ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศแปลกใหม่มากด้วยเอกลักษณ์ ต้องเลือกทัวร์ภูฏาน (Bhutan)หรือราชอาณาจักรภูฏาน ด้วยภูมิประเทศแบบภูเขาตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ยิ่งทำให้โลเคชันนี้มากด้วยเสน่ห์ที่คาดไม่ถึง เหมาะจะเดินทางออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชื่นใจ

สิ่งที่คุณต้องรู้ (คร่าว ๆ) ก่อนเที่ยวภูฏาน

ประเทศภูฏาน เป็นดินแดนที่ปกครองโดยพระมหากษัตริย์สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ก่อนจดพิกัดสถานที่เที่ยวภูฏาน คุณอาจจะสงสัยว่า ทำไม ? ชิล สแควร์ ทราเวลต้องเรียก ‘ภูฏานว่าดินแดนมังกรสายฟ้าด้วยละ?’ คำตอบก็คือชื่อของประเทศนี้ในภาษาท้องถิ่นเขียนว่า Druk Yul มีความหมายว่า "ดินแดนของมังกรสายฟ้า หรือ Land of the Thunder Dragon นั่นเอง” ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากธงชาติของประเทศภูฏานได้ค่ะ

และด้วยพื้นที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ทำให้ภูมิประเทศส่วนใหญ่เต็มไปด้วยเทือกเขาสูง ที่ลาดเชิงเขาเป็นหลัก ขณะที่ภูฏานมีศาสนาประจำชาติ คือ ศาสนาพุทธนิกายมหายาน เป็นศาสนาที่มีลามะเช่นเดียวกับทิเบต และมาทัวร์ภูฏานทั้งทีต้องไปไหน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเที่ยว ชิล สแควร์ ทราเวล ขออาสารีวิวให้คุณฟังนะคะกับการรีวิวเที่ยวแห่งภูฏานที่คุณไปสักครั้ง ดังนี้

1. เที่ยวเมืองพาโรประตูสู่ภูฏาน

เปิดด้วยการนำเที่ยวเมืองพาโร (Paro) เมืองที่อยู่ทางตะวันตกมีแม่น้ำไหลผ่านถึง 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำตอสา, แม่น้ำวัง และแม่น้ำพูนาซอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติพาโร ภูฏาน จึงยกให้เป็นประตูสู่ภูฏานที่สวยงาม สำหรับเวลาของที่นี่จะช้ากว่าเมืองไทยนิดหน่อยประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ เพียงแค่เดินเที่ยวเล่นก็เหมือนได้ดื่มด่ำกับความงามที่ไม่มีใครเหมือน

2. พาโร รินปุง ซอง (Paro Rinpung Dzong)

ในส่วนสถานที่เที่ยวน่าไปในเมืองพาโรคงต้องพูดถึง คือ ป้อมปราการสีขาวโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบภูฏานแท้ ๆ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1644 โดดเด่นเห็นชัดเจนเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในเมืองพาโร ถูกยกให้เป็น “ป้อมอัญมณี” (The Fortress on the heap of Jewels) ควรมาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิเนื่องจากมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจค่ะ อย่าลืมถ่ายภาพคู่กับสะพานแขวนที่ก่อสร้างด้วยไม้ทอดผ่านข้ามแม่น้ำด้วยนะคะ

3. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติภูฏาน (National Museum of Bhutan)

ที่เที่ยวแห่งนี้อยู่ในป้อมตาซอง เมืองพาโร เดิมทีเคยเป็นหอสังเกตการณ์ในยุคโบราณค่ะ ตอนนี้ปรับเปลี่ยนเป็นที่รวบรวมงานศิลป์ และของเก่าแก่ของภูฏานไว้ที่นี่ หากอยากรู้จักประเทศนี้มากขึ้นต้องมาให้ได้จ้า

4. มาเที่ยวภูฏาน ต้องเที่ยวเมืองทิมพู

คงต้องขอเล่าพิกัดนี้แบบรวม ๆ ก่อน เนื่องจากเป็นโลเคชันพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงสำหรับ การออกท่องเที่ยวเมืองหลวงทิมพู (Thimphu) หรือ ทิมพู ซอง (Thimphu Dzong) มีชื่อเต็ม ๆ ว่า ‘ตาชิโช ซอง’ (Tashicho Dzong) ความพิเศษของที่แห่งนี้เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร หรือพูดง่าย ๆ ว่า “เป็นเมืองหลวงที่ไม่มีไฟแดง!!” มีแต่ตำรวจให้สัญญานมือเท่านั้นค่ะ และคงต้องบอกว่า ความสงบของเมืองทิมพูเป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบความสงบต้องมาเยือนให้ได้ และมีวัดเก่าแก่ให้ได้เที่ยว เช่น วัดชากังข่า, วัดตันโก, วัดเชอรี และยังมีที่ทำการไปรษณีย์ภูฏานให้เราได้ซื้อแสตมป์ของภูฏานเป็นของฝาก หรือจะเดินเที่ยวอนุสรณ์สถานแห่งชาติ (National Memorial Chorten) หรืออนุสรณ์ รวมทั้งตลาดสดให้เดินเล่น

