Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) MY101 ทัวร์พม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี วัดไจ้คะวาย พระราชวังบุเรงนอง เจดีย์ชเวดากอง เทพกระซิบ 2 วัน 1 คืน โดยสายการบิน Air Asia (FD)

เมนูพิเศษ!! กุ้งแม่น้ำเผา เป็ดปักกิ่ง สลัดกุ้งมังกร
นำท่านสักการะ 2 มหาบูชาสถาน เจดีย์ชเวดากอง พระธาตุมุเตา เดินทางไปยัง วัดไจ้คะวาย เพื่อทำบุญใส่บาตรข้าวสวยแด่ภิกษุ สามเณร จำนวน 1,200 รูป ชมพระราชวังบุเรงนอง นมัสการพระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว เป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของเมืองหงสาวดี อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ตลาดสก็อต

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง / เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago) / วัดไจ้คะวาย (Kyat Khat Wine Monastery) / รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (เมนูพิเศษ!! กุ้งแม่น้ำเผา) / พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace) / พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอร์ (Shwemawdaw Pagoda) / วัดพระนอนยิ้มหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwethalyaung Buddha) / วัดพระสี่ทิศ หรือ วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda) / พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) / รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (เมนูพิเศษ!! เป็ดปักกิ่ง + สลัดกุ้งมังกร) / IBIS HOTEL YANGON
วันที่ 2: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / วัดพระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี Chauk Htat Gyi Buddha Temple) / เจดีย์โบตะทาวน์ (Botataung Pagoda) / เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี (Natbobo Gyi) / เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ (Ahmagyi Mya Nan Nwe) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / ตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบโจ๊ก ออง ซาน (Bogyoke Aung San Market) / วัดพระหินอ่อน หรือ วัดเจ๊าตอจี (Kyauk Taw Gyi Pagoda) / ปางช้างเผือกหลวง (Royal White Elephant Garden) / ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง / ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport)
4 มื้อ 1 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,503 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
พักเดี่ยวชำระเพิ่ม 2,000.-
เด็กทารกอายุไม่เกิน 2 ปี ชำระเพียง 3,900.-

Air Asia (FD)  
ส.  11-12 พ.ค.
7,999.- Air Asia เต็ม
ส.  18-19 พ.ค.
(วันวิสาขบูชา)
8,999.- Air Asia เต็ม
อา.  19-20 พ.ค.
(ชดเชยวันวิสาขบูชา)
8,999.- Air Asia เต็ม
ส.  25-26 พ.ค.
7,999.- Air Asia เต็ม
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.62)

ตารางบิน
Air Asia (FD) เวลาบินขาไป 07:30 - 08:15 DMK - RGN FD251
เวลาบินขากลับ 21:40 - 23:25 RGN - DMK FD258

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport) / ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง / เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago) / วัดไจ้คะวาย (Kyat Khat Wine Monastery) / รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (เมนูพิเศษ!! กุ้งแม่น้ำเผา) / พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace) / พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอร์ (Shwemawdaw Pagoda) / วัดพระนอนยิ้มหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwethalyaung Buddha) / วัดพระสี่ทิศ หรือ วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda) / พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) / รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (เมนูพิเศษ!! เป็ดปักกิ่ง + สลัดกุ้งมังกร) / IBIS HOTEL YANGON
ช่วงเช้า
(04:30) ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport)
ทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport) ที่จุดนัดหมายก่อนเวลาเดินทาง (ตามตารางบิน) โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าเตอร์ใด เวลาใด)
ทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport) ที่จุดนัดหมายก่อนเวลาเดินทาง (ตามตารางบิน) โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าเตอร์ใด เวลาใด)
* 07.30 น. นำท่านเหินฟ้าสู่ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่าโดยเที่ยวบิน FD251
(08:15) ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้เมืองเมาะตะมะ อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงย่างกุ้ง ในอดีตนั้นเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมอญมาก่อนตั้งแต่ยุคกษัตริย์บินยาอู เมื่อประมาณ ค.ศ. 1365 จนกระทั่งเมืองหลวงของมอญแห่งนี้เริ่มหมดความสำคัญลงหลังจากย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่อังวะ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้เมืองเมาะตะมะ อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงย่างกุ้ง ในอดีตนั้นเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมอญมาก่อนตั้งแต่ยุคกษัตริย์บินยาอู เมื่อประมาณ ค.ศ. 1365 จนกระทั่งเมืองหลวงของมอญแห่งนี้เริ่มหมดความสำคัญลงหลังจากย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่อังวะ
วัดไจ้คะวาย (Kyat Khat Wine Monastery)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดไจ้คะวาย (Kyat Khat Wine Monastery) นำท่านตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป วัดไจ้คะวายไม่ใช่วัดที่มีชื่อในเรื่องของเจดีย์หรือพระพุทธรูปองค์โตสูงใหญ่ แต่มีชื่อเสียงเพราะเป็นโรงเรียนที่สอนพระพุทธศาสนา เปรียญธรรมชั้นตรี โท เอก และศึกษาพระไตรปิฎกที่มีชื่อเสียงของพม่า จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนศึกษาธรรมะที่นี่เป็นจำนวนกว่า 1,000 รูป เป็นวัดที่มีคนนิยมทำบุญใส่บาตรพระ เป็นเจ้าภาพเ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดไจ้คะวาย (Kyat Khat Wine Monastery) นำท่านตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป วัดไจ้คะวายไม่ใช่วัดที่มีชื่อในเรื่องของเจดีย์หรือพระพุทธรูปองค์โตสูงใหญ่ แต่มีชื่อเสียงเพราะเป็นโรงเรียนที่สอนพระพุทธศาสนา เปรียญธรรมชั้นตรี โท เอก และศึกษาพระไตรปิฎกที่มีชื่อเสียงของพม่า จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนศึกษาธรรมะที่นี่เป็นจำนวนกว่า 1,000 รูป เป็นวัดที่มีคนนิยมทำบุญใส่บาตรพระ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารพระเพลเป็นประจำ
* ท่านสามารถนำข้าวสาร อาหารแห้ง หรือสมุด ปากกา ดินสอ และอุปกรณ์การเรียน มาบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้
* (สิ่งที่ทางวัดต้องการมากที่สุดขณะนี้คือข้าวสาร โดยการทำบุญบริจากข้าวสารกระสอบละ 1,000 บาทโดยประมาณ)
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (เมนูพิเศษ!! กุ้งแม่น้ำเผา)
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยเมนูอาหารพื้นเมือง และเมนูพิเศษ!! กุ้งแม่น้ำย่าง
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยเมนูอาหารพื้นเมือง และเมนูพิเศษ!! กุ้งแม่น้ำย่าง
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace) เป็นที่ประทับของพระเจ้าบุเรงนอง เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการ ทรงโปรดให้ใช้ชื่อประตูต่างๆ ทั้งหมด 20 ประตู ตามชื่อของแรงงานประเทศราชที่สร้าง เช่น ประตูทางตอนเหนือปรากฏชื่อ ประตูโยเดีย (อยุธยา) ประตูตอนใต้ชื่อ ประตูเชียงใหม่ อีกทั้งยังมีพระตำหนักของพระสุพรรณกัลยา องค์ประกันที่ตกเป็นเชลย และกลายเป็นมเหสีองค์หนึ่งข (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังบุเรงนอง (Kamboza Thadi Palace) เป็นที่ประทับของพระเจ้าบุเรงนอง เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการ ทรงโปรดให้ใช้ชื่อประตูต่างๆ ทั้งหมด 20 ประตู ตามชื่อของแรงงานประเทศราชที่สร้าง เช่น ประตูทางตอนเหนือปรากฏชื่อ ประตูโยเดีย (อยุธยา) ประตูตอนใต้ชื่อ ประตูเชียงใหม่ อีกทั้งยังมีพระตำหนักของพระสุพรรณกัลยา องค์ประกันที่ตกเป็นเชลย และกลายเป็นมเหสีองค์หนึ่งของพระองค์ และที่นี่ยังเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรครั้งเมื่อทรงโดนจับเป็นองค์ประกันที่พม่าด้วยเช่นกัน พระราชวังบุเรงนองถูกเผาจนเหลือแต่เพียงซาก หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าบุเรงนอง ด้วยกบฏยะไข่ พร้อมๆ กับอาณาจักรตองอูที่เคยเรืองอำนาจกลับเสื่อมลง ในปี ค.ศ. 1990 รัฐบาลพม่าได้ขุดค้นพบซากของพระราชวังที่เหลือเพียงแค่ตอไม้ที่โผล่พ้นดินออกมา และได้มีการสร้างพระราชวังจำลององค์ใหม่ขึ้นมา ฉาบด้วยสีทองทั้งหลัง มีซากไม้ที่ใช้สร้างพระราชวังแต่ครั้งอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ได้ถูกจัดแสดง ซึ่งไม้แต่ละท่อนมีตัวอักษรจารึกอยู่ว่าเป็นผลงานของเมืองใด ตัวพระราชวังสร้างใหม่มี 2 ส่วน ส่วนแรกเรียกว่า กามโบสะตาหริ หรือ กัมโพชธานี เป็นส่วนที่เอาไว้ว่าราชการ และส่วนที่ 2 คือ บัลลังก์ผึ้ง เป็นส่วนที่ใช้บรรทม
พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอร์ (Shwemawdaw Pagoda)
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอร์ (Shwemawdaw Pagoda) กล่าวกันว่าเจดีย์ชเวมอดอร์เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในพม่าต้องแหงนหน้าขึ้นมองจนจมูกถูกแสงแดดร้อนแผดเผาจึงจะเห็นยอดเจดีย์ เป็นเหตุให้เรียกชื่อเป็นภาษามอญว่ามุเตา ที่แปลว่าจมูกร้อน มีความโดดเด่นคือ เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะแบบมอญ แตกต่างจากเจดีย์ชเวดากองที่เป็นเจดีย์แบบพม่า มีฉัตรแบบเรียบๆ และองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรีย (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอร์ (Shwemawdaw Pagoda) กล่าวกันว่าเจดีย์ชเวมอดอร์เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในพม่าต้องแหงนหน้าขึ้นมองจนจมูกถูกแสงแดดร้อนแผดเผาจึงจะเห็นยอดเจดีย์ เป็นเหตุให้เรียกชื่อเป็นภาษามอญว่ามุเตา ที่แปลว่าจมูกร้อน มีความโดดเด่นคือ เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะแบบมอญ แตกต่างจากเจดีย์ชเวดากองที่เป็นเจดีย์แบบพม่า มีฉัตรแบบเรียบๆ และองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ภายนอกหุ้มด้วยทองจังโก้ ภายในเป็นอิฐกลวง พระเจดีย์สูง 377 ฟุต ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าตะเบงชะเวตี้ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ ในรัชกาลต่อมาคือพระเจ้าบุเรงนองได้มีการสร้างฉัตรถวายเพิ่มเติมอีกหลายชั้น กล่าวกันว่าก่อนที่พระองค์จะออกทำศึกคราใด จะทรงมานมัสการพระเจดีย์นี้ก่อนทุกครั้ง และสมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทย ก็เคยมาสักการะพระเจดีย์องค์นี้เช่นกัน ที่เจดีย์แห่งนี้มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์มากอยู่ตรงบริเวณยอดเจดีย์ที่หักตกลงมา เมื่อปี ค.ศ. 1930 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาลตกลงมายังพื้นล่างแต่ยอดฉัตรกลับยังคงสภาพเดิม และไม่แตกกระจายออกไปเป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ ท่านสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมา เพื่อความเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่งการค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป
* 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ที่ชาวพม่าให้ความเคารพบูชา ถือว่าในชีวิตนี้ต้องมาสักการะให้ครบทั้ง 5 แห่ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
วัดพระนอนยิ้มหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwethalyaung Buddha)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระนอนยิ้มหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwethalyaung Buddha) พาท่านกราบนมัสการพระพุทธไสยาสน์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวมีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน ค.ศ. 994 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ พระพุทธไสยาสน์มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน ด้านหลังพระองค์มี (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระนอนยิ้มหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shwethalyaung Buddha) พาท่านกราบนมัสการพระพุทธไสยาสน์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่า พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวมีความยาว 60 เมตร สูง 17 เมตร สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามิคทิปปะ ใน ค.ศ. 994 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ พระพุทธไสยาสน์มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดที่สวยงาม เมื่อครั้งก่อนพระพุธรูปองค์นี้ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมจนกลายเป็นเพียงกองอิฐท่ามกลางป่ารก จนถึงปี ค.ศ. 1881 เมื่ออังกฤษสร้างทางรถไฟสายพม่า และได้มีการขุดพบพระนอนองค์นี้ จากนั้นในปี ค.ศ. 1948 หลังจากที่พม่าได้รับเอกราชก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่โดยทาสีและปิดทองใหม่ จนกลายเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามในปัจจุบัน
วัดพระสี่ทิศ หรือ วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระสี่ทิศ หรือ วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda) ชมเจดีย์ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ที่มีความงดงามเป็นเอกของศิลปะแบบมอญ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ ประกอบ ด้วยพระสมณะโคดม (ทิศเหนือ), พระโกนาคม (ทิศใต้), พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก) และพระมหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) ตำนานเล่าว่า พระรา (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระสี่ทิศ หรือ วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น (Kyaikpun Pagoda) ชมเจดีย์ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ที่มีความงดงามเป็นเอกของศิลปะแบบมอญ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ ประกอบ ด้วยพระสมณะโคดม (ทิศเหนือ), พระโกนาคม (ทิศใต้), พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก) และพระมหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) ตำนานเล่าว่า พระราชธิดาทั้งสี่องค์ของกษัตริย์มอญที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนา จึงสร้างพระพุทธรูปแทนตนเองและได้สาบานไว้ว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ต่อมาน้องสาวคนสุดท้อง กลับพบรักกับชายหนุ่มและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของน้องสาวคนสุดท้องพังทลายลงมา จนต้องมีการสร้างขึ้นมาใหม่ตามที่เห็นในปัจจุบัน โดยพระพุทธรูปองค์นี้จะมีลักษณะแตกต่างจากองค์อื่นๆ คือจะเป็นศิลปะแบบพม่า
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยปี เดิมเป็นดินแดนของมอญมีชื่อเดิมว่าดากอง หรือตะเกิง ก่อนจะถูกพม่ายึดครองไปแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นย่างกุ้ง ชเวดากอง จึงแปลว่า เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง ซึ่งเป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่า พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล โดยเฉพาะมีโบราณราชประเพณีที่กษัตริย (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยปี เดิมเป็นดินแดนของมอญมีชื่อเดิมว่าดากอง หรือตะเกิง ก่อนจะถูกพม่ายึดครองไปแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นย่างกุ้ง ชเวดากอง จึงแปลว่า เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง ซึ่งเป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่า พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล โดยเฉพาะมีโบราณราชประเพณีที่กษัตริย์จะขึ้นครองราชบัลลังก์ จะต้องถวายทองคำหนักเท่ากับน้ำหนักของพระองค์เอง องค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดมีน้ำหนัก 23 ตัน ภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น และเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้ง 3 พระองค์ คือ พระกกุสันธะพุทธเจ้า, พระโกนาคมนะพุทธเจ้า และพระกัสสปะพุทธเจ้า บนยอดประดับด้วยเพชรพลอย และอัญมณีต่างๆ จำนวนมาก และยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอด บริเวณรอบเจดีย์ท่านจะได้ชมความงามของวิหาร 4 ทิศ ซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ งานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้น สถานที่แห่งนี้มี ลานอธิฐาน จุดที่พระเจ้าบุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและเป็นสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมี พระประจำวันเกิด ประดิษฐานทั้ง 8 ทิศ รวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดของตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต การบูชาคือท่านเกิดวันใด ก็ให้ไปบูชาและสรงน้ำที่บริเวณนั้นๆ ตามตำแหน่งทั้ง 4 คือ 1) ที่องค์พระ, 2) ที่องค์เทวดา, 3) ที่เสา, 4) ที่สัตว์สัญลักษณ์ ในเวลาพลบค่ำสามารถชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรได้ โดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเขียว, สีเหลือง, สีแดง เป็นต้น
* 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ที่ชาวพม่าให้ความเคารพบูชา ถือว่าในชีวิตนี้ต้องมาสักการะให้ครบทั้ง 5 แห่ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร (เมนูพิเศษ!! เป็ดปักกิ่ง + สลัดกุ้งมังกร)
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยเมนูอาหารพื้นเมือง และเมนูพิเศษ!! เป็ดปักกิ่ง + สลัดกุ้งมังกร
รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยเมนูอาหารพื้นเมือง และเมนูพิเศษ!! เป็ดปักกิ่ง + สลัดกุ้งมังกร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
IBIS HOTEL YANGON
เข้าพักที่ IBIS HOTEL YANGON หรือ ระดับเทียบเท่า
เข้าพักที่ IBIS HOTEL YANGON หรือ ระดับเทียบเท่า
วันที่ 2
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / วัดพระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี Chauk Htat Gyi Buddha Temple) / เจดีย์โบตะทาวน์ (Botataung Pagoda) / เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี (Natbobo Gyi) / เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ (Ahmagyi Mya Nan Nwe) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง / ตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบโจ๊ก ออง ซาน (Bogyoke Aung San Market) / วัดพระหินอ่อน หรือ วัดเจ๊าตอจี (Kyauk Taw Gyi Pagoda) / ปางช้างเผือกหลวง (Royal White Elephant Garden) / ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง / ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport)
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าที่โรงแรม และเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันนี้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วัดพระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี Chauk Htat Gyi Buddha Temple)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี Chauk Htat Gyi Buddha Temple) นำท่านสักการะพระนอนที่มีความสวยงายที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่า ที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี Chauk Htat Gyi Buddha Temple) นำท่านสักการะพระนอนที่มีความสวยงายที่สุดและดวงตาสวยที่สุดของประเทศพม่า ที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักรข้างละองค์ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วยรูปอัฎจุตรสตกมงคล 108 ประการ พระบาทมีลักษณะซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย
เจดีย์โบตะทาวน์ (Botataung Pagoda)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เจดีย์โบตะทาวน์ (Botataung Pagoda) ซึ่งโบตะทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1000 นาย เจดีย์โบตะทาวน์เป็นเจดีย์ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรับพระเกศาธาตุก่อนที่จะนำไปบรรจุในพระเจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ เมื่อเดินเข้าไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์คือ พระพุธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวามือ เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยท (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เจดีย์โบตะทาวน์ (Botataung Pagoda) ซึ่งโบตะทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1000 นาย เจดีย์โบตะทาวน์เป็นเจดีย์ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรับพระเกศาธาตุก่อนที่จะนำไปบรรจุในพระเจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ เมื่อเดินเข้าไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์คือ พระพุธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวามือ เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนัก ตามประวัติว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปี ค.ศ. 1885 ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์กัลป์กัตตาในประเทศอินเดีย ทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพัธมิตรที่ถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1945 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบร์ต และด้านซ้ายมือจะเป็นรูปปั้น นัตโบโบยี หรือเทพทันใจ ซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ
เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี (Natbobo Gyi)
จากนั้นนำท่านสักการะ เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี (Natbobo Gyi) เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย เป็นเทพผู้ปกปักรักษาและบันดาลโชค วิธีการสักการะเทพทันใจ สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือ กล้วย ดอกไม้ และมะพร้าวอ่อน จากนั้นเตรียมธนบัตร 2 ใบ (จะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้) ม้วนเป็นรูปกรวย นำไปใส่ไว้ในมือของเทพทันใจ จากนั้นใช้หน้าผากของเราแตะกับนิ้วของเทพทันใจที่ชี้อยู่ ให้ตั้งจิตอธิษฐานด้วยความสงบนิ่ง ขอได้ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านสักการะ เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี (Natbobo Gyi) เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย เป็นเทพผู้ปกปักรักษาและบันดาลโชค วิธีการสักการะเทพทันใจ สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือ กล้วย ดอกไม้ และมะพร้าวอ่อน จากนั้นเตรียมธนบัตร 2 ใบ (จะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้) ม้วนเป็นรูปกรวย นำไปใส่ไว้ในมือของเทพทันใจ จากนั้นใช้หน้าผากของเราแตะกับนิ้วของเทพทันใจที่ชี้อยู่ ให้ตั้งจิตอธิษฐานด้วยความสงบนิ่ง ขอได้แค่ 1 อย่างเท่านั้น แล้วดึงธนบัตรที่ม้วนไว้คืนกลับมา 1 ใบ เพื่อเก็บไว้เป็นเงินขวัญถุง หลังจากนั้นเดินวนรอบตัวท่าน นำผ้าไปคลุมไหล่ และอ้อมไปจับไม้เท้าของท่าน ยกมือไหว้ขอบคุณ เป็นอันเสร็จพิธี
เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ (Ahmagyi Mya Nan Nwe)
จากนั้นนำท่านสักการะ เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ (Ahmagyi Mya Nan Nwe) ข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนน ตรงข้ามกับเจดีย์โบตาทาวน์ เพื่อสักการะเทพกระซิบ ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีลไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การขอพรเทพกระซิบ ต้องไปกระซิบที่ข้างหูเบาๆ ห้ามให้คนอื่นได้ยิน จากนั้นก็นำน้ำน (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านสักการะ เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ (Ahmagyi Mya Nan Nwe) ข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนน ตรงข้ามกับเจดีย์โบตาทาวน์ เพื่อสักการะเทพกระซิบ ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้ารักษาศีลไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การขอพรเทพกระซิบ ต้องไปกระซิบที่ข้างหูเบาๆ ห้ามให้คนอื่นได้ยิน จากนั้นก็นำน้ำนมไปจ่อไว้ที่ปาก แล้วบูชาด้วยข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคาร
รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ณ ภัตตาคาร
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบโจ๊ก ออง ซาน (Bogyoke Aung San Market)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบโจ๊ก ออง ซาน (Bogyoke Aung San Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงินที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่า, ภาพวาด, งานแกะสลักจากไม้, อัญมณี, หยก, ผ้าทอ, เสื้อผ้าสำเร็จรูป, แป้งทานาคา เป็นต้น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดสก๊อต หรือ ตลาดโบโจ๊ก ออง ซาน (Bogyoke Aung San Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงินที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่า, ภาพวาด, งานแกะสลักจากไม้, อัญมณี, หยก, ผ้าทอ, เสื้อผ้าสำเร็จรูป, แป้งทานาคา เป็นต้น
* หากซื้อสิ้นค้า หรืออัญมณีที่มีราคาสูง ควรขอใบเสร็จรับเงินด้วยทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ
วัดพระหินอ่อน หรือ วัดเจ๊าตอจี (Kyauk Taw Gyi Pagoda)
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ วัดพระหินอ่อน หรือ วัดเจ๊าตอจี (Kyauk Taw Gyi Pagoda) เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปทำจากหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะมันวาว สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต อยู่ในห้องกระจกแก้วเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิป้องกันการเสียหายของหินอ่อนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยหินอ่อนที่ใช้ในการแกะองค์พระนี้ นำมาจากภูเขาสกายน์ เมืองมัณฑะเลย์ ล่องมาทางแม่น้ำอิรวดีแล้วนำมาแ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ วัดพระหินอ่อน หรือ วัดเจ๊าตอจี (Kyauk Taw Gyi Pagoda) เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปทำจากหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะมันวาว สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต อยู่ในห้องกระจกแก้วเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิป้องกันการเสียหายของหินอ่อนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยหินอ่อนที่ใช้ในการแกะองค์พระนี้ นำมาจากภูเขาสกายน์ เมืองมัณฑะเลย์ ล่องมาทางแม่น้ำอิรวดีแล้วนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป โดยช่างจากมัณฑะเลย์ที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือดีที่สุดในพม่า เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง ปางห้ามญาติ ยกพระหัตถ์ขึ้นหันออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระหัตถ์ขวา ส่วนหินที่เหลือนำมาสลักเป็นพระสาวกซึ่งตั้งอยู่ 4 ทิศ หันเข้าหาพระประธาน และยังสลักเป็นพระพุทธบาทซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปอีกด้วย
ปางช้างเผือกหลวง (Royal White Elephant Garden)
นำท่านเดินทางสู่ ปางช้างเผือกหลวง (Royal White Elephant Garden) ชมช้างเผือกที่เป็นช้างคู่บ้านคู่เมืองของพม่า มีคชลักษณะของช้างเผือกที่ถูกต้องตามตำราโบราณทุกประการ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน ที่ปางช้างแห่งนี้มีช้างเผือกอยู่ด้วยกันจำนวน 3 ช้าง ควานช้างจะเก็บขนหางช้างเผือกที่ถูกสลัดทิ้งไว้ขายให้นักท่องเที่ยวได้บูชา ขนหางช้างเผือกถือว่าเป็นเครื่องรางของคลังชนิดหนึ่งที่สามารถป้องกันคุณไสย เสนียดจัญไร แก่ (อ่านต่อ)
นำท่านเดินทางสู่ ปางช้างเผือกหลวง (Royal White Elephant Garden) ชมช้างเผือกที่เป็นช้างคู่บ้านคู่เมืองของพม่า มีคชลักษณะของช้างเผือกที่ถูกต้องตามตำราโบราณทุกประการ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน ที่ปางช้างแห่งนี้มีช้างเผือกอยู่ด้วยกันจำนวน 3 ช้าง ควานช้างจะเก็บขนหางช้างเผือกที่ถูกสลัดทิ้งไว้ขายให้นักท่องเที่ยวได้บูชา ขนหางช้างเผือกถือว่าเป็นเครื่องรางของคลังชนิดหนึ่งที่สามารถป้องกันคุณไสย เสนียดจัญไร แก่ผู้ที่มีไว้ครอบครองได้ จึงนิยมนำมาทำเป็นแหวน กำไร ใส่ไว้ติดตัว
ช่วงค่ำ
(21:40) ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง
ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย พร้อมความประทับใจมิรู้ลืมกับบริการของทีมงาน ชิล สแควร์ ทราเวล
ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย พร้อมความประทับใจมิรู้ลืมกับบริการของทีมงาน ชิล สแควร์ ทราเวล
* นำท่านเหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ FD258
(23:25) ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง (Don Mueang International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

อัตราค่าบริการนี้รวม

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ 
  2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  3. ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.
  4. ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  5. ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่านหรือ  3 ท่าน
  6. ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
  7. ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
  8. ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  9. ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)


อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  1. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ(กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  2. ค่าทิปคนขับรถ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์ ท่านละ 1,500 บาท/ทริป/ต่อท่าน
  3. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%


เงื่อนไขการชำระค่าบริการ

  1.  นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินมัดจำเป็นเงินจำนวน 5,000 บาทต่อท่านเพื่อสำรองที่นั่ง
  2. นักท่องเที่ยวต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย  30 วัน กรณีนักท่องเที่ยวไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด รวมถึงกรณีเช็คของท่านถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ว่ากรณีใดๆให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ
  3. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท


เงื่อนไขการยกเลิกการเดินทาง

  1. กรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยว(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแจ้งยกเลิกการจองกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรทางบริษัทไม่รับยกเลิกการจองผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ
  2. กรณีนักท่องเที่ยวต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยว (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการดังนี้
    • ยกเลิกก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 35 วัน คืนเงินค่าบริการร้อยละ 100 ของค่าบริการที่ชำระแล้ว
    • ยกเลิกก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน คืนเงินค่าบริการร้อยละ 50 ของค่าบริการที่ชำระแล้ว
    • ยกเลิกก่อนวันเดินทางน้อยกว่า 30 วัน ไม่คืนเงินค่าบริการที่ชำระแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ ทางบริษัทจะหักค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงจากค่าบริการที่ชำระแล้วเนื่องในการเตรียมการจัดการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น การสำรองที่นั่งตั๋วเครื่องบิน การจองที่พักฯลฯ
  3. การเดินทางที่ต้องการันตีมัดจำหรือซื้อขาดแบบมีเงื่อนไข หรือเที่ยวบินเหมาลำ Charter Flight หรือ Extra Flight กับสายการบิน หรือผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ  จะไม่มีการคืนเงินมัดจำหรือค่าบริการ 
  4. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท
  5. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางกรณีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไม่ถึง 15 คน


เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ

  1. ทัวร์นี้สำหรับผู้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น
  2. ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมา หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆ ทางบริษัทจะไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่าน
  3. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้กับนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนการเดินทางสำหรับประเทศที่ไม่มีวีซ่า  และอย่างน้อย 10 วันก่อนการเดินทางสำหรับประเทศที่มีวีซ่า  แต่หากทางนักท่องเที่ยวทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มจากการที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่าที่ทางบริษัทกำหนดเพื่อให้คณะเดินทางได้  ทางเรายินดีที่จะให้บริการต่อไป
  4. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายจากความผิดพลาดในการสะกดชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ เลขที่หนังสือเดินทางและอื่นๆ เพื่อใช้ในการจองตั๋วเครื่องบิน ในกรณีที่นักท่องเที่ยวมิได้ส่งหน้าหนังสือเดินทางให้กับทางบริษัทพร้อมการชำระเงินมัด
  5. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริงของประเทศที่เดินทาง ทั้งนี้บริษัทจะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
  6. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ  อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น
  7. อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิง ค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ฯลฯ 
  8. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท  เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น


ข้อแนะนำก่อนการเดินทาง

  1. กรุณาแยกของเหลว เจล สเปรย์ ที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ต้องมีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อชิ้น และรวมกันทุกชิ้นไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร โดยแยกใส่ถุงพลาสติกใสซึ่งมีซิปล็อคปิดสนิท และสามารถนำออกมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจได้อย่างสะดวก ณ จุดเอ็กซ์เรย์ อนุญาตให้ถือได้ท่านละ 1 ใบเท่านั้น ถ้าสิ่งของดังกล่าวมีขนาดบรรจุภัณฑ์มากกว่าที่กำหนดจะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบิน 
  2. สิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับอาวุธ เช่น กรรไกรตัดเล็บ มีดพก แหนบ อุปกรณ์กีฬาฯ จะต้องใส่กระเป๋าใบใหญ่และฝากเจ้าหน้าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินเท่านั้น 
  3. IATA ได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับการนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นไปบนเครื่องบินดังนี้ แบตเตอรี่สำรองสามารถนำใส่กระเป๋าติดตัวถือขึ้นเครื่องบินได้ในจำนวนและปริมาณที่จำกัด ได้แก่
    • แบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้าน้อยกว่า 20,000 mAh หรือน้อยกว่า 100 Wh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่มีการจำกัดจำนวน 
    • แบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้า 20,000 - 32,000 mAh หรือ 100-160 Wh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกินคนละ 2 ก้อน
    • แบตเตอรี่สำรองที่มีความจุไฟฟ้ามากกว่า 32,000 mAh หรือ 160 Wh ห้ามนำขึ้นเครื่องในทุกกรณี
  4. ห้ามนำแบตเตอรี่สำรองใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้เครื่องในทุกกรณี

กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา