Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

เที่ยวดูไบ..ลองไปดู 10 สถานที่ดินแดนมหาเศรษฐีแห่งตะวันออกกลาง

10 ก.ค. 2563

สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ดูไบสถานที่แนะนำ, เรื่องน่ารู้

“ดูไบ” เมืองแห่งความมั่งคั่งที่เต็มไปด้วยเหล่าเศรษฐีจากการค้าน้ำมัน ที่ไม่ว่าจะมองจากตรงไหนเมืองนี้ก็มีแต่ความล้ำสมัย หรูหรา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมมากกว่า 3 แสนคนต่อปีเลยทีเดียว เนื่องจากเมืองดูไบมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย น้องชิลขอบอกได้เลยว่าหากท่านใดได้มาเที่ยวแล้วจะต้องตื่นตาตื่นใจจนลืมความร้อนของเมืองทะเลทรายแห่งนี้ไปเลยค่ะ ~

“ดูไบ” เป็นนครใหญ่สุดของ “ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 2 ล้านคน ถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลกและมีอัตราการเจริญเติบโตของเมืองที่สูงมาก ทำให้เมืองดูไบเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าอันทันสมัยมากมาย เรียกได้ว่าเสมือนอยู่ในโลกอนาคตกันเลยทีเดียวล่ะค่ะ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม “ดูไบ” ถึงเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะใคร ๆ ต่างก็อยากเข้ามาสัมผัสความล้ำสมัยนี้สักครั้งในชีวิต แต่ว่าจะมีที่ใดบ้างนั้น ? สวยล้ำสมัยเหมือนคำคุยหรือเปล่า อย่ารอช้าตามน้องชิลมาดูกันได้เลยค่าา..


-1-

ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa)

ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa)

ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ : เป็นตึกสูงระฟ้าที่หากท่านไหนมาดูไบ ต้องไม่พลาดมาที่นี่ค่ะ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2009 ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 6 ปี ตึกนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่อจากบุรจญ์ดูไบเป็นบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ชีกห์เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน เจ้าผู้ครองนครอาบูดาบี และประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยความสูงของตึก 828 เมตรจำนวนชั้น 163 ชั้น ทำให้ตึกแห่งนี้เป็นตึกที่มีความสูงที่สุดในโลก จำนวนชั้นมากที่สุดในโลก และเป็นตึกที่มีปล่องลิฟต์ยาวที่สุดในโลก ออกแบบโดยสถาปนิก เอเดรียน สมิธ (Adrian Smith) สถาปนิกจากชิคาโก โดยตึกได้รับรางวัลจากหลายสถาบันทั่วโลก ทั้งการดีไซน์และการก่อสร้างที่ทันสมัย บริเวณด้านบนชั้น 124 – 125 และชั้น 148 เป็นจุดที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวแบบพาโนรามา สามารถชมความงามได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ


-2-

ศูนย์การค้าดูไบมอลล์ (The Dubai Mall)

ศูนย์การค้าดูไบมอลล์ (The Dubai Mall)

ศูนย์การค้าดูไบมอลล์ : หนึ่งในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในดูไบ ตั้งอยู่ที่ด้านล่างของตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ใจกลางของตัวเมืองดูไบ โดยมีร้านค้ามากกว่า 1,200 ร้าน ร้านอาหารและร้านกาแฟมากกว่า 200 ร้าน และตลาดขายทองในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงร้านแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลก นอกจากทุกท่านจะได้ช้อปปิ้งสินค้ามากมายแล้ว ภายในศูนย์การค้ามีความบันเทิงขนาดใหญ่ทั้งโรงภาพยนตร์ ลานสเก็ตน้ำแข็ง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฯ ให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินตลอดทั้งวันกันเลยค่ะ


-3-

ทะเลทรายอาหรับ (Arabian Desert)

ทะเลทรายอาหรับ (Arabian Desert)

ทะเลทรายอาหรับ : เมื่อมาดูไบหากไม่ได้ไปตะลุยทะเลทรายคงถือว่ามาไม่ถึงอย่างแน่นอนค่ะ โดยทะเลทรายอาหรับใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก อยู่ในคาบสมุทรอาหรับ ประเทศซาอุดีอาระเบีย และมีพื้นที่ในเขตประเทศจอร์แดน อิรัก คูเวต กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน และเยเมน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,300,000 ตารางกิโลเมตร นอกจากการนั่งรถจิ๊บแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมสุดมันส์ที่พลาดไม่ได้คือ การขี่อูฐหรือให้อาหารนกเหยี่ยว ที่ให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพ เปิดประสบการณ์ใหม่ๆกันด้วยค่า


-4-

สวนน้ำอควาเวนเจอร์ (Aquaventure Water Park)

สวนน้ำอควาเวนเจอร์ (Aquaventure Water Park)

