“ประเทศฝรั่งเศส” หรือชื่อทางการว่า “สาธารณรัฐฝรั่งเศส” (Republic of France) เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่น ๆ ในต่างทวีป เนื่องจากเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรปทำให้ประเทศฝรั่งเศสมีพรมแดนติดกับประเทศในแถบยุโรปอีกมากมายเช่นเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น นอกจากนี้ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วยโดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากถึง 82 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว แล้วบรรดานักท่องเที่ยวเขาไปที่ไหนกันบ้างนะ ? อย่ารอช้าตามน้องชิลไปดูกันได้เลยค่าา ~

-1-

หอไอเฟล (Eiffel Tower)

“หอไอเฟล” หากได้มาประเทศฝรั่งเศสสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกท่านห้ามพลาดจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ต้อง นึกถึง “หอไอเฟล” เป็นที่แรกอย่างแน่นอนค่ะ เนื่องจากที่นี่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือนงาน World’s Fair ปี 1889 ตั้งชื่อตามผู้สร้าง คือ Alexandre Gustave Eiffel นับเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีความสูงมากที่สุดในประเทศ ด้วยเสน่ห์และความสวยงามนี้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ขอแต่งงานสำหรับหลาย ๆ คู่เลยค่ะ มีทั้งมุมด้านหน้าที่มีสวนและด้านหลังที่เป็นฝั่งแม่น้ำแซน (Seine River) โดยหอไอเฟลสามารถซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ปารีสในมุมสูงได้อีกด้วยนะคะ

-2-

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum)

“พิพิธภัณฑ์ลูฟร์” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมาเที่ยวชมมากที่สุดในปารีสรองจากหอไอเฟลเลยล่ะค่ะ พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแซน ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก เดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวงก่อนที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จะย้ายไปประทับที่พระราชวังแวร์ซายส์ ปัจจุบันลูฟร์ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะอันทรงคุณค่ามากที่สุดของโลก ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะจากจิตรกร ศิลปินชื่อดังของประเทศฝรั่งเศสจากอดีตจนถึงปัจจุบันเอาไว้มากมาย ด้านหน้าโดดเด่นด้วยพีระมิดแก้ว ส่วนภายในนอกจากการตกแต่งแล้วหากมาเยือนที่นี่งานศิลปะที่พลาดไม่ได้เลยคือ ภาพเขียนโมนาลิซา (Mona Lisa) จากปลายพู่กันของ เลโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ภาพเขียนชื่อดังทั่วโลก อีกทั้งยังมีงานศิลปะอื่นๆ จัดแสดงกว่า 35,000 ชิ้นที่มาจากอียิปต์และตะวันออกกลางให้เดินชมกันด้วยค่ะ

-3-

พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles)

“พระราชวังแวร์ซายส์” พระราชวังที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความยิ่งใหญ่ หรูหราและความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกต้องมาสักครั้งเลยค่ะ เดิมทีเป็นที่พักอาศัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยหินอ่อนและวัสดุที่ดีเยี่ยม มีห้องทั้งหมดถึง 700 ห้อง ภาพวาด 6,123 ภาพ และงานแกะสลักทั้งหมด 15,034 ชิ้น ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี 1979 อีกทั้งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วยค่ะ

-4-

ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)

“ประตูชัยฝรั่งเศส” หรือประตูชัยนโปเลียน เป็นอนุสรณ์สถานสำหรับนโปเลียนและผู้ที่ต่อสู้และนำชัยชนะของสงครามปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียน ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของปารีส โดยที่นี่ได้รับการยอมรับให้เป็นประตูชัยที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ศิลปะนีโอคลาสสิก โดยเฉพาะรูปแกะสลักลอยที่นับเป็นผลงานชั้นยอดจากศิลปินชั้นเยี่ยม ที่มีการเล่าเหตุการณ์การปฏิวัติและจักรวรรดิฝรั่งเศสผ่านผลงานศิลปะรอบ ๆ ประตูทั้ง 4 ทิศค่ะ

-5-

มหาวิหารแห่งปารีส (The Cathedral Notre Dame de Paris)

“มหาวิหารแห่งปารีส” สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นคู่กับเมืองปารีสมากกว่า 850 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานชิ้นเอกในศิลปะโกธิค และได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์รวมความศรัทธาต่อศาสนาคริสต์ที่สำคัญอย่างยิ่งของเมืองปารีสมานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากความหมายในเชิงศิลปะและความศรัทธาแล้ว มหาวิหารแห่งปารีส ยังมีบทบาทต่อวรรณกรรม อย่างการเป็นฉากหลังและแรงบันดาลใจให้กับผลงานเรื่อง “คนหลังค่อมแห่งนอร์ท-ดาม” (The Hunchback of Notre Dame) ของวิกเตอร์ อูโก นักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อดัง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ ภายหลังโด่งดังไปทั่วโลกทั้งในฐานะของภาพยนตร์และการ์ตูนอนิเมชั่น ของวอลต์ ดิสนีย์ อีกด้วยค่ะ

-6-

มงแซงมิเชล (Mont Saint Michel)

