Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

12 เรื่องควรรู้ก่อนไป “ดูไบ” สวรรค์แห่งตะวันออกกลาง

09 มิ.ย. 2563

ดูไบ เรื่องน่ารู้

"ดูไบ" เป็นเมืองศิวิไลซ์ ที่มีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากและยังเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ที่สามารถจับต้องได้จริงๆ อีกด้วย แต่ต่อให้ดูไบจะมีความเจริญก้าวหน้ามากแค่ไหนบ้านเมืองของเขาก็มีกฎระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติที่เข้มงวดอยู่เช่นกัน น้องชิลจึงได้รวบรวมข้อควรปฏิบัติที่นักท่องเที่ยวควรรู้มาแนะนำให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

ดูไบ (Dubai)

เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศมีพื้นที่ประมาณ 3,225 ตารางกิโลเมตร ดูไบถือเป็นเมืองแห่งความมหัศจรรย์ เพราะที่ถูกผันแปรจากดินแดนทะเลทรายมาสู่ความมั่งคั่งในการค้าและบริการ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และศูนย์กลางธุรกิจ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนทั่วโลกอยากจะมาเยือนและดูความมั่นคั่งของสวรรค์แห่งตะวันออกกลางแห่งนี้นั่นเอง


1. การทักทาย

การทักทาย

สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวดูไบก็คือ การกล่าวคำทักทายนั่นเองค่ะ โดยปกติแล้วชาวดูไบจะให้ความสำคัญกับการต้อนรับและการผูกมิตรเป็นอย่างมากเลยนะคะ ดังนั้นการทักทายเมื่อยามเจอกัน พวกเขามักจะใช้คำทักทายที่สุภาพ แทนการกอดหรือจูบค่ะ อีกทั้งฝ่ายชายเมื่อจะทักทายกับฝ่ายหญิงก็จะไม่ไปจับมือฝ่ายหญิงก่อน เว้นแต่ฝ่ายหญิงจะยื่นมือให้จับก่อนเท่านั้นนะคะ


2. สภาพอากาศ

 สภาพอากาศ

สภาพอากาศของดูไบ : มี 2 ฤดูกาลด้วยกัน นั่นก็คือ ฤดูร้อนและฤดูหนาว
ฤดูร้อน : อยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน อากาศร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 30 - 44 องศาเซลเซียส
ฤดูหนาว : อยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเมษายน อากาศจะหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 17 - 20 องศาเซลเซียส โดยช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนมีนาคม อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 19 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าแจ่มใส ถือเป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปเที่ยวดูไบมากที่สุดเลยล่ะค่ะ


3. สกุลเงิน

สกุลเงิน

สกุลเงิน : หน่วยเงินตราดูไบ ดีแรห์ม ( Dirham / Dh / AED ) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดีแรห์ม ประมาณ 9.5 บาท หรือ 3.65 ดีแรห์ม = 1 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมและสถานที่ต่างๆ จะรับทั้งเงินสดและบัตรเครดิต แต่เงินสดจะรับเฉพาะสกุลดีแรห์มเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่สะดวกแลกเงินสกุลดีแรห์มมาจากไทย ควรนำดอลลาร์สหรัฐติดมาเพื่อแลกเป็นดีแรห์ม เพราะได้อัตราแลกเปลี่ยนดีที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ ขณะที่เงินบาทไทยก็สามารถแลกได้ตามร้านรับแลกเงินและธนาคารส่วนใหญ่ แต่จะเสียส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนสูงกว่ามากนะคะ


4. การแต่งตัว

การแต่งตัว

กฎทั่วไปของการแต่งตัวเมื่อไปดูไบ หลายคนเวลาที่จะไปเที่ยวดูไบก็จะเกิดความสงสัยและกังวลว่าจะต้องแต่งตัวแบบไหนถึงจะเหมาะสมเนื่องจากดูไบเป็นเมืองมุสลิม ดังนั้นจึงมีวิธีการแต่งกายในที่สาธารณะมาฝากกันค่ะ

สำหรับผู้หญิง :

 1. ควรแต่งกายให้ปกปิดทุกส่วนตั้งแต่ไหล่ลงมาถึงหัวเข่า
 2. หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อที่เผยให้เห็นหน้าอก ระวังเสื้อผ้าที่ดูรัดรูปหรือโปร่งบางและไม่ควรสวมใส่เสื้อแขนกุด
*3. ห้ามสวมชุดว่ายน้ำหรือชุดบิกินีนอกบริเวณสระว่ายน้ำหรือนอกชายหาด  

สำหรับผู้ชาย : 

 1. ไม่ถอดเสื้อในที่สาธารณะ
 2. หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงขาสั้น
*3. ห้ามสวมชุดว่ายน้ำนอกบริเวณสระว่ายน้ำหรือนอกชายหาด
 4. ห้ามปลดกระดุมเสื้อเพื่ออวดขนหน้าอก

*สำหรับชุดว่ายน้ำหรือชุดบิกินีนั้นได้รับอนุญาตให้สวมใส่ได้ในบริเวณรอบสระว่ายน้ำหรือที่ชายทะเลเท่านั้น การเปลือยท่อนบนเพื่ออาบแดดถือเป็นเรื่องต้องห้ามในดูไบหรือพูดอีกทีก็คือผิดกฎหมายเลยล่ะค่ะ สำหรับบริเวณชายหาดสาธารณะผู้ชายควรจะใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นนะคะ


5. มารยาทในการรับประทานอาหารและการให้ทิปในร้านอาหาร 

การรับประทานอาหาร

1. ไม่นิยมใช้มือซ้ายหยิบจับหรือยื่นอาหาร ถ้วยชา-กาแฟหรือแก้วน้ำให้ผู้อื่น
2. ห้ามรับประทานอาหารโดยใช้มือซ้าย
3. ผู้ที่ถูกเชิญไปเป็นแขกไม่ควรนำอาหาร เครื่องดื่มหรือของขวัญไปในงานของเจ้าภาพ
4. ขณะอยู่ในงานไม่ควรจะปฏิเสธชา-กาแฟ ที่ทางเจ้าภาพให้ เพราะถือเป็นการเสียมารยาทอย่างมากและไม่ควรดื่มเกิน 3 ถ้วย
5. ผู้ที่ถูกเชิญไปควรอยู่ให้ถึงช่วงเวลาดื่มชา-กาแฟมื้อสุดท้าย หากกลับก่อนก็ถือเป็นการเสียมารยาทมากเช่นกัน
6. แม้ว่าร้านอาหารใหญ่ๆ ในตัวเมืองจะรวมค่าบริการในใบแจ้งค่าอาหารแล้ว แต่การให้ทิปพนักงานเป็นเงินสดประมาณร้อยละสิบของค่าอาหาร ถือเป็นมารยาทที่พึงปฎิบัติเพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับมื้ออาหารที่อร่อยหรือการบริการที่ดีนั่นเอง


6. ชาวมุสลิมไม่ทานผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู

เนื้อหมู

หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าคนดูไบที่เป็นชาวมุสลิมไม่รับประทานเนื้อหมูหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีส่วนผสมจากหมู ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่เน้นไปทางเนื้อสัตว์อื่นๆ เช่น เนื้อแพะ เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปลา และธัญพืช เป็นต้น หรือหากในร้านอาหารใดที่มีเมนูเนื้อหมูก็จะมีฉลากเล็กๆ บอกไว้ข้างรายการอาหารเลยค่ะ


7. การถ่ายรูป

การถ่ายรูป

เมื่อเราไปท่องเที่ยวทั้งทีแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การถ่ายภาพใช่ไหมล่ะคะ แต่สำหรับที่ดูไบหากเราต้องการจะถ่ายภาพสถานที่ราชการต่างๆ และสิ่งก่อสร้างสำคัญที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นถือเป็นเรื่อง "ผิดกฎหมาย" รวมถึงการถ่ายภาพสตรีตามท้องถิ่น ยกเว้นว่าจะได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวก่อน เนื่องจากในภูมิภาคนี้มีความเชื่อที่ว่ากล้องถ่ายรูปสามารถดูดวิญญาณของผู้คนได้ มารยาทที่ดีของนักท่องเที่ยวก่อนถ่ายรูปผู้คนแนะนำว่าควรสอบถามหรือขออนุญาตบุคคลเหล่านั้นก่อนนะคะ


8. เทศกาลเดือนถือศีลอด (รอมฎอน)

รอมฎอน

เทศกาลรอมฎอน เป็นเทศกาลประจำปีตามปฏิทินมุสลิม ซึ่งมีระยะเวลา 30 วัน และจะเลื่อนเร็วขึ้นทุกปีเป็นเวลา 10 วัน ในช่วงรอมฎอนผู้นับถือศาสนาอิสลามจะงดอาหารและเครื่องดื่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นไปจนถึงพระอาทิตย์ตก จึงทำให้ ร้านอาหารต่างๆ และร้านกาแฟจะปิดทำการในช่วงกลางวัน โดยจะเริ่มเปิดทำการหลังเวลา 20.00 น. ไปจนถึงกลางดึก ยกเว้นร้านอาหารตามโรงแรมบางแห่งที่ยังคงเปิดให้บริการซึ่งต้องสอบถามเป็นรายกรณีไป สำหรับซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่ยังคงเปิดให้บริการทั้งวันตามปกติ สำหรับส่วนราชการและธนาคารจะเปิดให้บริการในช่วงกลางวัน แต่อาจจะปิดทำการเร็วขึ้น การดื่มน้ำและรับประทานอาหารในที่สาธารณะในช่วงรอมฎอน แม้จะไม่ใช่โดยผู้นับถือศาสนาอิสลามก็ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายนะคะ