Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

เจาะลึก 10 สถานที่ท่องเที่ยวสเปน 2 เมืองดังที่ไหนปังต้องดู !!

22 มิ.ย. 2563

สถานที่แนะนำ, เรื่องน่ารู้, ประวัติศาสตร์

“ประเทศสเปน” หรือชื่อทางการคือ “ราชอาณาจักรสเปน” (Reino de España) เป็นประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียร่วมกับโปรตุเกสและอันดอร์รามีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวเทือกเขาพิรินี หากพูดถึงประเทศสเปนหลาย ๆ ท่านคงนึกถึงกีฬาหลากหลายประเภทที่มีชื่อเสียงเช่นสู้วัวกระทิง บาสเก็ตบอล หรือแม้แต่ฟุตบอลใช่ไหมคะ ในวันนี้น้องชิลจะขอนำเสนออีกหนึ่งเสน่ห์ที่พลาดไม่ได้ของประเทศสเปนนั่นก็คือ “สถานที่ท่องเที่ยว” นั่นเองค่ะ โดยเฉพาะ 2 เมืองหลักอย่าง “มาดริด” และ “บาร์เซโลน่า” ด้วยความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชม 2 เมืองดังนี้มากถึงกว่า 35 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว ว่าแต่จะมีสถานที่ใดบ้างนั้นและจะสวยงามแค่ไหนตามน้องชิลมาดูกันได้เลยค่ะ

1. มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) เมืองบาร์เซโลน่า


มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย

“มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย” เป็นสิ่งก่อสร้างระดับโลกที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลน่า หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในสเปน โดยใช้ระยะเวลาสร้างยาวนานที่สุดในโลกนับตั้งแต่ที่วิหารเริ่มสร้างในปี 1882 ออกแบบโดยอันโตนี เกาดี (Antoni Gaudí) สถาปนิกชื่อดังซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนเสียชีวิต ปัจจุบันมหาวิหารยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วเรียบร้อยในปี 2005 โดยคาดว่ามหาวิหารจะแล้วเสร็จในปี 2026 ถึงแม้จะยังสร้างไม่เสร็จแต่ความสวยงามอลังการไม่แพ้โบสถ์อื่นอย่างแน่นอน นอกจากความสวยงามภายนอกแล้ว ภายในมีรายละเอียดทางสถาปัตยกรรมต่างๆ อันน่าทึ่งให้ทุกท่านได้ชมอีกด้วย

2. ถนนคนเดิน ลารัมบลาส (La Ramblas) เมืองบาร์เซโลน่า

ถนนคนเดิน ลารัมบลาส

“ถนนคนเดิน ลารัมบลาส” เป็นถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลน่า โดยอยู่บนพื้นที่ตั้งของตลาด Mercat de la Boqueria ตลอดสองข้างถนนมีสินค้าพื้นเมืองที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านดอกไม้ ร้านขายของที่ระลึก สินค้าแฮนด์เมดฯ ที่ให้ทุกท่านได้เดินช้อปปิ้งเลือกซื้อของชิล ๆ อีกทั้งเพลิดเพลินไปกับความร่มรื่นของต้นไม้และสถาปัตยกรรมของตึกเก่าตลอดทาง นอกจากนี้บริเวณสุดปลายถนนยังเป็นสถานที่ตั้งของอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ผู้ที่ทำการค้นพบทวีปอเมริกาเมื่อปี 1492 อีกด้วย

3. สวนปาร์กเกวย์ (Park Güell) เมืองบาร์เซโลน่า

ปาร์กเกวย์

“สวนปาร์กเกวย์” แห่งนี้สร้างตั้งแต่ปี 1900 ถึง 1914 เป็นหนึ่งในงานด้านสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปใต้ อีกทั้งเป็นแหล่งมรดกโลกที่มีผลงานชื่อดังหลายชิ้นของเกาดีสถานิกชาวสเปนชื่อดัง ซึ่งภายในสวนอันน่าหลงใหลนี้จะประดับประดาไปด้วยสิ่งก่อสร้างรูปทรงแปลกตา รวมไปถึงผลงานการประดับโมเสกสีสันสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ให้ได้เก็บภาพ โดยรอบ ๆ ทุกท่านจะได้ผ่อนคลายกับบรรยากาศแสนสงบท่ามกลางธรรมชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่พักผ่อนเสพงานศิลป์ในบาร์เซโลน่าที่ห้ามพลาด

4. มหาวิหารบาร์เซโลน่า (Barcelona Cathedral) เมืองบาร์เซโลน่า

บาร์เซโลน่า

“มหาวิหารบาร์เซโลน่า” หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “The Cathedral of the Holy Cross and Saint Eulalia” เป็นมหาวิหารที่ใช้ศิลปะเเบบโกธิค เริ่มก่อสร้างในปี 1298 ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 150 ปี ยอดโดมตรงกลางสูง 90 เมตรเเละหอคอยคู่ด้านข้างสูง 53 เมตร ภายนอกมหาวิหารตั้งเด่นสง่า สถาปัตยกรรมสวยสะดุดตา ภายในมีรูปปั้น 140 รูปของนักบุญที่ตกแต่งอย่างสวยงามอีกด้วย

5. คาซา มิลา (Casa Milà) เมืองบาร์เซโลน่า

คาซา มิลา

“คาซา มิลา” หรืออีกชื่อคือ “บ้านสาหร่าย” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่งอีกเเห่งของบาร์เซโลน่า โดยบ้านแห่งนี้นั้นอยู่ห่างจาก Casa Batllo แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังไม่ไกลมากนัก สำหรับ “Casa Mila” เป็นภาษาสเปนหมายถึงบ้านของ Mila ซึ่งบ้านแห่งนี้ออกแบบโดย เกาดี (Gaudi) สถาปนิกชาวสเปนตามความต้องการของครอบครัวของ Mila และในปัจจุบันบ้านแห่งนี้ยังมีผู้คนอยู่อาศัยอยู่จริง ๆ นับเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจ แม้ว่าหลายๆ คนจะมองว่าเป็นผลงานที่ดูเรียบง่ายเมื่อเทียบกับผลงานชิ้นอื่น ๆ ของเกาดีก็ตาม แต่มันกลับแฝงไปด้วยรายละเอียดและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนในการออกแบบของเกาดีเป็นอย่างดีทีเดียว

6. พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริด (Royal Palace of Madrid) เมืองมาดริด

พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริด

“พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริด” หรือ “ปาลาซิโอ เรอัล” เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก โดยพระราชวังแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการตกแต่งภายในที่หรูหราอลังการ ตลอดจนคอลเล็กชั่นเครื่องเรือน งานศิลปะ อาวุธ และของประดับตกแต่งจำนวนมหาศาลที่อยู่ในห้องต่าง ๆ ราว 3,400 ห้อง ซึ่งโครงสร้างอาคารที่เห็นอยู่ในปัจจุบันก่อสร้างขึ้นในปี 1738 หลังจากที่ประทับเดิมของราชวงศ์ถูกเพลิงมอดไหม้ นอกจากนี้พระราชวังหลวงยังเปิดให้ผู้เข้าชมสามารถเดินชมห้องต่างๆได้อีกด้วย

7. เอล เอสกอเรียล (El Escorial) เมืองมาดริด

เอล เอสกอเรียล

“เอล เอสกอเรียล” ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกเมื่อปี 1984 ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองห่างจากกรุงมาดริดราว 45 กิโลเมตร โดยพระอารามหลวงแห่งนี้เคยเป็นอดีตพระราชวังหลวงและที่ประทับของกษัตริย์สเปน ในภายหลังยังเป็นที่ประทับสุดท้าย (สถานที่ฝังพระศพ) ของกษัตริย์สเปนมากมายหลายพระองค์ตลอดช่วง 5 ศตวรรษที่ผ่านมา สำหรับผู้เข้าชมสามารถเดินสำรวจตัวอาคาร ชมเรื่องราวเบื้องหลังของแต่ละห้องได้ไม่ว่าจะเป็น หอประชุมนักบวช ห้องศาสตราวุธ หอสมุด หรือสถานที่บรรจุพระศพ เป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวมากมายชวนให้เข้าชมและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

8. ถนนคนเดิน แกรนเบีย (Gran Via ) เมืองมาดริด

ถนนคนเดิน แกรนเบีย

“ถนนคนเดินแกรนด์เบีย” เป็นถนนสายยอดนิยมของมาดริดเรียกได้ว่าหากได้มาเมืองมาดริดจะต้องมาถนนเส้นนี้อย่างแน่นอน เพราะถนนเส้นนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งและศูนย์กลางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งตลอดสองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากหลายแบบจากสถาปนิกหลายท่านตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 20 นอกจากความสวยงามของตึกต่าง ๆ แล้ว ย่านนี้ในช่วงกลางคืนก็คึกคักไม่แพ้กันเพราะที่นี่เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และบาร์ต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมเสมือนถนนที่ไม่เคยหลับใหลเลยก็ว่าได้

9. จัตุรัสพลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) เมืองมาดริด

จัตุรัสพลาซ่ามายอร์

“จัตุรัสพลาซ่ามายอร์” เป็นลานกว้างยอดนิยมของชาวสเปนและนักท่องเที่ยวโดยมีรูปปั้นกษัตริย์ฟิลิเปที่ 3 บนหลังม้าตั้งอยู่ใจกลางลานซึ่งเป็นผลงานของ Pietro Tacca และ Giambologna นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ จัตุรัสยังเต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ  ร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรม อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานสำคัญต่าง ๆ ของเมืองเช่น เคานต์ดาวน์ช่วงปีใหม่ และงานรื่นเริงของเมือง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มาถึงมาดริดแล้วไม่ควรพลาด

10. ประตูพระอาทิตย์ (Puerta del Sol) เมืองมาดริด

ประตูพระอาทิตย์

“ประตูพระอาทิตย์” หรือ Puerta del Sol เป็นจัตุรัสสาธารณะหลักของเมืองโดยมีตรงกลางจัตุรัสเป็นที่ตั้งของรูปปั้นกษัตริย์คาร์ลอสที่ 3 ปัจจุบันเป็นที่จัดงานทุกรูปแบบตั้งแต่กิจกรรมทางการเมืองไปจนถึงเคานต์ดาวน์เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งบริเวณรอบจัตุรัสจะเต็มไปด้วยร้านค้าท้องถิ่น ร้านอาหาร และรูปปั้นต่าง ๆ ไปจนถึง “Bear and the Madroño Tree” หรือ “หมีเกาะต้นสตรอว์เบอร์รี่” อันโด่งดังที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นกัน ถือเป็นจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวมักจะมานัดพบ หรือเริ่มต้นเพื่อที่จะไปสถานที่อื่น ๆ อีกด้วย

น้องชิลเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านอยากจะไปเยี่ยมชมประเทศสเปนบ้างแล้วใช่มั้ยคะ เพราะหลายสถานที่เต็มไปด้วยศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ รับรองได้ว่าหากท่านใดได้ไปชมของจริงจะต้องหลงเสน่ห์จนอยากไปอีกครั้งอย่างแน่นอนค่าาา ^^