Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) TK25 ทัวร์ตุรกีบินตรง อิสตันบูล ปามุคคาเล คัปปาโดเกีย สุเหร่าสีน้ำเงิน บินภายใน 2 ขา 8 วัน 5 คืน โดยสายการบิน Turkish Air (TK)

++ พักระดับ 5 ดาว มาตรฐานตุรกี และบินภายใน 2 ขา ++
นำท่านบินตรงสู่ตุรกีโดยสายการบินเตอร์กิซ แอร์ (สะสมไมล์ ROP ไม่ได้) เที่ยวชมดินแดนคาบเกี่ยว 2 ทวีป เยือนเมืองโบราณเอเฟซุส (City of Ephesus)  มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตื่นตากับความอัศจรรย์ทางธรรมชาติกับปามุคคาเล (Pamukkale) เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ชมของล้ำค่าในพระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ที่ยิ่งใหญ่ ชมต้นกำเนิดของดอกทิวลิป ในเทศกาลดอกทิวลิป Tulip Festival 2018 ในเดือนเมษายน เลือกซื้อทัวร์เสริม ขึ้นบอลลูนชมภูมิทัศน์คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เพื่อชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟ

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
วันที่ 2: สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล / เที่ยวบินภายในประเทศสู่เมืองอิชเมียร์ Izmir / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) / เมืองเพอร์กามัม / วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / LE BLEU
วันที่ 3: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / PAM THERMAL HOTEL
วันที่ 4: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / คาราวานสไลน์ / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / RAMADA PLAZA CAPPADOCIA
วันที่ 5: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย / นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ramada Plaza Tekstilkent Hotel
วันที่ 6: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ramada Plaza Tekstilkent Hotel
วันที่ 7: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / ตลาดในร่ม (KAPALI CARSISI หรือ COVERED BAZAAR) / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
16 มื้อ 5 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,507 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

Turkish Airlines (TK)  
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มี.ค.61)

ตารางบิน
Turkish Airlines (TK) เวลาบินขาไป 22:35 - 05:50 BKK - IST TK65
เวลาบินขากลับ 20:50 - 09:45 IST - BKK TK64

