
จากที่น้องชิลได้กล่าวไว้ในเบื้องต้นว่า ประเทศเกาหลีใต้นั้นยังไม่มีการปิดประเทศแต่อย่างใด ซึ่งนั่นหมายความว่าชาวต่างชาติก็ยังคงสามารถเดินทางเข้าประเทศได้อย่างปกติ แต่ทั้งนี้เกาหลีใต้เองก็ใช้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองแบบพิเศษแทน โดยที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้ "ระงับความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่า) ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเกาหลีใต้ วีซ่าระยะสั้น (C-3) ทั้งแบบใช้ครั้งเดียว และแบบใช้หลายครั้ง ซึ่งออกภายในวันที่ 5 เม.ย. 2563 เป็นการชั่วคราว" เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้ ทั้งนี้ไม่ได้มีเพียงประเทศไทยประเทศเดียวที่โดนระงับนะคะ แต่รวมถึงอีกทั้ง 88 ประเทศทั่วโลกด้วย ซึ่งเป็นการยกระดับที่ทำให้การเดินทางไปเกาหลีใต้นั้นยากขึ้นไปอีก ส่งผลให้ บุคคลสัญชาติไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป จะต้องดำเนินการขอวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยเท่านั้น
ในวันนี้น้องชิลจะมาขออัปเดตข้อมูลในการยื่นขอวีซ่าเกาหลีใต้ให้ทุกท่านได้ทราบกันนะคะ ซึ่งก่อนอื่นเลยนั้นการขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศเกาหลีใต้ มีหลายประเภทและจำแนกตามวัตถุประสงค์ของผู้เดินทาง ไม่ว่าจะเป็น วีซ่าผู้สื่อข่าว, วีซ่าธุรกิจ, วีซ่าท่องเที่ยว, วีซ่านักเรียน และวีซ่าประเภทอื่น ๆ ซึ่งในบทความนี้น้องชิลจะขอพูดถึงวีซ่าประเภทท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางในช่วงนี้นะคะ
คำแนะนำเกี่ยวกับวีซ่าประเภทท่องเที่ยว
เอกสารประกอบการยื่นขอวีซ่าที่จำเป็นต้องใช้ทุกประเภท
- แบบฟอร์มขอวีซ่า พร้อมติดรูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว 1 รูป (พื้นหลังสีขาว อายุไม่เกิน 6 เดือน)
- พาสปอร์ตของผู้ยื่นขอวีซ่า และสำเนา 1 ชุด
- ค่าธรรมเนียม (หน่วยเงินเป็นบาทเท่านั้น)
- เอกสารตรวจสุขภาพที่ระบุว่า ผู้สมัครไม่มีไข้, ไอ, หนาวสั่น, ปวดศีรษะ, เจ็บคอ, มีน้ำมูก, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, หายใจไม่สะดวก, อาเจียน, เป็นผื่น, ดีซ่าน, มีน้ำมูกหรือเสมหะเป็นเลือด หรือมีอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า19 ออกจากโรงพยาบาลที่สถานทูตฯ กำหนด ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนวันยื่นสมัครวีซ่า (ฉบับภาษาอังกฤษ) ผลตรวจสุขภาพทั่วไป ไม่จำเป็นต้องตรวจหา COVID-19
- เอกสารยินยอมการกักตัว
- เอกสารรับรองสุขภาพ (ต้องกรอกเอกสารวันที่สมัคร และวันที่มารับวีซ่า)
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่าประเภทท่องเที่ยว
- ตราประทับรีเอ็นทรี่ เพอร์มิท ที่รับจากตม.ประเทศไทย และสำเนา 1 ชุด
- ใบมอบอำนาจภาษาอังกฤษและสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ในกรณีมอบอำนาจ)
- ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ (ถ้ามี) ภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
- สำเนาทะเบียนสมรส ภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (กรณีที่ผู้ยื่นขอวีซ่าถือวีซ่าสมรสหรือติดตามครอบครัวในประเทศไทย)
- ใบรับรองการเป็นนักเรียนภาษาอังกฤษ และทรานสคริปต์ภาษาอังกฤษ (กรณีที่ผู้ยื่นขอวีซ่าถือวีซ่านักเรียนในประเทศไทย)
- หนังสืออนุญาตทำงานในประเทศไทย (เวิร์ค เพอร์มิท) และสำเนา 1 ชุด (กรณีที่ผู้ยื่นขอวีซ่าถือวีซ่าทำงานในประเทศไทย)
- หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทประเทศไทย (ภาษาอังกฤษโดยระบุตำแหน่งและเงินเดือน)
- หนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท (กรณีที่ผู้ยื่นขอวีซ่าเป็นเจ้าของกิจการ ต้องเป็นภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ )
- รายการเดินบัญชีของผู้ยื่นขอวีซ่าจากธนาคารของไทย *อย่างน้อย 6 เดือนและไม่ใช่บัญชีบริษัท (ภาษาอังกฤษและออกโดยธนาคาร) และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากทุกหน้า (ถ้าหากไม่ใช่ธนาคารของไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษและได้รับการรับรองจากสถานทูต)
- หนังสือเชิญ (หากมีผู้เชิญจากประเทศเกาหลี)
- สำเนาพาสปอร์ต หรือสำเนาบัตรประชาชนของผู้เชิญ
- หนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัทหรือองค์กร กรณีไปเข้าร่วมงานสัมมนา หรือนิทรรศการ
- หลักฐานการจองโรงแรม
- กำหนดการการท่องเที่ยวในแต่ละวัน หรือแผนการท่องเที่ยวในแต่ละวัน (ภาษาอังกฤษ)
กรณีเดินทางกับบริษัททัวร์ ต้องมีเอกสารเพิ่มดังนี้
- เอกสารรับรองการเป็นลูกทัวร์ (ภาษาอังกฤษ)
- หนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัททัวร์ของไทย (ภาษาอังกฤษ พร้อมรับรองเอกสารที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ)
- หนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัททัวร์ของเกาหลี
- ตารางการทัวร์ (ภาษาอังกฤษ)
- เอกสารรับรองจากบริษัททัวร์ไทย (ภาษาอังกฤษ ระบุว่าบริษัททัวร์ไทยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในกรณีที่ลูกค้าทัวร์อยู่เกินวีซ่า ประพฤติตนไม่สมควร หรือกระทำผิดกฎหมาย และอื่น ๆ เป็นต้น บริษัททัวร์จะรับผิดชอบ พร้อมประทับตราบริษัททัวร์)
ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า
- กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่า (กรุณาโหลดแบบฟอร์มขอวีซ่า คลิกที่นี่ และกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษให้ครบถ้วนก่อนยื่นคำร้องขอวีซ่า)
- เตรียมเอกสารทั้งหมดที่ต้องใช้และค่าธรรมเนียมขอวีซ่า (ผู้ขอวีซ่าต้องยื่นเอกสารทั้งหมดภายในวันเดียวกันเท่านั้น)
- กดคิวหมายเลข 1 และนั่งรอ
- ยื่นเอกสารทั้งหมด ก่อนเวลา 11.00 น. (วันจันทร์ – ศุกร์, ยกเว้นวันหยุดราชการ)
- จ่ายค่าธรรมเนียมขอวีซ่า
หมายเหตุ:
- เอกสารที่ไม่ได้ออกโดยองค์กรในประเทศไทย ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ และได้รับการรับรองเอกสารจากสถานทูตของประเทศที่ออกเอกสาร
- หากเอกสารที่เตรียมมาไม่ครบถูกต้องตามที่กำหนดข้างต้นทางสถานทูตฯ จะไม่รับพิจารณาคำร้องขอยื่นวีซ่า
- เอกสารที่ใช้ยื่นขอวีซ่าและค่าธรรมเนียมจะไม่คืนในทุกกรณี
- ในกรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นคำร้องขอวีซ่าหรือรับวีซ่าแทน กรุณายื่นหนังสือมอบอำนาจภาษาอังกฤษพร้อมสำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของผู้รับมอบอำนาจและทางสถานทูตจะไม่รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
- ในกรณีที่วีซ่าถูกปฏิเสธ ผู้สมัครสามารถยื่นคำร้องขอหนังสือแจ้งการปฏิเสธวีซ่าแก่สถานทูตเกาหลีได้

สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย
ที่ตั้ง 23 ถนนเทียมร่วมมิตร รัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพ 10320
สถานทูตฯ ไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารทางโทรศัพท์
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม กรุณาส่งอีเมล์มาที่: [email protected] เท่านั้น
เวลาในการยื่นเอกสารขอวีซ่า
- 8.30 – 11.00 น. วันจันทร์ - ศุกร์ (ยกเว้นวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ)
เวลาในการรับวีซ่า
ผู้สมัครจำเป็นต้องเดินทางเข้ามารับผลวีซ่าด้วยตนเอง(เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน การพิจารณาวีซ่าจะใช้เวลาอย่างต่ำ 14 วัน) |
ในการตรวจคนเข้าเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้นั้น อาจมีการเรียกขอดูเอกสารเพิ่มเติม ทางสถานทูตฯ เกาหลีแนะนำให้เตรียมเอกสารดังกล่าวเผื่อไว้ให้ครบถ้วน ในกรณีที่มีการเรียกตรวจจะได้มีหลักฐานพร้อมแสดงแก่เจ้าหน้าที่ โดยเอกสารจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ เช่น
- หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
- หลักฐานการจองที่พัก
- แผนการท่องเที่ยว
- หนังสือเชิญจากประเทศเกาหลี
- หลักฐานการทำงานหรือศึกษาในประเทศไทย
- หลักฐานแสดงสถานะทางการเงินในประเทศไทย
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุล
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ ข้อมูลการขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศเกาหลี จากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ที่น้องชิลนำมาฝากทุกท่านกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงนี้นะคะ อย่าลืมรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและเที่ยวให้สนุกนะคะ