1

อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน
(Grand Canyon National Park)

อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน (Grand Canyon National Park) ตั้งอยู่ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นดินแดนที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก โดยความสวยงามของภูผาหินแห่งนี้เกิดจากแม่น้ำโคโลราโดที่ไหลผ่านที่ราบสูง ตลอดจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นใต้เปลือกโลก ทำให้พื้นดินด้านบนเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวเทือกเขาขนาดใหญ่ เกิดการสึกกร่อนพังทลายของหิน ผ่านไปหลายล้านปีก็ถูกกัดเซาะไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นชั้นหินแบบต่างๆ ที่มีความงดงาม ด้วยความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของแกรนด์แคนยอนแห่งนี้จึงได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในอนุรักษ์สถานของโลกตามมติของสหประชาชาติอีกด้วยค่ะ และที่นี่ยังมีจุดชมวิวอย่าง Eagle Point รวมถึง Skywalk Glass Bridge สะพานแก้วเกือกม้า สูง 1200 เมตร เหนือแม่น้ำโคโลราโด ที่ทอดผ่านหุบเหวของแกรนด์แคนยอน ทางเดินจะเป็นกระจกใส ที่สามารถมองลงไปเห็นเหวที่อยู่ด้านล่าง ชวนให้น่าตื่นเต้น และหวาดเสียวมากๆ เลยล่ะค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ตกดินยอดฮิตของโลกเลยนะคะ

ที่ตั้ง : Arizona, United States

2

เกาะเมาอิ หรือเกาะเมาวี
(Maui)

เกาะเมาอิ หรือเกาะเมาวี (Maui) เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของหมู่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ หาดทรายดำ น้ำตก และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ โดยเฉพาะปากปล่องภูเขาไฟฮาเลอาคาลา หรือในภาษาโฟลินีเซียนแปลว่า “บ้านของพระอาทิตย์” ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดบนเกาะ ตั้งอยู่ระดับ 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และบริเวณปากปล่องแห่งนี้ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่มีความสวยงาม และอีกหนึ่งจุดชมวิวที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน นั่นก็คือ มาเคน่าบีช ชายฝั่งบนเกาะเมาอิ นั่นเองค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งเกาะสวรรค์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะคะ

ที่ตั้ง : Hawaii, United States

3

สโตนเฮนจ์
(Stonehenge)

สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) กลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนที่ราบซัลลิสเบอร์รี่ (Salisbury) บริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะที่เป็นกลุ่มแท่งหินประหลาดซึ่งไม่มีใครทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างชัดเจน และเมื่อพิจารณาถึงอายุของแท่งหินเหล่านี้แล้ว สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 5,000 ปีก่อน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1986 ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจำนวนนับล้านคนจากทั่วโลก ที่ต่างพากันเดินทางไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ของสถานที่เเห่งนี้กันอย่างมากมายในเเต่ละปี นอกจากนี้ที่นี่ยังถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่มีความสวยงามอลังการ โดยภาพไฮไลท์คือช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ใกล้จะลับขอบฟ้าและแสงของพระอาทิตย์ก็ส่องลอดผ่านบริเวณใจกลางแท่งหิน ช่างเป็นภาพที่มีความงดงามและหาชมที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้นนะคะ

ที่ตั้ง : Salisbury SP4 7DE, United Kingdom

4

ทะเลสาบซีหู
(Xihu Lake)

ทะเลสาบซีหู (Xihu Lake) ตั้งอยู่ที่เมืองหังโจว ทางภาคตะวันออกของประเทศจีน เป็นสถานที่ที่ถูกโอบล้อมรอบไปด้วยภูเขาทั้งสามด้าน น้ำในทะเลสาบใสสะอาดงดงาม มีเขื่อนดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ทำให้ดูสวยงามน่าชมเป็นอย่างยิ่ง เป็นความงดงามทางธรรมชาติที่สามารถหาชมได้ตลอดทั้งปี และถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่มีความงดงามดุจเนรมิต โดยผู้ที่ไปเยือนจะได้ชมเจดีย์เหลยเฟิง ทรง 8 เหลี่ยม สูง 5 ชั้น ที่ตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศใต้ของทะเลสาบ เมื่อแสงอาทิตย์สุดท้ายของวันตกสะท้อนไปที่ตัวเจดีย์ก็จะทำให้ตัวเจดีย์มีสีส้มกลมกลืนกับบรรยากาศยามเย็นถือเป็นภาพที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และยิ่งหากได้นั่งเล่นริมทะเลสาบ แล้วมองแสงสะท้อนผ่านผิวน้ำก็ยิ่งให้เกิดเป็นภาพแห่งความประทับใจที่ไม่รู้ลืมเลยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง : Hangzhou, China

5

เอีย ซานโตรินี
(Oia Santorini)

เอีย ซานโตรินี (Oia Santorini) เมืองริมชายฝั่งทางตอนเหนือสุดของซานโตรินี ประเทศกรีซ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินสุดอลังการและงดงามราวกับภาพวาดติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยล่ะค่ะ เพราะนอกจากวิวริมทะเลที่มีความสวยงามแล้ว สถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนของที่นี่ก็ยังโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อีกด้วยนะคะ บ้านสีขาวตัดกับสีฟ้าสดใสหรือสีพาสเทลหวานๆ ตั้งเรียงรายริมหน้าผาเหนือทะเลอีเจี้ยน มีแกลลอรี่และพิพิธภัณฑ์ให้แวะชมอยู่หลายที่ และแน่นอนว่าช่วงเวลาที่ทุกคนต่างเฝ้ารอที่สุดก็คือช่วงพระอาทิตย์ตกดินนั่นเองค่ะ เพราะที่นี่มีบรรยากาศที่สวยงามทรงเสน่ห์ แสงทองยามเย็นของดวงอาทิตย์ทาทาบไปบนบ้านเรือนแสนสวยริมหน้าผา ขณะที่พระอาทิตย์ดวงกลมโตก็ค่อยๆ ลดระดับแล้วถูกกลืนหายไปในท้องทะเล ช่างเป็นช่วงเวลาอันแสนพิเศษและน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ ดังนั้นใครต่อใครจึงต่างยกนิ้วให้ เอีย ซานโตรินี เป็นสถานที่สุดโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยค่ะ

ที่ตั้ง : Santorini, Greece

6

อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ
(Serengeti National Park)

อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Serengeti National Park) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย เป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งเลยนะคะ เพราะพระอาทิตย์ตกดินที่นี่จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่แถมยังได้ตื่นตาตื่นใจไปกับเหล่าสัตว์ป่านานาชนิดที่ต่างก็ออกมาเดินเล่น ทักทายนักท่องเที่ยวโดยอุทยานฯ แห่งนี้มีพื้นที่กว้างที่สุดในแอฟริกาตะวันออกที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าและยังเป็นอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วยค่ะ

ที่ตั้ง : Serengeti National Park, Tanzania

7

เกาะสกาย
(Isle of Skye)

เกาะสกาย (Isle of Skye) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสก๊อตแลนด์ มีภูมิประเทศที่น่าสนใจซึ่งมีทั้งที่ราบ เนินเขา และแอ่งน้ำ จึงจัดว่าเป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่งสำหรับสัตว์ป่า มีจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ไม่ควรพลาดด้วยนะคะ ช่วงเย็นพระอาทิตย์จะค่อยๆ ลับขอบฟ้าสาดแสงสีนวลอ่อนๆ กระทบผืนน้ำและทิวเขา เรียกได้ว่าเป็นภาพที่สวยงามสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง : Isle of Skye, Scotland

8
เกาะอีสเตอร์
(Easter Island)

เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ห่างจากฝั่งประเทศชิลีไปทางตะวันตกถึง 3,600 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามและเงียบสงบที่สุดในโลก ไฮไลท์ความงดงามยามพระอาทิตย์ตกดินของที่นี่คือช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ส่องกระทบกับรูปสลักยักษ์โมอาย (Moai) รูปสลักหินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และมีส่วนศรีษะขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งกระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์กว่า 600 ตัว ถือเป็นภาพที่หาชมได้ยากและเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง : Easter Island, Chile

9

ทัชมาฮาล
(Tajmahal)

ทัชมาฮาล (Tajmahal) นอกจากขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของพระเจ้าชาห์ จาฮาน (Shah Jahan) ที่มีต่อพระนางอรชุมันท์ มเหสีผู้ล่วงลับแล้วนั้น ที่นั่งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วยนะคะ แสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบกับหินอ่อนและเครื่องประดับต่างๆ ของตัวอาคารนั้นเป็นภาพที่สวยงามและโรแมนติกมากๆ เลยทีเดียวล่ะค่ะ เพราะทัชมาฮาลแห่งนี้สร้างจากหินอ่อนสีขาว กระเบื้องโมเสค ศิลาแลง  ประดับลวดลายด้วยเพชร พลอย โมราและเครื่องประดับชนิดอื่นๆ อีกมากมายนั่นเองค่ะ

ที่ตั้ง : Tajmahal, India

10

นครวัด
(Angkor Wat)

นครวัด (Angkor Wat) ตั้งอยู่ในเมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา มีสถาปัตยกรรมและประติมากรรมการก่อสร้างเป็นแบบศาสนาฮินดูผสมผสานกับพุทธศาสนา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากความงดงามและความยิ่งใหญ่อลังการแล้วที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งอีกด้วย เพราะมีฉากหลังเป็นศาสนสถานอย่างนครวัดนั่นเอง เพียงช่วงเวลาที่ต่างกันก็ทำให้ได้ชมความงดงามของนครวัดในที่รูปแบบที่แตกต่างออกไป เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากเลยนะคะ

ที่ตั้ง : Angkor Wat, Cambodia

แม้จะเป็นพระอาทิตย์ดวงเดียวกันเพียงแค่สถานที่ต่างกันกลับทำให้ความสวยงามในการชมพระอาทิตย์ตกนั้นมีความแตกต่างกันมากๆ เลยว่าไหมคะ เพียงแสงสีทองของตะวันที่กำลังลับขอบฟ้าสาดส่อง ก็เปลี่ยนบรรยากาศของสถานที่นั้นๆ ให้เกิดความโรแมนติกขึ้นมาได้ ธรรมชาติสามารถสร้างความสวยงามที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย รอวันที่เราจะได้ออกไปสัมผัสกันอยู่นะคะ