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงค่ำ
(19:30) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 22.35 น. ***คณะเดินทางวันที่ 15-22 เม.ย. และ 26 เม.ย.-3 พ.ค. 61 ออก เดินทางเวลา 21.30 น. และถึงอิสตันบูล เวลา 04.00 น. *** ***คณะเดินทางวันที่ 26 พ.ค.-2 มิ.ย. 61 ออกเดินทางเวลา 21.45 น. และถึงอิสตันบูล เวลา 04.00 น. *** ***คณะเดินทางตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. 61 เป็นต้นไป ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน TK 69 เวลา 23.00 น. และถึงอิสตันบูล เวลา 05.20 น. ***
วันที่ 2
สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล / เที่ยวบินภายในประเทศสู่เมืองอิชเมียร์ Izmir / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) / เมืองเพอร์กามัม / วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / LE BLEU
ช่วงเช้า
(05:50) สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอิสตันบูล เป็นสนามบินหลักของเมืองอิสตันบูล และยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อย
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอิสตันบูล เป็นสนามบินหลักของเมืองอิสตันบูล และยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อย
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
(08:00) เที่ยวบินภายในประเทศสู่เมืองอิชเมียร์ Izmir
ออกเดินทางต่อสู่เมืองอิชเมียร์ Izmir
ออกเดินทางต่อสู่เมืองอิชเมียร์ Izmir
* คณะเดินทางตั้งแต่วันที่ 15-22 เม.ย. 61 เป็นต้นไป ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน TK 2310 เวลา 07.00 น. และถึงอิสเมียร์ เวลา 08.10 น.
เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปั (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปัตยกรรมที่คงเหลือเป็นแบบเฮเลนนิสติก ที่มีความอ่อนหวาน และฝีมือประณีต ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ที่สำคัญของนครเอฟฟิซุส อาทิ โรงอาบน้ำ และโรงละครโบราณที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน หอสมุดเซลซุสที่เหลือเฉพาะด้านหน้า จุดบูชาเทพเจ้าและอีกมากมาย ฯลฯ ที่ยังคงหลงเหลือให้ชมและศึกษาค้นคว้า
ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath)
จากนั้นนำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต ท่านแวะถ่ายรูป ISA BEY MOSQUE มัสยิดอิสอิสเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีและสำคัญที่สุดซึ่งสะท้อนถึงจุดสิ้นสุดของยุคจักรวรรดิ Seljuk ในช่วงปลายคริสต์ ค.ศ. 1400
จากนั้นนำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต ท่านแวะถ่ายรูป ISA BEY MOSQUE มัสยิดอิสอิสเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีและสำคัญที่สุดซึ่งสะท้อนถึงจุดสิ้นสุดของยุคจักรวรรดิ Seljuk ในช่วงปลายคริสต์ ค.ศ. 1400
เมืองเพอร์กามัม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองเพอร์กามัม Pergamum ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ซึ่งเป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวก เฮเลนนิสติก
จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองเพอร์กามัม Pergamum ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ซึ่งเป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวก เฮเลนนิสติก
วิหารอะโครโปลิส (Acropolis)
จากนั้นนำท่านชม วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญนครบนที่สูง เป็นโครงสร้างฐานในการป้องกันเมืองของอาณาจักรกรีกและโรมัน ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในสมัยนั้นมักเลือกที่สูง ซึ่งมักจะเป็นเนินเขาที่ด้านหนึ่งเป็นผาชัน และกลายเป็นศูนย์กลางของมหานครใหญ่ ที่เติบโตรุ่งเรืองอยู่บนที่ราบเบื้องล่างที่รายล้อมป้อมปราการเหล่านี้ โดยเมืองด้านบน (upper town) จะเป็นพื้นที่วิหารบูชาเทพเจ้า สถานที่ศักดิ์สิท (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญนครบนที่สูง เป็นโครงสร้างฐานในการป้องกันเมืองของอาณาจักรกรีกและโรมัน ซึ่งผู้ตั้งถิ่นฐานในสมัยนั้นมักเลือกที่สูง ซึ่งมักจะเป็นเนินเขาที่ด้านหนึ่งเป็นผาชัน และกลายเป็นศูนย์กลางของมหานครใหญ่ ที่เติบโตรุ่งเรืองอยู่บนที่ราบเบื้องล่างที่รายล้อมป้อมปราการเหล่านี้ โดยเมืองด้านบน (upper town) จะเป็นพื้นที่วิหารบูชาเทพเจ้า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระราชวังและพื้นที่ใช้งานต่างสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงเท่านั้น ส่วนประชาชนคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่ในส่วนของเมืองด้านล่าง
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ป (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตะปาปา โป๊ปเบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่
โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory)
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี อิสระให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆ ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี อิสระให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆ ตามอัธยาศัย
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
LE BLEU
คืนนี้นำท่านพักผ่อน ที่ LE BLEU HOTEL
คืนนี้นำท่านพักผ่อน ที่ LE BLEU HOTEL
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / PAM THERMAL HOTEL
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองปามุคคาเล (Pamukkale)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของ เมืองปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนแคลเซียมออกไซด์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดินและทำปฏิกิร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของ เมืองปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนแคลเซียมออกไซด์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดินและทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโปลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี 1988
ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle)
จากนั้นนำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนงดงามดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกี หมายถึงปราสาทปุยฝ้าย ปามุคหมายถึงปุยฝ้าย และคาเล่หมายถึงปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงม (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนงดงามดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกี หมายถึงปราสาทปุยฝ้าย ปามุคหมายถึงปุยฝ้าย และคาเล่หมายถึงปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึรินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ ประชาชนนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ซึ่งในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis)
จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ซึ่งตั้งอยู่ล้อมรอบปามุคคาเล่ (ปราสาทปุ้ยฝ้าย) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล่ สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคค (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ซึ่งตั้งอยู่ล้อมรอบปามุคคาเล่ (ปราสาทปุ้ยฝ้าย) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล่ สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล่ โรงอาบน้ำโรมันบาธ โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
PAM THERMAL HOTEL
เข้าสู่ที่พัก PAM THERMAL HOTEL 5* หรือเทียบเท่า
เข้าสู่ที่พัก PAM THERMAL HOTEL 5* หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / คาราวานสไลน์ / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / RAMADA PLAZA CAPPADOCIA
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคอนย่า (Konya)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
คาราวานสไลน์
ระหว่างทางแวะชม คาราวานสไลน์ ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี (Sultan Han Caravanserai) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
