เวียดนาม หนึ่งในเดสติเนชันสวยแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือน หากคุณเป็นคนที่รักธรรมชาติ คุณจะมีจุดหมายปลายทางให้เลือกนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของช่องเขาผ่านภูเขาและทุ่งนา ล่องเรือและพายเรือคายักผ่านอ่าวอันตระการตา ชายหาดที่สวยงามการดำน้ำสกูบา คุณพร้อมที่จะเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันน่าตื่นตาแล้วหรือยัง?? หากพร้อมแล้วไปดูกันเลย..

เวียดนามเหนือ

ฮาลอง (Ha Long)

สถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของเวียดนาม ฮาลอง (Ha Long) ที่เที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ งดงามมากเสน่ห์ผ่านผืนน้ำสีเขียวมรกต กลุ่มภูเขาและเกาะหินปูนกลางทะเลในบริเวณอ่าวตังเกี๋ย  ซึ่งมีทิวทัศน์งดงามจนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเวียดนาม และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ความงามที่น่าค้นหาของฮาลองทำให้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก

ล่องเรืออ่าวฮาลองเบย์ ล่องเรือชมความงดงามและความสมบูรณ์ของอ่าวฮาลอง มรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก้เมื่อปี พ.ศ. 2537 สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้แต่งแต้มด้วยเกาะหินปูนรูปร่างแปลกตานับพันเกาะ สลับซับซ้อนเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ผ่านเกาะต่าง ๆ ที่มีรูปร่างแปลกตา ลักษณะทั่วไปของอ่าวฮาลองนั้นประกอบไปด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อยจำนวนกว่า 1,000 เกาะ และมีเนื้อที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตร

สำรวจอุทยานแห่งชาติกั๊ตบา อุทยานแห่งชาติกั๊ตบา ไม่ได้มีดีแค่ความงามของทะเลเท่านั้น แต่ยังมีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มาก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 262.4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นดิน 170.4 ตารางกิโลเมตร และพื้นผิวทะเล 92 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งชาติกั๊ตบาแห่งนี้มีระบบนิเวศที่แตกต่างกัน 3 แบบ ได้แก่ ระบบนิเวศป่าชายเลน, ระบบนิเวศป่าไม้บนภูเขาหินปูน, ระบบนิเวศทางทะเลที่มีแนวปะการัง บริเวณนี้มีพืชและสัตว์หลากหลายสายพันธุ์กว่า 2,320 ชนิด ถ้าใครที่ชอบการเดินป่า ต้องหลงรักกับอุทยานแห่งชาติแห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะที่นี่มีเส้นทางเดินป่าที่หลากหลาย

นิงห์บิงห์ (Ninh Binh)

นิงห์บิงห์ (Ninh Binh) แหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง มีอาณาเขตอันกว้างใหญ่ไพศาล จนพื้นที่นั้นถูกเรียกว่า "อ่าวฮาลองบนแผ่นดิน หรือฮาลองบก" ด้วยภูมิทัศน์ของยอดเขาหินปูน แม่น้ำหลายสายไหลลัดเลาะ บางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ และยังถูกล้อมรอบด้วยผาสูงชัน จึงทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามน่าชม และยังมีร่องรอยทางโบราณคดีที่เผยให้เห็นการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์สมัยโบราณ ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ

ล่องเรือนิงห์บิงห์ชมถ้ำตามก๊ก เรือล่องไปตามสายธารแห่งธาราที่ไหลเย็น ในช่วงแรกของการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพของภูเขาสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งมีความยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏในระหว่างการเดินทางหลายท่านเปรียบเหมือน "กุ้ยหลินของจีน หรือ อ่าวฮาลองเบย์" เพลิดเพลินกับการนั่งเรือกระจาดล่องผ่านท้องน้ำและถ้ำต่าง ๆ ภายในบริเวณท่านจะได้ชมทัศนียภาพของภูเขาน้อยใหญ่ สลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา สองข้างทางเป็นทุ่งนาบ้างทุ่งหญ้าคาบ้างสลับกันไป

ซาปา (Sa Pa)

สุดยอดธรรมชาติภาคเหนือของประเทศเวียดนาม ซาปา (Sa Pa) อยู่ในเขตจังหวัดลาวไก ใกล้กับชายแดนจีน ตัวเมืองตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ที่นี่จึงเป็นแหล่งปลูกผักและผลไม้เมืองหนาวที่สำคัญของเวียดนาม อีกทั้งยังเป็นดินแดนแห่งขุนเขาที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในเวียดนามอีกด้วย ในอดีตเมืองนี้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสในสมัยที่เวียดนามยังอยู่ภายใต้อาณานิคม

พิชิตยอดเขาฟานซีปันหลังคาอินโดจีน ประสบการณ์พิเศษ!! กับการพิชิตหลังคาอินโดจีน นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ยอดเขาฟานซีปัน กระเช้าไฟฟ้าที่เป็นระบบกระเช้าไฟฟ้าสลิงสามสาย ยาวที่สุดในเอเชีย รวมระยะทาง 6.3 กิโลเมตร สถานีสุดท้ายอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 3,000 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ระหว่างทางท่านจะได้เห็นน้ำตกสีเงิน และหมู่บ้านก๊าต ก๊าต ในมุมสูงชมนาขั้นบันไดที่สวยงาม เมื่อเดินทางถึงสถานีด้านบนท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็นและสวยงาม

ชมวิวนาขั้นบันได ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติกับภาพทุ่งนาขั้นบันไดที่ทอดตัวลงมาไกลสุดลูกหูลูกตา ต้นข้าวที่เขียวขจีกระทบกับแสงแดดและพริ้วไหวไปมาตามสายลม กับอากาศที่เย็นสบาย ความสวยงามนี้เป็นที่เลื่องลือและมีความเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของซาปาเลยทีเดียว มาเที่ยวซาปาแล้วไม่ได้มาชมถือว่ามาไม่ถึงซาปา

กาวบั่ง (Cao Bang)

กาวบั่ง (Cao Bang) จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม มีพรมแดนติดกับจังหวัดห่าซาง, จังหวัดเตวียนกวาง, จังหวัดบั๊กกั่น และจังหวัดเซินลา ภายในประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีพรมแดนระหว่างประเทศร่วมกันกับเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของประเทศจีน จังหวัดครอบคลุมพื้นที่ 6,724.6 ตารางกิโลเมตร โดยตัวเมืองส่วนใหญ่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา หุบเขา และป่าอันอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกจำนวนหลายแห่ง

ชมบ๋านยกสุดยอดน้ำตกแห่งเอเชีย น้ำตกบ๋านยก หรือ น้ำตกเต๋อเทียน น้ำตกที่กั้นชายแดนระหว่างประเทศเวียดนามและจีนใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นอันดับสองของโลก โดยน้ำตกมีความกว้างราว 120 เมตร สูงประมาณ 70 เมตร แบ่งออกเป็นชั้น ๆ พร้อมกระแสน้ำที่เทลงมากระทบเบื้องล่างแตกกระจายเป็นฟองฝอยอย่างงดงาม

เวียดนามกลาง

ดานัง (Da Nang)

เมืองที่ถือได้ว่ามีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุดของเวียดนามกลางที่ ดานัง (Da Nang) เพราะมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าเยี่ยมชมและอีกทั้งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งหาดทรายขาว และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาหินอ่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่งทุกมุมโลกมาเที่ยวยังเมืองแห่งนี้ ดานังในอดีตเคยเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง แต่ภายหลังที่แม่น้ำทูโบนเริ่มตื้นเขิน ดานังจึงถูกพัฒนาขึ้นเป็นเมืองท่าแทนที่ จนกลายเป็นเมืองท่าสำคัญและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเวียดนาม

เพลิดเพลินกับหาดหมีเคว ดานังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่าติดทะเล หนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตคงไม่พ้นหาดหมีเคว ซึ่งเป็นหาดที่สวยที่สุดของดานังก็ว่าได้ หาดหมีเควมีแนวชายหาดกว้างขวาง และมีความยาวถึง 10 กิโลเมตร ทรายที่นี่ขาวละเอียด เดินแล้วนุ่มเท้ามาก ๆ มีแนวเก้าอี้ชายหาดที่หลังคามุงด้วยจากตั้งเรียงราย สามารถนอนเอนและมองดูน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวได้แบบเพลิน ๆ ทั้งวัน

ดาลัด (Dalad)

	ชมความงามทะเลสาบซวนฮวาง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองดาลัด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเข้ามาเยี่ยมชมความสวยงาม ของทะเลสาบที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้พรรณไม้นานาชนิด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการพักผ่อนสูดกลิ่นอายธรรมชาติ และพื้นน้ำที่สะท้อนกับแสงแดดเป็นเงาราวกับกระจกใส เราจะได้เห็นภาพของชาวบ้านที่นิยมมาปิกนิก ขี่จักรยาน และวิ่งจ๊อกกิ้งกัน ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมานั่งเล่น ตกปลา ปิกนิก ปั่นจักรยาน วิ่งออกกำลังกาย กันอย่างหนาตา ยิ่งในยามเย็นชมพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาริมทะเลสาบ พร้อมบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกอีกด้วย
	เส้นทางผจญภัยสู่น้ำตกดาทันลา เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มากแต่มีความสวยงดงามและมีหลายชั้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกื้อหนุน และมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง เป็นนำ้ตกที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของดาลัดที่ไม่ควรพลาด !!
	เที่ยวอุทยานแห่งชาติบิดวบ-นุยบา ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการศึกษาสิ่งแวดล้อมที่อุทยานแห่งชาติบิดวบ-นุยบา ตั้งอยู่ในเขตเลิมด่ง มีพื้นที่ 639.38 ตารางกิโลเมตร เป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดของหน่วยงานอนุรักษ์ผืนป่า ซึ่งมีป่าดึกดำบรรพ์ที่เต็มไปด้วยสัตว์และพืชหลายชนิด มีพืช 2433 สายพันธุ์ 62 ชนิด และอุทยานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นอาณาจักรของกล้วยไม้เวียดนามที่มีมากกว่า 250 สายพันธุ์

ญาจาง (Nha Trang)

อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวติดทะเล ญาจาง (Nha Trang) มนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือธรรมชาติ และด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ติดทะเล เป็นเสมือนเกาะเล็ก ๆ ที่เงียบสงบน่าไปพักผ่อน พร้อมกับมีกิจกรรมจากสวนสนุก VIN PEARL LAND เป็นสีสันของที่นี่อีกด้วยค่ะ

เพลิดเพลินกับชายหาดญาจาง พลาดไม่ได้เลยกับการไปเดินเล่นชมวิวที่ชายหาดญาจาง ชายหาดที่มีความยาวกว่า 6 กิโลเมตร ทะเลสวยน้ำใสและยังอยู่ไม่ไกลจากหมู่เกาะอื่น ๆ ที่นี่จึงเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้คลั่งไคล้ในกีฬาทางน้ำ ผู้ที่ชื่นชอบการอาบแดด และผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเล นอกจากนี้ยังมีความบันเทิงยามค่ำคืน จึงทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว

กว๋างบิ่ญ (Quang Binh)

กว๋างบิ่ญ (Quang Binh) เมืองเล็ก ๆ อันเงียบสงบริมฝั่งแม่น้ำ เมืองที่ไม่ค่อยได้มีใครรู้จักมากนัก แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการค้นพบหนึ่งในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งในเขตอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ถึงแม้กว๋างบิ่ญจะเป็นเมืองเล็กที่เงียบสงบ แต่ก็ถือได้ไว้เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวผจญภัย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสัตว์ป่าและกลุ่มชนกลุ่มน้อยที่ใกล้สูญพันธุ์

	สำรวจถ้ำเซินด่อง ตื่นตาตื่นใจไปกับการสำรวจถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้ำแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 9 กิโลเมตร กว้างประมาณ 160 เมตร สูงกว่า 200 เมตร อีกทั้งมีแม่น้ำใต้ดินขนาดใหญ่และมีป่าดงดิบ ระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์มาก ๆ ซ่อนอยู่ภายใน คาดว่าถ้ำเซินด่องแห่งนี้เกิดขึ้นมากว่า 2-5 ล้านปีก่อน จากการถูกสายน้ำกัดกร่อนเป็นเวลานานจนหินปูนทลายตัวลง กลายเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ และถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์จากธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย การผจญภัยนี้มีทุกอย่างที่นักสำรวจกำลังมองหา เริ่มตั้งแต่การเดินพักผ่อนสบาย ๆ ไปจนถึงการเดินขึ้นเขา, เข้าป่าลึก และชมภูมิทัศน์อันงดงามอันตระการตา
	ชมความงามถ้ำตู๊หล่าน ถ้ำอีกแห่งหนึ่งที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและสวยงามนั่นก็คือถ้ำตู๊หล่าน ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2009 อยู่ห่างจากถ้ำฟองญาประมาณ 70 กิโลเมตร ถ้ำแห่งนี้มีถ้ำย่อย 8 ถ้ำ ซึ่งมี 5 ถ้ำที่ต้องว่ายน้ำเข้าไป และบางถ้ำมีสระน้ำขนาดใหญ่นับร้อยตารางเมตรอยู่ในถ้ำ พื้นที่บางจุดมีลักษณะแคบและค่อนข้างลื่น รวมทั้งมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ซึ่งหากใครที่ต้องการที่จะมาชมถ้ำแห่งนี้แล้วล่ะก็ ต้องเตรียมความพร้อมก่อนเที่ยวชม เพราะมีทางเข้าแค่ทางเดียว คือต้องว่ายน้ำและปีนป่าย ซึ่งจะเป็นความทรงจำที่ไม่สามารถลืมได้ ถ้าได้มาเที่ยวสักครั้งในชีวิต
	เที่ยวป่าส่องสัตว์ธรรมชาติ ตื่นตาตื่นใจไปกับการสำรวจผืนป่าฟองญาแบบที่ไม่มีใครเหมือน ป่าที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่าอย่างแท้จริง การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วยการนำนักท่องเที่ยวไปที่ศูนย์กู้ภัยสัตว์ป่า เพื่อดูลิง, ค่าง, เม่น และสัตว์อื่น ๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือ ในขณะที่เดินป่าคุณจะผ่าน Thac Gio Waterfall และอาจมองเห็นลิงในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติอีกด้วย

เวียดนามใต้

กงด๋าว (Con Dao)

กงด๋าว (Con Dao) ตั้งอยู่ดินแดนทางตอนใต้สุดของเวียดนาม มีลักษณะเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยอีกนับสิบ ๆ เกาะ ที่สำคัญที่นี่กลับดูคล้ายเป็นอีกโลกหนึ่งซึ่งแตกต่างจากเวียดนามโดยสิ้นเชิง ด้วยความสงบเงียบของเกาะและทัศนียภาพอันงดงามชวนให้หลงใหล จนแทบไม่อยากเชื่อว่าในอดีตเกาะกงด๋าวแห่งนี้คือที่ตั้งของเรือนจำอันโหดร้ายสำหรับคุมขังนักโทษการเมืองในช่วงเวียดนามยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส และอีกครั้งในช่วงสงครามเวียดนาม ปัจจุบันกงด๋าวเปลี่ยนโฉมใหม่กลายเป็นเกาะสวรรค์ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ หาดทรายอันเลื่องชื่อ และแนวปะการังที่ยังมีสภาพสมบูรณ์

ส่องสัตว์ชมชายหาดดั๋มจาว ชายหาดดั๋มจาวตั้งวนอุทยานแห่งชาติกงด๋าว ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เลื่องชื่อในเรื่องของความงดงามของหาดทราย ทั้งยังเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลหายากหลากหลายชนิด นอกจากนั้นทะเลรอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยแหล่งปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งนั่นก็ทำให้การดำน้ำดูปะการังกลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของเกาะแห่งนี้

มุยเน่ (Mui Ne)

อีกเมืองหนึ่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องของชายหาดทอดยาวสวยงามและเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นมะพร้าวริมชายหาดมากมาย มุยเน่ (Mui Ne) ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลของจังหวัดบิ่ญถ่วนในภูมิภาคภาคกลางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ชาวบ้านยังคงมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย มีอาชีพหลักคือการทำประมง ภาพของเรือหาปลาที่ออกล่องลอยไปกลางทะเลในรุ่งสาง และกลับมายังฝั่งในยามเย็น เป็นภาพที่ปรากฏที่นี่ทุกวัน ทำให้ชายทะเลมุยเน่มีบรรยากาศผ่อนคลาย น่าพักผ่อน มีโรงแรม ที่พัก รีสอร์ทมากมาย รวมทั้งร้านอาหารทะเลริมทะเลบรรยากาศสุดโรแมนติก ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่พักตากอากาศในฝันของชาวเวียดนามและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ตะลุยทะเลทรายขาวและทะเลทรายแดง ทะเลทรายมุยเน่ แบ่งเป็น 2 โซนคือ "ทะเลทรายขาว" เนินทรายที่ใหญ่ที่สุดของมุยเน่ ทะเลทรายสีขาวกว้างยาวสะอาดตา สุดขอบฟ้าเหมือนทะเลทรายซาฮารา และ "ทะเลทรายสีแดง" ที่เกิดจากการรวมตัวของทรายสีแดงจากสนิมเหล็กจนเป็นบริเวณกว้าง ที่แห่งนี้มีแหล่งโอเอซิสหรือแหล่งน้ำจืดเป็นบึงอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งทะเลทรายทั้งสองอยู่ห่างกันราว 30 กม. เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมคือช่วงเช้า หรือช่วงหลังจาก 15.00 น. เป็นต้นไป เพราะกระแสลมไม่แรงและแดดไม่ร้อนมากจนเกินไป เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป พร้อมมีรถจี้ปและรถ ATV ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว

ฟู้โกว๊ก (Phu Quoc)

ฟู้โกว๊ก (Phu Quoc) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตั้งอยู่ฝั่งอ่าวไทย โดยอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดเคียนเกียง มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 570-590 ตารางกิโลเมตร เขตการปกครองของเกาะฟูโกว้กนั้นประกอบด้วยเกาะใหญ่และเกาะเล็กน้อยอีก 21 เกาะ บนเกาะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามแบบดั้งเดิม ธรรมชาติท้องทะเลก็อุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส มองเห็นพื้นทรายและแนวปะการังใต้ทะเลได้อย่างชัดเจน ในช่วงลมมรสุมสงบ บางหาดยังมีปลาดาวมากมายมาเกยตื้นอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมกันอีกต่างหาก

เพลิดเพลินกับกิจกรรมบนหาดเซา สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ บนเกาะแห่งนี้ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นหาดทรายขาว และน้ำทะเลใสแจ๋ว โดยเฉพาะที่หาดเซา ชายหาดที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของเกาะฟู้ก๊วก เพราะที่นี่มีหาดทรายยาว 7 กิโลเมตร ที่ขาวสะอาดมากนุ่มเนียนละเอียด น้ำทะเลก็เป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส คล้าย ๆ กับสีน้ำทะเลในทะเลแคริบเบียน บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยทิวต้นมะพร้าวตลอดแนวชายหาด ไม่เพียงเท่านั้นวันดีคืนดีของเดือนตุลาคม-กันยายน เราก็อาจได้พบเห็นปลาดาวมากมายขึ้นมาอาบแดดที่ชายหาดกันอย่างครึกครื้นอีกด้วย

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับที่เที่ยวที่น้องชิลได้นำมาฝากทุก ๆ ท่าน เที่ยวได้ครบตั้งแต่เหนือจรดใต้กันเลยทีเดียว และทั้งหมดนี้ !! ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติเท่านั้นนะคะ ซึ่งหากเจาะลึกลงไปอีกก็ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ ที่มีความน่าสนใจอีกอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตที่ยังทรงคุณค่าไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชม สุดท้ายนี้น้องชิลขอรับรองว่าประเทศเวียดนาม เป็นประเทศน่าเที่ยวและมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลยค่ะ เที่ยวสนุก ปลอดภัย ไร้กังวล ไปเที่ยวเวียดนามกับชิลสแควร์ทราเวล รับรองได้เที่ยวฟิน ๆ สะดวกสบาย ในราคาสุดคุ้มอย่างแน่นอนค่ะ