Loading...

เที่ยวไปกับ ชิล สแควร์ ทราเวล
 เพื่อนเที่ยวเพื่อนคุณ 

Call Center : 094-545-3095

เจ้าหญิงพาเยือน ปราสาทแห่งเทพนิยายในยุโรป ราวกับอยู่ในฝัน

11 มิ.ย. 2563

ยุโรป สถานที่แนะนำ

ในวัยเด็กหลายๆ คนคงมีความฝันอยากจะเป็นเจ้าหญิง เจ้าชายกันใช่ไหมล่ะคะ น้องชิลก็มีความฝันว่าอยากจะมีบ้านอยู่บนปราสาทสวยๆ เช่นกัน จึงได้รวบรวมปราสาทที่สวยราวกับอยู่ในเทพนิยายมาฝากทุกคนกันค่ะ แต่ละสถานที่จะมีความอลังการ และสวยงามขนาดไหน ตามน้องชิลมาชมกันเลยค่า~

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ประเทศเยอรมนี

ปราสาทนอยชวานสไตน์

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ต้นแบบปราสาทเทพนิยายของดิสนีย์ที่หลายๆ คนชื่นชอบ ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ถูกสร้างขึ้นด้วยรับสั่งของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ซึ่งเป็นที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งในนาม "แฟรี่เทล คิง" (Fairytale King) หรือ กษัตริย์แห่งเทพนิยาย ในศตวรรษที่ 19 พระองค์มีพระประสงค์ต้องการสร้างปราสาทที่งดงามตามที่ ริชาร์ด ว้ากเนอร์ นักประพันธ์ชื่อดังแห่งยุคและเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าลุดวิก ได้บรรยายเอาไว้ในนิยาย "อัศวินหงส์" (Swan Knight) ซึ่งได้กลายเป็นที่มาของการเรียกปราสาทแห่งนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่า "ปราสาทหงส์" (Swan Castle) นั่นเอง รูปโฉมทั้งภายนอกและภายในของปราสาทนอยชวานชไตน์ถูกสร้างและตกแต่งอย่างงดงามอลังการมากๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมนี และหากใครมาเที่ยวที่เยอรมนีแล้วล่ะก็ ต้องห้ามพลาดที่จะมาเยือนตามรอยเจ้าหญิงกันนะคะ

ที่ตั้ง : Neuschwanstein 20, 87645 Schwangau, Germany


ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) ประเทศเยอรมนี

ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น

ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) อีกหนึ่งในปราสาทแห่งเทพนิยายที่คลาสสิกและสวยที่สุดในโลกเลยล่ะค่ะ ปราสาทได้เริ่มก่อสร้างเพื่อเป็นป้อมปราการในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นได้กลายเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในเยอรมนี ซึ่งแต่ละปีมีผู้เยี่ยมชมกว่า 350,000 แสนคน รวมถึงมีการปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยเป็นทั้งโรงละครแบบเปิด สถานที่จัดคอนเสิร์ต และตลาดคริสต์มาส ถือเป็น 1 ใน 8 ปราสาทเทพนิยายของประเทศเยอรมนีเลยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง : 72379 Burg Hohenzollern, Germany


ปราสาทลิกเตนสไตน์ (Lichtenstein Castle) ประเทศเยอรมนี

ปราสาทลิกเตนสไตน์

ปราสาทลิกเตนสไตน์ (Lichtenstein Castle) ตั้งอยู่ในบริเวณหน้าผาชันของเทือกเขา Swabian Alps สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 เพื่อเป็นป้อมปราการของอัศวินแห่งลิกเตนสไตน์ ปราสาทแห่งนี้มีการเสื่อมสลายตามกาลเวลาและได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมสร้างขึ้นใหม่อยู่หลายครั้ง ในการสร้างครั้งล่าสุดเป็นผลงานของดยุควิลเฮล์ม แห่งเวิร์ทเทมเบิร์ก ซึ่งมีแรงบรรดาลใจมาจากนวนิยายชื่อดังเรื่อง Lichtenstein ลักษณะจึงคล้ายกับปราสาทของอัศวินในยุคกลาง ปัจจุบันปราสาทลิกเตนสไตน์แห่งนี้ได้เปิดให้คนเข้าชมด้านในได้ ดังนั้นหากใครที่มาเที่ยวที่เยอรมนีก็แนะนำให้มาเยือนที่ปราสาทแห่งนี้ด้วยนะคะ

ที่ตั้ง : Schloss Lichtenstein 1, 72805 Lichtenstein, Germany


ปราสาทโบเดียม (Bodiam Castle) ประเทศอังกฤษ

ปราสาทโบเดียม

ปราสาทโบเดียม (Bodiam Castle) ตั้งอยู่ที่โรเบิร์ตสบริดจ์แห่งสหราชอาณาจักร เป็นปราสาทแบบมีคูน้ำล้อมรอบของสมัยปลายยุคกลางก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1385 โดยเซอร์เอ็ดเวิร์ด ดาลิงริกก์ อดีตอัศวินในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ กล่าวกันว่าสร้างตามพระบรมราชโองการ ของสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ที่ทรงขอให้สร้างเพื่อเป็นการป้องกันจากการรุกรานของฝรั่งเศส ภายในปี ค.ศ. 1434 หลานของริชาร์ด หลานของดาลิงริกก์ก็มาพำนักอยู่ที่ปราสาท จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ก็พบว่า การสร้างปราสาทเป็นการสร้างเพื่อเป็นการแสดงความมีหน้ามีตา มากกว่าที่จะเป็นสิ่งก่อสร้างสำหรับการป้องกันการรุกรานจากศัตรูอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่เคยเชื่อกันข้อเสนอนี้มีหลักฐานประกอบ เพราะกำแพงปราสาทโบเดียมมีความหนาเพียงสองสามฟุต ซึ่งถือว่าบางเกินกว่าที่จะใช้ในการป้องกันอันตรายที่จริงจังได้ แต่ถึงอย่างไรปราสาทแห่งนี้ก็ยังคงมีความสวยงามและน่าไปเยือนมากๆ เลยค่ะ

ที่ตั้ง : Bodiam, Robertsbridge TN32 5UA, United Kingdom


ปราสาทปราก (Prague Castle) สาธารณรัฐเช็ก

ปราสาทปราก

ปราสาทปราก (Prague Castle) ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางกรุงปรากที่ชื่อว่า Castle Hill ในเขต Castle District ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวิตาร่า ที่นี่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมากว่า 1,000 ปี และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ว่าที่นี่เปรียบเสมือนตำราเรียนวิชาสถาปัตยกรรมและศิลปะในอดีต อีกทั้งยังเคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็ก นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและเป็นเเลนด์มาร์คของสาธารณรัฐเช็ก เพราะมีความยิ่งใหญ่เก่าเเก่เเละสวยงามเป็นอย่างมาก  อีกทั้งปราสาทแห่งนี้ยังได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากให้มาเที่ยวชม โดยหากใครที่มาแล้วก็ต่างประทับใจกันกับความสวยงามอลังการของปราสาทแห่งนี้กันอย่างแน่นอนค่ะ

ที่ตั้ง : Hradcany, 119 08 Prague 1, Czechia


ปราสาทคิลเคนนี (Kilkenny Castle) ประเทศไอร์แลนด์

ปราสาทคิลเคนนี

ปราสาทคิลเคนนี (Kilkenny Castle) ปราสาทเก่าแก่ในคิลเคนนี (Kilkenny) ประเทศไอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1195 โดยวิลเลียม มาร์แชล (William Marshal) ที่มีขนาดใหญ่มาก เป็นปราสาทที่มีเรื่องราวมากมายเนื่องจากมีอายุกว่า 800 ปี ซึ่งล่าสุดในปี ค.ศ. 2017 ได้ใช้เป็นสถานที่ต้อนรับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งเวลส์และคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลเสด็จมาเยือน หากใครมาเยือนที่ปราสาทแห่งนี้จะได้สัมผัสบรรยากาศการตกแต่งสไตล์วิคตอเรียน ภายในปราสาทถูกแบ่งเป็นห้องต่างๆ มากมาย เช่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องที่ตกแต่งด้วยภาพวาดสไตล์จีน บันไดไม้มะฮอกกานี หอคอย เฟอร์นิเจอร์สมัยก่อน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดทั้งปีและสวนสวยขนาดใหญ่ให้ได้ชมกันอีกด้วยนะคะ

ที่ตั้ง : The Parade, Collegepark, Kilkenny, R95 YRK1, Ireland


ปราสาทมงต์แซงต์ มิเชล (Mont Saint Michel Castle) ประเทศฝรั่งเศส

ปราสาทมงต์แซงต์ มิเชล

ปราสาทมงต์แซงต์ มิเชล (Mont Saint Michel Castle) หรือที่โด่งดังในชื่อของ “มหาวิหารกลางน้ำ” ตั้งอยู่บนเกาะหิน ใกล้ชายฝั่งของเมืองม็องช์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส จากความงดงามของสถาปัตยกรรมที่เมื่อรวมกับสภาพแวดล้อมแล้ว สวยงามเหมือนปราสาทในฝันเลยทีเดียวเชียวค่ะ เพราะมีการออกแบบผสมผสานระหว่างกอทิกและโรมาเนสก์ผนวกรวมไปกับความเก่าแก่มากเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ จึงทำให้ในปี ค.ศ.1979 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโดยองค์การยูเนสโก อีกทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตะวันตก วิหารแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมติด 1 ใน 3 ของฝรั่งเศส ซึ่งแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกว่า 3 ล้านคนเลยทีเดียวค่ะ

ที่ตั้ง : Normandy, France.


ปราสาทเอเกสโคฟ (Egeskov castle) ประเทศเดนมาร์ก

ปราสาทเอเกสโคฟ

ปราสาทเอเกสโคฟ (Egeskov castle) หนึ่งในปราสาทริมน้ำสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ของยุโรปที่ยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้อย่างดีที่สุด ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฟึน (Funen) ประเทศเดนมาร์ก สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 โดย Frands Brockenhuus ตัวปราสาทออกแบบลักษณะคล้ายป้อมปราการเพื่อรับมือกับสงครามที่เกิดขึ้นในเวลานั้น บริเวณรอบๆ ปราสาทมีสวนสวยสไตล์อังกฤษ ทำให้บรรยากาศร่มรื่น ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เกีย่วกับยานยนต์ ยานพาหนะ และประวัติศาสตร์ทางเกษตรกรรมให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมได้ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่หากใครเดินทางไปเที่ยวที่เดนมาร์กแล้ว พลาดไม่ได้เลยนะคะ

ที่ตั้ง : Egeskov Gade 18, 5772 Kvaerndrup, Denmark


ปราสาทอัลคาซาร์ (Alcazar Castle) ประเทศสเปน

ปราสาทอัลคาซาร์

ปราสาทอัลคาซาร์ (Alcazar Castle) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของเซอโกเบีย ตอนแรกเป็นป้อมของชาวมุสลิมมัวร์ ต่อมากษัตริย์คริสเตียนสเปนปรับปรุงป้อมโบราณให้เป็นที่ปราสาทของกษัตริย์  ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนาน ปราสาทแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งชาตินิยมของประเทศสเปน ในปัจจุบันอัลคาซาร์ได้รับการบูรณะให้เป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดไปแล้ว และปราสาทซินเดอเรลลาของการ์ตูนวอลต์ดิสนีย์ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากปราสาทอัลคาซาร์แห่งนี้นี่เอง เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบการ์ตูนเรื่องซินเดอเรลลาแล้วล่ะก็ต้องไปตามรอยที่นี่เลยนะคะ

ที่ตั้ง : Plaza Reina Victoria Eugenia, s/n, 40003 Segovia, Spain


ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) ประเทศสกอตแลนด์

ปราสาทเอดินบะระ

ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) ปราสาทยุคกลางสุดขลังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองเอดินบะระ ของประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งในอดีตที่บริเวณนี้เป็นภูเขาไฟนั่นเองค่ะ ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สกอตแลนด์มาก่อน และในปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บรักษามงกุฎแห่งราชวงศ์  ดาบ เครื่องราช และอัญมณีล้ำค่าของสกอตแลนด์ ภายในแบ่งเป็นส่วนต่างๆ ได้แก่ ส่วนของป้อมปราการ กำแพงปราสาทโบราณ มีปืนใหญ่เรียงราย เป็นต้น นอกจากนี้ที่ปราสาทยังมีประเพณีการยิงปืนใหญ่ในเวลา 13.00 น. ของทุกวัน และด้านบนของปราสาทถือว่าเป็นจุดชมวิวของเมืองเอดินบะระที่ดีและสวยงามมากๆ เนื่องจากเป็นเนินเขาสูง มองเห็นวิวได้รอบทิศไปเลยนะคะ ถือเป็นอีกไฮไลท์หนึ่งของการมาเที่ยวสกอตแลนด์เลยทีเดียว ~

ที่ตั้ง : Edinburgh, Scotland


ว้าว บอกได้เลยว่าปราสาทแต่ละแห่งให้ความรู้สึกราวกับได้เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ อย่างในการ์ตูนที่เคยดูสมัยเด็กๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ ทั้งความยิ่งใหญ่อลังการ และความงดงามราวกับเทพนิยาย ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าแต่ละสถานที่นั้นจะมีอายุมากกว่าหลายร้อยปีมาแล้ว หากมีโอกาสน้องชิลก็อยากจะให้ทุกคนได้ไปชมด้วยตาของตัวเองกันดูสักครั้งนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