Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย)
รูดบัตร 0%

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
วันที่ 2: ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (Jeju International Airport) / อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) - ฤดูหนาว / ฮัลโหล คิตตี้ (Hello Kitty Island) / พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลลอค (O՚Sulloc) / ทัคโดริทัง (Dakdoritang) / สวนส้มไร้เมล็ด (Jeju Orange Farm) / วัดซันบังซา (Sanbangsa Temple) / คาลบิ หรือ หมูย่างเกาหลี (Kalbi) / Sea & Hotel
วันที่ 3: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / ปั่นจักรยานบนรางรถไฟ (Rail Bike) / ศูนย์น้ำมันสนเข็มแดง (Red Pine Center) / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อควา แพลนเนท (Aqua Planet Jeju) / แทจีพลูแบ็ก (Dwaeji Bulbaek) / ภูเขาไฟซองซานอิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak) / หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ (Seongeup Folk Village) / พิพิธภัณฑ์แฮนยอ (Haenyeo Museum) / บุฟเฟ่ต์บาร์บีคิว และซีฟู้ดสไตล์เกาหลี (Korean BBQ & Seafood) / Sea & Hotel
วันที่ 4: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / โขดหินยงดูอัม (Yongduam Rock) หรือโขดหินหัวมังกร (Dragon Head Rock) / ศูนย์สมุนไพรบำรุงตับ ฮอกเก็ตนามู (Raisin Tree Center) / ร้านละลายเงินวอน (Super Market) / ศูนย์ผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องสำอาง เวชสำอาง (Cosmetic Center) / ชาบู ชาบู (Korean Shabu Shabu) / ศูนย์โสมรัฐบาล (Korean Ginseng Center) / ดงฮวา ดิวตี้ ฟรี (Donghwa Duty Free) / ดาวทาวน์เมืองเชจู (Jeju Downtown) / ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (Jeju International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
7 มื้อ 2 คืน 3 ร้านรัฐบาล

มีการเข้าชมทั้งหมด: 1 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
พักเดี่ยวชำระเพิ่ม 0.-
เด็กทารกอายุไม่เกิน 2 ปี ชำระเพียง 0.-
อายุ 2 ถึง ปี ชำระเพิ่ม 0.-

Bangkok Airways (PG)  
พฤ.  20-23 ธ.ค.
15,900.- Bangkok Airways เต็ม
ส.  29 ธ.ค. 61-01 ม.ค. 62
(วันหยุดสิ้นปีใหม่)
19,900.- Bangkok Airways เหลือ 1 ที่
อา.  30 ธ.ค. 61-02 ม.ค. 62
(วันหยุดสิ้นปีใหม่)
19,900.- Bangkok Airways เหลือ 1 ที่
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.65)

ตารางบิน
Bangkok Airways (PG) เวลาบินขาไป 12:05 - 13:05 BKK - MDL PG709
เวลาบินขากลับ 14:05 - 16:30 MDL - BKK PG710

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Victoria Palace
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Victoria Palace (ระดับ 3 ดาว) หรือ เทียบเท่า
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Victoria Palace (ระดับ 3 ดาว) หรือ เทียบเท่า
วันที่ 2
ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (Jeju International Airport) / อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) - ฤดูหนาว / ฮัลโหล คิตตี้ (Hello Kitty Island) / พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลลอค (O՚Sulloc) / ทัคโดริทัง (Dakdoritang) / สวนส้มไร้เมล็ด (Jeju Orange Farm) / วัดซันบังซา (Sanbangsa Temple) / คาลบิ หรือ หมูย่างเกาหลี (Kalbi) / Sea & Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
สะพานไม้สักอูเบ็ง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สะพานไม้สักอูเบ็ง (U Bein Bridge) เป็นสะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 1.2 กิโลเมตร สร้างจากไม้สักที่รื้อมาจากพระราชวังเก่าแห่งกรุงอังวะ เมื่อครั้งย้ายเมืองหลวงมายังอมรปุระ พระเจ้าปดุงโปรดฯให้ขุนนางที่ชื่อ อูเบ็ง ทำหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างสะพาน จึงเป็นที่มาของชื่อ สะพานอูเบ็ง เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้น ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทอดข้ามทะเลสาบคองตามัน มุ่งตรงไปยั (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สะพานไม้สักอูเบ็ง (U Bein Bridge) เป็นสะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวถึง 1.2 กิโลเมตร สร้างจากไม้สักที่รื้อมาจากพระราชวังเก่าแห่งกรุงอังวะ เมื่อครั้งย้ายเมืองหลวงมายังอมรปุระ พระเจ้าปดุงโปรดฯให้ขุนนางที่ชื่อ อูเบ็ง ทำหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างสะพาน จึงเป็นที่มาของชื่อ สะพานอูเบ็ง เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้น ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทอดข้ามทะเลสาบคองตามัน มุ่งตรงไปยังเจดีย์เจ๊าตอจีซึ่งอยู่อีกฟากของทะเลสาบ สามารถใช้บริการเรือพายเพื่อชมวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆ ทะเลสาบได้
วัดมหากันดายงค์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดมหากันดายงค์ (Mahagandhayon Monastery) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบตองตะมานใกล้สะพานไม้อูเบ็ง เป็นวัดและวิทยาลัยสงฆ์สอนพระปริยัติธรรมใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ มีภิกษุและสามเณรมาศึกษาเล่าเรียนทางธรรมมากกว่า 1,000รูป และมีพระภิกษุจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ มาบวชเรียนด้วย วัดมหากันดายงค์แห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาพระธรรมและรักษาพระธรรมวินัยมากที่สุด ด้วยวัตรปฎิบัติอันงดงามของภิ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดมหากันดายงค์ (Mahagandhayon Monastery) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบตองตะมานใกล้สะพานไม้อูเบ็ง เป็นวัดและวิทยาลัยสงฆ์สอนพระปริยัติธรรมใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ มีภิกษุและสามเณรมาศึกษาเล่าเรียนทางธรรมมากกว่า 1,000รูป และมีพระภิกษุจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ มาบวชเรียนด้วย วัดมหากันดายงค์แห่งนี้เป็นสถานที่ศึกษาพระธรรมและรักษาพระธรรมวินัยมากที่สุด ด้วยวัตรปฎิบัติอันงดงามของภิกษุสงฆ์ในวัด ทำให้มีชาวพม่าจำนวนมากส่งบุตรหลานมาศึกษาพุทธศาสนากันที่นี่ และทำให้มีผู้มีจิตศรัทธาจองคิวกันนำภัตตาหารมาถวายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้วิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้ดำรงค์อยู่ได้แม้จะได้รับงบประมาณจากรัฐบาลพม่าไม่มากนัก
* สำหรับของที่ใช้ทำบุญตักบาตรต้องเตรียมเป็นอาหารแห้งจากเมืองไทย อาทิเช่น มาม่า, ปลากรอบ, หมูหยอง, หรือขนม เป็นต้น หากท่านใดไม่สะดวกสามารถถวายเป็นปัจจัยได้เช่นกัน
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคาร
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองพุกาม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองพุกาม (Bagan) เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะความยิ่งใหญ่ของเจดีย์จำนวนมากกว่า 5,000 องค์ จนได้รับสมญาว่าเป็นเมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในประเทศพม่าได้เป็นอย่างดีคนทั่วไปจึงขนานนามเมืองพุกามนี้ว่าเป็ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองพุกาม (Bagan) เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นเมืองที่ติดอันดับเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศพม่า โดยเฉพาะความยิ่งใหญ่ของเจดีย์จำนวนมากกว่า 5,000 องค์ จนได้รับสมญาว่าเป็นเมืองแห่งเจดีย์สี่พันองค์ ซึ่งเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในประเทศพม่าได้เป็นอย่างดีคนทั่วไปจึงขนานนามเมืองพุกามนี้ว่าเป็นอู่อาริยธรรมของประเทศ
* นำท่านขึ้นไปชมวิวทะเลเจดีย์เมืองพุกามในมุมมอง 360 องศา เหมาะแก่การชมวิวพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น หรือวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตรู่ ซึ่งจะเห็นวิวของเจดีย์นับพันองค์ไกลสุดลูกหูลูก สวยงามราวกับภาพวาดตัดกับแสงสีส้มยามพระอาทิตย์กำลังขึ้นหรือลับขอบฟ้า
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Su Thein San Hotel
นำขณะเข้าสู่ที่พัก Su Thein San Hotel หรือระดับเทียบเท่า
นำขณะเข้าสู่ที่พัก Su Thein San Hotel หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 3
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / ปั่นจักรยานบนรางรถไฟ (Rail Bike) / ศูนย์น้ำมันสนเข็มแดง (Red Pine Center) / พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อควา แพลนเนท (Aqua Planet Jeju) / แทจีพลูแบ็ก (Dwaeji Bulbaek) / ภูเขาไฟซองซานอิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak) / หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ (Seongeup Folk Village) / พิพิธภัณฑ์แฮนยอ (Haenyeo Museum) / บุฟเฟ่ต์บาร์บีคิว และซีฟู้ดสไตล์เกาหลี (Korean BBQ & Seafood) / Sea & Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ตลาดยองอู
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดยองอู (Yong U Market) เป็นตลาดใหญ่ของเมืองพุกาม ที่ขายสินค้าทุกชนิด ทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวปลา อาหาร ผักสด เสื้อผ้า ของที่ระลึกพื้นเมือง เหมาะสำหรับเดินชมเลือกซื้อของฝาก โดยเฉพาะเครื่องเขินของเมืองพุกาม ถือว่าเป็นหนึ่งเพราะฝีมือที่ประณีตและการออกแบบที่สวยงาม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดยองอู (Yong U Market) เป็นตลาดใหญ่ของเมืองพุกาม ที่ขายสินค้าทุกชนิด ทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวปลา อาหาร ผักสด เสื้อผ้า ของที่ระลึกพื้นเมือง เหมาะสำหรับเดินชมเลือกซื้อของฝาก โดยเฉพาะเครื่องเขินของเมืองพุกาม ถือว่าเป็นหนึ่งเพราะฝีมือที่ประณีตและการออกแบบที่สวยงาม
วัดอนันดา
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ วัดอนันดา (Ananda Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจน นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีความสวยงามสุดในพุกาม ได้รับการยกย่องว่าคือสุดยอดพุทธศิลป์สกุลพุกาม ถือเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม ตามตำนานเล่าว่า วิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจันสิทธา อันเนื่องมาจากการจาริกแสวงบุญมายังดินแดนพุกามของพระอรหันต์ 5 รูป พระอรหันต์เหล่านั้นได้ทูลถึง ล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ วัดอนันดา (Ananda Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกำแพงเมือง เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจน นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีความสวยงามสุดในพุกาม ได้รับการยกย่องว่าคือสุดยอดพุทธศิลป์สกุลพุกาม ถือเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม ตามตำนานเล่าว่า วิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจันสิทธา อันเนื่องมาจากการจาริกแสวงบุญมายังดินแดนพุกามของพระอรหันต์ 5 รูป พระอรหันต์เหล่านั้นได้ทูลถึง ลักษณะวัดในอินเดีย ถวายพระเจ้าจันสิทธา พระองค์พอพระทัยมาก และโปรดเกล้าให้สร้างวัดขึ้นตามลักษณะที่พระอรหันต์พรรณนา แล้วตั้งชื่อว่า วัดอนันดา ตามชื่อถ้ำที่อยู่ของพระอรหันต์ทั้ง 5 องค์นั้น วิหารแห่งนี้มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ใหญ่โต สูงสง่า มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน แต่ละช่องประดิษฐานอดีตพระพุทธเจ้าทั้ง 4 องค์ ได้แก่ 1) พระกกุสันธะ ในทิศเหนือ 2) พระโกนาคมน์ ในทิศตะวันออก 3) พระกัสสปะ ในทิศใต้ 4) พระสมณโคดม ในทิศตะวันตก โดยพระแต่ละองค์สูงกว่า 10 เมตร สีทองอลังการสวยงามมาก โดยเฉพาะองค์พระกัสสปะจะมีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ เวลายืนไกลๆ จะเห็นองค์พระยิ้ม แต่ว่าพอเดินเข้ามาใกล้ๆ จะกลายเป็นหน้าบึ้งแทน และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระ ทำให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์
วัดติโลมินโล
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดติโลมินโล (Htilominlo Temple) ตามพงศาวดารกล่าวว่าในสมัยพระเจ้านรปติสิทธูครองราชย์ ทรงมีราชบุตรเกิดจากพระสนมด้วยกันทั้งสิ้น 5 พระองค์ ทรงมีพระประสงค์จะเลือกองค์หนึ่งเป็นรัชทายาทโดยพิธีเสี่ยงทาย เพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าแย่งชิงบัลลังก์กันขึ้น จึงทรงเอาเศวตฉัตรปักลงกลางแจ้ง แล้วให้ราชบุตรทั้ง 5 องค์นั้นนั่งเรียงรายทิศละองค์ ทรงอธิษฐานว่าถ้าราชบุตรองค์ไหนมีบุญญาธิการสมควรจะครองแ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดติโลมินโล (Htilominlo Temple) ตามพงศาวดารกล่าวว่าในสมัยพระเจ้านรปติสิทธูครองราชย์ ทรงมีราชบุตรเกิดจากพระสนมด้วยกันทั้งสิ้น 5 พระองค์ ทรงมีพระประสงค์จะเลือกองค์หนึ่งเป็นรัชทายาทโดยพิธีเสี่ยงทาย เพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าแย่งชิงบัลลังก์กันขึ้น จึงทรงเอาเศวตฉัตรปักลงกลางแจ้ง แล้วให้ราชบุตรทั้ง 5 องค์นั้นนั่งเรียงรายทิศละองค์ ทรงอธิษฐานว่าถ้าราชบุตรองค์ไหนมีบุญญาธิการสมควรจะครองแผ่นดิน ขอให้เกิดนิมิตให้เห็นปรากฏ ขณะนั้นองค์เศวตฉัตรได้โน้มไปทางราชบุตรน้อยนามว่า เจ้าชัยสังข์ จึงได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท เจ้าพี่ทั้ง 4 องค์ก็ยินยอมด้วยดีและได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อมา ทรงพระนามว่า พระเจ้านันตองมยา แต่ในพงศาวดารพม่ามักเรียกว่า พระเจ้าติโลมินโล ซึ่งมีความหมายว่า เอาฉัตรตั้งกษัตริย์ พระเจ้าติโลมินโลได้ทรงสร้างวัดขึ้นตรงที่ประกอบพิธีตั้งเศวตฉัตรเสี่ยงทาย อันเป็นที่ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาทจึงเรียกชื่อวัดว่า วัดติโลมินโล อย่างไรก็ตามนักปราชญ์ชาวพม่าบางรายตีความว่า ติโลมินโล อาจเพี้ยนเสียงมาจาก ไตรโลกมงคล หรือ ผู้ได้รับพรอันเป็นมงคลจากสามโลก เป็นวัดที่สร้างแบบก่ออิฐถือปูน สูง 46 เมตร ยาว 43 เมตร เท่ากันทั้ง 4 ด้าน มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ อาจหมายถึงอดีตพระพุทธเจ้า เป็นวิหาร 2 ชั้น มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ และลวดลายปูนปั้นอันประณีตสวยงาม วิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารองค์สุดท้ายที่มีการสร้างในแบบสถาปัตยกรรมพุกาม
วิหารธรรมยันจี
ชมวิหารธรรมยันจี (Dhammayangyt) สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาปด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจtติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมา
ชมวิหารธรรมยันจี (Dhammayangyt) สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาปด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจtติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมา
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยปี เดิมเป็นดินแดนของมอญมีชื่อเดิมว่าดากอง หรือตะเกิง ก่อนจะถูกพม่ายึดครองไปแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นย่างกุ้ง ชเวดากอง จึงแปลว่า เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง ซึ่งเป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่า พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล โดยเฉพาะมีโบราณราชประเพณีที่กษัตริย (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยปี เดิมเป็นดินแดนของมอญมีชื่อเดิมว่าดากอง หรือตะเกิง ก่อนจะถูกพม่ายึดครองไปแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นย่างกุ้ง ชเวดากอง จึงแปลว่า เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง ซึ่งเป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่า พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล โดยเฉพาะมีโบราณราชประเพณีที่กษัตริย์จะขึ้นครองราชบัลลังก์ จะต้องถวายทองคำหนักเท่ากับน้ำหนักของพระองค์เอง องค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดมีน้ำหนัก 23 ตัน ภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น และเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้ง 3 พระองค์ คือ พระกกุสันธะพุทธเจ้า, พระโกนาคมนะพุทธเจ้า และพระกัสสปะพุทธเจ้า บนยอดประดับด้วยเพชรพลอย และอัญมณีต่างๆ จำนวนมาก และยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอด บริเวณรอบเจดีย์ท่านจะได้ชมความงามของวิหาร 4 ทิศ ซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ งานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้น สถานที่แห่งนี้มี ลานอธิฐาน จุดที่พระเจ้าบุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและเป็นสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมี พระประจำวันเกิด ประดิษฐานทั้ง 8 ทิศ รวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดของตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต การบูชาคือท่านเกิดวันใด ก็ให้ไปบูชาและสรงน้ำที่บริเวณนั้นๆ ตามตำแหน่งทั้ง 4 คือ 1) ที่องค์พระ, 2) ที่องค์เทวดา, 3) ที่เสา, 4) ที่สัตว์สัญลักษณ์ ในเวลาพลบค่ำสามารถชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรได้ โดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเขียว, สีเหลือง, สีแดง เป็นต้น
* 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ที่ชาวพม่าให้ความเคารพบูชา ถือว่าในชีวิตนี้ต้องมาสักการะให้ครบทั้ง 5 แห่ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคาร
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
กรุงมัณฑะเลย์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมัณฑะเลย์ (Mandalay) ราชธานีสุดท้ายของพม่า พระราชวังมัณฑะเลย์สร้างโดยพระเจ้ามินดงเต็มไปด้วยเรื่องราวความน่าเศร้าสะเทือนใจ ปัจจุบันกรุงมัณฑะเลย์นอกจากจะเป็นเมืองเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวแล้วยังเป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากของพม่าอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมัณฑะเลย์ (Mandalay) ราชธานีสุดท้ายของพม่า พระราชวังมัณฑะเลย์สร้างโดยพระเจ้ามินดงเต็มไปด้วยเรื่องราวความน่าเศร้าสะเทือนใจ ปัจจุบันกรุงมัณฑะเลย์นอกจากจะเป็นเมืองเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวแล้วยังเป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากของพม่าอีกด้วย
* ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Victoria Palace
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Victoria Palace (ระดับ 3 ดาว) หรือ เทียบเท่า
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Victoria Palace (ระดับ 3 ดาว) หรือ เทียบเท่า
วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / โขดหินยงดูอัม (Yongduam Rock) หรือโขดหินหัวมังกร (Dragon Head Rock) / ศูนย์สมุนไพรบำรุงตับ ฮอกเก็ตนามู (Raisin Tree Center) / ร้านละลายเงินวอน (Super Market) / ศูนย์ผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องสำอาง เวชสำอาง (Cosmetic Center) / ชาบู ชาบู (Korean Shabu Shabu) / ศูนย์โสมรัฐบาล (Korean Ginseng Center) / ดงฮวา ดิวตี้ ฟรี (Donghwa Duty Free) / ดาวทาวน์เมืองเชจู (Jeju Downtown) / ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (Jeju International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
ร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ล้างพระพักตร์ พระมหามัยมุนี
นำท่านชมและร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ พิธีล้างพระพักตร์ พระมหามัยมุนี พระมหามัยมุนีนับเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวของพม่า ที่ชาวพม่านับถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่ยังมีลมหายใจหรือยังมีชีวิต จึงได้มีการทำพิธีล้างพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกเช้ามืด จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีเพียงการกราบสักการะบูชาด้วยความเคารพและศรัทธาว่าเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่การล้างพระพักตร์ที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านานเปรียบประ (อ่านต่อ)
นำท่านชมและร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ พิธีล้างพระพักตร์ พระมหามัยมุนี พระมหามัยมุนีนับเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวของพม่า ที่ชาวพม่านับถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่ยังมีลมหายใจหรือยังมีชีวิต จึงได้มีการทำพิธีล้างพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกเช้ามืด จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีเพียงการกราบสักการะบูชาด้วยความเคารพและศรัทธาว่าเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่การล้างพระพักตร์ที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านานเปรียบประหนึ่งว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังมีชีวิต ทุกๆ เช้าตั้งแต่เวลา 04.00 น. เป็นต้นไป จะมีการล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี โดยพระเจ้าอาวาสเป็นผู้ทำพิธีและเจ้าหน้าที่คณะกรรมการคอยช่วยเหลือ มีการเปิดมโหรีขับกล่อมขณะนำน้ำมาล้างพระโอษฐ์ นำแปรงสีฟันมาแปรงพระทนต์ให้ หลังจากนั้นจะนำน้ำหอมทานาคามาเช็ดถูพระพักตร์ แล้วนำผ้าขาวหรือผ้าสะอาดมาเช็ดทานาคาออก (ผ้าสะอาดเป็นของญาติโยมที่เตรียมมาให้เช็ดและนำเก็บกลับไปไว้บูชา) หลังจากพิธีล้างพระพักตร์แล้ว จะนำภัตตาหารมาถวายให้พระมหามัยมุนีฉันท์ จึงเป็นอันเสร็จพิธี จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง เสร็จพิธีตอนเวลาตี 05.00 น.
* 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ที่ชาวพม่าให้ความเคารพบูชา ถือว่าในชีวิตนี้ต้องมาสักการะให้ครบทั้ง 5 แห่ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังมัณฑะเลย์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) สร้างขึ้นเมื่อครั้งที่ย้ายราชธานีมาจากอมรปุระ เป็นพระราชวังขนาดใหญ่มีประตูเข้าถึง 12 ประตู ตัวพระราชวังป็นหมู่อาคารไม้และตึก ประกอบด้วยท้องพระโรง พระที่นั่ง และตำหนักต่างๆ ทั้งหมดถูกไฟไหม้เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันทางการพม่าได้จำลองขึ้นใหม่อีกครั้งบนฐานเดิม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) สร้างขึ้นเมื่อครั้งที่ย้ายราชธานีมาจากอมรปุระ เป็นพระราชวังขนาดใหญ่มีประตูเข้าถึง 12 ประตู ตัวพระราชวังป็นหมู่อาคารไม้และตึก ประกอบด้วยท้องพระโรง พระที่นั่ง และตำหนักต่างๆ ทั้งหมดถูกไฟไหม้เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันทางการพม่าได้จำลองขึ้นใหม่อีกครั้งบนฐานเดิม
พระราชวังไม้สักชเวนานจอง
เป็นพระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีต อ่อนช้อย ทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงย (อ่านต่อ)
เป็นพระราชวังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีต อ่อนช้อย ทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกวังนี้ถวายเป็นวัดถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง
ช่วงบ่าย
(14:05) สนามบินมัณฑะเลย์
จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศพม่า และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศพม่า และเดินทางกลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
* ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินบางกอกแอร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG710 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
(16:30) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
ช่วงค่ำ
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา