1. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Lourve Mesuem)

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Lourve Mesuem) ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสดั้งเดิมส่วนพีระมิดแก้วด้านหน้าเป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่และปัจจุบันยังเป็นจุดแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างรู้จักอีกด้วย พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังเป็นสถานที่เก็บรักษาผลงานศิลปะจากหลากหลายยุคสมัยและล้วนเป็นผลงานที่มีชื่อเสียง อย่างภาพโมนาลิซ่า (The Monalisa) เป็นต้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอย่างมาก และยังเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง รหัสลับดาวินซี (The Davinci Code) อีกด้วยค่ะ

ที่อยู่ : Rue de Rivoli, 75001 Paris, France

เปิดบริการ : ทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร โดยวันจันทร์ พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ เปิดเวลา 09.00 – 18.00 น. ส่วนวันพุธและวันศุกร์ เปิดเวลา 09.00 – 21.45 น.

2. พิพิธภัณฑ์ยานบินและยานอวกาศแห่งชาติ (National Air and Space Museum (NASM)

พิพิธภัณฑ์ยานบินและยานอวกาศแห่งชาติ (National Air and Space Museum (NASM) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับอากาศยานและอวกาศยานซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของจริงที่ถูกใช้งานมาแล้ว โดยภายในพิพิธภัณฑ์จะมีโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่สำหรับฉายภาพเกี่ยวกับการบิน มีท้องฟ้าจำลอง หินจากดวงจันทร์และเครื่องบินที่ถูกสร้างขึ้นลำแรกของโลก สำหรับโซนกิจกรรมจะมี เครื่องเล่นจำลองการอยู่ในอวกาศ ห้องขับเครื่องบินเจ็ทแบบต่อสู้ซึ่งสามารถเข้าไปในห้องนักบินเพื่อเรียนรู้การปฏิบัติงานจริงได้อีกด้วย ที่นี่ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ของโลกเลยก็ว่าได้นะคะ

ที่อยู่ : 600 Independence Ave SW, Washington, DC 20560, United States

เปิดบริการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.30 น. ยกเว้นวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

3. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (National Museum of Natural History)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (National Museum of Natural History) ตั้งอยู่ที่เมืองวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างในปีค.ศ.1910 มีชื่อเสียงทางด้านการสะสมโครงกระดูกไดโนเสาร์ของจริงหลายสายพันธุ์ ภายในยังมีการจัดแสดงนิทรรศที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น นิทรรศการการสำรวจสิ่งมีชีวิตยุคโบราณ นิทรรศการของเรื่องดาราศาสตร์และฟิสิกซ์ที่มีให้ชมกันอย่างละเอียด เป็นต้น หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนกรุงวอชิงตันดีซีแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดที่จะไปชมความยิ่งใหญ่อลังการของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งนี้กันนะคะ

ที่อยู่ : Cromwell Rd, South Kensington, London SW7 5BD, United States

เปิดบริการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.30 น. ยกเว้นวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

4. พิพิธภัณท์แห่งวาติกัน (Vatican Museums)

พิพิธภัณท์แห่งวาติกัน (Vatican Museums) เป็นพิพิธภัณฑ์ทางด้านศาสนาและศิลปะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในรัฐวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองส์ผสมโรมัน สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1506 เพื่อเก็บรักษาผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าขององค์สันตะปาปาหรืองานศิลปะที่ได้รับมอบมาจากโบสถ์คาทอลิกทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ประติมากรรม หรือโบราณวัตถุ งานศิลปะส่วนใหญ่เป็นงานชิ้นเอกจากยุคเรเนซองส์และโรมัน ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีห้องสำหรับจัดแสดงผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น ภาพวาดของดาวินชี ราฟาเอล และภาพวาด The creation of Adam ที่ทางพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป เป็นต้น ที่นี่ยังมีมุมที่น่าสนใจอีกมุมนั่นก็คือ บริเวณบันไดวนที่ม้วนเป็นวงกลมก่อนที่จะออกจากพิพิธภัณฑ์ ซึ่งหากขึ้นไปบนสุดแล้วมองลงมาจะเห็นบันไดม้วนวนลงไปครบทุกชั้นไล่ระดับอย่างสวยงามนั่นเองค่ะ

ที่อยู่ : 00120 Vatican City

เปิดบริการ : วันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. (เปิดขายบัตรถึงเวลา 16.00 น.)

5. พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ บิลบาโอ (The Guggenheim Museum Bilbao)

พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ บิลบาโอ (The Guggenheim Museum Bilbao) เป็นพิพิธภัณฑ์งานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยจากศิลปินชาวสเปนและศิลปินชาติอื่นๆ ทั่วโลก ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเนร์บีออน เมืองบิลบาโอ ประเทศสเปน ได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่สวยงามและมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมมากที่สุดในปัจจุบัน ออกแบบโดย แฟรงก์ เกียห์รีย์ ( Frank O. Gehry ) ตัวอาคารเป็นรูปร่างเหมือนเตาเผากำมะถัน โครงสร้างอาคารทำด้วยเหล็กผสมกับหินทรายสีอ่อนแล้วหุ้มด้วยแผ่นโลหะไทเทเนียมซึ่งสามารถเปลี่ยนสีตามช่วงเวลาของแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบตัวอาคารได้ ช่วงเช้าแสงอาทิตย์อ่อนๆ จะเป็นสีชมพูแชมเปญ ช่วงบ่ายแสงอาทิตย์จ้าขึ้นจะเปลี่ยนสีเงินวาว และกลายมาเป็นสีทองในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก ภายในมีห้องจัดแสดงงานศิลปะจำนวน 19 ห้อง งานประติมากรรมที่โดดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือรูปปั้นแมงมุมสูงเก้าเมตรชื่อ Maman โดย Louise Bourgeois และสุนัข topiary ขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยดอกดอกไม้ที่เรียกว่า Puppy ผลงานของ Jeff Koons ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในความมหัศจรรย์ราวแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่ควรพลาดแก่การไปเยือนสักครั้งจริงๆนะคะ

ที่อยู่ : Abandoibarra Etorb., 2, 48009 Bilbo, Bizkaia, Spain

เปิดบริการ : ทุกวัน วันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันพุธ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10:00 น. - 17:30 น. วันอังคารและวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10:00 น. - 20:00 น. แต่ปิดให้บริการในวันที่ 14 พฤศจิกายน วันขอบคุณพระเจ้า และวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

6. พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum)

พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ซึ่ง Sir Hans Sloane นักฟิสิกส์และธรรมชาติวิทยาได้สะสมวัตถุโบราณมีค่าไว้มากมายหลังจากที่เขาเสียชีวิตจึงได้มอบให้กับกษัตริย์จอร์จที่ 2 เพื่อให้เป็นสมบัติของชาติ ซึ่งกษัตริย์จอร์จที่ 2 ก็ได้เห็นความสำคัญของวัตถุโบราณเหล่านี้ จึงได้เริ่มก่อตั้ง British Museum ขึ้นในปี 1753 นั่นเอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสถานที่รวบรวมสิ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย ตั้งแต่สมัยยุคเปอร์เซีย อัสสีเรียน อียิปต์ กรีก และโรมัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแผ่นหิน Rosetta Stone ที่เป็นต้นแบบของศิลาจารึกภาษาอียิปต์ซึ่งได้รับการถอดความเป็นภาษากรีกให้ได้ศึกษากันในปัจจุบันอีกด้วยล่ะค่ะ

ที่อยู่ : Great Russell St, Bloomsbury, London WC1B 3DG, United Kingdom

เปิดบริการ : ทุกวัน วันเสาร์ถึงวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 17.00 น. วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 20.30 น.

7. พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตัน (Metropolitan Museum of Art)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตัน (Metropolitan Museum of Art) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ Central park ในมหานคร New York ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งขึ้นโดยกลุ่มชาวอเมริกันนำโดย จอห์น เจย์ (John Jay) ได้สร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1870 เพื่อต้องการนำศิลปะอันทรงคุณค่าและต้องการให้การศึกษาศิลปะสามารถเข้าถึงผู้คนและประชาชนของอเมริกาได้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เก็บรวบรวมงานศิลปะแบบถาวรมากกว่า 2 ล้านชิ้นและมีอายุกว่า 5,000 ปีจากทั่วทุกมุมโลก ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะถาวร ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรมตั้งแต่ยุคคลาสสิกจนถึงยุคสมัยใหม่ วัตถุโบราณชิ้นแรกของพิพิธภัณฑ์คือโลงศพโรมัน ต่อมาจึงเป็นภาพจิตรกรรมยุโรปและอาวุธสำริดยุคโรมัน นอกเหนือไปจากงานศิลปะแล้วก็ยังมีการสะสมเครื่องดนตรีโบราณ, เสื้อผ้ารวมทั้งเครื่องตกแต่งในสมัยก่อน, อาวุธในสมัยโบราณ, เสื้อเกราะอาวุธจากทั่วโลกอีกด้วย

ที่อยู่ : New York City, United States

เปิดบริการ : ทุกวัน วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 17.30 น. วันศุกร์ และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 21.00 น.

8. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มอสโก (State Historical Museum Moscow)

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มอสโก (State Historical Museum Moscow) ตั้งอยู่กลางของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของสะสมทางด้านโบราณคดีมากมาย สร้างขึ้นมาตามพระบัญชาของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 2 โดยสิ่งของที่จัดเเสดงในพิพิธภัณฑ์นั้นล้วนได้มาจากการบริจาคของบรรดาพ่อค้าและชนชั้นสูงจำนวนมากมาย ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติรัสเซียทั้งหมด และยังมีโซนจัดแสดงของไซบีเรียที่เป็นภาพของบรรดานักสำรวจที่ออกไปสำรวจไซบีเรียในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 อีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีงานจัดแสดงกว่า 4 ล้านชิ้นเลยล่ะค่ะ ควรค่าแก่การไปเยือนมากๆ

ที่อยู่ : Red Square, 1, Moscow, Russia, 109012

เปิดบริการ : ทุกวัน (ยกเว้นวันอังคารและวันจันทร์แรกของทุกเดือน) วันจันทร์, วันพูธ,วันศุกร์, วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00- 18.00 น. วันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00- 20.00 น. และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.

9. พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ หรือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง (National Palace Museum)

พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ หรือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง (National Palace Museum) ตั้งอยู่ที่เขตซื่อหลิน เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน มีโซนจัดแสดงหลักอยู่ในอาคารขนาดใหญ่กับรูปแบบทางสถาปัตยกรรมตามแบบพระราชวังจีนโบราณ ซึ่งมีการจัดแสดงโบราณวัตถุและศิลปะต่างๆ ของชาวจีนมากกว่า 700,000 ชิ้นงาน และมีความเก่าแก่ถึง 5,000 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำมาจากในพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ของเมืองปักกิ่ง วัตถุโบราณภายในพิพิธภัณฑ์ได้ถูกแยกออกเป็นหลายหมวดหมู่และยุคสมัย เช่น ภาพศิลปะ หนังสือ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเซรามิค ผ้าโบราณ และงานแกะสลัก ซึ่งในทุกๆ 4 เดือน จะมีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกมาจัดแสดง สำหรับไฮไลต์ที่จัดแสดงอยู่ตลอดทั้งปี ก็คือ 3 มหาสมบัติแห่งกู้กง ซึ่งได้แก่ หยกผักกาดขาว หยกหมูสามชั้น และกระถางสำริดของเหมากง นอกจากนี้ที่ด้านข้างของพิพิธภัณท์ยังมีสวนจื้อซั่น (Zhi Shan Garden) ซึ่งเป็นสวนที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์จีนไว้อย่างสวยงาม มีสระน้ำหลายสระ มีสะพานที่สวยงามข้ามสระน้ำและศาลาสวยๆ ไว้ให้นั่งพักชมวิวอีกด้วยนะคะ

ที่อยู่ : No. 221, Sec 2, Zhi Shan Rd, Shilin District, Taipei City, Taiwan 111

เปิดบริการ : ทุกวัน วันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 18.30 น. วันศุกร์และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 21.00 น.

10. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจีน (National Museum of China)

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจีน (National Museum of China) ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีห้องจัดแสดงถึง 48 ห้อง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่สุดแห่งหนึ่งในโลก ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของประเทศตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ เครื่องเคลือบโบราณ เครื่องประดับ สิ่งของมีค่าในราชวงศ์ต่างๆ และภาพวาด เป็นต้น โดยมีวัตถุโบราณจัดแสดงรวมกว่า 1.2 ล้านชิ้น โดยชิ้นที่ทรงคุณค่ามากที่สุด ได้แก่ ซือหมู่อู้ ติ่งทองแดงทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีอายุเก่าแก่ราว 3,500 ปี นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ยังมีโรงฉายภาพยนตร์ขนาด 800 ที่นั่ง หอประชุมใหญ่ 300 ที่นั่ง และสตูดิโอพื้นที่ 600 ตารางเมตรในหอประชุมฯ เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมสามารถชมภาพยนตร์หรือสารคดีในระบบดิจิตอลได้อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่มาเยือนเมืองปักกิ่งแล้วต้องห้ามพลาดเลยนะคะ

ที่อยู่ : 16 E Chang'an Ave, Dongcheng, China

เปิดบริการ : ทุกวันอังคาร - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. หยุดวันจันทร์

พิพิธภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อระดับโลกที่น้องชิลได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้เปิดประสบการณ์ ดูน่าสนุกน่ามากๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ นอกจากจะสนุกแล้วยังแฝงความรู้อีกด้วย ถือเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดในการเช็คอินเมื่อไปเยือนประเทศนั้นๆ เลยล่ะค่าา~