Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

10 เมืองรอบโลกสำหรับการผ่อนคลายความเครียดและเหนื่อยล้า

11 ก.ย. 2560

ทำงานแสนเหนื่อยล้า รู้สึกเครียด ไฟในใจเริ่มริบหรี่ ร่างกายเริ่มอ่อนแรง เห็นทีว่าจะต้องไปชาร์ตแบตเตอรี่ ณ เมืองแห่งการคลายเครียดและพักผ่อนกันสักหน่อย

การออกท่องเที่ยวนับเป็นวิธีผ่อนคลายสมอง ขจัดความเครียด และเติมพลังที่ได้ผลชะงัดทีเดียว เราจึงได้ไปเสาะหาเมืองพักผ่อนแบบสบายๆ จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้คุณได้เลือกเส้นทางการเดินทางทริปต่อไป ไม่ว่าจะคุณอยากจะไปกางเต็นท์ในหุบเขา อบผิวในบ่อโคลนเดือด แช่น้ำพุร้อน-ออนเซ็น หรือจะจิบค็อกเทลริมหาด เรามีทุกเดสติเนชั่นที่คุณถวิลหามานำเสนอ


ฮาโกเน่ (Hakone) ใกล้โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ทริปนี้ไม่ไกลจากบ้านเรา แถมยังไม่ต้องห่วงเรื่องขอวีซ่า และราคาโปรโมชั่นสายการบินสำหรับเส้นทางไปเยือนเมืองต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ก็มีมาลดราคากันอยู่เรื่อยๆ ฮาโกเน่เป็นเมืองแห่งธรรมชาติ ขุนเขา สายน้ำ ทะเลสาบ และบ่อน้ำพุร้อนอันลือชื่อ แน่นอนไฮไลท์หลักของเมืองนี้ก็คือ “ออนเซ็น” (Onsen) หรือการไปแช่บ่อน้ำพุร้อนนั่นเอง มากไปกว่านั้นคุณก็ยังสามารถไปล่องเรือโจรสลัดอันลือชื่อ (Hakone Sightseeing Cruise) เพื่อชมความงามของทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi) ได้อีก หรือจะเลือกนั่งชมวิวทิวทัศน์บนเขาในรถไฟสายภูเขา (Mountain Railways) ก็ถือเป็นการผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีเช่นกัน


ทิเบต (Tibet)

หากคุณกำลังค้นหาทริปเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ไม่ต้องการพักโรงแรมหรูหรา แต่อยากพักแบบธรรมดาพื้นบ้าน ในบรรยากาศโอบล้อมด้วยขุนเขาอันยิ่งใหญ่ เป็นการพักผ่อนโดยใช้รสพระธรรมนำจิตใจ การมาเยือนวัดแห่งธิเบตและการศึกษาระบบศาสนาแบบเซน (Zen) เพื่อเติมไฟในการดำรงชีวิต ก็เป็นอีกเส้นทางการเดินทางที่น่าสนใจไม่น้อย


หมู่เกาะมัลดีฟส์ (The Maldives)

ประเทศหมู่เกาะกว่า 1000 เกาะ ในมหาสมุทรอินเดีย และไม่ว่าจะไปเกาะไหน ก็มีความสวยให้คุณได้สุขตาสบายใจ แถมการได้เล่นน้ำ นั่งเรือท้องกระจกหรือดำน้ำชมโลกใต้ท้องทะเลแห่งหมู่เกาะปะการังนี้ เป็นอีกวิธีการผ่อนคลายความเครียดและเติมสุขได้อย่างดีทีเดียว แล้วอัตราค่าที่พักก็มีหลายราคาตามแต่กำลังทรัพย์ และมีกิจกรรมบันเทิงใจในธรรมชาติต่างๆ ให้ทำมากมาย หรือจะแค่นั่งจิบเครื่องดื่มริมชะเลียงห้องพักเหนือน้ำกลางทะเล ก็เป็นการผ่อนคลายได้ดีทีเดียว


เกาะลอร์ด โฮวี หรือ ลอร์ด ฮาว (Lord Howe Island) ประเทศออสเตรเลีย

เกาะแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนที่มีความเงียบสงบ และมีสันติสุขมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นอกจากนั้นแนวภูเขาไฟบนเกาะ ก็ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกว่ามีความสวยงามยิ่งนัก มากกว่า 75% ของพื้นที่บนเกาะยังได้สงวนไว้ตามธรรมชาติ ไม่มีการบุกรุกของมนุษย์และความเจริญทางวัตถุใดๆ ฉะนั้นพืชพรรณไม้และสัตว์หลายชนิดที่พบบนเกาะนี้ จะไม่สามารถพบได้ที่ไหนในโลกอีกแล้ว ในส่วนของที่พักก็จะเน้นบังกะโล บ้านพักขนาดเล็ก ไม่มีตึกสูงระฟ้า และยังมีสนามกอล์ฟแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ ไว้สำหรับคนที่อยากออกกำลังกายและเดินชมวิวริมทะเลไปพร้อมๆ กัน เป็นเกาะที่มีความสงบมาก เหมาะแก่การไปฟื้นฟูจิตใจและเที่ยวชมธรรมชาติ


หมู่เกาะฟิจิ (Fiji Islands)

หมู่เกาะแห่งนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในไข่มุกแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ความใจดีและเป็นมิตรของชาวเกาะ เป็นที่ขึ้นชื่อนอกเหนือจากความสวยงามของเกาะ เพราะผู้มาเยือนย่อมมั่นใจได้ว่า จะได้รับความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง รีสอร์ทที่พักก็มีหลากหลายราคา แต่สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับเหมือนกันก็คือ ความผ่อนคลายและการดูแลต้อนรับอย่างดีจากชาวเกาะนั่นเอง


หมู่เกาะเซเชลส์ (Seychelles Islands)

ประเทศหมู่เกาะในเขตทวีปอาฟริกานี้ กำลังมาแรงแซงโค้งเกาะอื่นๆ เพราะด้วยเหตุว่า เป็นประเทศที่มีหมู่เกาะขนาดใหญ่ มีทัศนียภาพให้ชมมากกว่าหาดทรายที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ท้องน้ำสีฟ้าใส แต่เพิ่มด้วยเทือกเขา พันธุ์ไม้แปลกๆ รวมไปถึงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเกาะ และยังเป็นจุดชมนก ชมเต่าทะเลยักษ์ฮอว์คซบิลล์ (Hawksbill Sea Turtle) อันขึ้นชื่ออีกแห่งของโลก หมู่เกาะเซเชลส์แห่งนี้ยังถือเป็น 1 ใน 5 เมืองยอดนิยมสำหรับฮันนีมูนอีกด้วย


โพรวองซ์ (Provence) ประเทศฝรั่งเศส

ดินแดนทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยงามติดอันดับต้นๆ ของประเทศ หากนึกภาพไม่ออก ขอให้นึกถึงทุ่งดอกลาแวนเดอร์ (Lavender Field) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแถบนี้ ตึกรามบ้านช่องเมืองก็ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมยุโรปโบราณ จึงเหมือนได้ไปท่องโลกแห่งเทพนิยายที่มีเจ้าหญิง เจ้าชาย และอัศวินขี่ม้าขาว นึกแล้วก็น่าฟินและน่าช่วยให้ลืมความวุ่นวายต่างๆ จึงเป็นอีกวิธีบําบัดความเครียดและเติมพลังใจได้ดี นอกจากนี้การล่องเรือชมโขดหินอันลือชื่อในเขตอุทยานแห่งชาติ เล กาลองก์ ( Le Calanque) ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด


เทือกเขาแอลป์ (Swiss Alps) ในเขตประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เมืองในหุบเขาแห่งนี้ นอกจากอากาศจะบริสุทธิ์สดชื่น หายใจได้โล่งปอดแล้ว ทิวทัศน์หุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำค้าง กับสีสันของธรรมชาติที่รายล้อม ก็ทำให้การท่องเที่ยวนั้นผ่อนคลายไปได้โดยปริยาย นอกจากนั้นหมู่บ้านเชิงเขาแห่งนี้ ก็ถูกจัดให้เป็นเมืองปลอดรถยนต์ ฉะนั้นทุกคนจะต้องเดิน และใช้รถจักรยานเท่านั้น


เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) ประเทศชิลี

เกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดเกาะหนึ่งในเขตทะเลแปซิฟิก เพราะเกาะนี้มีความสวยงามของชายหาดและป่าเขาที่ยังอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แท่งหินสลักรูปหน้าคนขนาดยักษ์ “โมอาย” (Moai) ที่เรียงรายกันอยู่บนเกาะ ซึ่งแน่นอนว่ายูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้ว การมาพักผ่อนในเกาะนี้เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ถวิลหาความสงบและความเป็นส่วนตัว


จาเมก้า (Jamaica)

ประเทศบนเกาะในทะเลคาริบเบียน (Caribbean) เป็นเมืองที่ปราศจากความเร่งรีบ นาฬิกาจะเดินช้าลง จังหวะชีวิตจะเต้นตามเสียงเพลงเรกเก้ สายลมและแสงแดด ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนผ่อนคลาย รีเล็กซ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

CR: www.skyscanner.co.th