“มงแซงมิเชล” เป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของประเทศฝรั่งเศส อยู่ห่างจากกรุงปารีสประมาณ 300 กิโลเมตร เป็นวิหารคริสตจักรที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลชายฝั่งแถบตะวันตกของฝรั่งเศสในแคว้นบัส-นอร์ม็องดี ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมที่เมื่อรวมกับสภาพแวดล้อมแล้ว สวยงามราวกับปราสาทในฝันเลยทีเดียว เพราะมีการออกแบบผสมผสานระหว่างกอทิกและโรมาเนสก์ผนวกรวมไปกับความเก่าแก่มากเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ จึงทำให้ในปี 1979 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) อีกด้วยค่ะ

-7-

ดิสนีย์แลนด์ ปารีส (Disneyland Paris)

“ดิสนีย์แลนด์ ปารีส” ศูนย์รวมจินตนาการที่สุดแสนจะวิเศษโลกแห่งเทพนิยาย ดิสนีย์แลนด์แห่งแรกและแห่งเดียวของยุโรป ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองปารีสประมาณ 30 กิโลเมตร ดิสนีย์แลนด์มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าเป็น ครอบครัวที่มีเด็ก ๆ ,คู่รักที่กำลังมองหากิจกรรมที่ทั้งโรแมนติกและสนุกสนาน หรือว่านักเดินทางที่มาคนเดียวและชื่นชอบตัวละครดิสนีย์ “ดิสนีย์แลนด์ ปารีส” จึงเป็นสวนสนุกแห่งเดียวในยุโรปที่มีคนมาเที่ยวหลายพันคนจากทั้งในและนอกประเทศมีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของยุโรปกันเลยค่ะ

-8-

โบสถ์แซงต์ ชาแปลล์ (Sainte Chapelle)

“โบสถ์แซงต์ ชาแปลล์” โบสถ์ที่มีความเก่าเเก่เป็นอย่างมากเเละเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1862 ถือว่าเป็นโบราณสถานเเละสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างมากอีกเเห่งของกรุงปารีส ก่อสร้างมาในเเบบสถาปัตยกรรมกอธิค เป็นสุดยอดของสถาปัตยกรรมแรยอน็องในยุคนั้น มีการประดับประดาด้วยกระจกสวยงามมากมาย จนนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมต่างยอมรับว่ากระจกที่ใช้ตกแต่งโบสถ์มีความงดงามที่สุดยิ่งเมื่อแสงจากภายนอกส่องเข้ามา ยิ่งทำให้มองเห็นลายกระจกชัดเจนเป็นภาพที่สวยงดงามมากเลยค่ะ

-9-

มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก (Strasbourg Cathedral)

“มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก” เป็นมหาวิหารแห่งแรกของฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นมาในรูปแบบสไตล์โกธิก (Gothic) สถาปัตยกรรมจากยุคกลางแห่งนี้ได้รับการจดขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกว่าคือวิหารที่มีความสูงที่สุดในยุโรปแถบตะวันตกโดยองค์กรยูเนสโก (UNESCO) มหาวิหารแห่งนี้ถือเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่มีความเป็นมายาวนานหลายศตวรรษเป็นมหาวิหารแห่งพระแม่มารีย์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของนิกายโรมันคาทอลิก โดยภายในมหาวิหารมี “นาฬิกาดาราศาสตร์” (Astronomical Clock ) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปีไฮไลท์คือเวลา 12:30 น. ทุกท่านจะได้ชมหุ่นตุ๊กตาที่โผล่ออกมา นอกจากนี้ก็ยังมีจุดชมวิวเมืองที่ต้องขึ้นบันได 332 ขั้นถึงแม้ว่าจำนวนขั้นจะมาก แต่วิวที่ได้เห็นรับรองว่าสวยจนหายเหนื่อยแน่นอนค่ะ

-10-

พระราชวังชองบอร์ (Chateau de Chambord)

“พระราชวังชองบอร์” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำลัวร์ (Loire) ในเขตชนบทช็องบอร์ (Chambord) ของประเทศฝรั่งเศส พระราชวังแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นพระราชวังสำคัญอีกแห่งหนึ่งของฝรั่งเศสที่ได้ชื่อว่าสวยงามและมีบรรยากาศโรแมนติกที่สุดมาตั้งแต่สมัยคริสตศตวรรษที่ 15 สร้างขึ้นโดยกษัติรย์ฟรองซัวร์ที่ 1 (Francis I of France) ตามพระราชประสงค์ในการสร้างตำหนักเพื่อประทับระหว่างที่พระองค์ล่าสัตว์ โดยพระราชวังแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งทุกท่านสามารถเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อชมวิวพระราชวังได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้พระราชวังชองบอร์ยังเป็นต้นแบบปราสาทในภาพยนตร์เรื่องดังที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่าง “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” เรียกได้ว่าเป็นพระราชวังที่สวยงามและโรแมนติกที่นักท่องเที่ยวอย่างเราห้ามพลาดเลยนะคะ

นอกจากสถานที่สวย ๆ แสนโรแมนติกแล้ว “ประเทศฝรั่งเศส” ยังเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านแฟชั่นอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ ซึ่งเหล่าแบรนด์เนมชั้นนำหลากหลายแบรนด์ต่างก็มีจุดกำเนิดที่ประเทศนี้ ไปจนถึง “น้ำหอม” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หากพูดถึงฝรั่งเศสไม่พูดถึงน้ำหอมก็คงไม่ได้อีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นประเทศในฝันของสายแฟชั่นเลยก็ว่าได้ค่ะ หากท่านใดต้องการเที่ยวยุโรปแล้วยังลังเลว่าจะเริ่มที่ประเทศไหนดี “ประเทศฝรั่งเศส” ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจนะคะ ^^