1.Georgia Aquarium แอตแลนตา (ประเทศสหรัฐอเมริกา )

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจอร์เจีย  ตั้งอยู่ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดว่าเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณน้ำมากกว่า 8.1 ล้าน US gallons  ส่วนจัดแสดงกว่า 12 จุด มีสัตว์น้ำกว่า 120,000 ตัว 500 ชนิด  และเป็นสถาบันวิจัยเพียงแห่เดียวของปลาฉลามวาฬ คุณจะได้พบกับโลมา วาฬหายาก ฉลามที่น่ากลัว และปลาในเขตร้อน ไฮไลท์ที่สำคัญและเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวคือ  ฉลามวาฬ วาฬเบลูกา และปลากระเบนแมนตา พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันตลอดทั้งปี บัตรเข้าชมจะรวมการแสดงโลมา โรงภาพยนตร์ 4 มิติ และนิทรรศการที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ น้องชิลแอบกระซิบแนะนำให้ซื้อบัตรล่วงหน้าทางออนไลน์นะคะ เพราะคิวซื้อบัตรยาวมากเลยค่า

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่คนละ $26 ,นักศึกษาคนละ $21.50, เด็กคนละ $19.50

2. S.E.A. Aquarium เซ็นโตซ่า (ประเทศสิงคโปร์)

พิพิธภัณฑ์ฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ เป็นโลกใต้ท้องทะเลสัตว์ทะเลกว่า 100,000 ตัว จาก 800 สายพันธุ์  โดยภายในประกอบไปด้วยพื้นที่ 10 โซน และมีชนิดของที่อยู่อาศัยแตกต่างกันถึง 49 ชนิด พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. แห่งนี้จะพานักท่องเที่ยวดิ่งเข้าสู่การผจญภัยในโลกใต้ทะเล เริ่มตั้งแต่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านอ่าวอาหรับ และ ออกสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล ด้วยความยาวถึง 36 เมตร และสูงถึง 8.3 เมตร ทำให้ผู้ชมเสมือนกำลังท่องไปในโลกท่องทะเลแห่งมหาสมุทร กับเหล่าบรรดาปลาชนิดต่างๆ น้องชิลขอแนะนำโซน Strait of Malacca & Andaman Sea หนึ่งในโซนยอดฮิตที่เด็กๆชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะจะได้ลองจับและสัมผัสกับสัตว์ทะเลจริงๆแบบใกล้ชิด เช่น ปลาดาวและปลิงทะเล หรือจะเป็นโซน Ocean Journey ชมเหล่าแมงกระพรุนแบบใกล้ๆ แหวกว่ายและลอยตัวในน้ำกันเป็นฝูง สำตัวในสะท้อนแสงไฟ สวยงาม และน่าสนใจมากๆเลยค่า

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 29 เหรียญฯสิงคโปร์, เด็ก (4-12 ปี) 20 เหรียญฯสิงคโปร์, ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 20 เหรียญฯสิงคโปร์

3.Lotte World Aquarium กรุงโซล (ประเทศเกาหลีใต้)

ล็อตเต้เวิลด์ อควาเรียม (Lotte World Aquarium) ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งล็อตเต้เวิลด์ มอลล์ (Lotte World Mall) โดยอควาเรียมแห่งนี้มีโซนให้ชมโลกใต้น้ำมากมาย เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีตู้ปลาไซส์ใหญ่ พร้อมด้วยสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่กว่า 55,000 ชีวิต โซนแรก อยู่ด้านหน้าสุดของทางเข้า คือ Rivers of Korea ที่โซนนี้เป็นของสัตว์ที่อยู่ในน้ำจืดตามแม่น้ำ ทะเลสาบ ในประเทศเกาหลีและพวกสัตว์ท้องถิ่นเกาหลีต่างๆ โซนที่สอง คือ Tropical River ในโซนนี้ก็จะมีสัตว์ในเขตร้อนเป็นหลัก  โซนถัดไปคือ Amazon River  เป็นที่ทราบกันที่ว่าแม่น้ำอเมซอนเป็นแม่น้ำที่ใหญ่สุดของโลก ในโซนนี้ก็จะมีปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด อย่าง Pirarucu และ Arowana ซึ่งอาศัยอยู่ในแม่น้ำอเมซอนและยังมีอุโมงค์ทางยาวให้เราได้เดินชมอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงโชว์ตระการตา มีเกมและกิจกรรมให้เด็กๆ ร่วมสนุก ให้คุณและครอบครัวเพลิดเพลินกันสุดๆไปเลยค่า

