Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

กาญนะจ๊ะบุรี กับ 13 ที่เที่ยวสุดชิคเมืองกาญฯ ต้องตามไปเช็คอิน

28 มิ.ย. 2563

ไทย ชมธรรมชาติ, ชมทิวทัศน์, ผจญภัย, ชมสถาปัตยกรรม, ศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นสถานที่แนะนำ

เที่ยวเมืองกาญฯ เสน่ห์แห่งความหลากหลาย หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิต เมืองแห่งประวัติศาสตร์ อีกทั้งธรรมชาติสุดอันซีน เที่ยวใกล้กรุงกับ 13 สถานที่สุดชิค ที่ต้องตามไปเช็คอิน ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ!!

จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเทือกเขาสูง โดยมีแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อยที่ไหลขนานลงมาบรรจบกัน และด้วยความที่เป็นจังหวัดใหญ่ กาญจนบุรีจึงมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย หากจะเที่ยวกาญจนบุรีให้ทั่ว คงต้องใช้เวลาหลายวัน และในวันนี้น้องชิลจะพาไปส่องสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดกาญจนบุรีกันค่ะ กับ 13 ที่เที่ยวสุดชิคเมืองกาญฯ ต้องตามไปเช็คอิน จะมีที่ไหนบ้างนั้น? ไปชมกันเลยค่ะ


1. ต้นจามจุรียักษ์

ต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรียักษ์

ตื่นตากับความอลังการกับ ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Raintree) ที่ยืนต้นตระหง่านท้าทายกาลเวลาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ มายาวนานกว่า 100 ปีอันเป็นความงามที่หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน โดยต้นจามจุรีหรือก้ามปูยักษ์ต้นนี้สามารถวัดขนาดของลำต้นได้เท่ากับ 10 คนโอบ รัศมีทรงพุ่มของต้นประมาณ 25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ของร่มเงายาวประมาณ 51.75 เมตร สามารถวัดความสูงของต้นจากพื้นดินสู่ยอดได้ประมาณ 20 เมตรเลยทีเดียว และความใหญ่โตที่มาพร้อมกับการแผ่กิ่งก้านสาขาสวยงามเกินคำบรรยายนี่เอง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแทบทุกคน เมื่อเดินทางมาเยือนจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ต้องแวะเวียนไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกคู่กับจามจุรีต้นนี้ราวกับ ที่นี่อีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองกาญจน์ไปแล้วโดยปริยาย

ที่ตั้ง: ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71000


2. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว (River Kwai Bridge) สะพานเหล็กแห่งนี้คือแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดและเป็นเสมือนดังสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรีเลยทีเดียว โดยสะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้ได้รับปรับปรุงและซ่อมแซมขึ้นใหม่หลังสงครามยุติลงจนสามารถใช้งานได้เหมือนเดิม ปัจจุบัน ในทุกปีราว ๆ ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม จะมีการจัดงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การสร้างรถไฟสายมรณะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี การแสดงพื้นบ้าน การออกร้าน จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และการแสดงแสง สี เสียง สร้างความตระการตาให้กับสะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้

ที่ตั้ง: ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71000


3. ตลาดน้ำกองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์

ตลาดน้ำกองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์
ตลาดน้ำกองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์
ตลาดน้ำกองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์

ตลาดน้ำกองถ่ายฯ ค่ายสุรสีห์ (Surasi Camp Floating Market) ใครที่รู้จักภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์อย่าง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวร" คงจะจินตนาการถึงพระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาท แห่งกรุงศรีอยุธยา และจดจำกรุงหงสาวดีที่มีสิงห์คู่ขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่หน้าท้องพระโรงได้ นั่นคือผลงานจากแผ่นฟิล์มของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ใครต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมเหล่านั้น เหมือนว่าอยู่ในสถานที่จริง สามารถเข้ามาเยือนสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์มหากาพย์สุดอลังการ บนเนื้อที่กว่า 1,500 ไร่ ในพื้นที่กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ตำบลลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทางกองพลหารราบที่ 9 ยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี และปรับปรุงให้เป็นตลาดน้ำแบบย้อนยุค เพื่อเป็นการย้อนตำนานจากเมืองหน้าด่านในอดีตสู่ตลาดน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวของจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อได้มาเดินอยู่บนเส้นทางที่ทอดยาวไปสู่ท้องพระโรงของกรุงหงสาวดี ก็ดูเสมือนว่าเราได้ทะลุมิติเวลากลับไปในช่วงที่เกิดสงครามไทย-พม่า โดยที่นี่ได้จัดเตรียมชุดโบราณไว้ให้บริการกับนักท่องเที่ยว เพื่อสวมใส่แล้วถ่ายภาพกับฉากภาพยนตร์ได้ แต่เมื่อย้อนกลับไปดูภาพ

ที่ตั้ง : ค่ายสุรสีห์ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดจังหวัดกาญจนบุรี 71190


4. สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค กาญจนบุรี

สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค กาญจนบุรี
สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค
สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค
ขอบคุณภาพจาก : Somewhere Someone

สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค กาญจนบุรี (Safari Park) เป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกในกาญจนบุรี โดยแบ่งส่วนต่าง ๆ ออกเป็น 8 โซนด้วยกัน โดยนักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถมินิบัสเข้าไปในแต่ละโซน ได้แก่ โซนกวางฟลอโลว์สีแฟนซี โซนหมีควาย โซนแบล๊คบัคและเนื้อทราย โซนเสือโคร่ง โซนสิงโตอัฟริกา โซนเสือดาว โซนกวางดาวอินเดีย กวางฟลอโลว์สีขาว นกอีมู และโซนยีราฟ ม้าลาย ลามา นกกระจอกเทศ และนกฟลามิงโก้ สัตว์ทุกตัวที่นี่จะเดินเข้ามาหานักท่องเที่ยวที่รถ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหาร-ถ่ายรูป และสัมผัสได้ใกล้ชิดอย่างมาก ถึงขนาดว่าสามารถ "กอดคอยีราฟถ่ายรูป" ได้เลยทีเดียว หรือ "ป้อนอาหารด้วยปาก" ก็ยังได้ ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกตื่นเต้น สนุกสนานมาก โซนสัตว์ที่อันตรายกรุณางดเปิดกระจก เช่น เสือ, สิงโต และ หมีควาย เพื่อป้องกันสัตว์ไม่เข้ามาใกล้หรือทำอันตรายแก่นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถนำรถส่วนตัวเข้าเที่ยวชมสวนสัตว์เปิด หรือใช้บริการรถมินิบัสของทางสวนสัตว์ซึ่งบริการฟรี และที่นี่มีบริการให้อาหารสัตว์ด้วยการซื้อขันอาหารจากด่านขายบัตรผ่านประตู ราคา ชุดละ 100 บาท (มี 4 ขัน) เพื่อนำไปป้อนอาหารสัตว์กินพืชภายในโซนได้ อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ของช้างแสนรู้ การแสดงจับจระเข้ด้วยมือเปล่า และลานแสดงนกมาคอว์ให้ได้ชมกันด้วยค่ะ

ที่ตั้ง: 99 ถนนลาดหญ้า-บ่อพลอย ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี 71160


5. เมืองมัลลิกา ร.ศ.124

เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
เมืองมัลลิกา ร.ศ.124

เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 (Mallika R.E 124) สร้างบนพื้นที่กว่า 60 ไร่ เป็นการสร้างเมืองเสมือนย้อนมิติไปในยุคอดีต เมื่อ 114 ปี สมัยแผ่นดินรัชกาลที่ 5 หลังประกาศเลิกทาสโดยจำลองบรรยากาศของยุคนั้นทั้งอาคาร บ้านเรือน เช่น เรือนไทยหมู่ 10 หลัง เรือนแพ บ้านคหบดี ซึ่งเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่ใช้เสากว่า 100 ต้น สะท้อนสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ทั้งขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การแต่งกาย การประกอบอาหารด้วยอุปกรณ์แบบโบราณ เช่น โม่หินใช้โม่แป้ง กระต่ายขูดมะพร้าว ฯลฯ งานฝีมือ เช่น งานใบตอง ดอกไม้ เครื่องแขวน การแกะสลัก จักสาน พร้อมทั้ง มีการแสดง เช่น โขน การฟ้อนรำ การละเล่นต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ มีการบริการรถลากที่เรียกกันว่ารถเจ๊ก ให้นั่งชมสถานที่โดยรอบ และบริการเครื่องแต่งกายชุดไทยให้เช่าสวมเข้ากับบรรยากาศ

ที่ตั้ง : 168 หมู่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 71150


6. วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ

จุดเด่นของวัดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาให้มาเยี่ยมชม วัดถ้ำเสือ (Wat Tham Suea) แห่งนี้ คือ พระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี นามว่าหลวงพ่อชินประทานพร ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2516 โดยตัวองค์พระประดับโมเสกสีทองอร่ามทั้งองค์โดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา การขึ้นไปยังพระพุทธรูปจะต้องเดินขึ้นบันไดนาค ต้นบันไดมีสัตว์หิมพานต์สีสันสวยงามตั้งอยู่หลายตัว บันไดทางขึ้นนี้มี 157 ขั้น หากไม่สะดวกที่จะเดินขึ้นบันได ทางวัดมีรถรางบริการ ขณะเดินหรือนั่งรถรางขึ้นเขาสามารถมองลงไปชมชมวิวทิวทัศน์ทะเลสาบและเขื่อนวชิราลงกรณ์โดยรอบได้ในมุมกว้าง ที่อยู่ถัดจากองค์พระพุทธรูป คือ พระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท องค์พระเจดีย์มีขนาดใหญ่ มีความสูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ เก้าชั้น แต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปสำริดประดิษฐานอยู่ ภายในยังมีจิตรกรรมฝาผนังงดงาม มีบันไดเวียนสำหรับขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ชั้นที่เก้า ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของพระเจดีย์ โดยพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ภายในได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย หน้าต่างอีกด้านหนึ่งของเจดีย์ยังสามารถมองไปเห็นวิหารจีนของวัดถ้ำเขาน้อยที่ตั้งอยู่ใกล้กันและมีความสูงใกล้เคียงกัน ด้านข้างองค์พระพุทธรูปยังมีอุโบสถทรงจตุรมุข มีซุ้มเสมารอบ 8 ทิศเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยที่มีลวดลายสวยงามวิจิตรด้านหลังสามารถมองลงไปเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาและทุ่งนาสีเขียว

ที่ตั้ง : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี 71110


7. แคมป์ช้างวังโพ

แคมป์ช้างวังโพ
แคมป์ช้างวังโพ
แคมป์ช้างวังโพ
ขอบคุณภาพจาก : Flashxoxo    ว่     

แคมป์ช้างวังโพ (Elephant Camp Chang Wang Pho) แคมป์ช้างเก่าแก่ให้ที่เปิดให้บริการนานกว่า 12 ปีซึ่งเกิดจากความตั้งใจที่จะทำให้ชนเผ่าชาวเขามีรายได้ สามารถเลี้ยงตัวเองได้ จึงได้มีการสร้างงานให้กับชาวเขาโดยให้เข้ามาทำงานในแคมป์ช้าง โดยในระยะเริ่มแรกนั้นมีช้างเพียง 7 เชือก และได้เพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก 4 เชือกรวมเป็น 11 เชือกในปัจจุบัน ภายในแคมป์ช้าง แห่งนี้ นักท่องเที่ยวได้สนุกกับการนั่งช้าง ชมการแสดงช้างแสนรู้ รวมทั้งล่องแพไม้ไผ่ที่ทางแคมป์จัดเตรียมไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจด้วย

ที่ตั้ง : ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 71150



8. อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเอราวัณเคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาคกลาง จากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 6 ประจำปี 2549 ยิ่งทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น ภายในอุทยานมีน้ำตกเอราวัณ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี น้ำตกเอราวัณเกิดจากลำห้วยม่องไล่ไหลผ่านลงมาจากยอดเขา และผาสูงราว 2,100 เมตร ก่อเกิดน้ำตกที่มีระยะทางยาวถึง 1,500 เมตร และแบ่งได้เป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย นอกจากความสนุกจากสายน้ำตกแล้ว นักนิยมไพรจะได้สัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์จากการสำรวจผืนป่าไปบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณที่มีระยะทาง 1,060 เมตร เส้นทางสายนี้ใช้เวลาเดินราว ๆ 30 นาที นักท่องเที่ยวจะได้ชมทั้งป่าดิบเขา จุดชมวิว และป่าผลัดใบที่สวยงาม

ที่ตั้ง : ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี 71250



9. น้ำตกไทรโยคใหญ่

น้ำตกไทรโยคใหญ่
น้ำตกไทรโยคใหญ่
น้ำตกไทรโยคใหญ่

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Water Fall) หรือเรียกอีกชื่อว่า น้ำตกเขาโจน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยคใหญ่ จะมีน้ำมากในฤดูฝน และในอดีตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เคยเสด็จประพาสและได้พรรณาถึงความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ ภายในอุทยานฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง บริเวณใกล้เคียงมีถ้ำเล็ก ๆ อยู่ 3 ถ้ำ และมีจุดชมวิวทิวทัศน์บนสะพานแขวนข้ามแม่น้ำแควน้อย ที่สามารถข้ามไปเล่นน้ำยังฝั่งตรงข้ามน้ำตกได้ บริเวณอุทยานฯ มีบริการร้านอาหาร แพพัก แพล่อง เรือเช่า บ้านพัก ค่ายพักแรม และสถานที่กางเต็นท์อีกด้วย

ที่ตั้ง : ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 71150



10. เหมืองปิล็อก

เหมืองปิล็อก
 เหมืองปิล็อก
 เหมืองปิล็อก
ขอบคุณภาพจาก : Luckiest Me

เปิดตำนานเหมืองอันลึกลับในอดีตที่ตั้งอยู่กลางป่าดิบทึบ กลางอ้อมกอดของขุนเขานามว่า เหมืองปิล็อก (Pilok Mine) ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางป่า ที่นำพาทุกคนเข้าไปสัมผัสธรรมชาติน่าหลงใหล และบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีต ครั้งเมื่อผืนดินแห่งนี้เต็มไปด้วยแร่ที่มีค่า เสมือนเป็นขุมทองของนักแสวงโชคจากทั่วทุกสารทิศ

ที่ตั้ง : ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180



11. เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก
เขาช้างเผือก
เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก (Khao Chang Phueak) พบกับเส้นทางที่ได้รับการเปรียบเปรยว่าจะทำให้คุณรู้สึกราวกับเดินอยู่บนก้อนเมฆก็ไม่ปานบนยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิที่อุดมไปด้วยผืนป่าบริสุทธิ์ เขาช้างเผือกนั้นมีความสูงประมาณ 1,249 เมตรเหนือระดับ น้ำทะเลปานกลาง มีไฮไลต์ของเส้นทางเดินป่าที่เรียกกันว่า "สันคมมีด" ที่มีลักษณะเป็นสันเขาที่สวยงาม และมาพร้อมกับความท้าทายหวาดเสียว แต่ทว่าเมื่อขึ้นไปถึงแล้วความกลัวจะมลายหายไปกลายเป็น ความตื่นตาตื่นใจจากทัศนียภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศาที่ทุกคนจะได้ดื่มด่ำกันแบบเต็มตาจากบนนั้น เส้นทางการเดินป่านั้นมีระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง โดยต้องพักค้างแรม กางเต็นท์บนยอดเขาหนึ่งคืน และเปิดให้ท่องเที่ยวได้ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปีเท่านั้น ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกบนยอดเขา ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีร้านค้า และอุทยานฯ จำกัดนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเที่ยวเพียงวันล่ะไม่เกิน 60 คนเท่านั้นต่อวัน

ที่ตั้ง : ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180




12. สะพานมอญ

สะพานมอญ
สะพานมอญ
สะพานมอญ

สะพานมอญ (Mon Bridge) หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ สะพานที่ร้อยดวงใจของชาวมอญอำเภอสังขละบุรีเข้าไว้ด้วยกัน เพราะเป็นสะพานไม้ที่พวกเขาร่วมแรงร่วมใจ สร้างกันขึ้นมาเพื่อข้ามลำน้ำซองกาเลีย โดยมีหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการามผู้กุมศรัทธาของชาวสังขละบุรีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของการสร้างสะพานไม้แห่งนี้ ที่นี่จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "สะพานอุตตมานุสรณ์" และไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรีเท่านั้น หากยังเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยด้วยความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบงของประเทศเมียนมาร์เลยทีเดียว

ที่ตั้ง : ซอยสะพานไม้ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71240


13. เมืองบาดาล

เมืองบาดาล
มืองบาดาล
มืองบาดาล

เมืองบาดาล (Muang Ba Dan) นี่คืออุโบสถหลังเก่าของวัดวังก์วิเวการามหลังเดิม ก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อนเขาแหลมขึ้นมาใน ปี พ.ศ. 2527 และเมื่อมีการสร้างเขื่อนแห่งนี้ขึ้นย่อมต้องการสร้างทะเลสาบในการกักเก็บน้ำ จึงได้มีการย้าย วัดวังก์วิเวกรามไปอยู่ในทำเลที่ตั้งแห่งใหม่พร้อม ๆ กับการอพยพชาวบ้านอีกหลายครัวเรือนในสมัยนั้น ก่อนที่จะมีการปล่อยน้ำลงสู่ทะเลสาบ และได้จมอุโบสถเดิมไว้ใต้น้ำมานานนับสิบปี ทว่าปัจจุบันโบสถ์หลังนี้ ได้กลายเป็นหนึ่งใน Unzeen Thailand ที่จะสามารถเยี่ยมชมได้ในช่วงฤดูแล้งเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ระดับน้ำลดต่ำลงมากที่สุดด้วยเช่นกัน ความน่าตื่นตาของซากโบสถ์หลังเก่าคลาสสิกที่โผล่ขึ้นมาตั้งตระหง่านอยู่บนผืนดินหลังจมน้ำเป็นเวลานาน ได้กลายเป็นความมหัศจรรย์แห่งอำเภอสังขละบุรีที่ทุกคนต้องหาโอกาสมาชมด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต

ที่ตั้ง : 66 ซอยศรีสุวรรณคีรี ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71240


และทั้งหมดนี้คือ 13 ที่เที่ยวสุดชิคเมืองกาญฯ ต้องตามไปเช็คอิน ที่น้องชิลได้เลือกสรรมาให้กับเพื่อน ๆ ให้ได้ดื่มด่ำและเพลิดเพลินไปกับมนต์เสน่ห์เมืองกาญฯ ไว้เช็คอินอัพเดทลงโซเชียล เพิ่มยอดไลก์เรียกยอดเลิฟกันนะคะ ส่วนครั้งหน้าน้องชิลจะนำที่เที่ยวของจังหวัดอะไรมาฝากทุกท่านกันอีกนั้น อย่าลืมรอติดตามกันนะคะ