Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

สายฮิปเตอร์ห้ามพลาด เตรียมกล้องให้พร้อม 9 จุดถ่ายรูปสุดชิคในกรุงเทพฯ

10 มิ.ย. 2563

ไทย สถานที่แนะนำ

ยุคนี้หลายๆ คนชอบการถ่ายรูป... แต่บางคนชอบเป็นตากล้อง บางคนชอบเป็นนางแบบ และบางคนแอบชอบตากล้อง แฮร่!! แล้วชาวชิลสแควร์ชอบ(เป็น)แบบไหนกันคะ?? หลายๆ คนคงอยากจะมีรูปสวยๆ ไว้อัพอินสตาแกรมเพื่อดึงดูดยอดฟอลโลวเวอร์ หรือเปลี่ยนโปรไฟล์เฟซบุ๊คเพื่อเพิ่มยอดไลค์กันใช่ไหมล่ะคะ น้องชิลจึงมีสถานที่ถ่ายรูปชิคๆ ในกรุง สำหรับสายฮิปเตอร์มาแนะนำให้ทุกคนได้ตามไปเช็คอินกันค่ะ

1. สตรีทอาร์ตตลาดน้อย (Talad Noi Street Art)

Talad Noi Street Art
Talad Noi Street Art
Talad Noi Street Art

ที่แรกขอนำเสนอจุดแลนมาร์คในตลาดน้อยนั่นก็คือ สตรีทอาร์ตตลาดน้อย (Talad Noi Street Art) แต่เท่ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ เป็นตลาดย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่ใครหลายคนมักจะมาทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายรูปชิคๆ กับอาคารบ้านเรือน Street Art ที่มีสีสันสดใส ถูกวาดโดย Jayoto ศิลปิน Steet Art ชาวไทย ที่ถ่ายทอดความหมายและเสน่ห์ของตลาดน้อยที่มีทั้งความโดดเด่นในเรื่องอาหารการกินและวัฒนธรรมลงบนกำแพงได้อย่างเป็นเอกลักษณ์เลยทีเดียว หรือจะตระเวนกินอาหารรสเด็ด เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในบริเวณนี้ก็มีค่อนข้างเยอะ หรือแม้กระทั่งมาเพื่อซึมซับบรรยากาศความเป็นตลาดน้อยที่ยังคงความดั้งเดิมไว้ที่นี่ก็ฟิลกู๊ดไปอีกแบบนะคะ

ที่ตั้ง : 282 ซอย ดวงตะวัน ถนน เจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ : วันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.


2. โบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ (Holy Rosary Church)

Holy Rosary Church
Holy Rosary Church
Holy Rosary Church
Holy Rosary Church
Holy Rosary Church

โบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ (Holy Rosary Church) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกยอดแหลมพุ่งขึ้นไปบนฟ้างดงาม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2434 โดยคุณพ่อแดซาลส์ บาทหลวงชาวฝรั่งเศส รวมเวลาในการก่อสร้าง 6 ปี โดยในปัจจุบันโบสถ์หลังนี้มีอายุรวม 120 ปีแล้วนะคะ และได้ขึ้นทะเบียนอนุรักษ์เป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ มุมที่นิยมถ่ายคือ หน้าโบสถ์ เพราะตัวโบสถ์ที่สวยอลังการคล้ายกับโบสถ์ที่ต่างประเทศเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปสุดชิค สายฮิปเตอร์มารับรองต้องไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

ที่ตั้ง : 987 ซอยวานิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 -20.00 น. (วันอาทิตย์เวลา 09:00 น. ของทุกสัปดาห์จะมีพิธีมิสซา)


3. แวร์เฮ้าส์ 30 (Warehouse 30)

Warehouse 30
Warehouse 30
Warehouse 30
Warehouse 30
Warehouse 30

แวร์เฮ้าส์ 30 (Warehouse 30) สถานที่ที่แปลงโฉมโกดังเก่าริมน้ำให้กลายมาเป็น Creative Workspace ที่แทรกด้วยเรื่องกิน ดื่ม ช้อป เวิร์กช็อป หรือแม้กระทั่งดูหนังได้อย่างลงตัว โปรเจกต์นี้เริ่มโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค และ คุณรังสิมา กสิกรานันท์ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Elle Decoration Thailand สร้างสรรค์พื้นที่มากสไตล์จำนวน 7 โกดังให้ตอบสนองกิจกรรมหลากรูปแบบของคนยุคใหม่ สร้างคาแรกเตอร์ของแต่ละโซนเพื่อไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของทุกคน ผ่านโกดังสูงโปร่งที่โดดเด่นด้วยโคมไฟห้อยโหนและบานกระจกขนาดใหญ่ ถือเป็นแหล่งรวมความชิคและความคูลเรียกได้ว่ารวมทีเด็ดไว้ในโกดังเดียวเลยค่ะ

ที่ตั้ง : 52-60 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.


4. ล้ง 1919 (LHONG 1919)

LHONG 1919
LHONG 1919
LHONG 1919
LHONG 1919
LHONG 1919

ล้ง 1919 (LHONG 1919) ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีนริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาดก็คือ ท่าเรือ “ฮวงจุ้งล้ง”  ท่าเรือกลไฟในอดีตสมัยรัชกาลที่ 4 ที่เป็นยุคทองของการค้าไทย-จีน โดยพื้นที่นี้เป็นของตระกูลหวั่งหลี ได้เนรมิตท่าเรือให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง สำหรับตัวเลข 1919 นั่นก็คือ ปี ค.ศ. 1919 ซึ่งเป็นปีที่ตระกูลหวั่งหลีเจ้าของที่ดินในปัจจุบันได้เข้ามาดูแลพื้นที่ตรงนี้ต่อจากตระกูลพิศาลบุตรนั่นเอง “ล้ง1919” ได้รับการบูรณะให้ยังคงสภาพงดงาม มีเรือนไม้ที่เป็นสถาปัตยกรรมจีนโบราณโดดเด่นด้วยจิตกรรมฝาผนังจากช่างฝีมือชาวจีนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 พร้อมกับเติมแต่งปรับปรุงห้องหับต่างๆ ให้เหมาะกับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และนอกจากตัวอาคารที่น่าประทับใจแล้วที่ ล้ง 1919 ยังเป็นสถานที่ตั้งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ที่มีอายุมากกว่า 167 ปี ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของชาวจีนในแผ่นดินไทยอีกด้วย รับรองว่าถ้ามาที่นี่แล้วจะมีภาพเปลี่ยนโปรไฟล์ได้ทั้งปีเลยทีเดียว

ที่ตั้ง : ถนนเชียงใหม่ แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00–20:00 น.


5. โซวเฮงไถ่ (So Heng Tai)

So Heng Tai
So Heng Tai
So Heng Tai
So Heng Tai
So Heng Tai

โซวเฮงไถ่ (So Heng Tai) ตั้งอยู่ในย่านตลาดน้อย บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีอายุกว่า 250 ปีแล้ว เป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีนแบบฮกเกี้ยนแต้จิ๋วที่เรียกว่า “ซื่อเหอหยวน” หรือ “4 เรือนล้อมลาน” ที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงหลังเดียว ที่นี่จึงกลายเป็นจุดเช็คอินของผู้เล่นโซเชียล ด้วยภาพสระน้ำสีฟ้าอมเขียวโอบล้อมด้วยอาคารสถาปัตยกรรมจีน สามารถถ่ายรูปได้ตั้งแต่บริเวณประตูสีแดง ชมลวดลายกระเบื้องจีนที่มีความสวยงาม ปัจจุบันบ้านหลังนี้ด้านล่างเปิดเป็นร้านกาแฟและด้านบนเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชมศิลปะและความเก่าแก่กันได้ ซึ่งทุกคนที่ซื้อเครื่องดื่มจะสามารถขึ้นไปเยี่ยมชมและถ่ายรูปด้านบนได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องไปเช็คอินกันให้ได้นะคะ

ที่ตั้ง : 282 ซอย ดวงตะวัน ถนน เจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ : วันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. วันศุกร์และเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. และปิดทุกวันจันทร์


6. เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์ (ASIATIQUE The Riverfront)

ASIATIQUE The Riverfront
ASIATIQUE The Riverfront
ASIATIQUE The Riverfront
ASIATIQUE The Riverfront

เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์ (ASIATIQUE The Riverfront) แหล่งท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เอาใจคนชอบแช๊ะ! ด้วยการเนรมิตท่าเรือขนถ่ายสินค้าในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เป็นสถานที่ที่สอดแทรกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ว่าจะเป็น วิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา การค้าขายกับต่างประเทศในยุคล่าอาณานิคม พร้อมบอกเล่าถึงความเจริญของสถาปัตยกรรมในยุคนั้น ด้วยการปรับปรุงอาคารเก่าและรักษาโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมในสภาพเดิมไว้เกือบทั้งหมด ส่วนไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ เอเชียทีค สกาย หรือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่นั่นเอง เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่เก๋สุดๆ ไปเลยค่ะ อีกทั้งที่นี่ยังมีอาหารอร่อยหลากหลายสไตล์  ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน ซีฟู้ด ให้ได้เลือกชิมกันอีกด้วยนะคะ ซึ่งทุกคนจะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแบบวิวพาโนราม่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บอกได้คำเดียวเลยว่าฟินเว่อร์

ที่ตั้ง : 2194 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร  เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น.- 24.00 น.


7. อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก (Grand Postal Office in Bang Rak)

Grand Postal Office
Grand Postal Office
Grand Postal Office
Grand Postal Office
Grand Postal Office

อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก (Grand Postal Office in Bang Rak) อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของชาวกรุงที่ต้องมาถ่ายรูปกันให้ได้เลยนะคะ เพราะที่นี่มีความพิเศษตรงตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัยผนวกกับความโมเดิร์น ซึ่งออกแบบโดย นาย หมิว จิตรเสน อภัยวงศ์และพระสาโรชรัตนนิมมานก์ แสดงให้เห็นถึงสไตล์ brutalist ที่เด่นชัดมากในปัจจุบัน ในช่วงเวลาที่มีการก่อสร้างอาคารไปรษณีย์กลางนั้นเป็นช่วงเวลาที่วงการสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลจากสถาปนิกชาวอิตาลีและเยอรมัน ดังนั้นอาคารไปรษณีย์กลางจึงถูกแต่งเติมให้มีด้านหน้าที่ใหญ่โตเป็นเหมือนกล่องขนาดใหญ่และรูปแกะสลักครุฑที่ดูแข็งแรง ปัจจุบันตัวอาคารใช้เป็นที่ตั้งของศูนย์ความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ (TCDC) ใน Creative District ที่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้อีกด้วยนะคะ เหมาะกับสายวินเทจที่จะไปถ่ายรูปชิคๆ เอามาลงโซเชียลอวดเพื่อนได้เลยค่ะ

ที่ตั้ง : 1160 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

เวลาทำการ :


8. สตรีทอาร์ตสวนเฉลิมหล้า (Chalermla Park Graffiti Street Art)

Chalermla Park
Chalermla Park
Chalermla Park

Chalermla Park

สตรีทอาร์ตสวนเฉลิมหล้า (Chalermla Park Graffiti Street Art) ที่นี่เป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะแนว Graffiti จากฝีมือของศิลปินอิสระหลายสิบคนจากทั่วประเทศ ที่ต่างมาฝากฝีไม้ลายมือกันไว้บนกำแพงเก่าที่ดูคลาสสิค กลายเป็นโลเคชั่นสตรีทที่ดูเท่และมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ลวดลายศิลปะบนกำแพงมีสีสันฉูดฉาดสะดุดตา สร้างความแตกต่างแก่กำแพงสีขาวเก่าๆ ทำให้พื้นที่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสุดฮิปที่พลาดไม่ได้เลยนะคะ รับรองว่าเด็ดจริง

ที่ตั้ง : สวนเฉลิมหล้า ซอยเพชรบุรี 18, ถนนเพชรบุรี, เขตราชเทวี, กรุงเทพมหานคร  

เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 - 19.00 น.


9. ช่างชุ่ย (ChangChui)

ChangChui
ChangChui
ChangChui

ChangChui
ChangChui

ปิดท้ายกันที่ ช่างชุ่ย (ChangChui) ดินแดนศิลปะและไอเดียอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของคนเมืองกรุง ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวบรวมความคิดสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ที่อยากหลีกหนีความซ้ำซาก จำเจ ซึ่งที่นี่จะมีการจัดงานศิลปะ ไอเดีย แฟชั่น งานแสดง และกิจกรรมต่างๆ เปลี่ยนผลัดมาให้เราได้ชมกันตลอดแบบไม่หยุดนิ่ง  ซึ่งไฮไลท์เด่นๆ ของที่นี่ก็คือ เครื่องบินลำยักษ์ใหญ่ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งข้างในยังมีแหล่งช็อปปิ้งให้ได้กิน เที่ยว ช้อป รวมไปถึงเป็น Creative Space ให้ผู้คนมาพบปะสังสรรค์กันอีกด้วย บอกเลยว่าที่นี่จะถ่ายกี่รูปก็ไม่เบื่อเลยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง : 460/8 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด  กรุงเทพมหานคร  

เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00 น.


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ แต่ละสถานที่เอาใจสายฮิปเตอร์กันสุดๆ ไปเลย แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม เตรียมเสื้อผ้า หน้าผม และท่าโพสต์ให้พร้อม แล้วแบกกล้องออกไปถ่ายรูปกันเลยดีกว่าค่าา