Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) TK70 ทัวร์ตุรกี อิสตันบลู คัปปาโดเกีย ซาแฟรนโบลู เปิดตัว ซุปตาร์ บอลลูน 9 วัน 6 คืน โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK)

พิเศษ !! เที่ยวยูเนสโก้เมืองใหม่ไม่ซ้ำใคร
เที่ยวบินตรงโดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่ประเทศสองทวีป ดินแดนแห่งอาณาจักรออตโตมันอันยิ่งใหญ่ชมสุเหร่าเซนต์โซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ยุคกลาง ความยิ่งใหญ่ของสุเหร่าสีน้ำเงิน เมืองโบราณเอฟฟิซุส ปราสาทปุยฝ้ายที่คัปปาเกีย 
นครใต้ดินชาดัค ชมเมืองมรดกโลกที่เมืองซาแฟรนโบลู ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
วันที่ 2: ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) / รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / (ชมด้านนอก) ฮิปโปโดรม (Hippodrome) / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / Golden Way Hotel
วันที่ 3: บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) / สุเหร่าสีเขียว (Green Bursa Mosque or Yesil Mosque) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองอิซเมียร์ (Izmir) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / BLANCA HOTEL
วันที่ 4: บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / (ชมด้านนอก) หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) / โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) / ศูนย์ผลิตเสื้อหน้งคุณภาพสูง / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / Tripolis Hotel
วันที่ 5: บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคอนย่า (Konya) / พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / คาราวานสไลน์ (Caravanserai) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6: บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / นครใต้ดินคาร์ตัค (Underground City Cardak) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7: บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองซาแฟรนโบลู(Safranbolu) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ Hidirlik Tower / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / EBRULA KONAK HOTEL
วันที่ 8: บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
วันที่ 9: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
21 มื้อ 6 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,513 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
พักเดี่ยวชำระเพิ่ม 9,000.-

Turkish Airlines (TK)  
อ.  17-25 ธ.ค.
(วันคริสต์มาส)
30,999.- Turkish Airlines เหลือ 12 ที่นั่ง
จ.  23-31 ธ.ค.
(วันคริสต์มาส)
33,999.- Turkish Airlines เต็ม
อ.  31 ธ.ค. 62-08 ม.ค. 63
(เทศกาลปีใหม่)
30,999.- Turkish Airlines เหลือ 5 ที่นั่ง
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 09 ธ.ค.62)

ตารางบิน
Turkish Airlines (TK) เวลาบินขาไป 21:45 - 04:10 BKK - IST TK65
เวลาบินขากลับ 20:15 - 09:50 IST - BKK TK64