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 31,000 วอน, เด็ก 27,000 วอน  

4.Chimelong Ocean Kingdom เกาะเฮงชิน (ประเทศจีน)

Ocean Kingdom Park ตั้งอยู่ที่มณฑลจูไห่  ไม่ไกลจากฮ่องกงและมาเก๊า ไปมาได้สะดวกแค่ข้ามทะเลไม่นานด้วยเรือเฟอร์รี่ที่ทันสมัยก็มาถึงที่นี่แล้วค่ะ พิพิธภัณธ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ซึ่งภายในพิพิธภัณธ์มีการจัดแสดงสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด ท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับสัตว์น้ำที่หาดูได้ยากอย่างใกล้ชิด เช่น whale shark, beluga whales, polar bears, polar foxes, polar wolfs และสัตว์น้ำที่น่ารักอีกหลายชนิด  อควาเรียมแห่งนี้ ได้รับการรับรองสถิติความเป็นที่สุดในโลกจากกินเนสต์บุ๊คถึง 5 รายการ ได้แก่ อควาเรียมที่มีโดมใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุด,  แท้งก์อควาเรียมที่ใหญ่ที่สุด, บานกระจกอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุด และอควาเรียมที่มีแท่นอะคริลิคที่ใหญ่ที่สุด โดยปริมาณน้ำที่บรรจุในอควาเรียมแห่งนี้มากถึง 22.7 ล้านลิตรเลยทีเดียว พื้นที่ของ Ocean Kingdom Park นั้นกว้างขวางมากประกอบไปด้วย Themed Area ถึง 8 แห่งซึ่งแต่ละแห่งล้วนเกี่ยวของกับทะเล หรือ มหาสมุทร เช่น 5D Castle Theater, Dolphin Cove, Amazing Amazon, Ocean Beauty, Polar Horizon, Ocean Outdoor Theatre, Sea Birds Paradise, Mt. Walrus หากท่านใดต้องการเดินชมครบทุกโซน หรือเล่นเครื่องเล่นทุกชนิดภายใน 1 วันอาจจะไม่เพียงพอค่า

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 350 หยวน , เด็ก/ผู้สูงอายุ/ผู้พิการ 245 หยวน  (รวมเครื่องเล่นทุกชนิด)

5.Dubai Aquarium ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Dubai Aquarium & Underwater Zoo พบกับความมหัศจรรย์ของดูไบเพียงได้มาเยือนพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์ใต้น้ำดูไบในห้างดูไบมอลล์ ที่นี่มีตู้กระจกอะคริลิกที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งบรรจุน้ำทะเลไว้ถึง 10 ล้านลิตร มีฉลามและกระเบนแหวกว่ายอยู่กว่า 300 ตัว และยังเป็นแหล่งอนุรักษ์ฉลามเสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอุโมงค์ให้เดินลอดใต้ท้องกระจก เปรียบเสมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ของปลาทะเล ปะการังเทียมขนาดใหญ่ที่เหมือนของจริงมาก สามารถมองเห็นสัตว์น้ำใต้ทะเลกว่า 33,000 ชนิด แบบพาโนรามาชัดๆ เต็มตากันไปเลย ราวกับว่าได้เป็นนางเงือกว่ายน้ำอยู่ใต้ทะเล แต่ถ้าอยากสัมผัสโลกใต้ทะเลให้มากกว่านี้ก็เลือกแพ็กเกจนักสำรวจเลย ท่านจะได้เข้าไปในเรือดำน้ำจำลองเพื่อดูฉลามขาว ปลาพะยูน และสัตว์น้ำอื่น ๆ แบบใกล้ชิด ล่องเรือท้องกระจกที่จะเเล่นไปเหนือผิวน้ำให้คุณสังเกตดูเหล่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เบื้องล่าง หรือกิจกรรมให้ท่านได้ลองใส่ชุดดำน้ำและดิ่งลงสู่พื้นที่ภายในตู้อควาเรียมพร้อมกับให้อาหารปลาฉลามในระยะห่างกันไม่กี่เมตร ซึ่งจะให้ประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ตามชายทะเลปกติแน่นอนค่า

ค่าเข้าชม : ภายในพิพิธภัณฑ์มีราคาตั้งแต่ 175 – 315 เดอร์แฮ่ม (ราคาบัตรจะขายแบบแพ็คเกจซึ่งกิจกรรมจะแตกต่างกัน)

6.Osaka Aquarium Kaiyukan โอซาก้า (ประเทศญี่ปุ่น)

Osaka Aquarium KAIYUKAN (大阪水族館海遊館) หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า Kaiyukan (ไคยุกัง) อควาเรียมแห่งหนึ่งที่มีความยิ่งใหญ่ระดับโลกประกอบไปด้วยแท้งก์แสดงสัตว์น้ำหลักๆ จำนวน 15 แท้งก์ และถูกจัดเป็นอควาเรียมที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเอเชีย ซึ่งอควาเรียมแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะจะมาเดินเล่นเพลิดเพลินกันทั้งครอบครัว มีทั้งลิฟต์และล็อกเกอร์เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวที่พาเด็กเล็กมาด้วย จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยุกังนี้ก็คือการนำเอาสัตว์น้ำที่กำเนิดและดำรงชีวิตอยู่ในบริเวณวงแหวนไฟ หรือ Ring of Fire (Pan Pacific Volcanic Zone) รวมถึงวงแหวนชีวิต หรือ Ring of Life (Pan Pacific Life Zone) มาจัดแสดง นอกจากจะทำให้ผู้เข้าชมอควาเรี่ยมได้เพลิดเพลินกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลแล้ว ยังให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของสัตว์น้ำ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่จะร่วมกันอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เอาไว้ด้วย น้องชิลขอแนะนำให้เริ่มต้นชมที่ชั้น 8 ลงมาเลยนะคะจะทำให้เดินชมเดินครบแถมประหยัดเวลาด้วยค่า สำหรับแท้งก์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จะเป็นแท้งก์ Pacific Ocean ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในไคยุกังด้วย ลึกถึง 9 เมตร มีฉลามวาฬ ฝูงปลาตัวเล็กตัวน้อย  และมีปลากระเบนลายจุดคอยเรียกร้องความสนใจอยู่ภายในแท้งก์เดียวกันสวยงามมากๆเลยค่า

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (นักเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมปลายขึ้นไป) 2,300 เยน, ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 2,000  เยน,เด็กโต (อายุ 7-15 ปี) 1,200 เยน, เด็กเล็ก (อายุ 4 – 6 ปี) 600 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเช้าชม

7.Oceanografic เมืองวาเลนเซีย (ประเทศสเปน)

The Oceanografic เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป พื้นที่อันกว้างขวางแบ่งออกเป็นหลายโซน ตั้งอยู่ที่เมืองวาเลนเซีย ประเทศสเปน ภายในศูนย์วัฒนธรรมแห่งอนาคตที่ชื่อว่า The City of Arts and Sciences ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่าง Félix Candela ประกอบด้วยหลังคาใต้น้ำสุดงดงาม 9 หลัง ซึ่งเป็นตัวอย่างของระบบนิเวศที่สำคัญที่สุด โดยแต่ละโซนเป็นตัวแทนของระบบนิเวศทางทะเลหลักของโลกที่แตกต่างกันไป นอกจากจะได้เห็นวาฬเบลูกา ฉลาม วอลรัส เพนกวิน และสัตว์อื่นๆ อีกหลายร้อยสายพันธุ์แล้ว คุณยังจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมความบันเทิงที่ให้คุณได้เรียนรู้และสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ในแบบที่ไม่เคยมาก่อน ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลรวมอยู่กว่า 45,000 ตัว กิจกรรมที่น้องชิลไม่อยากให้พลาดเลยคือกิจกรรมโชว์โลมาที่ Dolphinarium ที่ใหญ่ที่สุดแห่งในโลก ซึ่งมีสระว่ายน้ำถึง 5 แห่ง และรองรับคนดูได้ 2,000 คนเรียกได้ว่าสวยงาม น่าประทับใจแน่นอนค่ะ

ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่ (อายุ 17-65 ปี) 29.70€ , เด็กเล็ก (อายุ 4-12 ปี) 22.30€ ,เด็กโต (อายุ 13-17 ปี) 25.25€

8.Shanghai Ocean Aquarium เซี่ยงไฮ้ (ประเทศจีน)

 Shanghai Ocean Aquarium สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน จัดเป็นสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่มีเนื้อที่กว่า 22,400 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ผู่ตงของเซี่ยงไฮ้ ติดกับ Oriental Pearl TV Tower ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 9 โซน และได้รวบรวมสัตว์น้ำกว่า 450 ชนิด ซึ่งความพิเศษอยู่ที่อุโมงค์ใต้ทะเล 4 แห่ง ที่ยาวถึง 155 เมตร ที่ประกอบไปด้วยกระจกใสแผ่นใหญ่ยาวตลอดแนวอุโมงค์ โดยมีสัตว์น้ำและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ที่น่าใจรวบรวมไว้อยู่ที่นี่ เช่น ปลาฉนากน้ำจืด, แอลลิเกเตอร์จีน, ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน, ปลาฉลามพอร์ตแจ็คสัน, ตะกอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโชว์ให้อาหารปลากระเบนเป็นรอบๆด้วยค่ะ นั่งชมเพลินจนลืมเวลาไปเลยค่า

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 160 หยวน, เด็ก 110 หยวน, ผู้สูงอายุ 90 หยวน

9.Okinawa Churaumi Aquarium โอกินาว่า (ประเทศญี่ปุ่น)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอูมิ โอกินาว่า ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ มีตู้ปลาขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งสามารถจุน้ำทะเลได้ถึง 7,500 ลูกบาศก์เมตร โดยมีเจ้าฉลามวาฬตัวใหญ่ 2 ตัวด้วยกันว่ายโชว์ตัวไปมา จนเป็นรูปภาพติดตาตามนิตยสารท่องเที่ยวทั่วโลก ในอาคารพิพิธภัณฑ์แยกออกไป 3 ชั้น โดยทางเข้าอยู่บนชั้น 3 และทางออกอยู่ที่ชั้น 1 หลังจากที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจะพบกับบ่อน้ำที่อนุญาตให้ทดลองสัมผัสปลาดาว และหอยชนิดต่างๆได้ ถัดไปเป็นแท็งก์น้ำที่จัดแสดงโลกของสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง เมื่อเดินผ่านตู้ปลามาแล้วจะเป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้เวลาชม ณ จุดนี้นานที่สุดคือแท็งก์คุโรชิโอะ  ซึ่งจะเป็นการให้อาหารสัตว์น้ำ มีวันละ 2 ครั้ง ด้านข้างแท็งก์เป็นโรงภาพยนตร์ที่ฉายวีดีโอเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทางทะเลของโอกินาว่า นอกจากนี้ยังมีโชว์ปลาโลมาแสนรู้ สระพะยูน สระเต่าทะเล ที่สำคัญอควาเรียมแห่งนี้ยังมีพื่นที่ติดกับหาดทรายชื่อดังอย่างหาด Emerald Beach อีกด้วย มาครั้งเดียวเที่ยวชม 2 สถานที่ คุ้มค่ามากๆเลยนะคะ

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,850 เยน, เด็กมหาวิทยาลัย 1,230 เยน, เด็ก 610 เยน

10.Aqua Park Shinagawa โตเกียว (ประเทศญี่ปุ่น)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น “แม็กเซลล์ อะควาพาร์ก ชินางาวะ” นั้น ถือเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีความโดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในเรื่องคอนเซ็ปต์ การนำเทคโนโลยี แสง สี เสียง สุดล้ำสมัย มาใช้ในการแสดงโชว์ และทำให้บรรยากาศภายใน มีความน่าตื่นตาตื่นใจ ที่มีทั้งแบบตู้ แบบอุโมงค์ มีเครื่องเล่น ที่ทานของว่าง โชว์การแสดงของปลา แบ่งเป็นทั้งหมด 11 โซน Park Entrance, Magical Ground,Coral Cafe bar,Jellyfish , Ramble, Little Paradise, Wonder Tube, Aqua Jungle, Wild Street, Friendly Square, The Stadium ดีงามสุดๆ และหาชมจากที่อื่นไม่ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่น Port Of Pirates คล้ายๆไวกิ้งบ้านเรา ก็สนุกสนานไม่แพ้กันค่ะ (สามารถซื้อตั๋วได้หน้าเครื่องเล่น)

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 2,300 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 1,200 เยน, เด็กเล็ก อายุ 4 ปีขึ้นไป 700 เยน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 10 อควาเรียม ที่น่าไปที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก !! ที่น้องชิลนำมาเสนอทุกท่านในวันนี้ สำหรับท่านใดมีโอกาสได้ไปเที่ยวอยากหลบร้อนไปเดินชิลๆ ถ่ายรูปชิคๆ กับบรรดาสัตว์โลกใต้น้ำแสนน่ารักก็สามารถไปเที่ยวชมกันได้นะคะ ^^