Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

คู่มือการท่องเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง

03 เม.ย. 2557

มาทำความรู้จักกับวิธีการเดินทางท่องเที่ยวโตเกียวด้วยตนเอง

รถไฟฟ้าในโตเกียว รถไฟที่ใช้กันบ่อยๆ จะมี 2 แบบหลักๆ คือ 
รถไฟบนดิน ส่วนใหญ่ จะเห็นทางรถไฟอยู่เหนือถนนที่รถวิ่ง เหมือน BTS บ้านเรา ซึ่งเรียกว่า JR East
ส่วนอีกแบบคือ รถไฟใต้ดิน ที่เรียกว่า Subways ซึ่งมี 2 ค่าย คือ Tokyo Metro มี 9 สาย / กับ Toei มี 4 สาย
 
 
รถฟฟ้าฃ

 

แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองแล้วอยากจะลองนั่งรถไฟฟ้าสำหรับสายรถไฟฟ้าที่เป็นยอดนิยมเลยก็จะเป็น JR Yamanote Line ถือเป็นไม้ตายของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เพราะสายนี้จะวิ่งเป็นวงกลม เริ่มต้นที่สถานีไหนก็แล้วแต่ ถ้าอยากจะกลับมาสถานีเดิมก็ขึ้นสายนี้  แถมสายนี้ยังวิ่งผ่านแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญๆ ของกรุงโตเกียว หลักของการซื้อตั๋วก็จะคล้าย ๆ ของไทย อย่างแรกก็จะต้องตรวจสอบสถานีที่เราต้องการไปว่ามีค่าเดินทางเท่าไหร่จากนั้นก็กดเลือกราคาตั๋วของสถานีจุดหมายพร้อมระบุจำนวนคนจากนั้นระบบก็ขึ้นจำนวนเงินที่เราต้องใส่หลังจากหยอดเงินเรียบร้อยก็รอจนตั๋วออกมาแล้วนำมาผ่านเครื่องกั้นเข้าชานชาลาส่วนตอนขาออกก็ทำเช่นเดียวกัน 

 
รถไฟฟ้าโตเกียวตั๋วรถไฟฟ้าญี่ปุ่น
 
รถไฟโตเกียว
 
 
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะช้อปปิ้งในโตเกียวโดยการนั่งรถไฟฟ้าก็มีหลายหลายสถานที่โดยแต่ละที่แหล่งช้อปปิ้งก็จะอยู่ใกล้กับสถานีมาก ๆ ส่วนการเดินทางก็จะเป็นรถไฟสายJR Yamanote Line เช่น
 -  ฮาราจูกุ แหล่งช้อปปิ้งสุุดฮิตโดยสามารถเดินทางโดยนั่งรถไฟสายJR Yamanote Line โดยเริ่มจากสถานีโตเกียวหรือสถานีอื่นก็ได้  หลังจากนั้นก็ลงสถานีฮาราจูกุ เดินทางเข้าไปอีกนิดก็จะเจอกับตลาดฮาราจูกุกับศาลเจ้าเมจิสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของญี่ปุ่น
 -  ชินจูกุแหล่งรวมแฟชั่นชั้นนำของญี่ปุ่น โดยการเดินทางก็จะนั่งรถไฟสาย JR Yamanote Line โดยสามารถเริ่มสถานีโตเกียวก็ได้หรือ อาจจะช้อปปิ้งที่ฮาราจูกุเสร็จแล้วก็สามารถขึ้นที่สถานีนั้นได้เลยโดยลงที่สถานีชินจูกุก็จะพบกับผู้คนที่เดินบนถนนอย่างมากมายทั้ง     ร้านค้าต่าง ๆ ที่ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของชินจูกุกันเลยทีเดียว
 -  อาคิฮาบาระ  เป็นแหล่งขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางไอทีที่มีชื่อเสียงสถานีอาคิฮาบาระ สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายJR Yamanote Line ที่สถานีโตเกียวจากนั้นก็ลงที่สถานี อาคิฮาบาระ 
 
นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ช้อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่สามารถเดินทางได้โดยรถไฟฟ้าสาย JR Yamanote Line มีดังนี้ 
 
-อุเอโนะ  มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและแหล่งช้อปปิ้ง  อุเอโนะปาร์ค เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในช่วงดอกซากุระบาน ชาวญี่ปุ่นจะนิยมไปนัั่งปูเสื่อทานอาหาร เดินเล่นชมดอกไม้ที่บานอย่างสวยงามเพราะมีต้นซากุระกว่าหนึ่งพันต้นโดยเฉพาะจะแถวเรียง สองข้างทาง  ตลาดอะเมโยโกะ เป็นตลาดที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลยเพียงข้ามถนนไปก็จะถึง ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าราคาถูกโดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ น้ำหอม ของแบนเนมด์ต่างๆ รับรองได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน นอกจากนี้แล้วยังมีผลไม้ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นเมล่อน แตงโม  นอกจากนี้แล้วที่ตลาดอะเมโยโกะนี้ยังมีร้านอาหารให้เลือกหลายแบบไม่ว่าจะเป็นราเมง ซูชิ ข้าวหน้าหมูทอด หรือว่าจะเป็นอาหารต่างชาติก็มีแต่บรรยากาศร้านแผงลอยของตลาด 
 
อุเอโนะปาร์คตลาดอะเมโยโกะ
 
 
- อากิฮาบาร่า มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมเกมต่าง ๆ ของเด็กและผู้ใหญ่ การเดินทาง : สถานีอาคิฮาบาระ เป็นสถานีที่สามารถเดินทางได้ทั้งเส้นทาง JR Yamanote Line, JR Keihin-Tohoku Line, JR Sobu Line, Tsukuba Express และ Hibaya Subway Line
 
อากิฮาบาร่า
 
- โตเกียว  เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น พระราชวังอิมพิเรียล การเดินทาง : สามารถเดินทางสถานีโตเกียวเพียง 10 นาทีตลาดปลาสึคิจิ เป็นตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ซึ่งมีจำหน่ายทั้งปลา, ผลไม้ และผักในแถบ Central Tokyo ซึ่งตลาดแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยมีการค้าขายผลิตภัณฑ์ทางทะเลมากกว่า 2,000 ตันต่อวัน โดยจะเปิดตั้งแต่ ตี 5 ถึง บ่าย 2 โมง  การเดินทาง : จากสถานีโตเกียว สามารถเดินทางทาง Marunouchi Subway จากโตเกียวถึงกินซ่า และต่อด้วย Hibiya Subway โดยจุดหลายปลายทางอยู่ที่สถานีสึคิจิ หรือหากเดินทางจากสถานีชินจูกุ สามารถนั่งรถไฟสายเดียวถึงสถานีสึคิจิได้เลยภายใน 20 นาที
 
พระราชวังอิมพิเรียลตลาดปลาซึคิจิ
 
 
- ย่าน อิเคะบุคุโระ จุดสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญนั้นก็คือ  Sunshine city ที่อัดแน่นไปด้วยความบันเทิง โดยท่านสามารถที่จะชมวิวได้ที่ตึก Sunshine 60 โดยภายในอาหารจะประกอบไปด้วย ร้านอาหาร ร้านค้า การจัดแสดงในร่ม สวนสนุุก ท้องฟ้าจำลอง หรือแม้กระทั่ง  Sunshine Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่ครอบครองพื้นที่ตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นบนเลยทีเดียวถือว่าเป็นอาคารสถานที่ที่น่าท่องเที่ยวเป็นอย่างมากหากได้มาเยือน อิเคะบุคุโระ
 
 
ซันไชน์ซิตี้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
 
 
- ย่านชินจูกุ ย่านที่ไม่เคยหยุดนิ่งแห่งกรุงโตเกียว โดยย่านนี้ส่วนมากจะดังในเรื่องของแหล่งช้อปปิ้งประกอบไปด้วยตึกสูงห้างสรรพสินค้าที่มีให้เดินเลือกซื้อสินค้าหลายย่าน โดยเฉพาะในยามราตรีจะดูคึกคักเป็นพิเศษเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบท่องราตรีและต้องการพักผ่อนเป็นอย่างมาก
 
ชินจูกุ
 
- Yoyogi เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโตเกียว โดยจะตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฮาราจูกุ เป็นสถานที่มีความสำคัญในด้านต่าง ๆ ของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ติดอับดับที่ดูซากุระที่สวยที่ในโตเกียวอีกด้วย เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก
 
 
สวนสาธารณะโยโยกิซากุระ
 
- ชิบูย่า ย่านที่โดนเด่นอย่างมีสไตล์ เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น โดยจะเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงอีกอย่างนึงของญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ท่านจะได้พบกับ อนุเสาวรีย์ยอดสุนัขผู้ซื่อสัตย์ "เจ้าฮาจิโกะ" ที่ปากสถานีรถไฟชิบูย่าให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปและชื่นชมในความซื่อสัตว์ที่มีต่อเจ้าของ นอกจากการช้อปปิ้งแล้วยังมีร้านอาหารที่ให้ทุกท่านได้ลองลิ้มชิมรสอาหารสไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วย
 
 
ย่านชิบูย่าสุนัขซื่อสัตว์
 
 
- ย่านฮาราจูกุ  ถนนแฟชั่นอีกแห่งหนึ่ง ย่านแห่งกระแสนิยม ท่านจะได้พบกับหนุ่มสาวที่แต่งตัวคอสเพลย์เดินกันเต็มย่านนี้ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างนึงของย่านนี้กันเลยทีเดียว ท่านจะได้พบกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็จะเป็นในส่วนของ เครป ซึ่งมีให้ให้เลือกซื้อเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ก็ยังมีสวนสาธารณะโยโยหงิที่ให้ทุกท่านได้พักผ่อนกันอีกด้วย
 
ย่านฮาราจูกุ
 
 
ปิดท้ายด้วยย่านเอบิสึ/ไดคังยามะ ย่านแห่งความงดงามแบบดั้งเดิมและความสะดวกสบายที่ทันสมัย โดยย่านนี้จะเต็มไปด้วยความสงบที่มีสไตล์อย่างลงตัว โดยหากได้ไปย่านนี้แล้วต้องเยี่ยมเยือนร้านบูติค โรงเบียร์ และบาร์ ด้วยบรรยากาศที่น่าหลงไหลจะทำให้การดื่มเบียร์เต็มไปด้วยความอร่อยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีสวนสาธารณะเขียวชอุ่มให้ได้พักผ่อนสบาย ๆ 
 
 
 
ย่านเอบิสึย่านไคคังยามะ
 
 
 
โดยข้อมูลข้างบนนี้ท่านสามารถที่จะเที่ยวได้ตามรูปแผนที่สถานีรถไฟไฟฟ้าภายในโตเกียวข้างล่างได้เลยค่ะ

 

รถไฟฟ้าโตเกียว

 

ารไปเที่ยวหรือช้อปปิ้งก็มีเหนื่อยกันบ้าง พอเหนื่อยทุกคนก็จะหาอาหารอร่อย ๆ รับประทาน อย่างเช่น Food Court มีขั้นตอนการสั่งอาหาร Food Court มารับประทาน     ก่อนที่จะรับประทานอาหารแบบ Food Court ก็จะมีตู้ให้แลกเงินและเลือกเมนูอาหารอัตโนมัติ เพื่อสั่งเมนูอาหารตามรายการอาหารอยู่บนตัวตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ  พร้อมเบอร์กำกับเมนูอาหาร ถ้าจะยกเลิกรายการหลังจากหยอดเหรียญลงไปเรียบร้อยแล้วก็ให้หมุนตัวหมุนข้างบนมุมขวามือ

การใช้ตู้แลกเงินคูปองการซื้ออาหาร

 

  ถ้าเลือกรายการอาหารเสร็จเรียบร้อย  จะได้รับใบคูปองอาหารตามที่เราสั่งไว้   นำคูปองไปยื่นที่หน้าเคาน์เตอร์  ทางร้านจะยื่น Beeper เครื่องมือสำหรับคอยเตือนว่าอาหารที่สั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอทางร้านทำอาหารเสร็จเครื่องBeeper จะส่งเสียงเตือน ให้มารับอาหารที่สั่งไว้  เพื่อจะได้ไม่ตรงมายืนรอรับอาหารให้เสียเวลา   พอรับประทานเสร็จเรียบร้อยก็นำจานไปคืนทางร้านจะมีป้ายคำว่า Return สามารถนำจานไปวางไว้ได้เลย 

 

เครื่องเตือนการมารับอาหารการนำจานอาหารไปเก็บ