Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

เคยเห็นกันมั้ย? รวม 10 เทศกาลสุดแปลกจากทั่วทุกมุมโลกที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง

19 ก.ย. 2560

โลกเราล้วนแตกต่างและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมหลากหลายตามวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การมีการเทศกาลตามความเชื่อหรือตามประเพณีที่มีมาแต่โบราณจึงเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันน่าตื่นตาตื่นใจ และกลายเป็นที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วมุมโลกให้ได้ไปสัมผัส หรืออย่างน้อยก็ต้องอยากจะรู้จักว่ามันเป็นมายังไง ทำไมถึงต้องมีเทศกาลแปลกๆเหล่านี้กันด้วย? คนที่อ่านอยู่ตอนนี้ก็คงสงสัยเหมือนกันแน่นอน ว่าไอเทศกาลที่ว่าแปลกมันจะแปลกสักแค่ไหนกัน? ถ้างั้นไปอ่านกันเลยมีอะไรบ้าง!


1.เทศกาล Kanamara Matsuri จากประเทศ ญี่ปุ่น

เป็นศาสนพิธีในศาสนาชินโตที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จัดขึ้นทุกๆ วันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน ที่ศาลเจ้าคานายามะ เมืองคาวาซากิ จังหวัดคานากาวะ

ไฮไลท์สำคัญของงานอยู่ที่การแห่ปลัดขลิกขนาดใหญ่เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งการสืบพันธุ์ที่สถิตย์อยู่ในศาลเจ้าคานายามะและขอพรให้คลอดบุตรง่าย

มีชีวิตรักและครอบครัวที่สุขสงบร่มเย็น ปัจจุบัน นอกจากเพื่อการสืบทอดประเพณีทางศาสนาแล้ว เทศกาลแห่ลึงค์ยังจัดขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการท่องเที่ยวและนำรายได้เข้าร่วมสมทบทุนการวิจัยไวรัสเฮชไอวี



2.เทศกาลปาส้ม(Ivrea Orange Festival) จากประเทศ อิตาลี

เทศกาลนี้มีที่มาจากการที่ชาวเมืองทำการต่อต้านท่านเคาท์ราเนรีผู้ปกครองเมืองในช่วงราวคริสต์ศตวรรษที่ 12 ที่มักข่มเหงชาวเมืองด้วยการลักพาตัวหญิงสาสามัญชน

ที่กำลังจะแต่งงานให้ไปเป็นภรรยาของตนเอง จนกระทั่งวันหนึ่งท่านเคาท์ราเนรีได้ไปลักพาตัว ไวโอเล็ตต้า ลูกสาวเจ้าของโรงโม่ข้าวไป ด้วยความกล้าหาญของไวโอเล็ตต้า

เธอจึงต่อสู้และสามารถตัดหัวของท่านเคาท์นำมาประจาน ทำให้ชาวเมืองต่างยินดี แต่เมื่อทหารทราบข่าวจึงรีบไปจับตัวไวโอเล็ตต้า ทำให้ชาวเมืองต่างช่วยกันปาหินใส่ทหารเหล่านั้น

จนกระทั่งเหตุการณ์ดังกล่าวกลายมาเป็นประเพณีที่ต้องทำกันทุกๆปี เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของไวโอเล็ตต้าที่ได้นำอิสรภาพมาสู่ชาวเมือง

โดยในแต่ละปีก่อนถึงงานเทศกาล จะมีการคัดเลือกเด็กนักเรียนเพื่อให้มารับบทเป็นไวโอเล็ตต้า และมีการจัดหาอาสาสมัครให้ขึ้นไปบนรถเกวียนเพื่อเป็นตัวแทนทหารท่านเคาท์ด้วย



3.เทศกาลสาดสี (Holi Festival) จากประเทศ อินเดีย

คำว่า "โฮลี" หมายถึง "การสิ้นสุดของปีเก่า" เป็นเทศกาลฉลองรื่นเริงที่มีพื้นเพมาจากความเชื่อในศาสนาฮินดูในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยชาวฮินดูจะออกมาเล่นสาดสีใส่กันการสาดสีใส่กันนั้น

เชื่อว่า เป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย มีปกรณัมมากมายเกี่ยวกับที่มาของเทศกาลนี้ แต่ที่เชื่อกันมากที่สุด คือ การเฉลิมฉลองที่พระวิษณุ หนึ่งในตรีมูรติ

เอาชนะนางมารโฮลิกะ ซึ่งเป็นน้องสาวของหิรัณยกศิปุ ที่ดูหมิ่นผู้ที่นับถือพระองค์ ทำให้นางมารถูกไฟแผดเผาจนมอดไหม้ วันก่อนการสาดสีจะมีการก่อกองไฟเพื่อชำระล้างสิ่งไม่ดีไปจากจิตใจ



4.เทศกาลเปลือยกาย (Hadaka Matsuri) จากประเทศ ญี่ปุ่น

เทศกาลเปลือยกาย หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่า Hadaka Matsuri แนวคิดที่มาของประเพณีนี้ ต้องการที่จะขัดเกลาจิตวิญญาณของผู้เข้าร่วมให้บริสุทธิ์

ในเทศกาลดังกล่าวนี้ ผู้ชายจะนุ่งสิ่งที่คล้ายผ้าเตี่ยว ซึ่งเรียกกันว่า Fundoshi และหนึ่งในนั้น จะเปลือยกายล่อนจ้อนจริงๆ เพื่อรอแย่งรับไม้ศักดิ์สิทธิ์คู่หนึ่ง ไม้ศักดิ์สิทธิดังกล่าวนี้

เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า shingi ใครที่แย่งได้ไป จะถือว่าเป็นผู้โชคดีในปีนั้น นอกจากนี้ ยังมีกิ่งต้นหลิวศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งร้อยกิ่ง สำหรับปลอบใจผู้ที่ผิดหวัง ซึ่งก็ไม่เพียงพอ สำหรับผู้เข้าร่วมงานเกือบหมื่นคนอยู่ดี



5.เทศกาล (The International Highline Meeting festival) จากประเทศ อิตาลี

เทศกาลสุดหวาดเสียว ท้าทาย เทศกาลนี้ ก็เป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่เรียกได้ว่า ประหลาดล้ำไม่แพ้ใคร เพราะทั้งหวาดเสียว และต้องเสี่ยงตายกันเลยทีเดียว

เนื่องจากผู้ที่เข้าร่วมเทศกาลทั้งหมดจะต้องหย่อนตัวเหมือนนอนเปลญวนชิลล์ๆ ห้อยอยู่บนสลิงเหนือเทือกเขาแอลป์ กว่าร้อยฟุต ใน Monte Piana ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะเรียกตัวเองว่า “slackers”

ซึ่งต่างจากนักไต่เชือกระหว่างภูเขา เพราะต้องสร้างความบาล๊านซ์มากกว่า เพราะต้องห้อยตัวอยู่บนสลิงท่ามกลางภูเขา

เพราะหากเชือกหย่อนสักนิดนั่นหมายความว่าเปลอาจจะเลื่อนไปข้างหน้า หรือตีกลับมาอีกฝั่งได้นั่นเอง



6.เทศกาล (Burning Man Festival) จากประเทศ สหรัฐอเมริกา

งานเทศกาลศิลปะและดนตรี "เบิร์นนิ่ง แมน" จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ทะเลทรายแบล็ค ร็อค รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นวันจันทร์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม

ก่อนจะไปสิ้นสุดวันจันทร์แรกของเดือนกันยายน ซึ่งตรงกับวันแรงงานของสหรัฐด้วย สำหรับปี 2012 นี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 สิงหา - 3 กันยา

ซึ่งตามวิกิพีเดียได้อธิบายว่างานนี้เป็นการทดลองการสร้างชุมชน และเป็นการแสดงออกอย่างขีดสุดถึงการสร้างความเชื่อมั่นในตนเองอย่างสุดขีดของบรรดาเหล่าผู้ร่วมงาน

ซึ่งแน่นอนครับว่าถ้าเป็นการรวมกันของบรรดาเหล่าหัวรุนแรงทางศิลปะแล้ว มันต้องสุดขีดจริงๆ



7.เทศกาลปามะเขือเทศ (La tomatina festival) จากประเทศ สเปน

งานเทศกาลปามะเขือเทศ จัดเป็นประจำทุกปี ทุกวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคม ณ หมู่บ้านบาเลนเซียน (Valencian) ของ Buñol ในจังหวัดบาเลนเซีย (Valencia) ประเทศสเปน

ต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ย้อนไปเมือปี 1944 ระหว่างขบวนพาเหรด gigantes y cabzudos เกิดมีเหตุการณ์วัยรุ่นทะเลาะกัน และเจ้ากรรมดันมีแผงขายมะเขือเทศอยู่ใกล้มือพวกวัยรุ่น

พวกเขาจึงใช้มันเป็น อาวุธในการขว้างปาเข้าใส่กัน จนตำรวจต้องเข้ามายุติศึกมะเขือเทศ และทำการปรับค่าเสียหาที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้

ในปีต่อมาพวกวัยรุ่นก็ยังคงมาเปิดศึกกันอีกเช่นเคยเหมือนปีที่แล้ว แต่สิ่งที่ต่างออกไปในปีนี้พวกเขาเตรียม มะเขือเทศกันมาจากบ้าน

และก็ต้องลำบากตำรวจอีกแล้วครับท่านที่ต้องเข้ามายุติเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท กัน แต่มันก็คือประถมบทแห่งเทศกาลปามะเขือเทศ อันลือลั่นที่ถูกจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องทุกปีเรื่อยมา



8.เทศกาล (Golden Retriever Festival) จากประเทศ สก๊อตแลนด์

เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อสุนัขพันธุ์ โกลเด้นรีทรีเวอร์ ครั้งยิ่งใหญ่ของสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ในประเทศ สก๊อตแลนด์

โดยภายในงานมีน้องหมาโกลเด้นมาเข้าร่วมมากกว่า 200 ตัวเลยทีเดียว โดยงานนี้จัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2006 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 50 ปีของการจัดตั้งสโมสรฯ

สุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ได้รับความนิยมอย่างมาก



9.เทศกาลโดดข้ามทารก (Castrillo de Murcia) จากประเทศสเปน

ชาวคริสต์นิกายคาทอลิกในเมืองเล็กๆชื่อ Castrillo de Murcia ประเทศสเปน มีพิธีการเฉลิมฉลองที่แปลกระดับโลก ประเพณีนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1620

โดยต้องใช้เด็กทารกที่เพิ่งเกิดในปีนั้นๆมานอนบนเสื่อ และเพื่อปกป้องเด็กน้อยเหล่านั้นจากบาปกำเนิด, ภูติผีปีศาจ และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ชายแต่งกายในชุดสีเหลืองแดงสดใส

ตัวแทนของปีศาจร้าย จะกระโดดข้ามทารกเหล่านั้น เชื่อกันว่าการกระโดดข้ามเด็กทารกของปีศาจดังกล่าวจะหมายความว่าพวกเด็กๆได้รอดพ้นจากเงื้อมมือของปีศาจนั่นเอง

นับเป็นหนึ่งในเทศกาลที่อันตรายที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ได้ขอให้บาทหลวงสเปนหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงานเทศกาลนี้เพื่อเป็นการแสดงว่ามันไม่ใช่ประเพณีของนิกายคาทอลิก

โดยทางคริสตจักรระบุว่าหนทางเดียวที่จะล้างบาปกำเนิดให้เด็กๆได้ก็คือการเข้าสู่พิธีล้างบาปนั่นเอง



10.เทศกาลอุ้มคู้รัก จากประเทศ ฟินแลนด์

เทศกาลนี้จัดขึ้นประจำเดือนกรกฎาคมของทุกปี การแข่งขันนี้เพิ่งเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1990แต่คนท้องถิ่นบอกตลกๆ

ว่ามันเริ่มมาชั่วนาตาปีแล้วเพราะเมื่อก่อนผู้ชายจะขโมยผู้หญิงจากหมู่บ้าน อื่นมาเป็นศรีภรรยาวันนี้รางวัลไม่ใช่ภรรยาและเป็นเบียร์น้ำหนักเท่าตัว ภรรยาของพวกเขา

CR: http://travel.sanook.com/