Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

อร่อยจนลืม FAT..พาเที่ยว 5 โรงงานช็อกโกแลตทั่วโลก

26 มิ.ย. 2563

ยุโรป, ญี่ปุ่น, อเมริกา, ออสเตรเลีย สถานที่แนะนำ, เรื่องน่ารู้

“ช็อกโกแลต” ขนมแสนหวานหนึ่งในของโปรดของใครหลาย ๆ ท่านที่มีการดัดแปลงนำมาทำเป็นขนมชนิดอื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเค้ก ฟองดูว์ หรือแม้แต่ทานเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งทุกเมนูก็ล้วนแต่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยรสชาติที่หอมหวาน ทานง่าย และมีประโยชน์มากมายจึงไม่แปลกที่ไม่ว่าจะวัยไหนต่างก็หลงรักช็อกโกแลตทั้งนั้น แต่หนึ่งในความฝันของผู้รักช็อกโกแลตนั้นไม่ใช่แค่การทานช็อกโกแลตที่รสชาติเยี่ยมเพียงอย่างเดียว การได้ไปเยี่ยมถึงโรงงานผลิตก็คงจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ วันนี้น้องชิลขอเอาใจ “Chocolate Lover” ด้วยการพาทัวร์โรงงานช็อกโกแลตชื่อดังจากทุกมุมโลกกันค่ะ ขอบอกเลยนะคะว่าผู้ที่รักช็อกโกแลตห้ามพลาด !!


จุดกำเนิดของช็อกโกแลต

“ช็อกโกแลต” เกิดขึ้นมาจากภูมิปัญญาของมนุษย์ในสมัยโบราณกว่า 2,000 ปีที่แล้ว ตามหลักฐานเชื่อว่าเป็นชาวมายาและชาวแอซเทคแห่งอารยธรรมเมโสอเมริกา (หรือเมืองเม็กซิโกซิตี้ในปัจจุบัน) ซึ่งแรกเริ่มเดิมที ชาวมายาได้ค้นพบว่า เมล็ดจากต้นคาเคา (Cacao) มีความลับที่น่าทึ่งซ่อนอยู่และสามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างไม่น่าเชื่อ

          โดยครั้งแรกที่ชาวมายาค้นพบต้นคาเคาที่ป่าฝน และรู้ว่าต้นคาเคานี้สามารถนำมาทำอาหารได้ ชาวมายาได้นำเมล็ดคาเคามาทำเป็นเครื่องดื่ม ด้วยวิธีการนำเมล็ดคาเคามาบดให้ละเอียดแล้วนำไปผสมกับเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ที่มีในถิ่นกำเนิดจนได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติขมและค่อนข้างเฝื่อนขึ้นมา จากนั้นก็ได้พัฒนาเป็นอาหารอื่น ๆ ตามวิวัฒนาการของพวกเขา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่งเอามาก ๆ ในยุคนั้น พวกเขาจึงได้ให้ความหมายของคำว่า คาเคา (Cacao) เอาไว้ว่าเป็นอาหารแห่งเทพ จากนั้นชาวมายาเลยยกขบวนไปนำต้นคาเคาจากป่าฝนมาปลูกไว้ที่บ้านของตัวเองเสียเลย จากนั้นก็เก็บเมล็ดคาเคามาประกอบอาหาร เช่น นำไปหมัก คั่ว และบดให้เป็นเนื้อเหนียว ๆ ไว้สำหรับชงเป็นเครื่องดื่ม โดยนำไปผสมน้ำและเครื่องเทศ เช่น พริกไทย หรือแป้งข้าวโพด และนี่ก็เป็นจุดกำเนิดของเครื่องดื่มช็อกโกแลตนั่นเอง


จากเมล็ดคาเคากลายเป็นเครื่องบรรณาการ

          ในช่วงราว ๆ คริสต์ศตวรรษที่ 14 หลังจากผลผลิตจากเมล็ดคาเคาได้ถือกำเนิดขึ้นและเริ่มมีคนจำนวนมากรู้แล้วว่า ต้นคาเคานั้นสามารถนำมาทำอาหารได้ ผลผลิตต่าง ๆ จากเมล็ดคาเคาก็เริ่มเข้าไปเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวแอซเทค (ในขณะนั้นเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของอารยธรรมเมโสอเมริกา หรือเมืองเม็กซิโก ซิตี้ในปัจจุบัน) จึงได้เริ่มมีการซื้อขายเมล็ดคาเคากับชาวมายา จากนั้นช็อกโกแลตจากชาวมายาก็กลายเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของชาวแอซเทค ถึงขั้นที่ว่า ชาวแอซเทคมีการเรียกเก็บเมล็ดคาเคาเป็นเครื่องบรรณาการจากพลเมืองของตนและเชลยศึกแทนเงินเลยทีเดียว ซึ่งชาวแอซเทคนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลต นำมาผสมกับเครื่องเทศต่าง ๆ ให้มีรสชาติมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับชาวมายายุคแรก ๆ นั่นเอง

          ซึ่งในเวลาต่อมาเครื่องดื่มช็อกโกแลตก็ถูกยกให้กลายเป็นเครื่องดื่มเฉพาะไฮโซเท่านั้น จะมีแค่พวกเชื้อพระวงศ์ ขุนนางที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ และพวกที่มีหน้ามีตาในสังคมเท่านั้นถึงจะได้ดื่มช็อกโกแลต และจะนำไปดื่มในช่วงที่มีสาระสำคัญ ๆ เท่านั้น หลังจากนั้นช็อกโกแลตจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่มีบทบาทสำคัญในพิธีพิเศษ ๆ ของราชวงศ์และพิธีทางศาสนา เมล็ดคาเคาในยุคนั้นเลยถูกใช้เป็นเครื่องสักการะเทพเจ้าไปโดยปริยาย


คำว่า “Chocolate” มาจากไหน ?

        ว่ากันว่า คำว่า Chocolate มาจากภาษามายา หมายถึง การดื่มช็อกโกแลต เป็นการรวมกันของคำว่า “Chocol” ของชาวมายาที่แปลว่า “ร้อน” แล้วมาผสมกับคำว่า “atl” ของชาวแอซเทค แปลว่า “น้ำ” รวมกันเป็น “chocolatl” หรือ “ช็อกโกลาตส์” นั่นเอง ก่อนจะเพี้ยนมาเป็นคำว่า ช็อกโกแลต (Chocolate) ตามสำเนียงของชาวอังกฤษในช่วงต่อมานั่นเอง


        หลังจากได้ทราบประวัติคร่าว ๆ ของช็อกโกแลตกันไปแล้วก็มาในส่วนของ “โรงงานช็อกโกแลต” ของเรากันบ้างค่ะ ซึ่งในปัจจุบันก็มีช็อกโกแลตยี่ห้อดังต่างก็ออกมาเปิดโรงงานให้เที่ยวชมกันมากมาย เพื่อให้เห็นถึงที่มาของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ไปจนถึงกระบวนการผลิต ที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็ได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน โดยเฉพาะ “5 โรงงานช็อกโกแลต” ที่น้องชิลคัดมาให้ทุกท่านชมต่อจากนี้เป็นโรงงานช็อกโกแลตที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างแน่นอน ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปชมกันได้เลยค่า

1. Hershey’s Chocolate World

เมืองเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา


Hershey’s Chocolate World : ทุกท่านคงรู้จักเป็นอย่างดีกับ “เฮอร์ชีส์” ช็อกโกแลตยี่ห้อดังระดับโลก โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานเสมือนจริงที่บริษัทเฮอร์ชีส์สร้างขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับช็อกโกแลต และเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้เข้าชมกระบวนการผลิตช็อกโกแลตอย่างใกล้ชิด โดยทุกท่านจะได้ท่องโลกช็อกโกแลตด้วยการนั่งรถไฟชมกระบวนการผลิตแบบจำลองแนวการ์ตูนตื่นตาตื่นใจสุด ๆ อีกทั้งยังรวมถึงยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ด้วยค่ะ เช่น ชมอนิเมชั่น 4D Chocolate Movie , Create Your Own CANDY BAR ที่ให้ทุกท่านได้สนุกสนานเปิดประสบการณ์เลือกส่วนผสมทำช็อกโกแลตด้วยตัวเองกันค่า


2. Meiji Chocolate Factory

เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น


Meiji Chocolate Factory : “เมจิ” ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก โดยทัวร์โรงงานช็อคโกแลตที่เปิดให้ทุกท่านได้ชมนั้น ภายในจะมีโซนนิทรรศการที่จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับช็อกโกแลต ทำความรู้จักกับเมล็ดโกโก้ชนิดต่าง ๆ ไปจนถึงการชมขั้นตอนการผลิตก่อนที่จะเสร็จสมบูรณ์ออกมาเป็นช็อกโกแลตที่ให้ทุกท่านได้ทานนั่นเองค่ะ


3. Maison Cailler

เมืองบรอค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์


Maison Cailler : ช็อกโกแลตที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ “กาเย่ร์” รสชาติหอมหวานชวนฟิน โรงงานแห่งนี้อายุกว่าร้อยปีตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้าเขียวขจีกลางหุบเขา ปัจจุบันเป็นของบริษัทเนสท์เล่ ภายในทุกท่านจะได้ชมประวัติความเป็นมา อุปกรณ์และขั้นตอนกระบวนการผลิตอย่างใกล้ชิดเลยค่ะ อีกทั้งยังมีให้ได้ลองชิมรสชาติแบบฟิน ๆ ด้วยนะคะ


4. Panny’s Amazing World of Chocolate

เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย


Panny’s Amazing World of Chocolate : ผู้ที่รักช็อกโกแลตจะต้องตื่นเต้นกับที่นี่แน่นอนค่ะ เพราะที่นี่ทุกคนจะได้เยี่ยมชมนิทรรศการช็อกโกแลตที่ประกอบไปด้วยชิ้นงานที่ทำจากช็อกโกแลตมากมาย รถไฟที่ทำจากช็อกโกแลต รวมไปถึงรูปปั้นแสนโด่งดังอย่าง David Michelangelo ที่สูงถึง 2 เมตรก็ล้วนแต่ทำจากช็อกโกแลตอีกเช่นกัน นอกจากนี้ไฮไลท์ของที่นี่ยังมีน้ำตกช็อกโกแลตขนาดใหญ่ที่เกิดจากช็อกโกแลตเหลวด้วยอัตราส่วน มากถึง 400 กิโลกรัมต่อ 3 นาทีอีกด้วย เป็นน้ำตกช็อกโกแลตขนาดยักษ์ที่เห็นแล้วต้องใจละลายแน่นอนค่ะ


5. Mars: The Ethel M Factory Tour

เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา


Mars: The Ethel M Factory Tour : หากพูดถึงช็อกโกแลตเคลือบด้วยสีสันต่าง ๆ หลายท่านต้องนึกถึง M&M เป็นอันดับแรก ๆ เลยใช่ไหมคะ เพราะ M&M มีวางจำหน่ายมาอย่างยาวนานและเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ มากมาย โดยที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่คุณแม่ของ Forrest Mars ผู้บริหารบริษัทนี้นั่นเอง ซึ่งที่นี่ทุกท่านจะได้พบกับวิธีทำช็อกโกแลตสูตรเฉพาะ ประเภทเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตช็อกโกแลตไปจนถึงเทคนิคการทำที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่อีกด้วย นอกจากช็อกโกแลตแล้วอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนมาถึงแล้วต้องเข้าชมคือ “สวนกระบองเพชร” ที่มีขนาดใหญ่ประกอบด้วยหินมากถึง 400 ตัน ตกแต่งสไตล์อังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในสวนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยค่า


หวังว่าคงจะถูกใจ “Chocolate Lover” ทุกท่านนะคะ จะเห็นได้ว่ากว่าจะได้เป็นช็อกโกแลตแสนอร่อยที่เราได้ทานกันนั้นต้องผ่านกระบวนการมากมายและในบางที่ใช้เวลาพัฒนาสูตรช็อกโกแลตมากกว่า 10 ปีเลยล่ะค่ะถึงจะได้เป็นช็อกโกแลตในแบบปัจจุบันที่เราเห็นกัน สุดท้ายนี้แม้ว่าช็อกโกแลตจะอร่อยและมีประโยชน์มากมาย แต่น้องชิลก็ขอให้ทุกท่านทานแต่พอดีและรักษาสุขภาพด้วยนะคะ จุ๊บ ๆ


ขอบคุณข้อมูลที่มาของช็อคโกแลตจาก https://cooking.kapook.com/