5. ดื่มด่ำและรับชมความสวยงาม ณ วัดตัมชู

พูดถึงการเที่ยวภูฏานเมืองแห่งศาสนา เราคงต้องบอกเล่าถึงเรื่องราววัดวาอารามน่าท่องเที่ยวด้วยค่ะ มาเริ่มจากวัดตัมซู (Tamchoe Monastery) หรือวัดเขายอดอาชา เราสามารถชมวิวแม่น้ำปาโรชูและแม่น้ำทิมพูชูบรรจบกันได้ที่นี่ โดยความน่าสนใจคือสะพานเหล็ก เป็นสะพานโซ่เหล็กที่ร้อยรัดด้วยมือแบบแฮนด์เมด เพื่อเป็นสะพานทอดยาวให้เราเดินเท้าเข้าวัดโบราณแห่งนี้ ซึ่งตอนเดินผ่านสะพานจะให้อารมณ์โยกเยกนิด ๆ เอาเป็นว่า ค่อยเดินอย่างมีสตินะคะ

6. ขอพรหลวงพ่อสัจจธรรม

เที่ยวเมืองทิมพู ภูฏานทั้งทีอย่าลืม ! แวะไหว้ขอพรหลวงพ่อสัจธรรม (Buddha Dordenma Statue) เป็นพระศรีศากยมุนี ต้นแบบจากพระพุทธรูปพุทธคยา ประเทศอินเดีย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์สูงกว่า 54 เมตร บริเวณโดยรอบยังมีพระพุทธรูปขนาดเล็กเรียงรายให้ได้สักการะด้วยค่ะ และนอกจากนมัสการหลวงพ่อสัจธรรมแล้ว การเดินทางมาที่แห่งนี้เราจะได้พบกับทิวทัศน์ด้านบนของเมืองทิมพูรับรองว่าเต็มอิ่มทุกวินาทีที่ได้มาเยือน

7. ไหว้พระขอลูกที่วัดชิมิ ลาคัง

เล่าถึงความน่าสนใจของวัดชิมิ ลาคัง (Chimi Lhakhang) แห่งเมืองพูนาคา ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูฏาน ถูกค้นพบในปี 1499 เป็นวัดเก่าแก่แห่งภูฏานเลยค่ะ การเดินทางมาวัดชิมิ ลาคัง เราจะได้พบกับนาขั้นบันได และได้เดินลัดเลาะเส้นทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เข้าสู่วัดชิมิลาคัง และใครที่มีลูกยากแนะนำให้มาขอพรกับท่านลามะหรือพระชั้นผู้ใหญ่ของที่นี่ รับรองสมหวัง และยังขอพรให้มีคู่ครองได้ด้วยนะคะ

8. พูนาคาซอง (Punakha Dzong)

อยากให้คุณเที่ยว ‘พูนาคาซอง’ ป้อมปราการงดงามที่สุดประจำเมืองพูนาคา ก่อสร้างในปี 1637 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโพและแม่น้ำโม เป็นสถาปัตยกรรมแบบทิเบตโดยแท้แต่ตั้งอยู่ในภูฏาน เมื่อก่อนเคยเป็นสถานที่ทำการของรัฐบาล ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นที่จำพรรษาของภิกษุสามเณร และที่แห่งนี้ในปี 2011 เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญอย่างพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์จิกมี่

9. ล่องแก่งที่แม่น้ำโม (Mo Chu)

เติมความตื่นเต้นให้การเที่ยวภูฎานยิ่งขึ้น เรามาล่องแก่งที่แม่น้ำโม การเดินทางล่องแก่งชมวิวพูคาซองในมุมแปลกใหม่ เราจะได้พบกับขุนเขาช้างหมอบ แถมแม่น้ำใสสะอาด สีฟ้าสดใส เราจะได้ผจญภัยกับแม่น้ำกระแสแรงเบาสลับกัน เราสามารถล่องแก่งและพายเรือคายัค สามารถเลือกเล่นได้ตามความยากง่าย มือใหม่ก็ล่องได้ไม่ยากค่ะ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา หากซื้อทัวร์ภูฏานกับ chill.co.th ตอนนี้เรา Option เสริม พิเศษ!! ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่เร้าใจ!! ล่องแก่งที่แม่น้ำโมด้วยค่ะ

10. ป้อมซิมโตคาซอง (Trongsa Dzong)

ยังคงแนะนำให้คุณท่องเที่ยวสถานที่สำคัญ ‘ป้อมซิมโตคาซอง’ เป็นป้อมปราการยุทธศาสตร์สำคัญแห่งแรกของภูฏานอยู่ในเมืองทิมพู ก่อสร้างขึ้นโดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล วิวสวยค่ะเพราะตั้งอยู่เหนือหุบเขา มองเห็นธรรมชาติแบบจัดเต็มเนื่องจากอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร แนะนำให้คุณเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะยิ่งสูงยิ่งมีความกดอากาศต่ำ ออกซิเจนเบาบาง หากเหนื่อย อ่อนเพลียอย่าฝืนให้พักก่อน ควรจะเที่ยวในพื้นที่ไม่สูงมากนัก และค่อย ๆ ปรับระดับขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ร่างกายของเราพร้อมกับการออกเที่ยวให้สนุกยิ่งขึ้นจ้า

11. จุดชมวิวโดจูล่า (Dochula)

สถานที่ท่องเที่ยวภูฎาน ‘จุดชมวิวโดจูล่า’ ตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,150 เมตร เชื่อว่าถูกใจคนชอบถ่ายภาพสาย Landscape เป็นอย่างมาก เพราะจุดชมวิวโดจูล่ามีวิวถ่ายภาพยอดเขายิ่งใหญ่ ชม 108 สถูปแห่งชัยชนะ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารผู้เสียชีวิตในสงครามภูฏานและกลุ่มกบฏอินเดีย จุดชมวิวแห่งนี้ยังมีธงประดับหลากหลายพร้อมกันนี้เราจะได้เห็นทิวทัศน์แบบ 360 องศาของเทือกเขาหิมาลัย ราวกับเรายืนอยู่บนก้อนเมฆเลยค่ะ ยิ่งในฤดูหนาวจะมองเห็นหิมะปกคลุมเทือกเขาได้ชัดเจน ส่วนใหญ่ชาวภูฏานจะชอบนำอาหารมาปิกนิคกันที่นี่ ยิ่งวันหยุดสุดสัปดาห์จุดชมวิวโดจูล่าจะคึกครื้นมาก ๆ ค่ะ

12. สถานอนุรักษ์ตัวทาคิน (Motithang Takin Preserve)

ปิดท้ายกับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในภูฏานกับ ‘สถานอนุรักษ์ตัวทาคิน’ ก่อนหน้านี้เคยเป็นสวนสัตว์แห่งชาติในเมืองทิมพู เราจะได้พบกับตัวทาคินสัตว์ประจำชาติของภูฏานค่ะ เป็นอะไรที่หายากใกล้สูญพันธุ์ หลงเหลืออยู่ที่ภูฏานแห่งเดียวเท่านั้น โดยรัฐบาลภูฏานออกกฎห้ามฆ่า ห้ามล่าทาคินเด็ดขาด หน้าตาของเจ้าตัวทาคินนี้คล้ายแพะแต่ไม่มีเครา มองเผิน ๆ ก็คล้ายวัวตัวโต เขางาม มีสี่ขา  ขนสีดำเดินช้า ๆ ชอบอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 4,000 เมตร เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอยู่กันเป็นฝูงมีน้ำหนักกว่า 250 กิโลกรัมเลยนะคะ ทาคินเป็นสัตว์ในตำนานตามประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธในภูฏานที่เล่าขานมายาวนานว่า ท่านลามะ ดรุกา คุนจี รับสั่งให้ชาวบ้านนำวัวและแพะอย่างละ 1 ตัวมาถวาย และหลังจากท่านลามะฉันแล้วเสร็จเหลือเพียงกระดูก ก็นำกระดูกทั้งสองมารวมกัน โดยนำหัวแพะไปต่อกับโครงกระดูกวัว และดีดนิ้วหนึ่งทีกลายเป็นตัวทาคินล่ะค่ะ เป็นอะไรที่มหัศจรรย์จริงเชียวค่ะคุณ

เต็มอิ่มกับการอ่านรีวิวคร่าว ๆ 12 พิกัดเที่ยวภูฏาน เช่นเคยค่ะ หากคุณอยากออกเที่ยว หรือชอบการท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่สามารถติดตามบทความคุณภาพ โดย ชิล สแควร์ ทราเวลซึ่งเราจะมีบทความแนะนำการท่องเที่ยวมาเสิร์ฟให้คุณเสมอ และถ้าอยากท่องเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษ แต่ไม่มีเวลาวางแพลน หรือกลัวจะเที่ยวต่างประเทศไม่คุ้มค่าสามารถซื้อทัวร์กับ chill.co.th ได้เลยค่ะ รับรองว่า “เที่ยวสนุก ไว้ใจได้”