สวนน้ำอควาเวนเจอร์ : หนึ่งในสวนน้ำสุดอลังการ มีขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 42 เอเคอร์ สวนน้ำแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งอยู่ในโรงแรม Atlantis Palm Jumeirah โดยเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นอันน่าตื่นเต้นเร้าใจ ให้ทุกวัยได้สนุกสนานผจญภัยในน้ำกันอย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ ไฮไลท์อยู่ที่ สไลด์เดอร์น้ำขนาดใหญ่ ที่ทุกท่านจะได้ไหลไปตามทางน้ำ ลอดอุโมงค์ชมฝูงฉลามใต้ทะเลสาบ นอกจากโซนสวนน้ำแล้ว ยังมีโซนให้ได้สัมผัสกับความน่ารักใกล้ชิดกับโลมา ป้อนอาหารปลากระเบนกับมือ และโซนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในธีมผจญภัยอีกด้วยค่ะ


-5-

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดูไบ (Dubai Mall Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดูไบ (Dubai Mall Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดูไบ : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำดูไบแห่งนี้ถือเป็นพิพิภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 8 ของโลก มีตู้กระจกอะคริลิกที่ใช้สำหรับสร้างที่อยู่อาศัยของบรรดาสัตว์ทะเลที่อยู่ในการดูแลของพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยภายในพิพิธภัณฑ์จะมีสิ่งมีชีวิตทางทะเลน่าสนใจให้ชมกว่า 33,000 ชนิด แบ่งเป็น 220 สายพันธุ์ มีทั้งปลาฉลาม ปลากระเบน ปิรันยา แนวปะการังเทียมเสมือนจริง และสัตว์อนุรักษ์ทางทะเลหลายชนิด ซึ่งจะแบ่งเป็นสามโซนตามระบบนิเวศสามชนิด ได้แก่ ป่าฝน ชายฝั่งหิน และไฮไลท์สำคัญของพิพิธภัณฑ์อย่างอควาเรียมขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่ใต้ท้องทะเลซึ่งเต็มไปด้วยดาวเด่นแห่งมหาสมุทรหลากชนิด หรือใครที่อยากลงไปแหวกว่ายในอควาเรียมร่วมกับสัตว์ทะเล พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้ลองใส่ชุดดำน้ำและดิ่งลงสู่พื้นที่ภายในตู้อควาเรียมพร้อมกับให้อาหารปลาฉลามในระยะห่างกันไม่กี่เมตร ซึ่งจะให้ประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ตามชายทะเลปกติแน่นอนค่า


-6-

หมู่เกาะต้นปาล์ม (Palm Islands)

หมู่เกาะต้นปาล์ม (Palm Islands)

หมู่เกาะต้นปาล์ม : โครงการถมทะเลเพื่อสร้างหมู่เกาะจำลองบริเวณอ่าวเปอร์เซีย นับเป็นโครงสร้างเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้แผนที่ดูไบจากที่ไม่เคยมีเกาะนี้ก็ต้องมีขึ้นมา โดยแต่ละเกาะจะมีลักษณะรูปร่างเหมือนต้นปาล์มและล้อมรอบด้วยเสี้ยววงกลม โดยพื้นที่จะมีการจัดเป็นที่อยู่อาศัยและรีสอร์ท การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศในโครงการจะมีการสร้างทั้งหมด 3 เกาะได้แก่ ปาล์ม Jumeirah, ปาล์ม Deiraและ ปาล์ม Jebel Ali เกาะแรกคือศูนย์กลาง เป็นส่วนโค้งรอบปาล์มความยาว 2 กิโลเมตร ส่วนถัดมาคือส่วนที่เป็นหมู่บ้านที่พักอาศัยของชาวดูไบ มีลักษณะเกาะเป็นก้านใบของต้นปาล์ม มีทั้งหมด 17 ก้าน ส่วนสุดท้ายเป็นส่วนที่ตั้งของโรงแรม 5 ดาวและส่วนท่องเที่ยวต่างๆ การเดินทางมาอย่างเกาะก็ง่ายดายเพราะมีรถรางเชื่อมต่อกับเกาะหลัก ท่านใดอยากจะเช่าเรือหรือเฮลิคอปเตอร์บินชมเดอะปาล์มก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันค่ะ


-7-

มัสยิดหลวงเชคซัยยิด (Sheikh Zayed Grand Mosque)

มัสยิดหลวงเชคซัยยิด (Sheikh Zayed Grand Mosque)

มัสยิดหลวงเชคซัยยิด : เป็นสถาปัตยกรรมอิสลามร่วมสมัยของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่โดดเด่น สามารถจุผู้ละหมาดเฉพาะภายในตัวมัสยิดได้ถึง 7,000 คน นอกจากนั้นสามารถใช้พื้นที่ภายนอกรองรับผู้ละหมาดได้มากถึง 40,000 คน โดยลานมัสยิดด้านนอกถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว มีหอคอยตั้งโดดเด่น มัสยิดแห่งนี้ถูกจัดว่าเป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะแสดงให้โลกเห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของโลกอิสลาม คุณค่าทางประวัติศาสตร์ และความทันสมัยของสถาปัตยกรรมอิสลาม และยังเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการศึกษาสำหรับผู้เข้าชมอีกด้วย แถมยังมีห้องสมุดที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือและตำราวิชาการอิสลามที่หายาก เช่น วิทยาศาสตร์ อารยธรรม การประดิษฐ์ตัวอักษรศิลปะ รวมไปถึงสิ่งพิมพ์หายากที่บางเล่มอายุกว่า 200 ปี เลยทีเดียวค่ะ


-8-

ดูไบเฟรม (Dubai Frame)

ดูไบเฟรม (Dubai Frame)

ดูไบเฟรม : กรอบรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่รู้จักกันในนาม “The Dubai Frame” หรือกรอบรูปแห่งดูไบ โครงการยักษ์ใหญ่ที่เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุด นอกจากจะสะดุดตาแล้ว ยังให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของท้องฟ้าแบบพาโนรามา ในขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นอาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของดูไบอย่าง The Burj Khalifa ได้อีกด้วย กรอบรูปแห่งนี้มีความสูง 150 เมตร ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะ Zabeel ของดูไบ โดยผู้เยี่ยมชมสามารถขึ้นไปยังโครงสร้างของสะพานในความสูง 93 เมตร เพื่อชมทัศนียภาพบนนั้นได้ จุดเด่นของสะพานนี้อยู่ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินบนทางเดินที่ปูพื้นด้วยกระจก  ซึ่งเมื่อมองทะลุกระจกลงไปทางทิศเหนือจะเห็นทัศนียภาพของเมืองเก่าแก่อย่าง Deira และในทิศใต้เองก็มีอาคารมากมายเรียงรายสูงตระหง่านบนถนน Sheikh Zayed อีกด้วยค่ะ


-9-

สวนดูไบ มิราเคิล (Dubai Miracle Garden)

สวนดูไบ มิราเคิล (Dubai Miracle Garden)

สวนดูไบ มิราเคิล : สวนดอกไม้สุดอลังการของเมืองดูไบการันตีความยิ่งใหญ่ด้วยการบันทึกของกินเนสส์ บุ๊ค อ็อฟ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness Book of World Records) ว่าเป็นสวนดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ 72,000 ตารางเมตรประกอบไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์กว่า 70 สายพันธุ์จำนวนมากถึง 45 ล้านต้น โดยภายในสวนจัดแสดงด้วยธีมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน เครื่องบิน หรือมิกกี้เม้าส์ ซึ่งสวนแห่งนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมเท่านั้น เนื่องจากช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายนเป็นช่วงฤดูร้อนอุณหภูมิมากกว่า 40 องศาเซลเซียสเลยต้องปิดบริการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่รดน้ำต้นไม้ตลอดเวลานั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นหากท่านใดต้องการชมสวนดอกไม้สวย ๆ ของที่นี่แนะนำให้เช็คช่วงเวลาเปิดให้บริการกันก่อนนะคะ


-10-

น้ำพุแห่งดูไบ (Dubai Fountain)

น้ำพุแห่งดูไบ (Dubai Fountain)

น้ำพุแห่งดูไบ : น้ำพุแห่งดูไบ หรือ น้ำพุเต้นระบำ ตั้งอยู่ในทะเลสาบบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) ที่เป็นศูนย์กลางของเมืองดูไบเปิดให้บริการเมื่อปี 2009 โดยน้ำพุนั้นมีความยาวทั้งสิ้น 275 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าสนามฟุตบอล 2 สนาม สามารถพ่นน้ำได้ครั้งละ 83,000 ลิตร และความสูงของการพ่นน้ำในแต่ละครั้งนั้นสูงประมาณ 240 ฟุต หรือเทียบเท่ากับตึกสูงถึง 50 ชั้นขึ้นแท่นเป็นน้ำพุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว สำหรับการแสดงของน้ำพุนั้นจะมีให้ชมทุกวันเริ่มตั้งแต่เวลา 18:00 - 24:00 น. โดยเว้นช่วงทุกๆ 30 นาที ใช้เวลาในการแสดงรอบละประมาณ 5 นาที ที่สำคัญดูฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยห้ามพลาดเลยนะคะ


หากท่านไหนกำลังมองหาที่เที่ยวสวย ๆ แปลกใหม่กันอยู่ “ดูไบ” ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีนะคะ เพราะเมืองนี้ทั้งสะอาดและมีความปลอดภัยสูง นักท่องเที่ยวอย่างเราสามารถเที่ยวได้อย่างหมดห่วงเลยค่ะ รับรองได้เลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองดูไบนั้นยิ่งใหญ่ อลังการ คุ้มค่ากับการเที่ยวชมแน่นอนค่า ^^