Loading...
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข

(ปิดการขาย) TKWC001 ทัวร์ตุรกี พรีเมี่ยม คัปปาโดเกีย ปามุคคาเล่ อิซเมียร์ อิสตันบูล บินภายใน 1 ขา 9 วัน 6 คืน โดยสายการบิน TURKISK AIRLINES (TK)

ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส หนึ่งช่องแคบเลื่องชื่ออันดับต้นๆ ของโลก
สัมผัสความงามของปามุคคาเล่ มรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม นำชมเมืองโบราณเอเฟซุส เมืองโบราณยุคกรีกโรมัน ชมพระราชวังทอปคาปี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ พิเศษ ลิ้มรสกับสเต๊กชื่อดัง NUSR-ET STEAKHOUSE พักโรงแรม 5 ดาว บินตรงโดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์

สรุปการท่องเที่ยว:

วันที่ 1: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
วันที่ 2: ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) - บินภายในประเทศ / ท่าอากาศยานนานาชาติไคเซรี เออร์คิเลท (Kayseri Erkilet Airport) / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / นครใต้ดิน (Underground City) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / Alfina Cave Hotel
วันที่ 3: Option เสริม!! นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ผาหินสีขาวอมชมพูอมแดง (Red Valley) / ปล่องไฟนางฟ้า หุบเขาพาซาแบค (Pasabag or Monks Valley) / หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / Alfina Cave Hotel
วันที่ 4: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel
วันที่ 5: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) / ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / เมืองเซลจุก (Selcuk) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) / โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) / เมืองอิซเมียร์ (Izmir) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Wyndham Hotel Izmir
วันที่ 6: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / (ผ่านชม) หอนาฬิกาอิซเมียร์ (Izmir Clock Tower) / มัสยิดโคนัค (Konak Mosque) / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / ฮิปโปโดม (Hippodrome) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน / Pullman Hotel Istanbul
วันที่ 7: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / รับประทานอาหารไทย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Pullman Hotel Istanbul
วันที่ 8: รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
วันที่ 9: ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
19 มื้อ 6 คืน

มีการเข้าชมทั้งหมด: 4,507 ครั้ง     ผู้ชมขณะนี้: 1 คน          

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
พักเดี่ยวชำระเพิ่ม 13,900.- (09-17 เมษายน 2563 พักเดี่ยวชำระเพิ่มท่านละ 16,900 บาท)

Turkish Airlines (TK)  
(อัพเดตที่นั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ม.ค.63)

ตารางบิน
Turkish Airlines (TK) เวลาบินขาไป 21:45 - 04:10 BKK - IST TK 065
เวลาบินขากลับ 20:15 - 09:50 IST - BKK TK 064

ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
โหลด PDF
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงค่ำ
(18:30) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) เวลานัดหมายโดยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ให้การต้อนรับ และอํานวยความสะดวกตรวจเซ็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน (ซึ่งก่อนการเดินทาง 3-5 วัน บริษัทจะแจ้งเป็นเอกสารทาง E-mail ให้ทราบว่านัดพบที่เค้าท์เตอร์ใด เวลาใด)
* 21:45 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 065
วันที่ 2
ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) - บินภายในประเทศ / ท่าอากาศยานนานาชาติไคเซรี เออร์คิเลท (Kayseri Erkilet Airport) / เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) / พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / นครใต้ดิน (Underground City) / โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค / รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / Alfina Cave Hotel
ช่วงเช้า
(04:10) ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) - บินภายในประเทศ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) ประเทศตุรกี เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่องบินภายในประเทศ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport) ประเทศตุรกี เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่องบินภายในประเทศ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* 06:40 น. ออกเดินทางสู่ เมืองไคเซรี ประเทศตุรกีโดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 2010
(08:15) ท่าอากาศยานนานาชาติไคเซรี เออร์คิเลท (Kayseri Erkilet Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติไคเซรี เออร์คิเลท (Kayseri Erkilet Airport) เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระของท่าน
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติไคเซรี เออร์คิเลท (Kayseri Erkilet Airport) เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และตรวจรับสัมภาระของท่าน
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวล (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) คัปปาโดเกียเป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี นำท่านชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว ลาวาที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไปพายุ ลม ฝน และหิมะ ได้เป็นกัดเซาะแผ่นดินมาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตาดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศไม่เหมือนที่ใดในโลกมีความสวยงามเหมือนหนึ่งเมืองในเทพนิยาย
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดิ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอลเดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนวาชาวโรมันผู้ปครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนการรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นลงไปเป็นอุโมงค์เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณเกอเรเม่ทำให้เป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำในเกอเรเม่ ว่ากันว่ามีมากถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา (St. Barbar Church) โบสถ์มังกร (Snake Church) และโบสถ์แอปเปิ้ล (Apple Church) อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
นครใต้ดิน (Underground City)
นำท่าน เข้าชม เมืองใต้ดิน (Underground City) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลก เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกัน เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ สำหรับที่เราไปชมวันนี้เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัว ห้องหมักไ (อ่านต่อ)
นำท่าน เข้าชม เมืองใต้ดิน (Underground City) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลก เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกัน เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ สำหรับที่เราไปชมวันนี้เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัว ห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำ และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึก และทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
แวะชม โรงงานทอพรม และโรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อค่ำแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อค่ำแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
Alfina Cave Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Alfina Cave Hotel หรือระดับเทียบเท่า ห้องพักสไตล์ถ้ำที่ไม่เหมือนใคร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Alfina Cave Hotel หรือระดับเทียบเท่า ห้องพักสไตล์ถ้ำที่ไม่เหมือนใคร
* ในกรณีที่โรงแรมสไตล์ถ้ำเต็ม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ใช้โรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกันแทน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 3
Option เสริม!! นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย / รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ผาหินสีขาวอมชมพูอมแดง (Red Valley) / ปล่องไฟนางฟ้า หุบเขาพาซาแบค (Pasabag or Monks Valley) / หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) / Alfina Cave Hotel
ช่วงเช้า
(05:00) Option เสริม!! นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย
เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน (ท่านใดที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณ Lobby)
เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด นั่งบอลลูนชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเกีย พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน (ท่านใดที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณ Lobby)
* ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้กับเจ้าหน้าที่ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น หรือหัวหน้าทัวร์
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ผาหินสีขาวอมชมพูอมแดง (Red Valley)
นำท่านชมความงดงาม ผาหินสีขาวอมชมพูอมแดง (Red Valley) ทิวทัศน์อันตระการตา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหุบเขาคู่กันได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่งดงามที่สุดในคัปปาโดเกีย จากนั้น
นำท่านชมความงดงาม ผาหินสีขาวอมชมพูอมแดง (Red Valley) ทิวทัศน์อันตระการตา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหุบเขาคู่กันได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่งดงามที่สุดในคัปปาโดเกีย จากนั้น
ปล่องไฟนางฟ้า หุบเขาพาซาแบค (Pasabag or Monks Valley)
นำท่านชม ปล่องไฟนางฟ้าหุบเขาพาซาแบค (Pasabag or Monks Valley) หินทรงสูงใหญ่มีรูปร่างคล้ายเห็ดสามหัว เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมปล่องไฟสามเศียร ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยหินธรรมชาติที่มีความสวยงามแปลกตา
นำท่านชม ปล่องไฟนางฟ้าหุบเขาพาซาแบค (Pasabag or Monks Valley) หินทรงสูงใหญ่มีรูปร่างคล้ายเห็ดสามหัว เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมปล่องไฟสามเศียร ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยหินธรรมชาติที่มีความสวยงามแปลกตา
หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley)
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) หุบเขาแห่งจินตนาการ กับอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่แปลกตาที่ดูคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์ด้วยอื่นๆ ในจักรวาลมากกว่าพื้นผิวโลก แต้มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพ Panoramic View ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นปล่องไฟนางฟ้าในรูปแบบต่างๆ
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) หุบเขาแห่งจินตนาการ กับอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่แปลกตาที่ดูคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์ด้วยอื่นๆ ในจักรวาลมากกว่าพื้นผิวโลก แต้มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพ Panoramic View ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นปล่องไฟนางฟ้าในรูปแบบต่างๆ
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley)
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show)
จากนั้นนำท่านชม โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) ของสาวน้อยชาวตุรกี เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีใ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance Show) ของสาวน้อยชาวตุรกี เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Alfina Cave Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Alfina Cave Hotel หรือระดับเทียบเท่า ห้องพักสไตล์ถ้ำที่ไม่เหมือนใคร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Alfina Cave Hotel หรือระดับเทียบเท่า ห้องพักสไตล์ถ้ำที่ไม่เหมือนใคร
* ในกรณีที่โรงแรมสไตล์ถ้ำเต็ม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ใช้โรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกันแทน
วันที่ 4
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองคอนย่า (Konya) / พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองคอนย่า (Konya)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ในอดีตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆ ที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของประเทศตุรกี
พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) หรือสำนักลมวน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์เมฟลานาเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูมี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสุสานของ เมฟลานา ผู้ก่อตั้ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum) หรือสำนักลมวน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์เมฟลานาเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1231 โดยเมฟลานา เจลาเลคดิน รูมี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสุสานของ เมฟลานา ผู้ก่อตั้งอีกด้วย
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
เมืองปามุคคาเล (Pamukkale)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) คำว่า “ปามุกคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” pamuk หมายถึง cotton และ kale หมายถึง castle เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหล ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิก (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล (Pamukkale) คำว่า “ปามุกคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” pamuk หมายถึง cotton และ kale หมายถึง castle เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหล ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ปามุกคาเล่และเมืองเฮียราโพสิลได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pamukkale Ninova Thermal Spa & Hotel หรือระดับเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 5
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) / ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / เมืองเซลจุก (Selcuk) / เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) / ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) / วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) / โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) / โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) / เมืองอิซเมียร์ (Izmir) / รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / Wyndham Hotel Izmir
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis)
จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ซึ่งตั้งอยู่ล้อมรอบปามุคคาเล่ (ปราสาทปุ้ยฝ้าย) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล่ สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคค (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ซึ่งตั้งอยู่ล้อมรอบปามุคคาเล่ (ปราสาทปุ้ยฝ้าย) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุคคาเล่ สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล่ โรงอาบน้ำโรมันบาธ โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle)
จากนั้นนำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนงดงามดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกี หมายถึงปราสาทปุยฝ้าย ปามุคหมายถึงปุยฝ้าย และคาเล่หมายถึงปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงม (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ สถานที่ท่องเที่ยวอันแสนงดงามดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกี หมายถึงปราสาทปุยฝ้าย ปามุคหมายถึงปุยฝ้าย และคาเล่หมายถึงปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขาคาลดากึรินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ ประชาชนนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ซึ่งในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
เมืองเซลจุก (Selcuk)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซลจุก (Selcuk) แต่เดิมนั้นเป็นเมืองกสิกรรมพืชที่เพาะปลูกได้แก่ ฝ้าย ยาสูบ แอปเปิ้ล และมะเดื่อ แต่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองท่องเที่ยว แม้ว่าจะยังคงมีการเพาะปลูกอยู่ก็ตาม เมืองเซลจุกเป็นเมืองผ่านไปยังเมืองเอฟฟิซุส
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซลจุก (Selcuk) แต่เดิมนั้นเป็นเมืองกสิกรรมพืชที่เพาะปลูกได้แก่ ฝ้าย ยาสูบ แอปเปิ้ล และมะเดื่อ แต่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองท่องเที่ยว แม้ว่าจะยังคงมีการเพาะปลูกอยู่ก็ตาม เมืองเซลจุกเป็นเมืองผ่านไปยังเมืองเอฟฟิซุส
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปั (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus) นครเอฟฟิซุสก่อเกิดแต่ก่อนยุคคริสตกาล อดีตเมืองที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เป็นเมืองที่สมบูรณ์ รุ่งเรือง และมั่งคั่งที่สุด เมืองที่ยังคงหลงเหลือและเต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโบราณ ไว้ซึ่งสิ่งปลูกสร้างนานนับ 2,000 ปี แต่ยังมีสภาพสวยงามอยู่ มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุด และเมืองโบราณเอฟฟิซุสยังเคยเป็นที่อยู่ของชาวไอโอเนียนจากกรีก ศิลปะของสถาปัตยกรรมที่คงเหลือเป็นแบบเฮเลนนิสติก ที่มีความอ่อนหวาน และฝีมือประณีต ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ที่สำคัญของนครเอฟฟิซุส อาทิ โรงอาบน้ำ และโรงละครโบราณที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน หอสมุดเซลซุสที่เหลือเฉพาะด้านหน้า จุดบูชาเทพเจ้าและอีกมากมาย ฯลฯ ที่ยังคงหลงเหลือให้ชมและศึกษาค้นคว้า
ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus)
จากนั้นนำท่านชม ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุสคือห้องสมุดของเซลซุส เป็นอาคารสองชั้น สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดยกงสุล ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา สร้างเพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่ เซลซัส โพเลเมียนุส ผู้เป็นพ่อ และนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ หลุมฝังศพของท่านอยู่ใต้ห้องสมุดแห่งนี้ด้วย ภายในมีห้องอ่านหนังสือและช่องเก็บม้วนหนังสือ ถึง 12, (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านชม ห้องสมุดของเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุสคือห้องสมุดของเซลซุส เป็นอาคารสองชั้น สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดยกงสุล ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา สร้างเพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่ เซลซัส โพเลเมียนุส ผู้เป็นพ่อ และนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ หลุมฝังศพของท่านอยู่ใต้ห้องสมุดแห่งนี้ด้วย ภายในมีห้องอ่านหนังสือและช่องเก็บม้วนหนังสือ ถึง 12,000 ม้วน ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรีย และตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian)
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
จากนั้นนำท่านชม อาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre)
จากนั้นนำท่านชม โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุสคือโรงละคร ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ประมาณ 25,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว
จากนั้นนำท่านชม โรงละครเอฟฟิซุส (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุสคือโรงละคร ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ประมาณ 25,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว
* อยู่ในบริเวณเมืองโบราณเอฟฟิซุส
โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory)
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี อิสระให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆ ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม โรงงานเครื่องหนัง (Leather Factory) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องหนังขั้นหลากหลาย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี อิสระให้ทุกท่านได้ทดลองการเป็นนายแบบและนางแบบเสื้อหนังต่างๆ ตามอัธยาศัย
เมืองอิซเมียร์ (Izmir)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ เป็นมหานครที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอนาโตเลีย และเป็นเมืองอันดับที่สามที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ เป็นมหานครที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของอนาโตเลีย และเป็นเมืองอันดับที่สามที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อค่ำอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
Wyndham Hotel Izmir
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Wyndham Hotel Izmir หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Wyndham Hotel Izmir หรือระดับเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 6
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / (ผ่านชม) หอนาฬิกาอิซเมียร์ (Izmir Clock Tower) / มัสยิดโคนัค (Konak Mosque) / เมืองอิสตันบูล (Istanbul) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) / ฮิปโปโดม (Hippodrome) / สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน / Pullman Hotel Istanbul
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
(ผ่านชม) หอนาฬิกาอิซเมียร์ (Izmir Clock Tower)
นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาอิซเมียร์ (Izmir Clock Tower) หอนาฬิกาหินอ่อนตั้งอยู่บริเวณใจกลางจัตุรัสโคนัค โดยหอนาฬิกานั้นมีความสูงประมาณ 25 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี 1901 ในรูปแบบสถาปัตยกรรมออตโตมัน เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 25 ของ ABDULHAMID II’S (ครองราชย์ 1876-1909) ปัจจุบันหอนาฬิกาแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของอิซเมียร์
นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาอิซเมียร์ (Izmir Clock Tower) หอนาฬิกาหินอ่อนตั้งอยู่บริเวณใจกลางจัตุรัสโคนัค โดยหอนาฬิกานั้นมีความสูงประมาณ 25 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี 1901 ในรูปแบบสถาปัตยกรรมออตโตมัน เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 25 ของ ABDULHAMID II’S (ครองราชย์ 1876-1909) ปัจจุบันหอนาฬิกาแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของอิซเมียร์
มัสยิดโคนัค (Konak Mosque)
จากนั้นนำท่านชม มัสยิดโคนัค (Konak Mosque) มัสยิดรูปทรงวงกลมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสโคนัค ถูกสร้างขึ้นในปี 1754 ในรูปแบบสถาปัตยกรรมออตโตมัน หลังคา ประตู หน้าต่าง ถูกล้อมรอบด้วยกระเบื้องเซรามิกและหินอย่างสวยงาม
จากนั้นนำท่านชม มัสยิดโคนัค (Konak Mosque) มัสยิดรูปทรงวงกลมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขตจัตุรัสโคนัค ถูกสร้างขึ้นในปี 1754 ในรูปแบบสถาปัตยกรรมออตโตมัน หลังคา ประตู หน้าต่าง ถูกล้อมรอบด้วยกระเบื้องเซรามิกและหินอย่างสวยงาม
เมืองอิสตันบูล (Istanbul)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิส (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เมืองสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ เดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque) หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มัสยิดสุลต่านอาห์เมตสร้างขึ้นในสมัยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ซึ่งมีพระประสงค์ที่จะสร้างมัสยิดของจักรวรรดิออตโตมันที่มีความงดงาม และยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์โซเฟียของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยมัสยิดแห่งนี้สร้างประจันหน้ากับโบสถ์เซ็นต์โซเฟีย แต่อย่างไรก็ตามโบสถ์เซ็นต์โซเฟียก็ยังคงเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกีจวบจนปัจจุบัน
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
* การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่งจะต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ ถ่ายรูปได้ ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาทำกิริยาให้สำรวม
ฮิปโปโดม (Hippodrome)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต หรือชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของชาวไบแซนติอุม เป็นสถานที่ที่แข่งกีฬารถม้าศึกของชาวโรมัน และของจักรวรรดิออตโตมันมานานกว่า 400 ปี ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสา 3 ต้น คือเสาต้นแรกโอเบลิสก์แห่งฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาเป็นเสาเซอร์เพนไทน์ ซึ่งถ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต หรือชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของชาวไบแซนติอุม เป็นสถานที่ที่แข่งกีฬารถม้าศึกของชาวโรมัน และของจักรวรรดิออตโตมันมานานกว่า 400 ปี ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสา 3 ต้น คือเสาต้นแรกโอเบลิสก์แห่งฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาเป็นเสาเซอร์เพนไทน์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมา 497 ปีก่อนคริสตกาล และสุดท้ายเสาคอนสแตนตินที่ 7 เป็นเสาต้นสุดท้าย สถานที่นี้ได้ถูกสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 203 ในยุคของไบแซนไทน์
สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือ พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นโบสถ์คาทอลิกที่สร้างในสมัยพระเจ้าจัสติเนียน มีหลังคาเป็นยอดกลมแบบโม เสาในโบสถ์เป็นหินอ่อน ภายในติดกระจกสี เมื่อเติร์กเข้าครองเมือง ได้เปลี่ยนโบสถ์นี่ให้เป็นสุเหร่าในปี ค.ศ. 1453 ฉาบปูนทับกำแพงที่ปูด้วยโมเสกเป็นรูปพระเยซูคริสต์และสาวก ภายหลังทางการได้ตกลงให้สุเหร่าเซนต์โซเฟียเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่วันนี้คงบรรยากาศของความเก่าขลังอยู่เต็มเปี่ยม โดยเฉพาะโดมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกซึ่งมีพื้นที่โล่งภายในใหญ่ที่สุดในโลก ก่อสร้างด้วยการใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของอาคารลงสู่พื้นแทนการใช้เสาค้ำยันทั่วไป นับเป็นเทคนิคการก่อสร้างที่ถือว่าล้ำหน้ามากในยุคนั้น
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารจีน
พาท่านอิ่มท้องไปกับมื้อกลางวันอันแสนอร่อย ณ ภัตตาคารจีน
Pullman Hotel Istanbul
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pullman Hotel Istanbul หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pullman Hotel Istanbul หรือระดับเทียบเท่า
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
วันที่ 7
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) / แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) / ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) / รับประทานอาหารไทย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / Pullman Hotel Istanbul
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระ (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังทอปกาปึ (Topkapi Palace) ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมันนานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือเมห์เมตผู้พิชิต เมื่อปี ค.ศ. 1478 ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังแห่งนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน อาทิ ส่วนโรงครัว ห้องเก็บเครื่องกระเบื้อง ห้องเก็บอาวุธ ห้องเก็บสมบัติ ฯลฯ ซึ่งห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอย่างมากก็คือ ห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติและวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต ของช่างทำช้อนเป็นไฮไลต์สำคัญ ในขณะที่บริเวณระเบียงหลังห้องท้องพระคลังเป็นจุดชมวิวชั้นดี ที่มองออกไปเห็นทิวทัศน์เมืองอิสตันบูลใน 2 ฝั่งทวีป (ยุโรปและเอเชีย) ได้อย่างชัดเจน
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงา (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 มีขนาดความกว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือเสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ได้ตามอัธยาศัย
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิย (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์ บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ขายของสารพัด ตั้งแต่ทองหยอง เครื่องประดับ พรม เครื่องเงิน เครื่องหนัง กระเบื้อง เครื่องทองแดง ทองเหลือง สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงตั้งราคาสินค้าเอาไว้ค่อนข้างสูง ควรต่อรองราคาให้มาก
ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market)
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
จากนั้นนำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ตลาดเครื่องเทศ หรือ สไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
ช่วงค่ำ
รับประทานอาหารไทย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับอาหารไทยสุดแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
พาท่านอิ่มท้องไปกับอาหารไทยสุดแสนอร่อย ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
Pullman Hotel Istanbul
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pullman Hotel Istanbul หรือระดับเทียบเท่า
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Pullman Hotel Istanbul หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ 8
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม / ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) / รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง / พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) / ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
อรุณสวัสดิ์ยามเช้า.. รับประทานอาหารแบบอเมริกันผสมผสานกับอาหารพื้นเมืองตุรกี ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise)
นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิด (อ่านต่อ)
นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความ สวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาชเช่ และบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น
ช่วงบ่าย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พาท่านอิ่มท้องกับอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อย ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต (อ่านต่อ)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) นำท่านชมพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน โคมไฟขนาดมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่ และพรมทอผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล อตาเติร์ก (Istanbul Ataturk International Airport)
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
ได้เวลาอันสมควร จดจำและอำลาช่วงเวลาแห่งความสุขในประเทศตุรกี และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
* 20:15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK 064
วันที่ 9
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
ช่วงเช้า
(09:50) ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi International Airport) โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
* ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
ไฮไลท์
วันเดินทาง
ตารางเที่ยว
เงื่อนไข
** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน รถทัวร์ รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจาก สายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **

หมายเหตุ

  • โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม, ฟ้า, อากาศ, การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยบริษัทฯ  ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (กรุงเทพฯ - อิสตันบูล - กรุงเทพฯ)
  2. บินภายใน 1 เที่ยว (อิสตันบูล-ไคเซอรี่)
  3. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
  4. โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาล เทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
  5. ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
  6. ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  7. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรรม์)/หากผู้เดินทางอายุเกิน 75 ปี หรือไม่ได้เดินทางไปและกลับพร้อมคณะ (ต้องซื้อประกันเพิ่ม)
  8. น้ำดื่มบริการบนรถโค้ช

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
  3. ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
  4. หากท่านลืมสัมภาระไว้ในห้องพัก มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคืน และอาจเกิดความล่าช้าหรือสูญหายได้
  5. ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พัก และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น วันละ 5 USD / ท่าน / วัน
  7. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ตามวัฒนธรรมการบริการแบบสากลโลกท่านละ 100 บาทต่อวัน

เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง และการชำระเงิน

  • กรุณาจองพร้อมชำระมัดจำ 30,000 บาท ก่อนการเดินทาง พร้อมแฟกซ์สำเนาหน้าหนังสือเดินทาง Passport  มายังบริษัท
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า 10 วัน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 20 ท่าน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็น สุดวิสัย จนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บ ที่นอกเหนือความ รับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการเช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ
  • เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ ตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้า และออกประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
  • เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทฯ ที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด

หมายเหตุ

  • ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ

เงื่อนไขการยกเลิก  

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง  50 วัน - คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุด หรือเทศกาลที่ต้องการันตีมัดจำกับสายการบิน   หรือ กรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พักโดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศ หรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้    
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วันขึ้นไป -  เก็บค่าใช้จ่าย ของมัดจำทั้งหมด  
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง  40 วันขึ้นไป  -  เก็บค่าใช้จ่าย  80 % ของราคาทัวร์
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง  30 วัน - เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 %

กรอก Email เพื่อรับข่าวสารโปรโมชั่นก่อนใคร !
Copyright © 2012 - 2024 Chill Square Travel Co.,Ltd. , All Rights Reserved. บริษัท ชิล สแควร์ ทราเวล จำกัด 8/17 ตรอกราชดำริห์ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/11698 Call Center: 094-545-3905 Email: [email protected]
กดโทร
ทักเฟสบุค
ไลน์หาเรา