ระหว่างทางแวะชม คาราวานสไลน์ ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี (Sultan Han Caravanserai) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) หรือสำนักลมวน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์เมฟลานาเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูมี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสุสานของ เมฟลานา ผู้ก่อตั้ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) หรือสำนักลมวน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์เมฟลานาเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูมี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสุสานของ เมฟลานา ผู้ก่อตั้งอีกด้วย
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไปพายุ ลม ฝน และหิมะ ได้เป็นกัดเซาะแผ่นดินมาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตาดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมือนที่ใดในโลกมีความสวยงามเหมือนหนึ่งเมืองในเทพนิยาย
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show)
นำท่านชมการเต้นบำเพ็ญตน และให้ท่านมีส่วนร่วมไปกับการเต้นพื้นเมืองที่เป็นการแสดงเลือกคู่ของหญิงชาย และโชว์ระบำหน้าท้อง ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี พร้อมกับอาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม เบียร์และไวน์อย่างเต็มที่
นำท่านชมการเต้นบำเพ็ญตน และให้ท่านมีส่วนร่วมไปกับการเต้นพื้นเมืองที่เป็นการแสดงเลือกคู่ของหญิงชาย และโชว์ระบำหน้าท้อง ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี พร้อมกับอาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม เบียร์และไวน์อย่างเต็มที่
RAMADA PLAZA CAPPADOCIA
เข้าสุ่โรงแรมที่พัก RAMADA PLAZA CAPPADOCIA 5* หรือเทียบเท่า
เข้าสุ่โรงแรมที่พัก RAMADA PLAZA CAPPADOCIA 5* หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย / นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ramada Plaza Tekstilkent Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย
** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคาประมาณ US 250 ต่อ 1 ท่าน) **
** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคาประมาณ US 250 ต่อ 1 ท่าน) **
นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 11 กว่าชั้น เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ชั้นล่างที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 85 เมตร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 11 กว่าชั้น เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ชั้นล่างที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 85 เมตร นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดิ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนวาชาวโรมันผู้ปครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนการรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นลงไปเป็นอุโมงค์เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณเกอเรเม่ทำให้เป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำในเกอเรเม่ ว่ากันว่ามีมากถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbar Church) โบสถ์มังกร (Snake Church) และโบสถ์แอปเปิ้ล (Apple Church) อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย
โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
ช่วงค่ำ
(20.05) เมืองอิสตันบูล (Istanbul)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิส (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
* ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล โดย เที่ยวบินภายใน TK 2009 21.35 น. ถึงสนามบิน อิสตันบูล
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Ramada Plaza Tekstilkent Hotel
พักค้างคืน ที่ Ramada Plaza Tekstilkent Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า
พักค้างคืน ที่ Ramada Plaza Tekstilkent Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ramada Plaza Tekstilkent Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้สุเหร่าเซนต์โซเฟียเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้างที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงา (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ตามอัธยาศัย
ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market)
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Ramada Plaza Tekstilkent Hotel
พักค้างคืน ที่ Ramada Plaza Tekstilkent Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า
พักค้างคืน ที่ Ramada Plaza Tekstilkent Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / ตลาดในร่ม (KAPALI CARSISI หรือ COVERED BAZAAR) / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน โคมไฟขนาดมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่ และพรมทอผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise)
นำท่านไปลงเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความ กว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุด ยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่า (อ่านต่อ)
นำท่านไปลงเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความ กว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุด ยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจนกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนัก มาก่อนเลย ทั้งนี้เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี้เอง ในปี ค.ศ. 1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัสซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังแห่งนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน อาทิ ส่วนโรงครัว ห้องเก็บเครื่องกระเบื้อง ห้องเก็บอาวุธ ห้องเก็บสมบัติ ฯลฯ ซึ่งห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอย่างมากก็คือ ห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติและวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต ของช่างทำช้อนเป็นไฮไลต์สำคัญ ในขณะที่บริเวณระเบียงหลังห้องท้องพระคลังเป็นจุดชมวิวชั้นดี ที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์เมืองอิสตันบูลใน 2 ฝั่งทวีป (ยุโรปและเอเชีย) ได้อย่างชัดเจน
ตลาดในร่ม (KAPALI CARSISI หรือ COVERED BAZAAR)
นำท่านเดินทางสู่ ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์บาซาร์ (GRAND BAZAAR) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์บาซาร์ (GRAND BAZAAR) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก
* คณะเดินทางในเดือน เมษายน จะพาท่านเข้าชมสวนดอกทิวลิป โดยยกเลิกการไป ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) นำเข้าชมสวนอีเมอร์กัน(Emirgan Park) สวนสาธารณะที่สวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของตุรกี สวนสาธารณะแห่งนี้จะใช้เป็น สถานที่จัดงาน เทศกาลดอกทิวลิป Tulip Festival 2018 ในเดือนเมษายน ของทุกปี โดยประเทศตุรกี เป็นต้นกำเนิดของดอกทิวลิป ให้เวลาท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพดอกทิวลิปหลากสี หลายสายพันธุ์ นับเป็นล้าน ๆ ดอก ตามอัธยาศัย และ ชมความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์หลากสี ที่ท่านจะชื่นชอบและประทับใจ เพลิดเพลินกับหมู่มวลของดอกทิวลิป หลากหลายสีสันและไม้ดอกนานาพันธุ์ที่บานสะพรั่งอยู่ในสวนสวย
ช่วงค่ำ
(20:50) ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
* คณะเดินทางวันที่ 22-29 มี.ค., 15-22 เม.ย. และ 26 เม.ย.-3 พ.ค. 61 ออกเดินทางเวลา 20.10 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 09.25 น. คณะเดินทางวันที่ 26 พ.ค.-2 มิ.ย. 61 ออกเดินทางเวลา 20.10 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 09.40 น. คณะเดินทางตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. 61 เป็นต้นไป ออกเดินทางเวลา 01.25 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 15.00 น.
(09:45) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

ขอสงวนสิทธิ์การย้ายเมืองที่เข้าพัก  เช่น กรณีที่เมืองนั้นมีการจัดงาน TRADE FAIR ฯลฯ
ไปเข้าพักเมืองที่ใกล้เคียงแทน และ โปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

กรุณาอ่านหมายเหตุให้ละเอียดทุกข้อ
1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทาง บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล,การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน รวมถึงกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง รวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทาง หากท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง    
2. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทาง โดยทางบริษัทฯ  จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อนการเดินทาง
5.เมื่อท่านทำการซื้อโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับเงื่อนไขของหมายเหตุทุกข้อแล้ว

ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง
มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า
โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ

หนังสือเดินทางสัญชาติไทย ไม่ต้องทำวีซ่า

** โรงแรมในยุโรป ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าพักแบบไม่มีเตียงเสริม **

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินอินเตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด)
  • ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศตุรกี ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
  • ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
  • ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
  • ** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]
  • **ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
  • [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
  • ค่ามัคคุเทศก์จากทางเมืองไทยของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง  (ไม่รวมทิป)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ , ค่าโทรศัพท์ , ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 23 ก.ก.และมากกว่า 1 ชิ้น,  ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว,          ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ  (30 ยูเอสดอลล่าร์)
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (โดยมาตรฐาน 3 ยูเอสดอลล่าร์ ต่อคน ต่อวัน : 8 x 3 = 24 ยูเอสดอลล่าร์))

เงื่อนไขการจอง

  • ชำระเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท ภายใน 36 ชั่วโมงหลังการจอง โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
  • ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า ภายใน  
  • วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
  • เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
  • หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
  • หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

เงื่อนไขการชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ

ทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 25 วันก่อนการเดินทาง

หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่า หรือ ยกเลิกการเดินทางโดยเหตุ

จำเป็นทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่นั่งบนเครื่องบิน

1.   ทางบริษัทได้สำรองที่นั่งพร้อมชำระเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว  หากท่านยกเลิกทัวร์ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์การเรียกเก็บค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 1,000 – 5,000 บาท  แล้วแต่สายการบินและช่วงเวลาเดินทาง  
2.   หากตั๋วเครื่องบินทำการออกแล้ว แต่ท่านไม่สารถออกเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง  และรอ Refund จากทางสายการบิน ใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย
3.   นั่งที่ Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่นต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น  สามารถเปิดประตู
ฉุกเฉินได้ (น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกาย และอำนาจในการให้ที่นั่ง Long
leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น

กรณียกเลิกการเดินทาง

  • แจ้งยกเลิก 50 วัน ขึ้นไปก่อนการเดินทาง   คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • แจ้งยกเลิกภายใน 35-49 วันก่อนเดินทาง   เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 10,000 บาท
  • แจ้งยกเลิกภายใน 20-34 วันก่อนเดินทาง   เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 20,000 บาท
  • แจ้งยกเลิกน้อยกว่า 20 วันก่อนเดินทาง   ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดกรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯกำหนดไว้ (30ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทและผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกันบริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน
  • กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไปแต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ
  • กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน
  • กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ  ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด  
  • กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากปลอมแปลงหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าเหตุผลใดๆตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) ,ห้องคู่ (Twin/Double) ห้องพักต่างประเภทอาจจะไม่ติดกัน หรือ อยู่คนละชั้นกัน
โรงแรมส่วนใหญ่ ไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน ซึ่งถ้าเข้าพัก 3 ท่าน อาจมีความจำเป็นต้องแยกห้องพักเนื่องจากโรงแรมนั้นไม่สามารถจัดหาได้
กรณีที่มีงานจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้นมากและห้องพักในเมืองเต็ม บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
โรงแรมที่มีลักษณะเป็น Traditional Building ห้องที่เป็นห้องเดี่ยวอาจเป็นห้องที่มีขนาดกะทัดรัต และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกัน
หากมีงานเทศกาลโรงแรมจนทำให้ไม่สามรถหาห้องพักได้เพียงพอต่อคณะ อาจย้ายไปพักในเมืองอื่นแทน


กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา