“ยิ่งใส่หน้ากาก ยิ่งเสี่ยง” เป็นอีกหนึ่งแนวความคิดจากบทความของเวปไซต์ Forbes “อีไล เพเรนเซวิช” ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์และระบาดวิทยาจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยไอโอวา ซึ่งสามารถสรุปออกมาเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1. การใส่หน้ากาก ทำให้มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น เพราะต้องสัมผัสหน้าตัวเองบ่อยขึ้นจากการสวมผิดวิธี
2. หน้ากากที่สามารถป้องกัน #ไวรัสโคโรน่า ได้จริง ๆ คือหน้ากาก #N95 หรือ #FFT2 ที่เราใส่ป้องกันฝุ่น PM 2.5 นั่นเอง
3. หน้ากากอนามัยที่เราใส่กันทั่วไป ไม่ได้ถูกออกแบบสำหรับ “ป้องกันละอองน้ำลายจากภายนอก” แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายแพร่ออกไปสู่ผู้อื่นต่างหาก
4. ทางศาสตราจารย์แนะนำให้ใส่เฉพาะผู้ที่ป่วยหรือคิดว่าน่าจะติดเชื้อก็พอ คนที่แข็งแรงไม่จำเป็นต้องสวมใส่ เนื่องจากจะทำให้หน้ากากขาดแคลนในหน่วยงานสาธารณสุขที่มีความจำเป็นต้องใช้จริง ๆ

หน้ากาก N95

ถ้าไม่ใส่หน้ากาก แล้วต้องทำอย่างไรล่ะ ? คาเรน เฟล็มมิ่ง ศาสตราจารย์ด้านชีวฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอพสกิน สหรัฐอเมริกา ได้ให้คำแนะนำว่า
1. ล้างมือด้วยสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อน/หลังรับประทานอาหาร เนื่องจากไวรัสโคโรน่า หรือ Covid-19 เป็นไวรัสที่มีเปลือกเป็นสารอินทรีย์ประเภทไขมัน ซึ่งสามารถถูกฆ่าด้วยน้ำสบู่อย่างง่ายดาย
2. อย่าเอามือสัมผัสที่บริเวณใบหน้าโดยเฉพาะปากหรือจมูก
3. อยู่ห่างจากที่ผู้ที่มีอาการป่วย ไอหรือจามอย่างต่ำ 3 ฟุต

อย่างไรก็ตาม น้องชิลขอเอาใจช่วยภาครัฐและเอกชนที่ต่างออกมาช่วยกันแก้ไขวิกฤตการณ์นี้นะคะ  และหากใครมีวิธีการป้องกันดี ๆ สามารถเขียนหรือแชร์วิธีการกันได้เลยค่า

#covid19

อ้างอิงข้อมูลจาก: Forbes