Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) TK29 ทัวร์ตุรกี อิสตันบูล เมืองทรอย เปอร์กามัม ปามุคคาเล คัปปาโดเกีย พระราชวังโดลมาบาห์เช่ 10 วัน 7 คืน โดยสายการบิน Emirates (EK)

พิเศษ !! ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส + ระบำหน้าท้อง Belly Dance
นำท่านเดินทางสู่กรุงอิสตันบูล ล่องเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัส ช้อปปิ้งย่านดัง แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) ชม ฮิปโปโดรม (Hippodrome) สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สัญลักษณ์ของอิสตันบูล เข้าชมอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาทัน (Yerebatan Sarnici) เยือนพระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Sarayi) พระราชวังเก่าแก่และเป็นสถานที่ชื่อดัง นำท่านถ่ายรูปม้าไม้แห่งทรอย (Wooden Horse of Troy) ชมความงานเมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาได้ดีที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เมืองโบราณเอฟิซุส (Ephesus) ชมมรดกโลก ปราสาทปุยฝ้าย เมืองคัปปาโดเกีย ชมความหรูหรา พระราชวังโดลมาบาห์เช่ (Dolmabahce Palace) พิเศษ !!! ขมโชว์ระบำหน้าท้อง ต้นตำรับตุรกี 10 วัน 7 คืน เที่ยวครบสุดคุ้มทุกไฮไลท์ บินหรู โดยสายการบิน Emirates (EK)

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
วันที่ 2: ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ / สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ibis Styles
วันที่ 3: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ฮิปโปโดม (Hippodrome) / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / เมืองอีเซียบัท / เมืองชานัคคาเล (Canakkale) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Tusan Hotel
วันที่ 4: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองทรอย (Troy) / เมืองเพอร์กามัม (Pergamon) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองโบราณ ASKLEPION / เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Royal Palace Hotel
วันที่ 5: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / กำแพงอธิษฐาน (Wishing wall) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Hiera Park
วันที่ 6: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / คาราวานสไลน์ (Caravanserai) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / Cappadocia Hotel
วันที่ 7: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / กรุงอังคาร่า (Ankara) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ickale Hotel
วันที่ 8: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ibis Styles
วันที่ 9: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล / ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ
วันที่ 10: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
20 มื้อ 7 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,503 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

Emirates (EK)  
พฤ.  11-20 ต.ค.
(ชดเชยวันสวรรคต ร.9)
33,900.- Emirates เต็ม
ศ.  12-21 ต.ค.
(ชดเชยวันสวรรคต ร.9)
33,900.- Emirates เต็ม
อ.  16-25 ต.ค.
(วันปิยมหาราช)
33,900.- Emirates เต็ม
พฤ.  18-27 ต.ค.
(วันปิยมหาราช)
33,900.- Emirates เต็ม
พฤ.  25 ต.ค.-03 พ.ย.
33,900.- Emirates เต็ม
ศ.  02-11 พ.ย.
33,900.- Emirates เต็ม
ศ.  16-25 พ.ย.
33,900.- Emirates เต็ม
ศ.  23 พ.ย.-02 ธ.ค.
33,900.- Emirates เต็ม
อา.  02-11 ธ.ค.
(วันรัฐธรรมนูญ)
33,900.- Emirates เต็ม
พฤ.  06-15 ธ.ค.
(วันรัฐธรรมนูญ)
33,900.- Emirates เต็ม
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค.61)

ตารางบิน
Emirates (EK)
(ขาไป)
เวลาบินขาไป 01:35 - 04:45 BKK - DXB EK385
เวลาบินต่อเครื่อง 10:00 - 13:45 DXB - IST EK119
Emirates (EK)
(ขากลับ)
เวลาบินต่อเครื่อง 15:35 - 21:00 IST - DXB EK120
เวลาบินขากลับ 22:30 - 08:00 DXB - BKK EK374

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงค่ำ
(22:00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 01.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
วันที่ 2
ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ / สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ibis Styles
ช่วงเช้า
(04:45) ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ
ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* 10.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK119 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
ช่วงบ่าย
(13:45) สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอิสตันบูล เป็นสนามบินหลักของเมืองอิสตันบูล และยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อย
เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอิสตันบูล เป็นสนามบินหลักของเมืองอิสตันบูล และยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อย
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise)
นำท่านไปลงเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความ กว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุด ยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่า (อ่านต่อ)
นำท่านไปลงเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความ กว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุด ยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจนกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนัก มาก่อนเลย ทั้งนี้เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี้เอง ในปี ค.ศ. 1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัสซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น
แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิย (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Ibis Styles
นำท่านเข้าพักที่ Ibis Styles หรือเทียบเท่า
นำท่านเข้าพักที่ Ibis Styles หรือเทียบเท่า
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ฮิปโปโดม (Hippodrome) / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / เมืองอีเซียบัท / เมืองชานัคคาเล (Canakkale) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Tusan Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ฮิปโปโดม (Hippodrome)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต หรือชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของชาวไบแซนติอุม เป็นสถานที่ที่แข่งกีฬารถม้าศึกของชาวโรมัน และของจักรวรรดิออตโตมันมานานกว่า 400 ปี ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสา 3 ต้น คือเสาต้นแรกโอเบลิสก์แห่งฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาเป็นเสาเซอร์เพนไทน์ ซึ่งถ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต หรือชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของชาวไบแซนติอุม เป็นสถานที่ที่แข่งกีฬารถม้าศึกของชาวโรมัน และของจักรวรรดิออตโตมันมานานกว่า 400 ปี ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสา 3 ต้น คือเสาต้นแรกโอเบลิสก์แห่งฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาเป็นเสาเซอร์เพนไทน์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมา 497 ปีก่อนคริสตกาล และสุดท้ายเสาคอนสแตนตินที่ 7 เป็นเสาต้นสุดท้าย สถานที่นี้ได้ถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 203 ในยุคของไบแซนไทน์
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้สุเหร่าเซนต์โซเฟียเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้างที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงา (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ตามอัธยาศัย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารจีน
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารจีน
พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังแห่งนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน อาทิ ส่วนโรงครัว ห้องเก็บเครื่องกระเบื้อง ห้องเก็บอาวุธ ห้องเก็บสมบัติ ฯลฯ ซึ่งห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอย่างมากก็คือ ห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติและวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต ของช่างทำช้อนเป็นไฮไลต์สำคัญ ในขณะที่บริเวณระเบียงหลังห้องท้องพระคลังเป็นจุดชมวิวชั้นดี ที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์เมืองอิสตันบูลใน 2 ฝั่งทวีป (ยุโรปและเอเชีย) ได้อย่างชัดเจน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองอีเซียบัท
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอีเซียบัท (ระยะทาง 307 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่บริเวณช่องแคบดาดาเนียล ระหว่างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า คอกปศุสัตว์ บ้านเรือนของบรรดาเหล่าเศรษฐีทั้งหลาย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอีเซียบัท (ระยะทาง 307 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่บริเวณช่องแคบดาดาเนียล ระหว่างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า คอกปศุสัตว์ บ้านเรือนของบรรดาเหล่าเศรษฐีทั้งหลาย
เมืองชานัคคาเล (Canakkale)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล (Canakkale) ตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า และติดกับทะเลอีเจียน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวเนื่องจากมีซากโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมันหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการค้าตลอดจนชุมทางการเดินรถ และขนถ่ายสินค้าจากเอเชียสู่ยุโรป นับตั้งแต่สุลต่านอาห์เม็ดที่ 2 ได้สร้างป้อมปราการขึ้นที่นี่เมื่อปี 1452 เมืองชานัคคาเล่ในอดีตเป็นที่ตั้งของสมรภูมิรบกัลลิโปลี ส (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล (Canakkale) ตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า และติดกับทะเลอีเจียน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวเนื่องจากมีซากโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมันหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการค้าตลอดจนชุมทางการเดินรถ และขนถ่ายสินค้าจากเอเชียสู่ยุโรป นับตั้งแต่สุลต่านอาห์เม็ดที่ 2 ได้สร้างป้อมปราการขึ้นที่นี่เมื่อปี 1452 เมืองชานัคคาเล่ในอดีตเป็นที่ตั้งของสมรภูมิรบกัลลิโปลี สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรต้องการรุกคืบหน้า เข้าไปยังช่องแคบคาร์ดาแนลส์ เพื่อบีบให้ตุรกีถอนตัวออกจากสงครามโลก
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Tusan Hotel
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Tusan Hotel หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Tusan Hotel หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองทรอย (Troy) / เมืองเพอร์กามัม (Pergamon) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองโบราณ ASKLEPION / เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Royal Palace Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองทรอย (Troy)
จากนั้นนำท่านชม เมืองทรอย (Troy) ปัจจุบันตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง บริเวณกรุงทรอย มีการจัดแสดงแบบจำลองกรุงทรอย และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่ถูกสร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กำแพง ประตู และม้าไม้จำลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณโดยเป็นสาเหตุทำให้กรุงทรอยแตก ให้เวลาท่านชม (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม เมืองทรอย (Troy) ปัจจุบันตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง บริเวณกรุงทรอย มีการจัดแสดงแบบจำลองกรุงทรอย และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่ถูกสร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กำแพง ประตู และม้าไม้จำลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณโดยเป็นสาเหตุทำให้กรุงทรอยแตก ให้เวลาท่านชมและถ่ายรูปคู่กับม้าไม้จำลองแห่งทรอย (Trojan Horse)
เมืองเพอร์กามัม (Pergamon)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเพอร์กามัม (Pergamon) ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ชมเมืองเพอร์กามัม เป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเพอร์กามัม (Pergamon) ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม.ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส ชมเมืองเพอร์กามัม เป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองโบราณ ASKLEPION
เยี่ยมชมเมือง ASKLEPION เป็นเมืองถูกปกครองโดยสมัยโรมัน สมัยที่ 2 เมืองนี้เป็นเมืองศุนย์กลางของการแพทย์ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียไมล์เนอร์และยังเป็นโรงเรียนสอนเกี่ยวกับจิตวิทยาแห่งแรกของโลก เมืองนี้ยังเคยเป็นที่พำนักรักษาตัวของ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองจักรวรรดิโรมัน กษัตริย์เฮเดรียน ที่แห่งนี้ประกอบด้วยโรงอาบน้ำ โรงละคร และน้ำพุใจกลางเมือง
เยี่ยมชมเมือง ASKLEPION เป็นเมืองถูกปกครองโดยสมัยโรมัน สมัยที่ 2 เมืองนี้เป็นเมืองศุนย์กลางของการแพทย์ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียไมล์เนอร์และยังเป็นโรงเรียนสอนเกี่ยวกับจิตวิทยาแห่งแรกของโลก เมืองนี้ยังเคยเป็นที่พำนักรักษาตัวของ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองจักรวรรดิโรมัน กษัตริย์เฮเดรียน ที่แห่งนี้ประกอบด้วยโรงอาบน้ำ โรงละคร และน้ำพุใจกลางเมือง
เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) อันเป็นที่ตั้งของเมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษา ไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองขึ้นที่นี่ เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซีย และกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอเฟซุส” ขึ้น (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) อันเป็นที่ตั้งของเมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษา ไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองขึ้นที่นี่ เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซีย และกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอเฟซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Royal Palace Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Royal Palace Hotel หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Royal Palace Hotel หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 5
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / กำแพงอธิษฐาน (Wishing wall) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Hiera Park
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ป (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตะปาปา โป๊ปเบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่
กำแพงอธิษฐาน (Wishing wall)
นำท่านเดินทางสู่ กำแพงอธิษฐาน (Wishing wall) ที่เปิดโอกาสให้เข้ามาอธิษฐานขอพรแล้วเขียนลงบนผ้าชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาผูกไว้กับกำแพงนี้ ถือเป็นอีกสีสันและความสนุกของนักท่องเที่ยวอีกมุมหนึ่งของเมือง
นำท่านเดินทางสู่ กำแพงอธิษฐาน (Wishing wall) ที่เปิดโอกาสให้เข้ามาอธิษฐานขอพรแล้วเขียนลงบนผ้าชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาผูกไว้กับกำแพงนี้ ถือเป็นอีกสีสันและความสนุกของนักท่องเที่ยวอีกมุมหนึ่งของเมือง
เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปั (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปัตยกรรมที่คงเหลือเป็นแบบเฮเลนนิสติก ที่มีความอ่อนหวาน และฝีมือประณีต ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ที่สำคัญของนครเอฟฟิซุส อาทิ โรงอาบน้ำ และโรงละครโบราณที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน หอสมุดเซลซุสที่เหลือเฉพาะด้านหน้า จุดบูชาเทพเจ้าและอีกมากมาย ฯลฯ ที่ยังคงหลงเหลือให้ชมและศึกษาค้นคว้า
ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus)
จากนั้นนำท่านชม ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุสคือห้องสมุดของเซลซุส เป็นอาคารสองชั้น สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดยกงสุล ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา สร้างเพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่ เซลซัส โพเลเมียนุส ผู้เป็นพ่อ และนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ หลุมฝังศพของท่านอยู่ใต้ห้องสมุดแห่งนี้ด้วย ภายในมีห้องอ่านหนังสือและช่องเก็บม้วนหนังสือ ถึง 12, (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุสคือห้องสมุดของเซลซุส เป็นอาคารสองชั้น สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดยกงสุล ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา สร้างเพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่ เซลซัส โพเลเมียนุส ผู้เป็นพ่อ และนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ หลุมฝังศพของท่านอยู่ใต้ห้องสมุดแห่งนี้ด้วย ภายในมีห้องอ่านหนังสือและช่องเก็บม้วนหนังสือ ถึง 12,000 ม้วน ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรีย และตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian)
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory)
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี อิสระให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆ ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี อิสระให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆ ตามอัธยาศัย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองปามุคคาเล (Pamukkale)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของ เมืองปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนแคลเซียมออกไซด์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดินและทำปฏิกิร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของ เมืองปามุคคาเล่ (ปราสาทปุยฝ้าย) น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนแคลเซียมออกไซด์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดินและทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโปลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี 1988
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Hiera Park
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hiera Park หรือระดับเดียวกัน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hiera Park หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 6
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / คาราวานสไลน์ (Caravanserai) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / Cappadocia Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคอนย่า (Konya)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
คาราวานสไลน์ (Caravanserai)
จากนั้นระหว่างทางนำท่านแวะชม คาราวานสไลน์ (Caravanserai) ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน หรือกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
จากนั้นระหว่างทางนำท่านแวะชม คาราวานสไลน์ (Caravanserai) ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน หรือกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไปพายุ ลม ฝน และหิมะ ได้เป็นกัดเซาะแผ่นดินมาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตาดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมือนที่ใดในโลกมีความสวยงามเหมือนหนึ่งเมืองในเทพนิยาย
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show)
จากนั้นนำท่านชม โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) ของสาวน้อยชาวตุรกี เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีใ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) ของสาวน้อยชาวตุรกี เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน
Cappadocia Hotel
นำท่านเข้าพักที่ Cappadocia Hotel หรือเทียบเท่า
นำท่านเข้าพักที่ Cappadocia Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / กรุงอังคาร่า (Ankara) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ickale Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล็อบบี้ โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูนรอรับท่าน เพื่อนำท่านเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด กับการนั่งบอลลูนชมวิวสวยๆ ของเมืองคัปปาโดเกียจากด้านบน พร้อมรับประกาศนียบัตรที่มอบให้กับทุกท่าน (ทัวร์นั่งบอลลูนนี้เป็นทัวร์พิเศษ ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 250 ดอลล่าร์สหรัฐ)
นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 11 กว่าชั้น เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ชั้นล่างที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 85 เมตร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 11 กว่าชั้น เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ ชั้นล่างที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 85 เมตร นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดิ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนวาชาวโรมันผู้ปครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนการรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นลงไปเป็นอุโมงค์เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณเกอเรเม่ทำให้เป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำในเกอเรเม่ ว่ากันว่ามีมากถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbar Church) โบสถ์มังกร (Snake Church) และโบสถ์แอปเปิ้ล (Apple Church) อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย
โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
กรุงอังคาร่า (Ankara)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองหลวงของประเทศตุรกี กรุงอังคาร่า (Ankara) ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล อังคาร่าตั้งอยู่บริเวณกลางคาบสมุทรอนาโตเลีย จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรกี และเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ อังคาร่ายังเป็นศูนย์กลางของทางหลวงและเส้นทางรถไฟทำให้เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย สินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคือผลิตภัณฑ์จากขนโมแฮร์ที่ไ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองหลวงของประเทศตุรกี กรุงอังคาร่า (Ankara) ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล อังคาร่าตั้งอยู่บริเวณกลางคาบสมุทรอนาโตเลีย จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรกี และเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ อังคาร่ายังเป็นศูนย์กลางของทางหลวงและเส้นทางรถไฟทำให้เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย สินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคือผลิตภัณฑ์จากขนโมแฮร์ที่ได้จากแพะอังโกรา ขนอังโกราที่ได้จากกระต่ายอังโกรา แมวอังโกรา ลูกแพร์ น้ำผึ้ง และองุ่นท้องถิ่น
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Ickale Hotel
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Ickale Hotel หรือระดับเดียวกัน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Ickale Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่ 8
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Ibis Styles
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองอิสตันบูล (Istanbul)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิส (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน โคมไฟขนาดมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่ และพรมทอผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Ibis Styles
นำท่านเข้าพักที่ Ibis Styles หรือเทียบเท่า
นำท่านเข้าพักที่ Ibis Styles หรือเทียบเท่า
วันที่ 9
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล / ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market)
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
ช่วงบ่าย
สนามบินนานาชาติ อิสตันบูล
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
* 15.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK120 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
ช่วงค่ำ
(21:00) ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ
ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
* 22.30 น. เดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 374 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
วันที่ 10
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
(08:00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

เงื่อนไขในการจองทัวร์

1. สำหรับการจอง กรุณาชำระเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท

2. ชำระยอดทั้งหมดก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน

3. หากไม่ชำระค่าใช้จ่ายภายในกำหนด ทางบริษัทจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ

 

การยกเลิกและคืนค่าทัวร์

1.ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วันขึ้นไป คืนมัดจำทั้งหมด

2.ยกเลิกก่อนการเดินทาง 35 วันขึ้นไป เก็บค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 5,000 บาท

3.ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน เก็บเงินมัดจำทั้งหมด

4.ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 25 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 100% ของราคาค่าทัวร์ทั้งหมด


อัตรานี้รวม

✓ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป-กลับ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)

✓ ค่าที่พักระดับมาตรฐาน (ห้องละ 2-3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ

✓ ค่ารถปรับอากาศ และบริการนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ

✓ ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าธรรมเนียมตามที่ระบุในรายการ

✓ ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ

✓ ค่าประกันภัยในการเดินทาง 2,000,000 / 500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)


อัตรานี้ไม่รวม

 ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จ

 ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน

 ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ นอกรายการ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่มในห้องพัก

 ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น ท่านละ 3 ดอลล่าร์สหรัฐ  / คน / วัน

 คนขับรถท้องถิ่น ท่านละ 2 ดอลล่าร์สหรัฐ / คน / วัน

 ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ขั้นต่ำ 100 บาท / วัน / คน

 

หมายเหตุ

1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้าในกรณีที่ผู้เดินไม่ถึง 30 ท่าน และทางบริษัทยินดีคืนเงินโดยหักเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง

2. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย และไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ เช่นภัยธรรมชาติ ปัญหาการเมือง เป็นต้น

3. เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ หรือถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี

4. เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทหรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและยอบรับเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทฯที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด


กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา