ประเทศอียิปต์ (Egypt) หรือชื่อทางการคือสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ (Arab Republic of Egypt) เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประชากรมากที่สุด มีพื้นที่ประมาณ 1,020,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ทิศเหนือ ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับประเทศอิสราเอล ทิศตะวันออกติดทะเลแดง ทิศใต้ติดกับประเทศซูดานและทิศตะวันตกติดกับประเทศลิเบีย ซึ่งประเทศนี้มีชื่อเสียงในด้านอารยธรรมโบราณ สิ่งก่อสร้างโบราณมากมาย เช่น พีระมิด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ วิหารคาร์นัคที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดของประเทศอียิปต์ ในปัจจุบันอียิปต์ถือว่าเป็นอีก 1ในจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และในวันนี้น้องชิลจะพาทุกท่านเที่ยวดินแดนแห่งสุดยอดอารยธรรมแห่งนี้ ใครพร้อมแล้วตามน้องชิลมาได้เลยค่า

สภาพอากาศและฤดูกาล

ประเทศอียิปต์เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือสภาพอากาศโดยทั่วไปจะค่อนข้างร้อนและแห้ง และหนาวในช่วงปลายปี โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดูดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิ 15-32 องศา
ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อุณหภูมิ 21-43 องศา
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิ 19-34 องศา
ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิ 8-20 องศา

ภาษาที่ใช้

ประเทศอียิปต์ใช้ภาษาอารบิกเป็นภาษาราชการ และภาษาต่างประเทศที่ใช้กันทั่วไป คือ ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส

ศาสนา

ในอดีตชาวอียิปต์นับถือเทพเจ้าและมีกษัตริย์ที่เรียกว่า"ฟาโรห์"และในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย พระเจ้าอโศกได้ส่งทูตมาเจรจาสัมพันธไมตรีกับอียิปต์ และให้เผยแผ่พระพุทธศาสนาในเขตเมืองอเล็กซานเดรีย แต่ในปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ 94% นับถือศาสนาอิสลาม นิกายสุหนี่ และอีก 6% นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคอปติก

เทศกาลสำคัญ

ประเทศอียิปต์ นับว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์เเละประเพณีที่มีความเก่าเเก่ ศักดิ์สิทธิ์ และน่าสนใจหลายเทศกาลด้วยกัน ในแต่ละปีเทศกาลก็จะถูกจะจัดขึ้นอย่างใหญ่ นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมากในทุกปี

การถือศีลอด เดือนรอมฎอน (Breaking the fast)	เทศกาลฟาโรห์ อีสเตอร์ (Pharaoh Easter Festival)
เทศกาลสำคัญของชาวอียิปต์และชาวมุสลิมทั่วโลก จัดขึ้นในเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม เป็นช่วงเวลาที่ถือศีลอดในเวลากลางวันเเละจะเริ่มรับประทานอาหารในเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินไปเเล้ว ในเมืองจะถูกประดับตกแต่งด้วยโคมไฟสวยงามไปทั่วเมือง ช่วงเวลาค่ำคืนท้องถนนและตลาดจะยิ่งคึกคักเนื่องจากผู้คนจะออกมารับประทานอาหารกันค่ะ	เป็นงานฉลองเพียงงานเดียวที่ชาวคริสต์ และชาวมุสลิมจะฉลองร่วมกันค่ะ เทศกาลนี้เริ่มต้นครั้งแรกในช่วง 2,700 ปีก่อนคริสตกาล อาหารเมนูหลักที่ขาดไม่ได้สำหรับเทศกาลนี้คือปลาหมัก ซึ่งเป็นสูตรการถนอมอาหารที่ชาวอียิปต์โบราณสืบทอดมานานกว่า 4,000 ปี ในสมัยโบราณชาวอียิปต์ต้องหมักปลาไว้รับประทาน เผื่อในเวลาที่แม่น้ำไนล์แห้งแล้ง ชาวอียิปต์จะไม่สามารถหาสัตว์น้ำมารับประทานได้ค่ะ

เทศกาลประกาศเอกราช (Revolution Day)	เทศกาลฮารีรายาอิดูล ฟิลตรี (Hari Raya Idul Fitri)
งานที่รำลึกถึงเหตุการณ์การประกาศอิสรภาพจากสหราชอาณาจักร โดยจัดขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นงานรื่นเริงเฉลิมฉลองขนาดใหญ่และคึกคักมาก นักท่องเที่ยวอย่างเราห้ามพลาดเลยล่ะค่ะ	เทศกาลของการพักผ่อนหลังจบสิ้นเทศกาลถือศีลอดแล้ว ชาวอียิปต์เเละชาวมุสลิมทั่วโลกจะถือโอกาสลาพักผ่อนเพื่อเฉลิมฉลองเเละท่องเที่ยวกันค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยว

ประเทศอียิปต์ แหล่งรวมอารยธรรมโบราณ ตำนานต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในแต่ละปีก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมและหลงใหลในความลึกลับจำนวนมาก โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจนั้นมีมากมายล้วนแต่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมโบราณทั้งสิ้น และไฮไลท์ของการท่องเที่ยวสไตล์อียิปต์คือการขี่อูฐเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวและโบราณสถานต่างๆของราชวงศ์อีกด้วย

พีระมิดแห่งกิซ่า (The Great Pyramid of Giza)	มหาวิหารคาร์นัค (Great Temple of Karnak)
พีระมิดคูฟู หรือพีระมิดคีออปส์ นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า มหาพีระมิดแห่งกีซาเป็นพีระมิดในประเทศอียิปต์ที่มีความใหญ่โตและเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดทั้งสามแห่งกีซา เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยฟาโรห์คูฟู (Khufu) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งปกครองอียิปต์โบราณเมื่อประมาณ 2,600 ปีก่อนคริสตกาล หรือกว่า 4,600 ปีมาแล้ว เพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษาพระศพไว้รอการกลับมาคืนชีพตามความเชื่อของชาวอียิปต์ในยุคนั้น มหาพีระมิดนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณและเป็นหนึ่งเดียวที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันค่ะ	มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของอียิปต์ ตั้งอยู่ในเมืองลักซอร์ (Luxor) เป็นวิหารกลางแจ้งที่มีกำแพงสูงใหญ่กว่า 1,000 ฟุต ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าอะมอน-รา (Amon-Ra) เทพแห่งดวงอาทิตย์ในตำนานเทพเจ้าแห่งไอยคุปต์ของอียิปต์ อีกทั้งสร้างเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนาตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดค่ะ

มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel Temples)	หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings)
มหาวิหารคู่ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ทำด้วยอิฐขนาดมหึมาสองก้อนแกะสลักอย่างวิจิตรปราณีต ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ ริมฝั่งตะวันตกของทะเลสาบนาสเซอร์ ได้รับมอบให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ ตั้งอยู่บนพรมแดนของประเทศอียิปต์กับซูดานถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ในรัชกาลของ Ramesses II เมื่อราวๆ 1,224 ปีก่อนคริสตศักราช เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของอียิปต์ที่ชนะนิวเบียในสมรภูมิแห่งคาเดสค่ะ	หุบเขากษัตริย์ ตั้งอยู่บนฝั่งทางตะวันตกของแม่น้ำไนล์ บอกเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวอียิปต์แห่งนี้ไม่ธรรมดาเลยนะคะ เพราะมีหลุมฝังพระศพของกษัตริย์ ราชวงศ์ และขุนนางอียิปต์โบราณกว่า 63 หลุม แต่ละหลุมจะมีห้องขนาดใหญ่ และเล็กต่างกันไป มีความซับซ้อนมากกว่า 120 ห้อง เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเที่ยวชมเป็นจำนวนมากในทุกปี

เมืองฮูร์กาดา ชายฝั่งทะเลแดง (Hurghada, Red Sea)	ตลาดข่าน เอล-คาลิลี (Khan el-Khalili)
เมืองฮูร์กาดา เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่อยู่ในเขตเรดซี โดยถือว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักของอียิปต์ ตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลแดง ซึ่งทอดยาวขนาบกับทะเลแดงไปประมาณ 36 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำดูปะการัง และนักดำน้ำจากประเทศอื่นๆ มากมาย เนื่องจากมีทั้งปะการังที่สวยงาม และสายพันธุ์ปลากว่า 1,000 ชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเลแดง การเล่นวินเซิร์ฟ ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกันค่ะ	เมื่อได้มาเที่ยวแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้คือของฝากติดมือนั้นเองค่ะ ตลาดข่าน เอล-คาลิลี ตั้งอยู่ในกรุงไคโรเป็นตลาดพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงไคโร มีสินค้าพื้นเมืองหลากหลายรูปแบบให้เพื่อนๆ เลือกซื้อหา เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างแวะเวียนมาเลือกซื้อสิ้นค้าเพื่อกลับไปเป็นของฝากกันค่า

ภูเขาซีนาย (Mount Sinai)	พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ (Egyptian Museum)
ภูเขาซีนายเป็นสถานที่ที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ในหนังสืออพยพ เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับโมเสสและเป็นที่ที่พระเป็นเจ้าให้บัญญัติสิบประการแก่โมเสสอีกด้วย ปัจจุบันภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศอียิปต์และถูกตั้งเป็นสถานที่ที่สำคัญทางศาสนาอีกด้วยค่ะ	พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ตั้งอยู่ที่กรุงไคโร พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งสะสมและโบราณวัตถุอียิปต์โบราณ กว่า 120,000 ชิ้น ซากของฟาโรห์ที่มีชื่อเสียงมากจะถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ หากใครอยากทราบเรื่องราวประวัติศาสตร์ต้องห้ามพลาดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เลยค่ะ

อาหารท้องถิ่น

เนื่องจากคนอียิปต์ส่วนมากนับถือศาสนาอิสลาม เพราะฉะนั้นอาหารหลักของคนอียิปต์จะเน้นทานอาหารประเภทมังสวิรัติ เช่น โยเกิร์ต ขนมปัง หัวหอม ผักต่างๆ นอกจากนี้อาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่นิยมรับประทานจะเป็น เนื้อแกะ แพะ เนื้อวัว และไก่ ซึ่งนอกจากจะแตกต่างจากฝั่งเอเชียบ้านเราแล้ว แต่ละจานยังมีประวัติสาสตร์ที่ยาวนานและน่าสนใจอีกด้วยค่ะ

Kushari	Ful Medames
เป็นอาหารอาหารประจำชาติของอียิปต์ ซึ่งประวัติของอาหารจานนี้น่าสนใจมากเพราะเริ่มต้นจากอาหารอินเดียที่ทำมาจากข้าวและถั่วแดงโดยชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในอียิปต์เมื่อปี 1800 หลังจากนั้นชาวอิตาเลียนก็ได้เพิ่มเส้นพาสต้าลงไป ก่อนที่ชาวอียิปต์จะเพิ่มหัวหอมทอดและซอสมะเขือเทศจนกลายเป็น Kushari อย่างในปัจจุบัน นอกเหนือจากส่วนผสมข้างต้นแล้วยังมีส่วนผสมอื่นๆด้วยเช่น ถั่วลูกไก่, เส้นสปาเก็ตตี้, กระเทียม, พริกและน้ำส้มสายชู เป็นอาหารมังสวิรัติที่เมื่อทุกท่านไปถึงแล้วห้ามพลาดนะคะ	หนึ่งในอาหารหลักที่พบได้ทั่วไปสำหรับชาวอียิปต์ ซึ่งอาหารจานนี้ประกอบด้วยถั่วปากอ้าที่ปรุงด้วยน้ำมันและน้ำมะนาว สามารถเพิ่มกระเทียมหรือหัวหอมได้ตามต้องการ นอกจากนี้ชาวอียิปต์ยังนิยมทานคู่กับเนย, น้ำมันรสเผ็ด, น้ำมันมะกอก, ซอสมะเขือเทศ, พริกไทย, พาสต้า, ผักชีฝรั่ง, ไส้กรอกและไข่ต้มหรือทอด มีความเชื่อกันว่าอาหารจานนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณเลยล่ะค่ะ

Shawarma	Rice Pudding
เป็นสตรีทฟู๊ดยอดนิยมของชาวอียิปต์หน้าตาจะคล้ายเคบับบ้านเราค่ะ โดยจะทำจากชิ้นเนื้อย่าง (เนื้อแกะหรือเนื้อลูกวัว) ห่อด้วยแป้งเสิร์ฟพร้อมกับทาฮินี (ซอสที่ทำจากงาบด) และไก่ ท่านใดที่รักการทานเนื้ออย่าลืมลองชิมนะคะ	ปิดท้ายกันที่ขนมหวานของชาวอียิปต์กันนะคะ ถึงแม้ว่าพุดดิ้งข้าวไม่ได้มีต้นกำเนิดที่ประเทศนี้แต่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในอียิปต์ สามารถพบได้ในพื้นที่ต่าง ๆ ทำมาจากข้าว น้ำและนม บางที่อาจจะเพิ่มลูกเกด ถั่วและอบเชย ซึ่งสูตรจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่นะคะ นิยมทานคู่กับไอศครีมพิสตาชิโอและที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่า

ของฝากและสินค้าพื้นเมือง

ดินแดนแห่งอารยธรรมแห่งนี้นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวจะสวยงามน่าสนใจแล้ว ของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองของที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม พีระมิดจำลอง หรือแม้แต่งานหัตถกรรมอย่างกระดาษปาปิรุสก็เป็นที่นิยมในบรรดานักเที่ยวทั่วโลกมาอย่างยาวนานเช่นกันค่ะ

หัวเชื้อน้ำหอมอียิปต์ (Perfume leavening Egypt )	ขวดน้ำหอมอียิปต์ (Perfume bottles egypt )
นํ้าหอมจากอียิปต์มีมาอย่างยาวนานแล้ว อ้างอิงจากหลักฐานภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังตอนหนึ่งที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut ที่เมือง Thebes ในประเทศอียิปต์บ่งบอกถึงการใช้น้ำหอมมาเนิ่นนาน ทำให้น้ำหอมจากประเทศอียิปต์เป็นหัวเชื้อน้ำหอมที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ รวมถึงแบรนด์ดังหลายๆแบรนด์ก็นำมาจากอียิปต์เช่นเดียวกัน หากใครได้ไปเที่ยวต้องได้ซื้อกลับมากันอย่างแน่นอนค่ะ	ภาชนะใส่น้ำหอมของชาวอียิปต์นั่นมีหลากหลายทั้งที่ทำมาจาก หิน, แก้ว, ไม้, กระเบื้องเคลือบ หรือแม้แต่ทอง เพื่อใช้แสดงฐานะและความมั่งคั่งของเจ้าของชาวอียิปต์ยังมีประเพณีความเชื่อที่จะนำน้ำหอมติดตัวไว้ใช้ทั้งตอนที่มีชีวิตอยู่และตอนตาย นักโบราณคดีมักพบเหยือกใส่น้ำมันหอมในสุสานของชาวอียิปต์ตั้งแต่คนธรรมดาจนถึงฟาร์โร ทำให้ขวดน้ำหอมของอียิปต์มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วยค่ะ

ภาพวาดกระดาษปาปิรุส (Papyrus)	ตุ๊กตาแมวอียิปต์ (Egypt Cat Figure)
กระดาษของชาวอียิปต์โบราณ ผลิตจากหญ้าที่เรียกว่า ปาปิรุส (papyrus) และเรียกว่ากระดาษปาปิรุสนำมาวาดภาพเรื่องราวต่างๆ เป็นสินค้านิยมซื้อฝากหรือใช้ตกแต่งบ้าน บอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นอียิปอย่างแท้จริงค่ะ	ชาวอียิปต์โบราณ นับถือแมวเป็นสัตว์เทพเจ้าถึงกับว่าหากแมวตายในบ้านต้องนำไปทำมัมมี่เลยทีเดียว แม้แต่คนที่จะนำไปทำมัมมี่ต้องเป็นเฉพาะราชวงศ์หรือขุนนางเท่านั้น จึงทำให้มีสัญลักษณ์แมวอียิปต์มีอยู่ทั่วไปในประเทศอียิปต์ รวมถึงรูปปั้นแมวหรือตุ๊กตาแมวที่สามารถซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วยค่ะ

ข้อแนะนำและพึงระวังก่อนมาเยือนประเทศอียิปต์

1. ควรสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง บัตรประชาชน และหน้าตราประทับเข้าเมืองของ ตม.อียิปต์ โดยเก็บพกไว้กับตัวเสมอ (ควรถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือและเก็บในอีเมล์ส่วนตัวด้วย) นอกจากนั้น ควรเก็บข้อมูลการเดินทางของท่านอย่างดี เช่น ตั๋วเครื่องบิน ใบจองโรงแรม และอื่นๆ หากต้องสำแดงต่อทางการอียิปต์

2. ควรแต่งกายอย่างสุภาพ โดยคำนึงถึงวัฒนธรรมและศาสนาอิสลาม

3. โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่สุ่มเสี่ยง เดินทางเป็นกลุ่ม และหมั่นตรวจสอบทรัพย์สินที่มีค่า

ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ ! สำหรับประเทศอียิปต์มนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรม ที่น่าหลงใหล น้องชิลอยากให้ทุกท่านลองเปิดใจ  ออกไปสัมผัสเห็นด้วยตาตัวเอง เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทุกท่านต้องหลงรักเลยล่ะค่ะ ^^