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
(19:00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 21.45 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK65 (บินตรง) 23.00 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK69 (บินตรง)
ช่วงค่ำ
(18:45) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
วันที่ 2
ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) / รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / (ชมด้านนอก) ฮิปโปโดรม (Hippodrome) / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / Golden Way Hotel
ช่วงเช้า
(04:10) ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) ประเทศตุรกี เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระของท่าน
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) ประเทศตุรกี เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระของท่าน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* 05.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (เวลาตุรกีช้ากว่าไทย 4 -5 ชั่วโมง คือฤดูร้อน ช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง ส่วนฤดูหนาวช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง)
รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อเช้าอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อเช้าอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงา (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ตามอัธยาศัย
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้สุเหร่าเซนต์โซเฟียเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้างที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น
* คำแนะนำในการเข้าชมสุเหร่า จำเป็นต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพ และ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม สุภาพสตรี : ควรสวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูปและเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และ เสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป
พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังแห่งนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน อาทิ ส่วนโรงครัว ห้องเก็บเครื่องกระเบื้อง ห้องเก็บอาวุธ ห้องเก็บสมบัติ ฯลฯ ซึ่งห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอย่างมากก็คือ ห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติและวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต ของช่างทำช้อนเป็นไฮไลต์สำคัญ ในขณะที่บริเวณระเบียงหลังห้องท้องพระคลังเป็นจุดชมวิวชั้นดี ที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์เมืองอิสตันบูลใน 2 ฝั่งทวีป (ยุโรปและเอเชีย) ได้อย่างชัดเจน
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
(ชมด้านนอก) ฮิปโปโดรม (Hippodrome)
นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ ฮิปโปโดรม (Hippodrome) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (Chariot Racing) โดยคำว่า ฮิปโปส และ โดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึง การแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (Central Moscow Hippodrome) น่าเสียดายที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของ ฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนติโนเปิลในอดีต หรือ อิสตันบลูในปัจจุบัน แม้จะยิ่งใหญ่และเก่าแก่ใน (อ่านต่อ)
นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ ฮิปโปโดรม (Hippodrome) คือสิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (Chariot Racing) โดยคำว่า ฮิปโปส และ โดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึง การแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (Central Moscow Hippodrome) น่าเสียดายที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของ ฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนติโนเปิลในอดีต หรือ อิสตันบลูในปัจจุบัน แม้จะยิ่งใหญ่และเก่าแก่ในสมัยโบราณสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 203-330 แต่ปัจจุบันเหลือเพียง เสา 3 ต้น คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) สร้างเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ แต่บูรณะเมื่อศตวรรษที่ 10 เสาต้นที่ 2 คือ เสางู ที่เชื่อว่าสร้างก่อนคริสกาลมา 479 ปี เป็นรูปสลักงู 3 ตัวพันกัน จากเมือง เดลฟี (Delphi) แล้วถูกขนย้ายมาตั้งที่นี่เมื่อ ศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสา อิยิปต์ หรือเสาโอเบลิส (Obelisk of Thutmose) สร้างในช่วงก่อนคริสตกาลประมาณ 390 ปี มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกคือ Obeliskos หมายถึง เหล็กแหลม เข็ม หรือ เสาปลายแหลม ลักษณะของเสาโอเบลิสก์จะเป็นเสาสูง สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนปิรามิด และมักนิยมหุ้มหรือเคลือบด้วยโลหะ เช่น ทองคำ เหล็ก หรือ ทองแดง เป็นต้น เสาโอเบลิสก์เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะที่มีต้นกำเนิดจากอียิปต์โบราณ เป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางสู่วิหารเทพเจ้า ปกติจะนิยมสร้างขึ้นเป็นคู่ ตั้งอยู่ ณ บริเวณทางเข้าวิหาร ตัวอย่างเช่นที่ วิหารลักซอร์ หรือ วิหารคาร์นัค เป็นต้น บริเวณรอบๆเสาโอเบลิสก์จะแกะสลักเป็นร่องลึกด้วยอักษรเฮียโรกลิฟฟิค บอกเล่าถึงฟาโรห์ผู้สร้าง และเรื่องราวของการสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้า ดังนั้น เสาโอเบลิสก์จึงเป็นเสมือนหนึ่งเสาอนุสรณ์ บ่งบอกถึงนัยยะแห่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์โบราณ
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Golden Way Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Golden Way Hotel หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Golden Way Hotel หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 3
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) / สุเหร่าสีเขียว (Green Bursa Mosque or Yesil Mosque) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองอิซเมียร์ (Izmir) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / BLANCA HOTEL
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองบูร์ซาร์ (Bursa)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ห่างจากชายฝั่งทะเลมาร์มะราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 21 กม. เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมันระหว่างปี ค.ศ. 1326 ถึง 1365
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบูร์ซาร์ (Bursa) เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ห่างจากชายฝั่งทะเลมาร์มะราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 21 กม. เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยจักรวรรดิโรมันและจักรวรรดิไบแซนไทน์ เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิออตโตมันระหว่างปี ค.ศ. 1326 ถึง 1365
สุเหร่าสีเขียว (Green Bursa Mosque or Yesil Mosque)
จากนั้นนำท่านชมความงามของ มัสยิดเก่าแก่ของเมืองบูร์ซ่า Grand Mosque ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดาร ทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมาน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงามร (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชมความงามของ มัสยิดเก่าแก่ของเมืองบูร์ซ่า Grand Mosque ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อน และประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดาร ทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมาน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงามร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่มเป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีสีเขียว Green Bursa สุสานสีเขียว Green Tomb สุเหร่าสีเขียว หรือ Yesil Mosque สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ซา ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1491 - 1421 โดยสถาปนิก ชื่อ Haci Ivaz Pasa โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเบอร์ซา อาคารสุเหร่ามีความโดดเด่นด้วยการใช้กระเบื้องหินอ่อนสีฟ้าเขียวในการตกแต่ง ผนังและเพดานด้านในก็ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีฟ้าเขียวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ภายในสุเหร่าแห่งนี้ยังมีที่บรรจุศพของสุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว สถานที่แห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศตุรกี
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองอิซเมียร์ (Izmir)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ เป็นมหานครที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอนาโตเลีย และเป็นเมืองอันดับที่สามที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ เป็นมหานครที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอนาโตเลีย และเป็นเมืองอันดับที่สามที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี
* ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4ชั่วโมงระยะทางประมาณ 330 กิโลเมตร
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
BLANCA HOTEL
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ BLANCA HOTEL หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ BLANCA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / (ชมด้านนอก) หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) / โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) / ศูนย์ผลิตเสื้อหน้งคุณภาพสูง / บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / Tripolis Hotel
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) อันเป็นที่ตั้งของเมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษา ไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองขึ้นที่นี่ เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซีย และกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอเฟซุส” ขึ้น (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ (Kusadasi) อันเป็นที่ตั้งของเมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษา ไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมืองขึ้นที่นี่ เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซีย และกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอเฟซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน
เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปั (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปัตยกรรมที่คงเหลือเป็นแบบเฮเลนนิสติก ที่มีความอ่อนหวาน และฝีมือประณีต ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ที่สำคัญของนครเอฟฟิซุส อาทิ โรงอาบน้ำ และโรงละครโบราณที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน หอสมุดเซลซุสที่เหลือเฉพาะด้านหน้า จุดบูชาเทพเจ้าและอีกมากมาย ฯลฯ ที่ยังคงหลงเหลือให้ชมและศึกษาค้นคว้า
ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath)
จากนั้นนำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
จากนั้นนำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian)
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
(ชมด้านนอก) หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus)
นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) มีความสวยงามเป็นเลิศ สร้างโดยติเบริอุส จูลิอุส อาควิลา อุทิศให้กับบิดา ชื่อ ติเบริอุส จูลิอุส เซลซุส ในปี 657-660 และได้ฝังโลงศพของบิดาที่ทำจากหินเอาไว้ใต้หอสมุดแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2015
นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) มีความสวยงามเป็นเลิศ สร้างโดยติเบริอุส จูลิอุส อาควิลา อุทิศให้กับบิดา ชื่อ ติเบริอุส จูลิอุส เซลซุส ในปี 657-660 และได้ฝังโลงศพของบิดาที่ทำจากหินเอาไว้ใต้หอสมุดแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2015
โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre)
จากนั้นนำท่านชม โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุสคือโรงละคร ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ประมาณ 25,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว
จากนั้นนำท่านชม โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุสคือโรงละคร ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ประมาณ 25,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
ศูนย์ผลิตเสื้อหน้งคุณภาพสูง
แวะเปลี่ยนอิริยาบถที่ศูนย์ผลิตเครื่องหนัง ชมแฟชั่นโชว์ โดยนางแบบ นายแบบกิตติมศักดิ์ หลังจากจมแฟชั่นโชว์จบให้ท่านอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
แวะเปลี่ยนอิริยาบถที่ศูนย์ผลิตเครื่องหนัง ชมแฟชั่นโชว์ โดยนางแบบ นายแบบกิตติมศักดิ์ หลังจากจมแฟชั่นโชว์จบให้ท่านอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ป (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี (House of vergin mary) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเธอรีน เอมเมอริช ในปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่งพระสันตะปาปา โป๊ปเบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองปามุคคาเล (Pamukkale)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) คำว่า “ปามุกคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” pamuk หมายถึง cotton และ kale หมายถึง castle เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหล ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิก (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) คำว่า “ปามุกคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” pamuk หมายถึง cotton และ kale หมายถึง castle เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหล ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ปามุกคาเล่และเมืองเฮียราโพสิลได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Tripolis Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Tripolis Hotel 4* หรือเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ค่ำคืนนี้พักกันที่ Tripolis Hotel 4* หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เมืองคอนย่า (Konya) / พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / คาราวานสไลน์ (Caravanserai) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis)
จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ซึ่งตั้งอยู่ล้อมรอบปามุคคาเล่ (ปราสาทปุ้ยฝ้าย) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล่ สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคค (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ซึ่งตั้งอยู่ล้อมรอบปามุคคาเล่ (ปราสาทปุ้ยฝ้าย) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล่ สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล่ โรงอาบน้ำโรมันบาธ โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคอนย่า (Konya)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) หรือสำนักลมวน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์เมฟลานาเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูมี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสุสานของ เมฟลานา ผู้ก่อตั้ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) หรือสำนักลมวน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์เมฟลานาเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูมี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสุสานของ เมฟลานา ผู้ก่อตั้งอีกด้วย
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไปพายุ ลม ฝน และหิมะ ได้เป็นกัดเซาะแผ่นดินมาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตาดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมือนที่ใดในโลกมีความสวยงามเหมือนหนึ่งเมืองในเทพนิยาย
คาราวานสไลน์ (Caravanserai)
จากนั้นระหว่างทางนำท่านแวะชม คาราวานสไลน์ (Caravanserai) ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน หรือกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
จากนั้นระหว่างทางนำท่านแวะชม คาราวานสไลน์ (Caravanserai) ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน หรือกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
พาท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
พาท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / นครใต้ดินคาร์ตัค (Underground City Cardak) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไปพายุ ลม ฝน และหิมะ ได้เป็นกัดเซาะแผ่นดินมาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตาดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมือนที่ใดในโลกมีความสวยงามเหมือนหนึ่งเมืองในเทพนิยาย
* *สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเกียจะต้องออกจากโรงแรม 05.00 น.ชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ1ชั่วโมง(ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคา230Us ต่อ1ท่าน)**
นครใต้ดินคาร์ตัค (Underground City Cardak)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินคาร์ตัค (Underground City Cardak) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดินคาร์ตัค (Underground City Cardak) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป เพื่อเป็นที่หลบซ่อนจากการรุกรานของข้าศึก เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน พร้อมทั้งยังมีระบบระบายอากาศ และสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินพร้อมสรรพ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์อย่างหนึ่งก็ว่าได้
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดิ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนวาชาวโรมันผู้ปครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนการรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นลงไปเป็นอุโมงค์เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณเกอเรเม่ทำให้เป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำในเกอเรเม่ ว่ากันว่ามีมากถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbar Church) โบสถ์มังกร (Snake Church) และโบสถ์แอปเปิ้ล (Apple Church) อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
พาท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
พาท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MUSTAFA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองซาแฟรนโบลู(Safranbolu) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ Hidirlik Tower / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / EBRULA KONAK HOTEL
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองซาแฟรนโบลู(Safranbolu)
ชื่อเมืองซาแฟรนโบลู มาจากหญ้าแชฟฟรอนซึ่งเมืองนี้มีหญ้าแซฟฟรอนที่มีคุณภาพสูงและยังเป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เมืองซาแฟรนโบลูเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCOในปี คศ.1994 เนื่องด้วยเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมยุคออคโตมันที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างมากมาย ซึ่งปัจจุบันได้รับการลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 1008 แห่งซึ่งประกอบไปด้วย พิพิธภัณฑ์ สุเหร่า และหอนาฬิกา และบ้านเรือนอีกหลายร้อยหลัง
ชื่อเมืองซาแฟรนโบลู มาจากหญ้าแชฟฟรอนซึ่งเมืองนี้มีหญ้าแซฟฟรอนที่มีคุณภาพสูงและยังเป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เมืองซาแฟรนโบลูเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCOในปี คศ.1994 เนื่องด้วยเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมยุคออคโตมันที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างมากมาย ซึ่งปัจจุบันได้รับการลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 1008 แห่งซึ่งประกอบไปด้วย พิพิธภัณฑ์ สุเหร่า และหอนาฬิกา และบ้านเรือนอีกหลายร้อยหลัง
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ Hidirlik Tower
ชมความงดงามของอนุสาวรีย์โบราณ รวมถึงกำแพงเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ Hidirlik Tower อีกหนึ่งหอคอยที่มีความสำคัญ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ หรือ ประภาคารในอดีต ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ เป็นหอคอยทรงกลมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นและเป็นจุดหมายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ปัจจุบันหอคอยถูกล้อมรอบไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย
ชมความงดงามของอนุสาวรีย์โบราณ รวมถึงกำแพงเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ Hidirlik Tower อีกหนึ่งหอคอยที่มีความสำคัญ ซึ่งสร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลอ่อนเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ หรือ ประภาคารในอดีต ฮิดิร์ลิค ทาวเวอร์ เป็นหอคอยทรงกลมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นและเป็นจุดหมายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ปัจจุบันหอคอยถูกล้อมรอบไปด้วยร้านกาแฟและร้านอาหารมากมาย
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
EBRULA KONAK HOTEL
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ EBRULA KONAK HOTEL หรือโรงแรมระดับเทียบเท่า
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ EBRULA KONAK HOTEL หรือโรงแรมระดับเทียบเท่า
วันที่ 8
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า และนำทุกท่านเพิ่มพลังงานกับอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองอิสตันบูล (Istanbul)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิส (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise)
นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิด (อ่านต่อ)
นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาชเช่ และบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น
พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน โคมไฟขนาดมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่ และพรมทอผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market)
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
รับประทานและเต็มอิ่มไปกับอาหารเย็นหลากหลายรายการ แสนอร่อย ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 9
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
ช่วงเช้า
(15:00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* ** เฉพาะวันที่ 16-24 กรกฏาคม 2562 09.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
(01:25) ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
* 01:25 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK68 (บินตรง) ** เฉพาะวันที่ 16-24 กรกฏาคม 2562 20.15 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK64 (บินตรง)** 

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

 ท่านใดมีไฟล์ทบินภายในประเทศต่อ โปรดแจ้งให้บริษัทฯทราบในวันจองทัวร์

ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง

  • บริษัทขอสงวนสิทธิ์ :  รายการทัวร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาวะอากาศ, การเมือง, สายการบิน เป็นต้น โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า การบริการของรถบัสนำเที่ยว ตามกฎหมายของประเทศสามารถให้บริการวันละ 10 ชั่วโมง มิอาจเพิ่มเวลาได้ โดยมัคคุเทศก์และคนขับจะเป็นผู้บริหารเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทางนั้นๆ เป็นหลัก จึงขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเวลาท่องเที่ยวตามสถานที่ในโปรแกรมการเดินทาง
  • อัตราค่าบริการนี้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยเท่านั้น กรณีถือหนังสือเดินทางต่างประเทศทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

อัตราค่าบริการรวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับตามรายการที่ระบุ รวมถึงค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน 
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศ 
  • โรงแรมที่พักตามที่ระบุ หรือเทียบเท่า (พัก 2-3 ท่าน/ห้อง) 
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ   
  • ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ  
  • ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์อำนวยความสะดวก ตลอดการเดินทาง
  • ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุในการเดินทางท่องเที่ยว วงประกันท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด           ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่มิได้ระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศตุรกี กรณีประกาศให้กลับมายื่นร้องขอวีซ่าอีกครั้ง (เนื่องจากทางตุรกีได้ประกาศยกเว้นการยื่นวีซ่าเข้าประเทศให้กับคนไทยสำหรับผู้ที่ประสงค์พำนักระยะสั้นในประเทศตุรกีไม่เกิน 30 วัน)
  • ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  • ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์, หัวหน้าทัวร์,คนขับรถ, 90 USD/ท่าน/ทริป ทั้งนี้ท่าสามารถให้มากกว่านี้ได้ตามความเหมาะสมและความพึงพอใจของท่าน
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %

เดินทางขั้นต่ำ 20 ท่าน หากต่ำกว่ากำหนด กรุ๊ปจะไม่สามารถเดินทางได้ หากผู้เดินทางทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มเพื่อให้คณะเดินทางได้ ทางเรายินดีที่จะประสานงานในการเดินทางตามประสงค์ให้ท่านต่อไป ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางและเลื่อนการเดินทางไปในวันอื่นต่อไป โดยทางบริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 


เงื่อนไขการจอง และ การชำระเงิน  :

  • มัดจำท่านละ 15,000 บาท ภายหลังจากที่ท่านส่งเอกสารการจอง 2วัน  กรณีลูกค้าทำการจองก่อนวันเดินทางภายใน 30 วัน ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าทัวร์เต็มจำนวน 
  • ส่วนที่เหลือ ชำระก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 30 วัน
  • หากไม่ชำระมัดจำตามที่กำหนด ขออนุญาตตัดที่นั่งให้ลูกค้าท่านอื่นที่รออยู่
  • หากชำระไม่ครบตามจำนวน บริษัทฯถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติโดยไม่มีเงื่อนไข
  • เมื่อท่านชำระเงินไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ทางบริษัทฯถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆที่ได้ระบุไว้ทั้งหมดนี้แล้ว
  • หากชำระเงินในแต่ละส่วนแล้ว โปรดส่งสำเนาการโอนเงิน พร้อมระบุชื่อพนักงานขายมาทางแฟกซ์
  • ส่งรายชื่อสำรองที่นั่ง ผู้เดินทางต้องส่งสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) โดยเซ็นต์ชื่อพร้อมยืนยันว่าต้องการเดินทางท่องเที่ยวทริปใด, วันที่ใด, ไปกับใครบ้าง, เบอร์โทร // [หากไม่ส่งสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) มาให้ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายอันเกิดจากความผิดพลาดจากการสะกดชื่อ-นามสกุล และอื่นๆ เพื่อใช้ในการจองตั๋วเครื่องบินทั้งสิ้น

โปรดตรวจสอบ Passport : จะต้องมีอายุคงเหลือ ณ วันเดินทางมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และเหลือหน้ากระดาษอย่างต่ำ 2 หน้าหากไม่มั่นใจโปรดสอบถาม


เงื่อนไขยกเลิกการจอง :

  • เนื่องจากเป็นราคาตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่น เมื่อจองทัวร์ชำระเงินค่าจองค่าทัวร์แล้ว ไม่สามารถยกเลิก เลื่อน ขอคืนเงิน ได้ทุกกรณี และกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ระบุไว้ ในรายการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึง เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทาง พร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจาคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท


  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางหรือปรับราคาค่าบริการขึ้นในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 25 ท่าน 
  2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง 
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ 
  4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การยกเลิกบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน,การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, การนำสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ 
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง 
  6. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด 
  7. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม 
  8. การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก  โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่ / ปลอดบุหรี่ได้ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม และไม่สามารถรับประกันได้  
  9. กรณีผู้เดินทางต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อาทิเช่น ใช้วีลแชร์ กรุณาแจ้งบริษัทฯ อย่างน้อย 7 วันก่อนการเดินทาง มิฉะนั้นบริษัทฯไม่สามารถจัดการได้ล่วงหน้าได้ 
  10. มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิในการให้คำสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
  11. ผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายกับตัวแทนต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนี เข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่น ๆ
  12. กรณีต้องการพักแบบ 3 ท่าน ต่อห้องหรือห้องแบบ 3 เตียง TRIPLE โรงแรมมีห้อง Triple ไม่เพียงพอ ขอสงวนสิทธิในการจัดห้องให้เป็นแบบ แยก 2 ห้อง คือ 1 ห้องพักคู่ และ 1 ห้องพักเดี่ยว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 
  13. สภาพการจลาจรในช่วงวันเดินทางตรงกับวันหยุดเทศกาลของตุรกี หรือ วันเสาร์อาทิตย์ รถอาจจะติด อาจทำให้เวลาในการท่องเที่ยวและ ช้อปปิ้งแต่ละสถานที่น้อยลง  โดยเป็นดุลยพินิจของมัคคุเทศก์ และคนขับรถในการบริหารเวลา ซึ่งอาจจะขอความร่วมมือจากผู้เดินทางในบางครั้งที่ต้องเร่งรีบ เพื่อให้ได้ท่องเที่ยวตามโปรแกรม
  14. บริการน้ำดื่มท่านวันละ 2ขวด ต่อคนต่อวัน
  15. การบริการของรถบัสนำเที่ยว ตามกฎหมายของประเทศตุรกี สามารถให้บริการวันละ 10 ชั่วโมง ในวันนั้นๆ มิอาจเพิ่มเวลาได้ โดยมัคคุเทศก์และคนขับจะเป็นผู้บริหารเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทางนั้นๆเป็นหลัก จึงขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเวลาท่องเที่ยวตามสถานที่ในโปรแกรมการเดินทาง

กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา