ยินดีต้อนรับสู่ "ระนอง" ประตูสู่ดินแดนทะเลใต้ ใครจะคาดคิดว่าที่เมืองระนองแห่งนี้จะมีดีกว่าที่คิด ทั้งภูเขา และทะเล ส่วนการเดินทางนั้นไม่ยากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ หรือรถโดยสารประจำทาง ใช้เวลาโดยประมาณ 6-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรด้วยนะคะ) หรือใครที่ใจร้อนอยากเที่ยวไว ๆ แนะนำนั่งเครื่องบิน บินตรงสู่เมืองระนองได้เลยค่า ใช้เวลาเพียงแค่ 1.30 ชั่วโมง เท่านั้นเอง เปิดตัวกันมาอย่างนี้แล้วรู้หรือไม่ ? ว่าจังหวัดระนองมีสถานที่เที่ยวที่ไหนกันบ้าง ? วันนี้น้องชิลขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งทางบก และทางน้ำมาฝากกันค่ะ..

มาถึงระนองทั้งที ไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือสถานที่แห่งนี้ค่ะ "เกาะพยาม" เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 6 มัลดีฟส์ของเมืองไทย ที่ใคร ๆ ก็อยากมาสัมผัส ทั้งน้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา เรียกได้ว่าแนบชิดสนิทกับธรรมชาติแบบสุด ๆ แต่ทั้งนี้.. บนเกาะก็ยังมีสถานที่เที่ยวต่าง ๆ ให้เราได้ไปเที่ยวชมอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อ่าวไผ่ อ่าวหินขาว โบสถ์กลางทะเล และ วัดเกาะพยาม แค่นี้ก็จัดเต็มไปประมาณหนึ่งแล้ว หากใครยังเที่ยวไม่หนำใจแล้วล่ะก็ ลองข้ามไปเที่ยวทะเลฝั่งพม่ากันบ้างค่ะ กับ "เกาะนาวโอพี" สมญานาม เกาะสวรรค์แห่งทะเลอันดามัน เกาะที่พึ่งเปิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้ และขึ้นชื่อในเรื่องของ หาดทรายขาว น้ำใส ปะการังสวย เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเซ็กซี่บนชายหาดแบบสุด ๆ จากนั้นมาต่อกันที่ "เกาะค๊อกคอม" หรือที่รู้จักกันในนาม เกาะหัวใจมรกต และยังมีเกาะค๊อกเบิร์นและเกาะมุก ที่เป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับทะเลฝั่งพม่าค่ะ หลังจากที่ได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของทะเลแล้ว หากใครที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพม่าสามารถหาได้จากที่แห่งนี้เลยค่ะ หรือใครที่ต้องการเสี่ยงโชคด้วยแล้วล่ะก็ ที่นี้ยังมีคาสิโนด้วยนะคะ

เกาะพยาม	เกาะนาวโอพี	เกาะค๊อกคอม หรือ  เกาะหัวใจมรกต

หลังจากเพลิดเพลิดกับกิจกรรมทางน้ำไปกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาต่อกันที่กิจกรรมทางบกกันบ้างดีกว่า น้องชิลมีสถานที่ถ่ายรูปชิล ๆ มาแนะนำค่ะ นั่นก็คือ ภูเขาหญ้า หรือ เขาหัวล้าน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากใครต้องการเห็นภูเขาหญ้าสีเขียว สามารถพบได้ในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-ตุลาคม ส่วนภูเขาหญ้าสีทองนั้น พบได้ในช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน-เมษายน ค่ะ และที่เมืองระนองแห่งนี้ยังมีสถานที่ไฮไลท์เด็ดอีกหนึ่งแห่งนั่นก็คือ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำพุร้อนออนเซน ที่เป็น TOP อันดับหนึ่งของเมืองไทยเลยค่ะ ไม่ต้องบินไกล ไทยก็มีดี บ่อน้ำร้อนแห่งนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีสารกำมะถันเจือปน ไหน ๆ มาถึงที่แล้ว หากใครต้องการผ่อนคลายความเมื่อยล้า พลาดไม่ได้กับการแช่ออนเซนธรรมชาติค่ะ การแช่น้ำร้อนช่วยในเรื่องของสุขภาพค่ะ ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ภูเขาหญ้า หรือ เขาหัวล้าน	บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน

สุดท้ายเรามาต่อกันที่ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ ใกล้กับศาลากลางจังหวัดระนอง พระราชวังแห่งนี้ทำด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทอง จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ถือเป็น 1 ใน 19 พระราชวังของไทย และยังเป็น 1 ใน 6 พระราชวังที่สร้างขึ้นตามหัวเมือง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระนองอีกด้วย

พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)

เรื่องตำนานพระราชวังรัตนรังสรรค์นั้น เกี่ยวข้องตำนานเมืองระนอง โดยปี พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ฝ่ายตะวันตก เป็นครั้งแรกที่จะได้เสด็จไปถึงเมืองระนอง พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง เจ้าเมืองระนองในขณะนั้น) สร้างที่ประทับรับเสด็จที่บนเนินควนอันซึ่งอยู่กลางเมือง สร้างล้วนด้วยเครื่องก่อประกอบกับไม้แก่นอย่างมั่นคง ประสงค์จะถวายเป็นราชพลีสนองพระเดชพระคุณซึ่งได้ทรงชุบเลี้ยงสกุลวงศ์มา และทรงประทับแรม ณ พระที่นั่งรัตนรังสรรค์ เป็นเวลา 3 ราตรี ระหว่าง 23-25 เมษายน พ.ศ. 2433

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปทอดพระเนตรเห็นดำรัสว่า "ทำงดงามมั่นคงสมควรจะเป็นวัง ยิ่งกว่าจะเป็นพลับพลา" จึงพระราชทานนามว่า "พระราชวังรัตนรังสรรค์" ให้เป็นเกียรติยศแก่เมืองระนอง และสกุลของพระยารัตนเศรษฐีด้วย แต่ทรงพระราชดำริว่า ที่เมืองระนองนาน ๆ จะเสด็จประพาสครั้งหนึ่ง วังทิ้งไว้เปล่าก็จะชำรุดทรุดโทรมเสีย จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า โดยปกติให้ใช้พระราชวังนั้นเป็นศาลารัฐบาล และทำพิธีสำหรับบ้านเมือง ต่อเมื่อมีการเสด็จประพาสเมื่อใดจึงให้จัดเป็นที่ประทับ

เม็ดมะม่วงหิมพานต์	ซาลาเปาทับหลี

มาเที่ยวถึงเมืองระนองแล้ว ก็ต้องไม่พลาด !! ของฝากประจำจังหวัด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป สินค้าพื้นเมืองที่มีคุณภาพดี สะอาดราคาย่อมเยาว์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นหนึ่งในสินค้าที่ขึ้นชื่อของจัดหวัดระนอง นำมาทานเล่น คบเคี้ยว แถมได้ประโยชน์ลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย อีกหนึ่งสินค้าคุณภาพดีและมีชื่อเสียงของจังหวัดระนองนั่นก็คือ กระเป๋าหนังปลากระเบน และของฝากอย่างสุดท้ายกับ ซาลาเปาทับหลี  เนื้อแป้งนุ่ม อร่อย รสชาติดีมีไส้หมูสับ ไส้ถั่วดำ และไส้สังขยา เลือกได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีขนมจีบ จำหน่ายควบคู่กับซาลาเปาด้วย

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับสถานที่ที่น้องชิลได้แนะนำมาในเบื้องต้น หากใครยังไม่มีทริปในใจแล้วล่ะก็ อย่าลืมลิสต์ "จังหวัดระนอง เมืองรองน่าเที่ยว" ไว้เป็นตัวเลือกกันด้วยนะคะ เพราะเมืองไทยสวยทุกที่.. ไปได้ทุกเวลา #Amazingไทยเท่