“ประเทศฟินแลนด์” มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐฟินแลนด์” (Republic of Finland) เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก มีชายแดนติดกับประเทศสวีเดน นอร์เวย์ และรัสเซีย สภาพภูมิประเทศของฟินแลนด์มีลักษณะเป็นที่ราบไม่มีภูเขามากนักแต่จุดเด่นคือมีทะเลสาบและเกาะเป็นจำนวนมาก โดยมีทะเลสาบถึง 187,888 แห่งและมีเกาะถึง 179,584 เกาะ นอกจากนี้ประเทศฟินแลนด์ยังมีอีกไฮไลท์เด็ดที่สามารถมัดใจนักท่องเที่ยวได้อยู่หมัดนั่นก็คือ “แสงเหนือ” ที่สวยงามมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วยว่ากันว่าสวยราวกับอยู่ในโลกของเทพนิยายกันเลยทีเดียว พูดขนาดนี้หลาย ๆ ท่านคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมคะว่านอกจากแสงเหนือแล้วจะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างไปชมพร้อม ๆ กับน้องชิลกันได้เลยค่าา~

เซเนท สแควร์ (Senate Square) ,Helsinki

เซเนท สแควร์ : เป็นจตุรัสกลางเมืองที่สำคัญของเฮลซิงกิ โดยใช้สำหรับจัดกิจกรรมใหญ่ ๆ ใจกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซ์ซานเดอร์ที่ 2 ผู้ซึ่งได้ปฏิรูปนำไปสู่อิสรภาพของฟินแลนด์จากจักรวรรดิรัสเซีย ประดิษฐานตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ค่ะ จตุรัสแห่งนี้รายล้อมด้วยอาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่มีความงดงามให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ชื่นชมและมาถ่ายรูปกันทั้งหมด 4 หลังได้แก่ มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ,ตึกมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ (Helsinki University) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจัตุรัส ,ทำเนียบรัฐบาล (Valtioneuvosto) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจัตุรัส และห้องสมุดแห่งชาติฟินแลนด์ (National Library of Finland) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจัตุรัส หากท่านไหนที่ได้มาเยือนฟินแลนด์ต้องห้ามพลาดที่จะมาจตุรัสแห่งนี้เลยล่ะค่ะ

มหาวิหารอุสเพนสเก้ (Uspenski Cathedral) ,Helsinki

มหาวิหารอุสเพนสเก้ : โบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตประวัติศาสตร์กาตายานอกกา (Katajanokka) ของเมืองเฮลซิงกิ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1864 ออกแบบและก่อสร้างโดยอาเล็กซี กอร์นอสตาเยฟ (Aleksey Gornostayev) โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี มหาวิหารแห่งนี้ถือเป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิรัสเซียที่เคยปกครองฟินแลนด์นั่นเองค่ะ ด้านนอกของวิหารที่มีสีสันงดงามแปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียซึ่งหาดูได้ยากแล้ว ภายในยังตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณีให้นักท่องเที่ยวได้ไปชื่นชมกันด้วยค่ะ

หมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Claus Village) ,Rovaniemi

หมู่บ้านซานตาคลอส : อยู่ที่เมืองโรวาเนียมิ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตแลปแลนด์ตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่บน เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) ทำให้เมืองนี้มีอากาศหนาวเย็น นอกจากมีชื่อเสียงในเรื่องการดูแสงเหนือแล้ว หมู่บ้านซานตาคลอสถือเป็นที่เที่ยวสุดฮิตของฟินแลนด์ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเยือนอีกด้วยค่ะ โดยภายในหมู่บ้านมีทั้ง พิพิธภัณฑ์ของเล่น ,ร้านอาหาร ,ที่พัก และร้านขายของที่ระลึกมากมาย หากเป็นช่วง วันคริสต์มาสที่นี่ก็จะมีงานเฉลิมฉลอง มีการประดับไฟที่สวยงาม รวมไปถึงไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือการถ่ายรูปคู่กับคุณลุงซานต้า, ที่ทำการไปรษณีย์ของลุงซานต้า ที่เป็นจุดรวมสำหรับการส่งของขวัญและจดหมายติดแสตมป์ที่ประทับตราพิเศษของ Santa Claus Village อีกด้วยค่ะ

ปราสาทหิมะ (Snow Castle) ,Kemi

ปราสาทหิมะ : ปราสาทที่สร้างอย่างอลังการจากหิมะและน้ำแข็งบนพื้นที่รวมกว่า 20,000 ตารางเมตร ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีขนาดเท่าเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งเลยทีเดียว โดยสร้างขึ้นจากการเจาะและแกะสลักน้ำแข็งอย่างปราณีตงดงาม ถือเป็นงานประติมากรรมน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภายในเมืองน้ำแข็งแห่งนี้ประกอบด้วยสถานที่ต่าง ๆ ที่ตกแต่งอย่างแปลกตามากมาย เช่น สโนว์เรสเตอรอง (Snow Restaurant) ภัตตาคารที่เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ล้วนทำขึ้นจากน้ำแข็งไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือเก้าอี้ ,สโนว์โฮเทล (Snow Hotel) ห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งมีเตียงที่ทำขึ้นจากน้ำแข็งและตามผนังก็มีการแกะสลักลายน้ำแข็งไว้อย่างสวยงาม และสโนว์แชปเพล (Snow Chapel) หรือโบสถ์น้ำแข็ง ซึ่งมีไว้รองรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบไม่เหมือนใครอีกด้วยค่ะ

ป้อมซัวเมนลินนา (Suomenlinna) ,Helsinki

ป้อมซัวเมนลินนา : ป้อมกลางทะเลสมัยศตวรรษที่ 18 ที่มีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งบนเกาะขนาดเล็กทั้ง 6 เกาะ สิ่งปลูกสร้างนี้ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์และได้รับการสงวนไว้เป็นอย่างดี จึงทำให้ป้อมแห่งนี้เป็นสถานที่ได้รับความนิยมและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยทางยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศรับรองป้อมปราการแห่งนี้เป็นมรดกโลก และยังได้รับความนิยมจากชาวฟินแลนด์และนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือน มีทั้งวิวสวนสาธารณะและวิวทะเลให้ได้ชื่นชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของน้ำที่ส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางหมู่เกาะแห่งนี้อีกด้วยค่ะ

อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius monument) ,Helsinki

อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส : ผลงานศิลปะเชิงนามธรรมใจกลางสวนสาธารณะที่มีทิวทัศน์สวยงาม ประติมากรรมชิ้นนี้สร้างอุทิศให้แก่ “ฌาน ซิเบลิอุส” นักประพันธ์เพลงชาวฟินแลนด์ ด้วยลักษณะรูปร่างแปลกตา เป็นผลงานประติมากรรมรูปออร์แกนที่สร้างขึ้นจากแท่งท่อเหล็กกลมขนาดใหญ่จำนวนราว ๆ กว่า 600 ท่อที่ดูราวกับล่องลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพร่วมกับเพื่อนๆ และครอบครัวในบริเวณอนุสาวรีย์อันน่าทึ่งแห่งนี้ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดกันเลยค่ะ

โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ (Temppeliaukio Church) ,Helsinki

โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ : หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โบสถ์หิน” (Rock Church) เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่มีลักษณะเหมือนภูเขาหินแกรนิตเตี้ย ๆ อยู่บนพื้นดินได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกพี่น้องชาวฟินแลนด์ Timo และ Tuomo Suomalainen โดยโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ปี 1968 ภายในโบสถ์มีการตกแต่งอย่างสมัยใหม่ กำแพงด้านในโบสถ์สร้างด้วยหิน ส่วนด้านบนมีช่องแบบโปร่งให้แสงเข้าได้ หลังคาประดับด้วยลวดทองแดงนำมาขดเป็นวงกลมประดับไว้เป็นศิลปะที่ดูแปลกตา ซึ่งที่นี่มีความเชื่อกันว่าหากใครได้มาจุดเทียนอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องความรักที่โบสถ์แห่งนี้จะสมหวังทุกประการ อีกทั้งยังเป็นโบสถ์ยอดนิยมสำหรับจัดพิธีแต่งงานอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของฟินแลนด์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 5 แสนคนต่อปีเลยทีเดียวค่ะ

น้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก (Havis Amanda) ,Helsinki

น้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก : ออกแบบโดยนายวิลเลย์ วาเกน สร้างขึ้นเมื่อปี 1908 โดยปั้นรูปสาวงามให้เป็นตัวแทนของเมืองเฮลซิงกิ และคำว่าบอลติกนั้นก็คือคาบสมุทรที่ตั้งของเมืองเฮลซิงกินั่นเองนี่จึงเป็นที่มาของชื่อ “น้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก” ซึ่งความน่าสนใจของที่นี่คือความเชื่อที่ว่าหากใครสามารถโยนหมวกให้ขึ้นไปสวมบนศีรษะของสาวงามได้ผู้นั้นจะมีความก้าวหน้าในเรื่องหน้าที่การงานจึงทำให้มีผู้คนนิยมมาโยนหมวกกันเป็นประจำถึงแม้ว่าในปัจจุบันการโยนหมวกขึ้นไปนั้นอาจจะเสี่ยงต่อการโดนเจ้าหน้าที่เรียกไปตักเตือนได้ก็ตาม หากท่านได้ไปเมืองเฮลซิงกิก็อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปเช็คอินคู่กับสาวงามอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกันด้วยนะคะ

เมืองแลปแลนด์ (Lapland)

เมืองแลปแลนด์ : ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศฟินแลนด์มีภูมิอากาศแบบป่าสนหรือกึ่งอาร์กติก อุณภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง โดยทั่วไปจะหนาวเย็นมีหิมะปกคลุมแม้จะไม่ใช่ในช่วงฤดูหนาว โดยไฮไลท์สำหรับเมืองนี้คือการ “ชมแสงเหนือ” เพราะที่นี่มีโอกาสมองเห็นแสงเหนือมากที่สุดนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายเช่น การนั่งรถเลื่อนที่ลากด้วยกวางเรนเดียร์ ล่องเรือ Sampo เรือตัดน้ำแข็งอันแสนโด่งดัง หรือทัวร์ตกปลาแซลมอน ซึ่งทุกกิจกรรมก็เรียกได้ว่าสนุกกันจนลืมความหนาวไปเลยค่ะ

ประเทศฟินแลนด์มีฉายาที่น่าสนใจว่า “ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน” ด้วยนะคะเนื่องจากฟินแลนด์ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลทำให้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในจุดที่เหนือสุดของฟินแลนด์โดยจะทำให้พระอาทิตย์ไม่ตกดินเป็นเวลา 73 วันในช่วงฤดูร้อนและไม่ขึ้นเลยเป็นเวลา 51 วันในช่วงฤดูหนาว ซึ่งถ้าหากเทียบกับบ้านเราแล้วก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลกและน่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ ว่าแล้วก็ต้องหาโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศพระอาทิตย์ตอนเที่ยงคืนดูบ้างแล้วล่ะ อิอิ ^^