิน 85 ปี ขึ้นไป

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ อาทิเช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง, ค่าโทรศัพท์, ค่าโทรศัพท์ทางไกล, ค่าอินเตอร์เน็ต, ค่าซักรีด, มินิบาร์ในห้อง, รวมถึงค่าอาหาร และเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  2. ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น (3 USD / ท่าน / วัน), คนขับรถ (2 USD / ท่าน / วัน) คิด 6 วัน รวมเท่ากับ 30 USD
  3. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน) คิด 7 วัน รวมเท่ากับ  21 USD
  4. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (ในกรณีที่ต้องการใบกำกับภาษี)

เงื่อนไขการชำระค่าบริการ

  1. นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินมัดจำเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ต่อท่าน เพื่อสำรองที่นั่งภายใน 2 วันหลังทำการจอง
  2. นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 50 วัน กรณีนักท่องเที่ยวไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด ไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ
  3. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. - 18.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท

เงื่อนไขการยกเลิกการเดินทาง

  1. กรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยว (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแจ้งยกเลิกการจองกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร ทางบริษัทไม่รับยกเลิกการจองผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการดังนี้..
    • ยกเลิกก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 60 วัน เท่านั้น!! คืนเงินค่าบริการร้อยละ 100 ของค่าบริการที่ชำระแล้ว
    • ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 60 วัน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์ทั้งหมด
  2. การเดินทางที่ต้องการันตีมัดจำหรือซื้อขาดแบบมีเงื่อนไข หรือเที่ยวบินเหมาลำ Charter Flight หรือ Extra Flight กับสายการบิน หรือผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ จะไม่มีการคืนเงินมัดจำหรือค่าบริการทั้งหมด  
  3. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางกรณีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไม่ถึง 25 คน 

หมายเหตุ

  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 25 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
    • ในกรณีที่มีผู้เดินทาง 15-19 ท่าน จะต้องเพิ่มเงินท่านละ 3,000.- บาท จึงสามารถออกเดินทางได้
    • ในกรณีที่มีผู้เดินทาง 16-24 ท่าน จะต้องเพิ่มเงินท่านละ 2,000.- บาท จึงสามารถออกเดินทางได้
  2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, ภัยธรรมชาติ, การก่อจลาจล, อุบัติเหตุ, ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุ
  3. เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือแจ้งให้ทราบก่อนเดินทาง
  4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  5. ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  6. ตั๋วเครื่องบินนี้เป็นราคาโปรโมชั่น ออกตั๋วแล้วไม่สามารถทำ refund ได้ ทุกกรณี
  7. ตั๋วเครื่องบินนี้ ต้องเดินทางไป-กลับ พร้อมคณะทัวร์เท่านั้น ไม่สามารถเดินทางก่อนและกลับหลังได้
  8. เมื่อท่านจองทัวร์ และชำระมัดจำแล้วหมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯ แจ้งแล้วข้างต้น

ตั๋วเครื่องบิน

  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับหากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนดซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทางถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้วผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ที่นั่ง Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่ปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกาย และอำนาจในการให้ที่นั่ง Long Leg นั้นขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ช่วงระยะเวลาที่กำลังเช็คอินเท่านั้น
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทางแน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิกบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้วหมายถึงท่านยอมรับในข้อความ และเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ Twin / Double ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง Triple Room ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพัก และรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมซึ่งมักมีความแตกต่างกันซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการหรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ Trade Fair เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
  • เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมจะมีความแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว Single, ห้องคู่ Twin/Double ห้องพักต่างประเภทอาจจะไม่ติดกัน หรือ อยู่คนละชั้น
  • มาตรฐานของโรงแรมในประเทศตุรกีนั้น อาจจะมีความแตกต่างกับมาตรฐานระดับสากล และในโปรแกรมที่ระบุชื่อของและระดับมาตรฐานของโรงแรมนั้นจะเป็นการรับรองมาตรฐานระดับดาวของหน่วยงานการท่องเที่ยวของประเทศตุรกีเท่านั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบกับระดับสากลได้

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

  • กรุณางดนำของมีคมทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบินเช่นมีดพับกรรไกรตัดเล็บทุกขนาดตะไบเล็บเป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจลสเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบินจะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุวันเดินทางเที่ยวบินจึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบินคือ 20 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด / Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม และมีความกว้าง ( 9.75นิ้ว ) + ยาว( 21.5นิ้ว ) + สูง ( 18 นิ้ว )

กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา