Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) ID19 ทัวร์อินเดีย ทัชมาฮาล นครสีชมพู วัดพระพิฆเนศ นั่งช้างขึ้นป้อม AMBER FORT 5 วัน 3 คืน โดยสายการบิน Thai Airways (TG)

ตะลุยชมเมืองอันเลื่องชื่อ นครสีชมพู และชมทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ไปเยือนยังพระราชวังสายลม พระราชวังสายน้ำ พิเศษ! ให้ท่านได้นั่งช้าง ขึ้นชม AMBER FORT จากนั้นเข้าชมและถ่ายภาพด้านในห้องสีฟ้า ณ CITY PALACE ชมป้อม AGRA FORT และ RED FORT ประตูเมืองอินเดีย ชมวัดลักษมีนารายัน สักการะวัดพระพิฆเนศ พร้อมปิดท้ายชิลๆกันที่พาท่านไปช้อปปิ้งตลาดจันปาท

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / เมืองชัยปุระ (Jaipur) / บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม / SHERATON HOTEL
วันที่ 2: บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / ฮาวา มาฮาล  (HAWA MAHAL) พระราชวังแห่งสายลม / พระราชวังสายน้ำ (Jal Mahal) / ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) และพระราชวังแอมเบอร์ / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / ซิตี้ พาเลส (CITY PALACE) / วัดพระพิฆเนศ (Ganesh temple) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน / SHERATON HOTEL
วันที่ 3: บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / เมืองอัครา (Agra) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / ทัชมาฮาล (Taj Mahal) / อัครา ฟอร์ท (Agra Fort) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน / HOLIDAY INN HOTEL
วันที่ 4: บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / กรุงนิวเดลลี / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / ป้อมแดง (RED FORT) / ประตูเมืองอินเดีย (India Gate) / วัดลักษมีนารายัน (LAKSHMI NARAYAN TEMPLE) / ตลาดจันปาท / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี
วันที่ 5: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
11 มื้อ 3 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,503 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

Thai Airways (TG)  
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 43)

ตารางบิน
Thai Airways (TG) เวลาบินขาไป 21:35 - 23:25 BKK - RJ183
เวลาบินขากลับ 23:30 - 05:25 HKG - BKK TG316

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) / สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / เมืองชัยปุระ (Jaipur) / บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม / SHERATON HOTEL
ช่วงเช้า
(05:00) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 07.35 น. ออกเดินทางสู่ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดิย โดยเที่ยวบินที่ TG323 (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 03.20 ชั่วโมง) **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
(10:35) สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี
ถึงสนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาในประเทศอินเดียช้ากว่าเมืองไทย 1.30 ชม. ขอให้ทุกท่านตั้งเวลาใหม่เพื่อไม่สับสน เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย)
ถึงสนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี เมืองเดลลี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาในประเทศอินเดียช้ากว่าเมืองไทย 1.30 ชม. ขอให้ทุกท่านตั้งเวลาใหม่เพื่อไม่สับสน เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย)
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองชัยปุระ (Jaipur)
นำท่านชม เมืองชัยปุระ นครแห่งชัยชนะ คนอินเดียเรียกเมืองนี้ว่า จัยปูร์ หรือ จัยเปอร์ รัฐราชสถานได้ชื่อว่า นครสีชมพู (Pink city) โดยที่มาของเมืองสีชมพูก็เนื่องจากในปี ค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) ได้มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเก่าของบ้านเรือนตนเอง เพื่อแสดงถึงไมตรีจิตครั้งต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Waies) เจ้าชายมกุฎราชกุมารของอังกฤษ ซึ่งภายหลังคือ (อ่านต่อ)
นำท่านชม เมืองชัยปุระ นครแห่งชัยชนะ คนอินเดียเรียกเมืองนี้ว่า จัยปูร์ หรือ จัยเปอร์ รัฐราชสถานได้ชื่อว่า นครสีชมพู (Pink city) โดยที่มาของเมืองสีชมพูก็เนื่องจากในปี ค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) ได้มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเก่าของบ้านเรือนตนเอง เพื่อแสดงถึงไมตรีจิตครั้งต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Waies) เจ้าชายมกุฎราชกุมารของอังกฤษ ซึ่งภายหลังคือกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 (King Edward Vll) แห่งสหราชอาณาจักรและต่อมารัฐบาลอินเดียก็ยังออกกฎหมายควบคุมให้สิ่งก่อสร้างภายในเขตกำแพงเมืองเก่าต้องทาสีชมพูเช่นเดิม ปัจจุบันเมืองชัยปุระเป็นศูนย์กลางทางการค้าซึ่งทันสมัยสุดของรัฐราชสถาน สิ่งที่น่าสนใจในเมืองชัยปูระคือ ผังเมืองเก่า และสิ่งก่อสร้างดั้งเดิม รวมทั้งประตูเมืองซึ่งยังคงอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นอกจากนี้สีชมพูของเมืองก็กลายเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านรับประทานและเต็มอิ่มกับอาหารเย็นแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านรับประทานและเต็มอิ่มกับอาหารเย็นแสนอร่อย ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
SHERATON HOTEL
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ SHERATON HOTEL หรือโรงแรมเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ SHERATON HOTEL หรือโรงแรมเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
วันที่ 2
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / ฮาวา มาฮาล  (HAWA MAHAL) พระราชวังแห่งสายลม / พระราชวังสายน้ำ (Jal Mahal) / ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) และพระราชวังแอมเบอร์ / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / ซิตี้ พาเลส (CITY PALACE) / วัดพระพิฆเนศ (Ganesh temple) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน / SHERATON HOTEL
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเพิ่มพลังด้วยอาหารเช้าแสนอร่อย ณ โรงแรมเพื่อ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้
นำท่านเพิ่มพลังด้วยอาหารเช้าแสนอร่อย ณ โรงแรมเพื่อ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ฮาวา มาฮาล  (HAWA MAHAL) พระราชวังแห่งสายลม
นำท่านชมภายนอก ฮาวา มาฮาล  (HAWA MAHAL) แปลว่า พระราชวังแห่งสายลม เป็นพระราชวัง ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปีค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้นและมีลักษณะคล้ายรังผึ้งสร้างจากหินทรายสีแ (อ่านต่อ)
นำท่านชมภายนอก ฮาวา มาฮาล  (HAWA MAHAL) แปลว่า พระราชวังแห่งสายลม เป็นพระราชวัง ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปีค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้นและมีลักษณะคล้ายรังผึ้งสร้างจากหินทรายสีแดงสดฉลุหินให้เป็นช่องหน้าต่างลวดลายเล็กๆ ละเอียดยิบมีช่องหน้าต่างถึง 953 บานแต่ปิดไว้ด้วยหินทรายฉลุทำให้นางในฮาเร็มพระสนมที่อยู่ด้านในสามารถมองออกมาข้างนอกได้โดยที่คนภายนอกมองเข้าไปข้างในไม่เห็นและประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมจนเป็นที่มาของชื่อ Palace Of Wind
พระราชวังสายน้ำ (Jal Mahal)
นำท่านสู่ พระราชวังสายน้ำ (JAL MAHAL) ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ Man Sagar Lake โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่ด้านหลัง และตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง พระราชวังแห่งนี้มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด และเหลือให้เห็นเพียงชั้นบนสุดเท่านั้น
นำท่านสู่ พระราชวังสายน้ำ (JAL MAHAL) ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ Man Sagar Lake โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่ด้านหลัง และตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง พระราชวังแห่งนี้มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด และเหลือให้เห็นเพียงชั้นบนสุดเท่านั้น
ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) และพระราชวังแอมเบอร์
นำท่านชม ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) และพระราชวังแอมเบอร์ พระราชวังแห่งนี้เป็นปราสาทสูงใหญ่บนยอดเขาสูง ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของแนวป้อมปราการที่มีกำแพงเมืองทอดยาวเลื้อยคดเคี้ยวไปตามแนวเขา ว่ากันว่ากำแพงเมืองยาวกว่า 13 กิโลเมตร มองเผินๆ ก็นึกถึง กำแพงเมืองจีนได้เหมือนกัน พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1592 โดยมหาราชาแมนสิงห์ที่ 1 แห่งกองทัพพระเจ้าอัคบาร์ ราชวงศ์โมกุล เป็นป้อมปราการหินทรายแดงที่เป็นศิล (อ่านต่อ)
นำท่านชม ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) และพระราชวังแอมเบอร์ พระราชวังแห่งนี้เป็นปราสาทสูงใหญ่บนยอดเขาสูง ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของแนวป้อมปราการที่มีกำแพงเมืองทอดยาวเลื้อยคดเคี้ยวไปตามแนวเขา ว่ากันว่ากำแพงเมืองยาวกว่า 13 กิโลเมตร มองเผินๆ ก็นึกถึง กำแพงเมืองจีนได้เหมือนกัน พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1592 โดยมหาราชาแมนสิงห์ที่ 1 แห่งกองทัพพระเจ้าอัคบาร์ ราชวงศ์โมกุล เป็นป้อมปราการหินทรายแดงที่เป็นศิลปะสถาปัตยกรรมผสมผสานของทั้งโมกุล(อิสลาม) และ ฮินดูที่เข้ากันอย่างสวยงามลงตัว
* (พิเศษ!! รวมค่านั่งช้างขึ้นไปชมพระราชวัง)
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ซิตี้ พาเลส (CITY PALACE)
นำท่านชม ซิตี้ พาเลส (CITY PALACE) ซึ่งเดิมเป็นพระราชวังของมหาราชใจสิงห์ (Jai Singh) พระราชวัง ถูกสร้างขยายออกในสมัยหลัง ปัจจุบัน ได้รวบเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ประกอบด้วย 4 ส่วนที่น่าสนใจคือ ส่วนแรกคือส่วนของพระราชวังส่วนที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ซึ่งมีการตัดเย็บอย่างวิจิตร ส่วนที่สามเป็นส่วนของอาวุธ และชุดศึกสงคราม ที่จัดแสดงไว้อย่างน่าทึ่ (อ่านต่อ)
นำท่านชม ซิตี้ พาเลส (CITY PALACE) ซึ่งเดิมเป็นพระราชวังของมหาราชใจสิงห์ (Jai Singh) พระราชวัง ถูกสร้างขยายออกในสมัยหลัง ปัจจุบัน ได้รวบเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ประกอบด้วย 4 ส่วนที่น่าสนใจคือ ส่วนแรกคือส่วนของพระราชวังส่วนที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ซึ่งมีการตัดเย็บอย่างวิจิตร ส่วนที่สามเป็นส่วนของอาวุธ และชุดศึกสงคราม ที่จัดแสดงไว้อย่างน่าทึ่งมากมายหลายหลาก บางชิ้น ก็เป็นอาวุธได้อย่างน่าพิศวง และส่วนที่สี่ คือส่วนของศิลปะภาพวาด รูปถ่าย และราชรถ พรมโบราณ ซึ่งได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ตรงกลางอาคารมีหม้อน้ำขนาดมหึมา 2 ใบ ทำจากโลหะเงิน สูง 1.50 เมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าเป็นหม้อน้ำที่กษัตริย์ Madho Singh ได้รับมาจากงานราชาภิเษกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งบรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์
* จุดเด่นยอดฮิตของวังแห่งนี้ คือ BLUE PALACE ห้องสีฟ้า ที่อยู่บนสุดของพระราชวัง ซึ่งมีความสวยงามทั้งลวดลาย และสีฟ้า ทำให้เป็นห้องสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป
วัดพระพิฆเนศ (Ganesh temple)
วัดพระพิฆเนศ Ganesh Temple (Moti Dungri) วัดพระพิฆเนศที่ชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับ 1 ของเมืองชัยปุระ วัดนี้สร้างขึ้นโดย Seth Jai Ram Paliwal ในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณเนินเขาเล็กๆ พระวิหารแห่งนี้เปรียบเสมือนชีวิตแห่งการค้นหาความสุขนิรันดร์ ซึ่งพระพิฆเนศวรช้างหัวเทพในศาสนาฮินดูถือว่าเป็นพระเจ้าแห่งความเป็นมงคลปัญญา ความรู้ และความมั่งคั่ง วัดพระพิฆเนศแห่งนี้เป็นที่นิยมมากที่สุ (อ่านต่อ)
วัดพระพิฆเนศ Ganesh Temple (Moti Dungri) วัดพระพิฆเนศที่ชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับ 1 ของเมืองชัยปุระ วัดนี้สร้างขึ้นโดย Seth Jai Ram Paliwal ในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณเนินเขาเล็กๆ พระวิหารแห่งนี้เปรียบเสมือนชีวิตแห่งการค้นหาความสุขนิรันดร์ ซึ่งพระพิฆเนศวรช้างหัวเทพในศาสนาฮินดูถือว่าเป็นพระเจ้าแห่งความเป็นมงคลปัญญา ความรู้ และความมั่งคั่ง วัดพระพิฆเนศแห่งนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวอินเดียและชาวต่างชาติ เชิญท่านขอพรจากองค์พระพิฆเนศตามอัธยาศัย
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านรับประทานและเต็มอิ่มกับอาหารเย็นแสนอร่อย ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านรับประทานและเต็มอิ่มกับอาหารเย็นแสนอร่อย ณ ภัตตาคารอาหารจีน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
SHERATON HOTEL
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ SHERATON HOTEL หรือโรงแรมเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ SHERATON HOTEL หรือโรงแรมเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
วันที่ 3
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / เมืองอัครา (Agra) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / ทัชมาฮาล (Taj Mahal) / อัครา ฟอร์ท (Agra Fort) / บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน / HOLIDAY INN HOTEL
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเพิ่มพลังด้วยอาหารเช้าแสนอร่อย ณ โรงแรมเพื่อ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้
นำท่านเพิ่มพลังด้วยอาหารเช้าแสนอร่อย ณ โรงแรมเพื่อ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองอัครา (Agra)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอัครา เมืองที่เป็นสถานที่ตั้งอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ทัชมาฮาล และเคยเป็นศูนย์กลางปกครองของอินเดียสมัยราชวงศ์โมกุล อัคระ อดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า ฮินดูสถาน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลัคเนาว์ เป็นเมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ เมืองอัคระมีประชากรทั้งหมด 1,686,976 คน (ปีค.ศ. 2010) ถือเป็นหน (อ่านต่อ)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอัครา เมืองที่เป็นสถานที่ตั้งอนุสรณ์สถานแห่งความรัก ทัชมาฮาล และเคยเป็นศูนย์กลางปกครองของอินเดียสมัยราชวงศ์โมกุล อัคระ อดีตเมืองหลวงของอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า ฮินดูสถาน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลัคเนาว์ เป็นเมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ เมืองอัคระมีประชากรทั้งหมด 1,686,976 คน (ปีค.ศ. 2010) ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ และอันดับที่ 19 ในประเทศอินเดีย
* ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 4.30 ชั่วโมง
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ทัชมาฮาล (Taj Mahal)
นำท่านเข้าชมทัชมาฮาล แหล่งมรดกโลกเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญของโลก ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 ต่อมานำท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป และนำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง แล้วนำท่านเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนส (อ่านต่อ)
นำท่านเข้าชมทัชมาฮาล แหล่งมรดกโลกเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญของโลก ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 ต่อมานำท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป และนำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง แล้วนำท่านเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ ที่ประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน ที่เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย โดยอาคารตรงกลางจะเป็นรูปโดมซึ่งมีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และ พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ ทัชมาฮาลแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 12 ปี โดยสิ้นเงินไป 41 ล้านรูปี มีการใช้ทองคำประดับตกแต่งส่วนต่างๆ ของอาคาร หนัก 500 กิโลกรัม และใช้คนงานกว่า 20,000 คน ต่อมานำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนาโดยฝั่งตรงกันข้ามจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว โดยเล่ากันว่าพระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองเป็นหินอ่อนสีดำโดยตัวรูปอาคารจะเป็นแบบเดียวกันกับทัชมาฮาล เพื่อที่จะอยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอักราเสียก่อน
อัครา ฟอร์ท (Agra Fort)
จากนั้นนำท่านเข้าชมอัครา ฟอร์ท (Agra Fort)แหล่งมรดกโลก ทิ่ติดริมแม่น้ำยมุนาสร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) พระเจ้าชาห์จาฮานได้สร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต และนำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตู อำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเข้าชมอัครา ฟอร์ท (Agra Fort)แหล่งมรดกโลก ทิ่ติดริมแม่น้ำยมุนาสร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) พระเจ้าชาห์จาฮานได้สร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต และนำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตู อำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านลานสวนประดับ อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมสามยุคสมัยตามรสนิยมที่แตกต่างกันของสามกษัตริย์ นำท่านเข้าชมด้านในพระตำหนักต่างๆที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย แล้วนำขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่สองที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นชมทิวทัศน์ลำน้ำยมุนาได้ ต่อมานำชมห้องที่ประทับของกษัตริย์ ,พระโอรส, พระธิดาและองค์ต่างๆ แล้วนำชมพระตำหนัก มาซัมมัน บูร์ช ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง ที่สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ ในพระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่า ชาห์จาฮัน ถูกพระโอรส ออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปี ในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์ แล้วก็นำชมลานสวนประดับ ดิวันอีอาอำ ที่ชั้นบนด้านหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานบัลลังก์นกยูงอันยิ่งใหญ่ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิหร่าน) และที่ลานสวนประดับแห่งนี้เองที่พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้พบรักครั้งแรกกับพระนางมุมตัซ ที่ได้นำสินค้าเป็นสร้อยไข่มุกเข้ามาขายให้กับนางในฮาเร็ม
ช่วงค่ำ
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านรับประทานและเต็มอิ่มกับอาหารเย็นแสนอร่อย ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านรับประทานและเต็มอิ่มกับอาหารเย็นแสนอร่อย ณ ภัตตาคารอาหารจีน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
HOLIDAY INN HOTEL
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ HOLIDAY INN HOTEL หรือโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน
ค่ำคืนนี้ นำท่านเข้าพักที่ HOLIDAY INN HOTEL หรือโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ 4
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / กรุงนิวเดลลี / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร / ป้อมแดง (RED FORT) / ประตูเมืองอินเดีย (India Gate) / วัดลักษมีนารายัน (LAKSHMI NARAYAN TEMPLE) / ตลาดจันปาท / รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี
ช่วงเช้า
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเพิ่มพลังด้วยอาหารเช้าแสนอร่อย ณ โรงแรมเพื่อ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้
นำท่านเพิ่มพลังด้วยอาหารเช้าแสนอร่อย ณ โรงแรมเพื่อ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
กรุงนิวเดลลี
นำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงนิวเดลลี ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5,000 ปี และเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรอินเดียโบราณ 7 อาณาจักร ต่อมาในปี 1857 อังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในการปกครองประเทศอินเดียและได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่โกลกัตตา และได้ย้ายกลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่งในปี 1911 หลังจากอินเดียได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี 1947 ก็ได้มีการสร้างสถานที่ทำการราชการโดยสร้างเมืองใหม่ชื่อว่า “นิวเดล (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงนิวเดลลี ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5,000 ปี และเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรอินเดียโบราณ 7 อาณาจักร ต่อมาในปี 1857 อังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในการปกครองประเทศอินเดียและได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่โกลกัตตา และได้ย้ายกลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่งในปี 1911 หลังจากอินเดียได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี 1947 ก็ได้มีการสร้างสถานที่ทำการราชการโดยสร้างเมืองใหม่ชื่อว่า “นิวเดลลี” จากนั้นผ่านชมรัฐสภาราชปาติ บาวาล ซึ่งเป็นวงแหวนสถานที่ราชการต่างๆ มีตึกรัฐสภาอันยิ่งใหญ่และเป็นที่ทำการของรัฐบาล ผ่านชมย่านธุรกิจการค้าและย่านที่อยู่อาศัยของเศรษฐีอินเดียบนถนนสายสำคัญที่สุดของอินเดีย และประตูเมืองแห่งชัยชนะ หรือ INDIA GATE
* ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 4.30 ชั่วโมง
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
พาท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ป้อมแดง (RED FORT)
นำท่านสู่ ป้อมแดง (RED FORT) หรือที่คนอินเดีย เรียกว่า ลาล คิลา (Lal Qila) เป็นป้อมปราการสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอินเดีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1638 พระเจ้าชาห์ชะฮาน สั่งให้สร้างป้อมนี้ขึ้นเนื่องจากจะย้ายป้อมปราการจากเมืองอัครามาเมืองเดลี ใช้เวลาในการสร้างถึง 10 ปี และทรงควบคุมการสร้างเองทั้งหมด โครงสร้างสถาปัตกรรมของป้อมแดงแห่งนี้ ถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง น่าเกรงขาม และใช้หินทรายแดงในการสร้างกำแพงล้อมร (อ่านต่อ)
นำท่านสู่ ป้อมแดง (RED FORT) หรือที่คนอินเดีย เรียกว่า ลาล คิลา (Lal Qila) เป็นป้อมปราการสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอินเดีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1638 พระเจ้าชาห์ชะฮาน สั่งให้สร้างป้อมนี้ขึ้นเนื่องจากจะย้ายป้อมปราการจากเมืองอัครามาเมืองเดลี ใช้เวลาในการสร้างถึง 10 ปี และทรงควบคุมการสร้างเองทั้งหมด โครงสร้างสถาปัตกรรมของป้อมแดงแห่งนี้ ถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง น่าเกรงขาม และใช้หินทรายแดงในการสร้างกำแพงล้อมรอบป้อมเอาไว้ ปัจจุบันป้อมแดงแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีในวันชาติของอินเดียทุกปีอีกด้วย
ประตูเมืองอินเดีย (India Gate)
นำท่านเดินทางสู่ ประตูเมืองอินเดีย (India Gate) ประตูเมืองแห่งนี้สูง 43.3 เมตร ซุ้มโค้งของประตูกว้าง 9.1 เมตร สูง 22.8 เมตร สร้างโดยใช้หินทรายแดงแท่งทึบ เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมในงานวันสำคัญต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ของทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่ประตูเมืองแห่งนี้จะเห็นลายสลักชื่อของทหารที่ตายในสนามรบ โดยชื่อที่สลักไว้เป็นชื่อของทหารและข้าราชการชาวอินเดียและอังกฤษ จำนว (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ ประตูเมืองอินเดีย (India Gate) ประตูเมืองแห่งนี้สูง 43.3 เมตร ซุ้มโค้งของประตูกว้าง 9.1 เมตร สูง 22.8 เมตร สร้างโดยใช้หินทรายแดงแท่งทึบ เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมในงานวันสำคัญต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ของทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่ประตูเมืองแห่งนี้จะเห็นลายสลักชื่อของทหารที่ตายในสนามรบ โดยชื่อที่สลักไว้เป็นชื่อของทหารและข้าราชการชาวอินเดียและอังกฤษ จำนวน 13,516 คน ที่พลีชีพในสงครามชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือ และสงครามอัฟฆัน ครั้งที่ 3 ด้านบนยอดของประตูสร้างเพื่ออุทิศให้แก่ทหารที่หายสาบสูญไปโดยไร้ร่องรอย
วัดลักษมีนารายัน (LAKSHMI NARAYAN TEMPLE)
จากนั้นนำท่านสู่ วัดลักษมีนารายัน (LAKSHMI NARAYAN TEMPLE) หรือเรียกอีกอย่างว่า เบอร์ลาแมนเดียร์ (Birla Mandir) ตามชื่อของผู้สร้าง คือ นาย Raja Baldev Birla ซึ่งเป็นนักธุรกิจคนสำคัญของอินเดีย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 เพื่อบูชาพระนารายณ์ (พระผู้พิทักษ์โลก) และพระลักษมี (เทพแห่งความมั่งคั่ง) มีทั้งชาวอินเดียและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาเคารพสักการะ เนื่องจากเชื่อว่า ถ้ามาขอพรที่วัดนี้จะสมดั่งคำปรารถน (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านสู่ วัดลักษมีนารายัน (LAKSHMI NARAYAN TEMPLE) หรือเรียกอีกอย่างว่า เบอร์ลาแมนเดียร์ (Birla Mandir) ตามชื่อของผู้สร้าง คือ นาย Raja Baldev Birla ซึ่งเป็นนักธุรกิจคนสำคัญของอินเดีย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 เพื่อบูชาพระนารายณ์ (พระผู้พิทักษ์โลก) และพระลักษมี (เทพแห่งความมั่งคั่ง) มีทั้งชาวอินเดียและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาเคารพสักการะ เนื่องจากเชื่อว่า ถ้ามาขอพรที่วัดนี้จะสมดั่งคำปรารถนา
ตลาดจันปาท
จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งที่ตลาดจันปาทซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีสินค้าหัตถกรรมและงานฝีมือพื้นเมืองต่าง ๆ มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ อาทิ ผ้าไหมอินเดีย ผ้าพันคอจากแคชเมียร์ สาหรี่ เครื่องประดับและอัญมณี ไม้จันหอมแกะสลักและของตกแต่งบ้าน ฯลฯ ได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย 
จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งที่ตลาดจันปาทซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีสินค้าหัตถกรรมและงานฝีมือพื้นเมืองต่าง ๆ มากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ อาทิ ผ้าไหมอินเดีย ผ้าพันคอจากแคชเมียร์ สาหรี่ เครื่องประดับและอัญมณี ไม้จันหอมแกะสลักและของตกแต่งบ้าน ฯลฯ ได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย 
* ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมไม่ไปตลาดจันปาทหากมีเวลาไม่เพียงพอ
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
สนามบินนานาชาติอินธิรา คานธี
นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
นำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
* 23.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯโดยเที่ยวบินที่ TG316 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
วันที่ 5
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
(05:25) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

**ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมไม่ไปตลาดจันปาทหากมีเวลาไม่เพียงพอ**


อัตราค่าบริการรวม

  1. ตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป -กลับพร้อมกรุ๊ป อยู่ต่อต้องเสียค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว
  2. ที่พักโรงแรมตามรายการ 3 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
  3. อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) 
  4. ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  5. ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋า ไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ(โหลดได้ท่านละ 1 ใบ)กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry 7 กก.ต่อ 1 ใบ
  6. ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  7. ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ
  8. ประกันอุบัติเหตุวงเงิน1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์) 
  9. ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)


อัตราค่าบริการไม่รวม

  1. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
  2. ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  4. ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  5. ค่าวีซ่าเข้าประเทศอินเดียแบบ E-VISA และค่าดำเนินการ 3,500 บาท
  6. ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ,ผู้ช่วยคนขับรถ 1,200 บาท /ทริป/ลูกทัวร์1ท่าน (บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศ)
  7. ค่ทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ (ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)


เงื่อนไขการสำรองที่นั่งและการยกเลิกทัวร์

การจองทัวร์

  1. กรุณาจองทัวร์ล่วงหน้า ก่อนการเดินทาง พร้อมชำระมัดจำ 10,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระทันทีก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน มิฉะนั้นถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ (ช่วงเทศกาลกรุณาชำระก่อนเดินทาง 21 วัน)

กรณียกเลิก

  1. ยกเลิกการเดินทางก่อนการเดินทาง 35 วัน บริษัทฯ จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด ยกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
  2. ยกเลิกการเดินทาง 20-30 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% และริบเงินมัดจำทั้งหมด
  3. ยกเลิกภายใน 20 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

กรณีเจ็บป่วย

  1. กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อน            การเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางได้ตามความเป็นจริง
  2. ในกรณีเจ็บป่วยกะทันหันก่อนล่วงหน้าเพียง 7 วันทำการ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด กรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯ กำหนดไว้ (15 ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทฯ และผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกัน บริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน
  4. คณะผู้เดินทางจำนวน 10 ท่านขึ้นไป จึงออกเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางไม่ถึง 10 ท่าน ไม่มีหัวหน้าทัวร์ไทยร่วมเดินทางไปด้วยโดยทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 10 วันก่อนการเดินทาง
  5. กรณีที่ท่านต้องออกตั๋วภายใน เช่น (ตั๋วเครื่องบิน, ตั๋วรถทัวร์, ตั๋วรถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋ว เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบินเพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว
  6. กรณีใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มน้ำเงิน) เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ หากท่านถูกปฏิเสธในการเข้า – ออกประเทศใด ๆ ก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์และรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น


เอกสารที่ใช้ในการยื่นวีซ่าประเทศอินเดีย 10 วันล่วงหน้าก่อนเดินทาง

  1. สแกนหน้าพาสปอร์ตสีที่ชัดเจน ห้ามถ่ายจากมือถือ และวันหมดอายุหนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
  2. รูปถ่าย : รูปสี ขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาวเท่านั้น 2 รูป หน้าตรง ไม่ยิ้มเห็นฟัน เก็บผมให้เรียบร้อย
  3. กรณีผู้เดินทางอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์  เด็กไม่ได้เดินทาง กับบิดาและมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมให้บุตรเดินทาง ไปต่างประเทศจากเขตหรืออำเภอ (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) + หน้าพาสปอร์ตของบิดาและ มารดา + หนังสือรับรองค่าใช่จ่าย
  4. กรณีผู้เดินทางอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ ต้องเตรียมสำเนาสูติบัตร ภาษาไทย 1 ฉบับ และ ใบสูติบัตรตัวจริง ภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ
  5. กรณีผู้เดินทางอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ต้องเตรียมเอกสารเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษตัวจริง 1 ฉบับ


**ในกรณีวีซ่าของท่านไม่ผ่านการพิจารณาจากประเทศอินเดีย
ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบคืนเงินค่าทัวร์ให้ทุกกรณี**


 รายละเอียดเพิ่มเติม

  1. บริษัทฯมีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมทัวร์ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
  2. เที่ยวบิน , ราคาและรายการท่องเที่ยว สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
  3. หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน และบริษัทฯรับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น (หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน บริษัทฯไม่รับผิดชอบหากอายุเหลือไม่ถึงและไม่สามารถเดินทางได้ )
  4. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากเกิดความล่าช้าของสายการบิน,สายการบินยกเลิกบิน , การประท้วง,การนัดหยุดงาน,การก่อจลาจล หรือกรณีท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ เจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งจากไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯหรือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ซึ่งลูกค้าจะต้องยอมรับในเงื่อนไขนี้ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม)
  5. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากผู้เดินทางประสบเหตุสภาวะฉุกเฉินจากโรคประจำตัว ซึ่งไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุในรายการท่องเที่ยว (ซึ่งลูกค้าจะต้องยอมรับในเงื่อนไขนี้ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัททัวร์)
  6. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ,ไม่ทานอาหารบางมื้อ,เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางบริษัทฯได้ชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาจ่ายขาด ก่อนเดินทางเรียบร้อยแล้วเป็นการชำระเหมาขาด
  7. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหายจากการโจรกรรมและหรือเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเองหรือในกรณีที่กระเป๋าเกิดสูญหายหรือชำรุดจากสายการบิน
  8. กรณีที่การตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯและในต่างประเทศปฎิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่ระบุไว้ในรายการเดินทาง บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
  9. ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วราคาพิเศษ กรณีที่ท่านไม่เดินทางพร้อมคณะไม่สามารถนำมาเลื่อนวันหรือคืนเงินและไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้
  10. เมื่อท่านตกลงชำระเงินไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนผ่านตัวแทนของบริษัทฯหรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆที่ได้ระบุไว้ข้างต้นนี้แล้วทั้งหมด
  11. กรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดหรือเทศกาลที่ต้องการันตีมัดจำกับสายการบินหรือผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น Charter Flight , Extra Flightจะไม่มีการคืนเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมด
  12. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากพาสปอร์ตไม่ตรงกับใบหน้าปัจจุบัน ถึงจะยังไม่หมดอายุก็ตาม อาจทำให้ท่านโดนปฎิเสธการเข้าและออกประเทศได้ เช่น ศัลยกรรม ผ่าตัดขากรรไกรที่ทำให้ใบหน้าเปลี่ยนไป ดังนั้น ท่านต้องทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ก่อนทำการจองทัวร์
  13. กรณีมี “คดีความ” ที่ไม่อนุญาติให้ท่านเดินทางออกนอกประเทศได้ โปรดทำการตรวจสอบก่อนการจองทัวร์ว่าท่านสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
  14. กรณี “หญิงตั้งครรภ์” ท่านจะต้องมีใบรับรองแพทย์ ระบุชัดเจนว่าสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ รวมถึงรายละเอียดอายุครรภ์ที่ชัดเจน สิ่งนี้อยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น


**กรุณากรอกข้อมูลสำคัญสำหรับกรอกวีซ่าอินเดียออนไลน์ด้านล่างให้ครบถ้วนด้วยค่ะ**


** ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางทุกหน้าอย่างถ่องแท้
แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง**


กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา