ครั้งหนึ่งในชีวิต คุณจะต้องออกเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง โดยเฉพาะใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวมหานครที่มากด้วยแสงสี เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่มีทั้งป่าปูนสุดทันสมัย และธรรมชาติที่งดงามที่ผสานเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อไม่ให้ทริปชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นล่มไม่เป็นท่านี่คือสิ่งที่คุณจะต้องทำการบ้านก่อนออกทัวร์ญี่ปุ่นล่ะจ้า

1. เช็กเวลาใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวให้ดี

ก่อนจะออกทัวร์ชมความงามจากธรรมชาติใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นคุณจะต้องรู้ว่าไปญี่ปุ่นเดือนไหนดี? หากจะชมใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวคุณก็จะต้องเลือกเที่ยวช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นข้อมูลคร่าว ๆ เนื่องจากใบไม้เปลี่ยนสีเนี้ยะจะเริ่มจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ ดังนั้น ใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวที่ตั้งอยู่ภูมิภาคคันโตตอนใต้จะเริ่มต้นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม หรือถ้ายังลังเลไม่แน่ใจหรืออยากเที่ยวญี่ปุ่นตอนไหนสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไปญี่ปุ่นเดือนไหนดี? คู่มือฉบับ Easy แชร์ไว้ไม่เสียหาย !! ซึ่งทีมงานของเราได้เขียนอธิบายไว้แล้วจ้า

2. รู้พิกัดเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น

เนื่องจากมหานครโตเกียวไม่ได้มีดีแค่ความทันสมัย หรือเป็นแค่สวรรค์นักช้อปที่อยากมาเยือนชิบูย่า แหล่งช้อปปิ้งของโตเกียวเท่านั้น เพราะแห่งนี้ยังมีธรรมชาติใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวผลัดใบรอนักท่องเที่ยวชื่นชมให้เห็นกับตาเช่นกัน สีสันของใบไม้ทั้งสีเหลือง แดง ส้ม ตัดสลับกันกับตึกรามบ้านช่องและสวนสวย ๆ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ได้ถ่ายภาพแห่งความประทับใจ ดังนั้น ก่อนจะออกทริปใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้เสียเวลาแห่งความสุข คุณจะต้องรู้พิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีและหาข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง สถานที่ตั้งวางแผนให้ดีค่ะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวน่าสนใจ ได้แก่

สวนโคอิชิคาวา โคระคุเอน (Koishikawa Korakuen) เป็นอีกหนึ่งสวนสวยที่ดีงามที่สุดในโตเกียวมีชื่อเสียงโด่งดังคงความเก่าแก่ญี่ปุ่นแท้ ๆ มีสระน้ำรายล้อมด้วยต้นเมเปิ้ลสีแดงส้มตัดสลับกันดีต่อใจที่สุด เพราะสวยงามราวกับภาพวาด แนะนำช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีดีที่สุด อ้อ ! เดินเล่นเพลิน ๆ อย่าลืมแวะข้ามสะพาน Tsutenkyo ซึ่งเป็นไฮไลท์ของสวน	ถนนอิโช นามิกิ (Icho Namiki) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่รับรองว่าไม่ผิดหวังหากมาเที่ยวถนนอิโชนามิกิ ใกล้กับสวนเมจิ จินกุไกเอน เดินเล่นชิล ๆ ถ่ายรูปเพลิน ๆ กับอุโมงค์ต้นกิงโกะเปลี่ยนสี สีเหลืองอร่ามทั้งต้นสีสันจัดจ้านรอคุณอยู่ตรงนี้ช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนเช่นกัน ชมได้ปีละครั้งนะคะ

สวนริคุงิเอน (Rikugien Gardens) มาถึงโตเกียวอยากเที่ยวแบบสบาย ๆ ทีเด็ดของพิกัดนี้ คือ แวะชมการประดับไฟได้ที่สวนริคุงิเอนช่วงกลางคืน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายผ่านประตูเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะค่ะว่าคุ้มค่า เพราะได้เต็มอิ่มกับใบไม้ และวิวเนินเขารอบ ๆ พื้นที่จ้า	สวนโยโยกิ (Yoyogi Koen) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจใกล้ศาลเจ้าเมจิ ย่านฮาราจุกุ  รักสไตล์ตะวันตกสวนสาธารณะใหญ่ที่สุดของโตเกียวอย่างสวนโยโยกิคือคำตอบของคุณ เพราะมีแต่ต้นเมเปิ้ลแดง รวมกับกิงโกะหรือแป๊ะก๊วยสีเหลืองทองช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกสุด ๆ เลยล่ะ ลงสถานี Harajuku Station เดินอีกนิดก็ถึง	สวนชินจูกุเงียวเอน (Shinjuku Gyoen) อีกสวนที่อยู่ในย่านชินจูกุ เมืองโตเกียวกับสวนชินจูกุเงียวเอน สวนสาธารณะของพระราชวงศ์ยุคเอโดะ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม นอกจากมีดอกไม้สวย ๆ ยังมีต้นไม้ที่รอวันเปลี่ยนสีให้ชมอีกด้วยนะ ดีไซน์การจัดสวนผสานความเป็นญี่ปุ่น ผนวกกับสไตล์อังกฤษ และสไตล์ฝรั่งเศส มาถึงที่นี่ระวังหลงเสน่ห์จนไม่อยากกลับไทยนะ อิอิ ปล. นักท่องเที่ยวต้องซื้อบัตรก่อนเข้าชมสวนชินจูกุเงียวเอน การเดินทางออกจากสถานี Tokyo Metropolitan Shinjuku

3. เตรียมตัวให้พร้อม !

ก่อนชมใบไม้เปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีสันอื่น ๆ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นอากาศจะหนาวเย็นหน่อย ๆ มีอุณหภูมิเฉลี่ย 15-25 องศาเซลเซียล แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ เช่น เสื้อแขนยาว เสื้อยืด เสื้อคอเต่า เสื้อแจ็คเก็ต สเว็ตเตอร์กันหนาว กางเกงหนา ๆ กระโปรงยาว รองเท้าหุ้มส้นและรองเท้าบู๊ทกันความเย็น เตรียมไอเทมให้พร้อมนะคะ ด้วยรักและเป็นห่วงจ้า

4. หากไม่ชัวร์เลือกทัวร์ได้นะ

อ่านมาถึงตรงนี้ เริ่มสนใจออกเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวบ้างหรือยังจ้ะ ? ถ้าคุณอยากเที่ยวญี่ปุ่น แต่ไม่มีเวลา ไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากอ่านคู่มือการท่องเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองที่มีข้อมูลมากมายมหาศาล รวมทั้งไม่อยากวางแพลน กลัวว่าไปถึงญี่ปุ่นแล้วจะไม่เจอใบไม้เปลี่ยนสีดั่งที่ใจคิดไว้ หากคุณอยากพาครอบครัวออกทริปชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น อย่างที่บอกเลือกจองทัวร์ที่คุณไว้ใจได้อย่าง chill.co.thสิค่ะ เชื่อเถอะว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับการออกเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีอย่างแน่นอน